เรื่องไม่สั้นที่ใจมันพาไป

smiley Face

ผมทำงานเป็นนักออกแบบภายใน จะเป็นบ้าน เป็นห้อง เป็นตึกหรืออะไรก็ได้ผมออกแบบได้หมด ตอนนี้ ผมก็อายุได้ 28 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีแฟนที่ไหนเลย ช่างน่าเศร้าจริงๆ 
                      จริงแล้ว ที่บ้านผม พ่อแม่ก็เป็นคนมีฐานะค่อนข้างจะดี แต่อย่างไรก็ตามผมตัดสินใจออกมาจากบ้านเพื่อใช้ชีวิตด้วยตัวเองหลังจากที่ผมจบมหาวิทยาลัยแล้ว ผมยังวางแผนที่จะเรียนต่อโทอีก แต่เมื่อไหร่นั้นยังไม่แน่นอน 
                                          อ้าว เฮ้ยเที่ยงแล้วไม่ไปกินข้าวหรือไงวะ
                      เสียงพี่วุฒมาเลยครับ เป็นหัวหน้าของผมเอง เขาเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง แต่เรารู้จักกันมาตั้งแต่รุ่นที่ผมเรียนปีหนึ่ง พี่เขาเป็นรุ่นพี่ผมประมาณ สี่ห้าปีได้ 
                                          ไป นนท์ ไปกินข้าวกัน
                                          อ้าวพี่ วันนี้พี่ไม่ได้กลับไปกินที่บ้านเหมือนทุกวันหรอ เดี่ยวพี่หญิงรอแย่เลย
                                          ไม่หรอก เขาไม่อยู่บ้าน เห็นว่าไปกับเพื่อน
                        ผมกับพี่วุฒจึงไปกินข้าวด้วยกันที่ร้านใกล้ๆบริษัท ผมทำงานกับพี่วุฒมาตั้งแต่วันที่ผมเรียนจบ เพราะพี่เขาก็ขอจองตัวผมมาตั้งแต่ผมเรียนอยู่ปีสามแล้ว เขาบอกว่าผมมีความคิดการตกแต่งที่แปลกดีไม่เหมือนคนอื่นๆ ผมเรียนจบจากที่ม. ธรรมศาสตร์ครับ 
                       หลังจากที่เรากินข้าวกลางวันกันอิ่มเรียบร้อย เราก็กลับมาที่บริษัททันที ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อจนเลิกงาน ตอนนี้ผมกำลังออกแบบภายในให้กับบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นของผู้หญิงที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ งานนี้พี่วุฒตั้งใจมากให้ออกมาดีที่สุด ผมจึงต้องใช้เวลากับมันมากหน่อย เพื่อให้ออกมาสมบูรณ์แบบ
	
                      วันรุ่งขึ้น ผมไปที่บริษัทเวลา 9.00 น. เวลาเข้างานผมนั้นไม่ค่อยซีเรียสมากเพราะ ตำแหน่งผมส่วนใหญ่แล้วไม่ได้เน้นที่การมานั่งทำงานที่โต๊ะสักเท่าไหร่ ผมจึงมาที่บริษัทกี่โมงก็ได้ทั้งนั้น แค่มีงานมาส่งตามเวลาก็พอ ซึ่งงานแบบนี้เป็นแบบที่ผมพอใจมาก เพราะผมรักสันโดษ เวลาทำงานชอบอยู่บ้านคนเดียวเงียบๆ 
                      ตอนเวลา 9.30 น. พี่วุฒโทรมาที่ห้องทำงานของผม
                                              เฮ้ย นนท์ ตอนนี้แกว่างใช่มั้ย
                                              ครับพี่
                                              เออ น้องพี่ ที่ชื่อ วุ้น จำได้ป่าว ที่เล่าให้ฟังบ่อย กลับมาจากอเมริกาแล้ว อยากให้แกไปรับมาให้หน่อยสิ พอดีพี่ไม่ว่างอยู่ เนี่ยเดี๋ยวต้องเข้าประชุมแล้ว
                                              เครื่องลงกี่โมงละครับ
                                              ประมาณ 10 โมง
                                              ครับๆ ผมจะรีบไปเลย
                    น้องของพี่วุฒ ผมก็ไม่เคยเห็นหน้าเสียที เห็นพี่วุฒชอบเล่าให้ฟังว่าเป็นคนไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ยังไงก็เอาเหอะ เดี๋ยวผมจะต้องรีบไปรับเขาแล้ว 
                    ผมออกรถไปทันที มุ่งหน้าไปยังสนามบิน สนามบินเวลานี้หาที่จอดยากเสียหน่อย จึงใช้เวลาไปมากพอสมควร ผมก็กลัวว่าเดี๋ยวเธอลงมาแล้วไม่เห็นใครจะรีบขึ้นแทกซี่ไปก่อน 
                    พอหาที่จอดได้ ผมก็กระโดดไปที่ผู้โดยสารขาเข้าทันที ผมมองไปมาก็ไม่เห็นคนที่ดูแล้วจะคล้ายพี่วุฒเลยสักคน ผมคิดในใจว่าเธอจะต้องยังไม่ได้ออกมแน่ ผมจึงเดินไปเดินมารออยู่สักครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นมีใครเดินออกมาอีก ผมเริ่มเครียด ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะผมรู้ดีว่า ถ้าผมโทรหาพี่วุฒก็คงไม่ดีแน่ เพราะเขากำลังประชุมอยู่ 
                    ทันใดนั้นเอง ผมก็ไปเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง รูปร่างใหญ่ หรือจะพูดแบบธรรมดาปากคือ อ้วน เขาเดินเข้ามาหาผม ทำทีว่าลังเล ผมจึงพูดกับเธอว่า
                                               เอ่อ ผมกำลังหาคนชื่อ วุ้นอยู่น่ะครับ
                                               อ๋อ ค่ะ ดิฉันก็คิดอยู่เหมือนกันว่า คุณจะเป็นเพื่อนของพี่วุฒที่มารับวุ้นหรือเปล่า
                                               คุณคือ วุ้น น้องสาวพี่วุฒหรอครับ
แต่ผมว่าไม่น่าใช่นะ เพราะหน้าตาก็ไม่ได้คล้ายพี่วุฒเอาสะเลย
                                               ไม่ใช่ค่ะ ฉันเป็นเพื่อนเขาน่ะค่ะ มารับเขาเหมือนกัน
                    ผู้หญิงคนนั้น เดินจากผมไปสักครู่ และกลับมาพร้อมกับหญิงสาวหน้าตาดี ผมดำยาว สวมกางเกงสีดำขายาว พร้อมกับเสื้อแขนกุด ที่เมื่อเจ้าตัวยกแขนหรือชะเง้อมอง ชายเสื้อก็จะขึ้นมาเหนือกางเกง 
                                                นี่ไงคะ วุ้นที่คุณตามหา
                                                สวัสดีครับ คุณวุ้น
                    ผมยกกระเป๋าจากมือเธอ เธอไม่ตอบอะไรทักทายผม ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มเป็นมิตร มีแต่นัยน์ตาเยือกเย็นที่คอยจับตามองทุกอิริยบทของผม
ผมพาเธอขึ้นรถ และขับรถตรงไปยังที่บริษัท
                                                อ้าว วุ้น เป็นยังไงล่ะ ผอมลงเยอะนะเรา
                                                หวัดดีค่ะ พี่วุฒ ไม่เจอตั้งนาน พี่หญิงคงเลี้ยงดีสิคะเนี่ย
                   เธอเอามือลูบที่พุงของพี่วุฒ และกอดกันจนทำให้ผมรู้ว่า พี่น้องคู่นี้คงสนิทกันเอามากๆเลย 
                                                 ขอบใจนะนนท์ ที่ไปรับมาให้ เออ นายไปกินข้าวเย็นกันที่บ้านมั้ย เห็นวันนี้ หญิงเขาจะทำกับข้าวเลี้ยงต้อนรับวุ้น
                   วุ้นมองดูผมเหมือนไม่ค่อยอยากให้ผมไปที่บ้านเขาเย็นนี้สักเท่าไหร่
                                                  คงไม่ดีมั้งครับ เพราะเย็นนี้พวกพี่น่าจะอยู่กันเป็นครอบครัวมากกว่านะครับ ผมไปคงไม่เหมาะ
                   เท่านั้นแหละครับ วุ้น น้องของพี่วุฒก็ยิ้มขึ้นมาทันที 
                                                  ไม่เห็นต้องกังวลเลยนนท์ นายก็มากินข้าวที่บ้านพี่บ่อย เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว
                   จากนั้น สองคนพี่น้องก็เดินเข้าไปในห้องของพี่วุฒ ซึ่งเขาสองคนคุยอะไรกันผมก็ไม่ได้ยินแล้ว
                                              ทำไมพี่วุฒต้องไปชวนเพื่อนพี่คนนั้นด้วยล่ะคะ
                                                   อ้าวทำไมล่ะ เขาก็เป็นคนสนิทของพี่นะ อีกอย่างตอนที่วุ้นไม่อยู่เขาก็มากินข้าวที่บ้านพี่บ่อยจะตาย
                          ................ไม่รู้สิ วุ้นไม่ค่อยชอบเขา...............				
comments powered by Disqus
  • kp1

    17 เมษายน 2546 19:20 น. - comment id 68278

    อยากรุ้จัง  เรือ่งจะเป็นไงต่อเนี่ย
    
    
    ไม่แน่ใจว่าจะได้มาอ่านต่อของคุณอีกไหม
    
    
    ถ้ามีโอกาสคงได้อ่านอีก
  • ฟองอากาศ

    17 เมษายน 2546 20:08 น. - comment id 68280

    น่าสนใจนะคะ
    น่าติดตาม....
    แล้วจะติดตามตอนต่อไปละกัน
    ................................ :)
  • วัวเพ้อ

    18 เมษายน 2546 00:20 น. - comment id 68281

    อยากอ่านต่อจังเลย เขียนต่อเร็วๆนะครับ
  • แมวน้อย

    18 เมษายน 2546 12:31 น. - comment id 68290

    อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ  เขียนเร็วๆนะ
  • kp1

    18 เมษายน 2546 13:51 น. - comment id 68297

    คิดว่า..จะมาเล่าต่อแล้วจิ
  • kp1

    18 เมษายน 2546 13:54 น. - comment id 68298

    จะรออ่านคั๊บผม
  • สายไหม

    5 กรกฎาคม 2546 11:02 น. - comment id 69122

    น่ารักดีนะเรื่องเขียนได้กุ๊กกิ๊กน่ารักดี

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน