สำหรับความเดิมตอนที่แล้วก็คือเราถูกแบกโดยเสลียงขึ้นไปบนเขาไจ้เที่ยวเป็นที่เรียบร้อย ช่วงเวลาที่เหลือของพวกเรา ก็คือการเก็บสัมภาระที่ติดตัวมาเพียงแค่พอใช้ ส่วนที่เหลือฝากไว้ที่โรงแรมที่เราจะต้องกลับไปพักกันอีกหนึ่งคืนก่อนจะเดินทางกลับ และนัดหมายกันว่าจะเดินขึ้นไปสักการะ พระธาตุอินทร์แขวน อากาศข้างบนนี้เย็น เนื่องจากฝนตก หมอกลงทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวขาวไปหมด ตลอดเวลาที่อยู่ข้างนอกอาคารพวกเราต้องใส่ เจ้าเสื้อกันฝนที่ซอ นำติดมาให้ได้ประโยชน์จากการกันฝน และยังให้ความอุ่นด้วยค่ะ ตลอดทางเดินขึ้นองค์พระธาตุอินทร์แขวน เย็นสบายอย่างที่บอก แต่สิ่งที่กังวลในใจคือ จะได้ภาพถ่ายสวย ๆ ติดมาให้ได้ยลหรือเปล่าหนอ แต่อุปสรรคทุกอย่างก็หมดไป ไม่ใช่ว่าฝนหยุดตกนะคะ ละอองฝนยังร่วงหล่นตลอดเวลา เหมือนเทพปะพรมน้ำพุทธมนต์ให้พวกเรา ที่บอกว่าอุปสรรคหมดไปก็เพราะว่าหลังจากสักการะองค์พระธาตฺอินทร์แขวนเรียบร้อยแล้ว เราสามารถถ่ายรูปได้บ้างค่ะ อย่างน้อยในชีวิตนี้ก็นับว่าเป็นบุญที่ได้สัมผัส องค์พระธาตุที่มีความเชื่อว่าพระอินทร์ท่านทรงนำมาแขวนไว้ เนื่องจากความมหัศจรรย์ขององค์พระธาตุที่ประดิษฐานอยู่บนก้อนหินอีกก้อนหนึ่งอย่างหมิ่นเหม่แต่ไม่มีวันจะร่วงหล่น ความสุขที่ได้รับจากการยืนอยู่ท่ามกลางไอหมอก และละอองน้ำ และรู้สึกว่าชีวิตนี้มีค่าเพิ่มขึ้นอีกมากจากการเดินทางขึ้นองค์พระธาตุ และสำหรับใครที่เกิดปีจอเขาว่าพระธาตุที่ต้องสักการะก็คือพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณี ที่อยู่บนสรวงสวรรค์ ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน ดังนั้นเมื่อพระอินทร์ท่านทรงนำพระธาตุอินทร์แขวน มาประดิษฐานนะที่แห่งนี้แล้วก็ให้เป็นตัวแทนพระธาตุดังกล่าวสำหรับคนปีจอค่ะ สำหรับผู้เขียนแล้วพระธาตุที่ต้องสักการะอยู่บ้านเรานี่เองค่ะ พระธาตุอินทร์แขวน ตั้งอยู่บนยอดเขา Paung Laung ในเมืองไจ้ก์โถ่ อำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญของประเทศพม่า ลักษณะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของพระธาตุอินทร์แขวนคือ มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่ ท้าทายแรงดึงดูดของโลก โดยไม่ตกลงมาอย่างเหลือเชื่อ ประวัติความเป็นมาของพระธาตุอินทร์แขวนที่เล่าสืบกันมาแต่โบราณนั้นก็มีมากมายแตกต่างกันไป ตำนานหนึ่งเล่าว่า ในสมัยพุทธกาล ฤาษีติสสะเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับพระเกศาธาตุจากพระพุทธเจ้าที่ได้มอบไว้ให้เป็นตัวแทนพระพุทธองค์ให้ประชาชนสักการะ เมื่อครั้นได้มาแสดงธรรมเทศนา ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ ผู้ที่ได้รับมอบพระเกศาต่างก็นำไปบรรจุในสถูปเจดีย์ ส่วนฤาษีติสสะกลับนำไปซ่อนในมวยผม เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงคราวที่ฤาษีติสสะ จะต้องละสังขาร เขาตั้งใจว่าจะนำพระเกศาไปบรรจุในก้อนหินที่มีรูปร่างคล้ายกับศรีษะของเขา ท้าวสักกะเทวราช (พระอินทร์) จึงช่วยเสาะหาก้อนหินดังกล่าวจากใต้ท้องมหาสมุทรและนำมาวางหรือแขวนไว้บนภูเขาหิน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ พระธาตุอินทร์แขวน ปัจจุบัน ชาวพม่าและชาวมอญนั้นจะเรียกพระธาตุอินทร์แขวนว่า ไจ้ก์ทีโย (Kyaikhtiyo) ซึ่งเป็นภาษามอญ หมายถึงเจดีย์บนหินที่มีรูปร่างคล้ายศรีษะฤาษี และก็มีบางตำนานเล่าว่า มีฤาษีองค์หนึ่งซ่อนพระเกศาที่ได้รับมาจากพระพุทธเจ้าเมื่อครั้นมาโปรดสัตว์ในถ้ำ ไว้ในมวยผมมาเป็นเวลานาน เมื่อใกล้ถึงวาระที่จะต้องละสังขารจึงตัดสินใจมอบพระเกศาให้กับพระเจ้าติสสะ กษัตริย์ผู้ครองนครแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบุตรของลูกศิษย์ที่นำมาฝากให้ฤาษีช่วยเลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก แต่ก่อนอื่นพระเจ้าติสสะต้องหาก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายศรีษะของฤาษี โดยมีพระอินทร์เป็นผู้ช่วยค้นหาจากใต้สมุทร นำมาวางไว้ที่หน้าผา และนี่ก็เป็นที่มาของชื่อพระธาตุอินทร์แขวนอีกตำราหนึ่ง สำหรับพระธาตุอินทร์แขวนนั้นสามารถสักการะได้ทั้งกลางวันกลางคืน รวมทั้งสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ แต่ถ้าจะสักการะกลางแจ้งเป็นเวลานานควรเตรียม เสื้อกันหนาว รวมถึงเบาะรองนั่งด้วยค่ะ เพราะอากาศข้างบนนั้นจะเย็นมากและพื้นที่นั่งก็มีความเย็นมากด้วยเช่นกัน พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืนแต่ประตูเหล็กสำหรับบุรุษเปิดถึงเวลา 22.00 น. พระธาตุอินทร์แขวนนี้เป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า นอกจากนั้นยังเป็นที่มาและแรงบันดาลใจให้ มาลา คำจันทร์ แต่งวรรณกรรมจนได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปี พ.ศ. 2534 ชื่อว่า เจ้าจันท์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ขอหยิบยกเนื้อหาบางตอนจาก เจ้าจันท์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน มาให้ได้อ่านกันสักนิดค่ะ โอยอิ่นดูพระธาตุแท้ โศกหมอง บ่แม่น ทิพย์แท่งคำควรครอง ค่าล้าน เป็นแต่ดินกี่กอง ปูนเก่า ดินเก่า ปุนขะสรดโศกไหม้ม้าน ห่วงห้อยอาทวา ดินกี่=อิฐ อีกสักบทค่ะ สาธุพระธาตุเจ้า เจดีย์ ทิพย์แท่งคำสิงคี คู่ฟ้า ผุพ่ายลุหลายปี เปลืองเปล่า ดายเปล่า บุญส่งบ่ตกช้า จักกู้เหิงนิรันดร์ สิงคี=ทอง เหิง=นาน สำหรับตอนนี้หรือวันนี้พอก่อนค่ะ อ่านแล้วอย่าพึ่งงงกับผู้เขียนนะคะ สำหรับตอนที่สองและตอนที่สามน่ะเป็นวันเดียวกันค่ะแต่อยากให้อ่านเรื่องต่อเนื่องกันเกี่ยวกับ พระธาตุอินทร์แขวน สำหรับตอนที่สี่จะขอเขียนเกี่ยวกับพระธาตุอินทร์แขวนเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยค่ะ
27 กรกฎาคม 2550 12:50 น. - comment id 97025
มาดื่มด่ำกับความงามของพระธาตุอินทร์แขวนค่ะ..อ่านเพลินดีค่ะ..เหมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วย..มาช้าดีกว่าไม่มา..
31 กรกฎาคม 2550 00:04 น. - comment id 97080
แปลกแต่จริง
15 สิงหาคม 2550 11:56 น. - comment id 97218
ขอบคุณ สำหรับสิ่งดีๆๆ ที่นำมาฝากกัน ดังนั้น เราจึง อยากแบ่งปันให้บ้างแต่เราก้อไม่เคยไป เลย เอาเพลงเจ้าจันทร์ผมหอม มาแทน แล้วกัน เหนะ http://www.mediafire.com/?42i9bxmm1b7