เรานัดเจอกันในวันหยุดวันหนึ่ง ฉันเลือกที่จะทานมื้อกลางวันกับเขา มากกว่ามื้อเย็นที่อาจต่อเนื่องยาวนาน เพราะหนึ่งฉันยังไม่ได้รู้จักเขาดีพอ เขาก็แค่คนแปลกหน้าที่เราบังเอิญมารู้จักกัน และต้องการคบหากันต่อไป สองก็คือฉันยังไม่ได้รู้สึกพิเศษกับเขามากกว่าเพื่อนคนหนึ่ง...เพื่อน...เท่านั้นจริงๆ มื้อกลางวันอย่างง่ายๆของเรา จบลงในร้านที่ค่อนข้างสะอาด บรรยากาศ โล่ง โปร่งสบาย ฉันไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเมื่อเจอเขา เราทักทายกันอย่างสนิทสนมเหมือนคุ้นเคยกันมานาน แปลก...ณ.วินาทีที่ฉันเห็นเขาครั้งแรก หัวใจฉันกลับเต้นในที่จังหวะปกติอย่างไม่น่าเชื่อ มีนัดทานข้าวกับหนุ่มซักคนที่เราไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน มันน่าจะรู้สึกตื่นเต้นมากกว่านี้ไม่ใช่หรือ อย่างน้อย..จังหวะการเต้นของหัวใจมันน่าจะถี่กว่านี้ การพูดคุยกันในระยะใกล้ชิด..มันน่าจะทำให้ฉันรู้สึกเก้อเขินอยู่บ้าง แต่นี่.. ไม่เลย...ฉันไม่ได้รู้สึกใดๆๆนอกจาก การที่ได้ทานข้าวกับเพื่อนคนนึง และ พูดคุยในทุกเรื่องราวที่เราต่างสนใจ เราแยกจากกันหลังจากใช้เวลาในการเจอครั้งแรกใน 2 ชั่วโมงต่อมา...ไม่มีอะไรน่าประทับใจ ไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากว่า ฉันมีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน หลังจากนั้น เขายังคงโทรหาฉันสม่ำเสมอเช่นเคย เรามีนัดทานข้าวบ้าง ดูหนังบ้าง ตามเวลาและโอกาสที่เหมาะสม...เขาไม่เคยรุกคืบมากกว่านี้ จนฉันแปลกใจ และไม่แน่ใจว่า เขาต้องการคบกับฉันแบบใดกันแน่ ความที่ฉันเป็นคนที่ไม่เคยเก็บคำถามไว้ในใจโดยไม่รู้คำตอบได้เลย ในเย็นวันหนึ่ง ที่เขาโทรมาหาฉัน ฉันก็ได้ถามคำถามนั้นออกไป "คุณต้องการคบกับฉันแบบไหน ฉันจะได้วางตัวได้ถูก...ถ้าเป็นเพื่อน คุณก็ไม่จำเป็นต้องโทรหาฉันบ่อยๆๆแบบนี้ ฉันควรได้มีโอกาสได้ลองคบกับคนอื่นดูบ้าง แต่ถ้าคุณอยากคบฉันแบบคนรัก...ฉันก็จะรับไว้พิจารณา" ฉันรู้ คำถามแบบนี้ ผู้หญิงไม่ควรเป็นฝ่ายถาม แต่ฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นความต่างระหว่างเพศ ฉันคิดว่า ทำไมเราต้องเป็นฝ่ายรอ เพื่อให้ผู้ชายซักคนมาเลือก เราต่างหาก ที่ต้องเป็นฝ่ายเลือกผู้ชาย..ฉันให้เวลาเขาในการทำความรู้จักฉันระยะหนึ่งแล้ว และตอนนี้ เขาก็น่าจะมีคำตอบสำหรับฉันได้แล้ว..เช่นกัน เขาเงียบไปชั่วครู่ ฉันบอกเขาว่า คุณยังไม่จำเป็นต้องตอบตอนนี้ ฉันให้เวลาคุณได้คิดและตัดสินใจ...นับจากวันนี้ คุณไม่ต้องโทรหาฉัน เราไม่ต้องติดต่อกัน ให้ใจคุณนิ่งสักพัก แล้วคุณจะคิดได้เอง ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ฉันจะยอมรับโดยดี เรายังคงเป็นเพื่อนกันได้ ถ้าคุณต้องการ เขาหายไปจากชีวิตฉัน 10 วันเต็มๆๆ แม้ใจจะบอกว่าไม่เคยมีความรู้สึกที่พิเศษให้เขาแต่อย่างใด แต่ฉันกลับพบว่า ช่วงเวลาที่เขาหายไปนั้น ฉันกลับรู้สึกกระวนกระวาย รุ่มร้อน และเฝ้ารอคอยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ฉันไม่เคยรู้เลยว่า เขาได้เข้ามาอยู่ในใจของฉันแล้ว โดยที่ฉันไม่รู้ตัว ฉันได้รับโทรศัพท์จากเขาในเย็นวันหนึ่ง เขาบอกว่า เขาพร้อมจะให้คำตอบฉันแล้ว....และเขาควรจะบอกคำตอบนี้ด้วยตัวเอง หัวใจฉันเต้นแรง นับตั้งแต่ได้ยินเสียงเขา ตลอดเวลาของการสนทนา (ปกติเขาจะใช้เวลาในการคุยโทรกะฉันครั้งละนานๆ แต่แปลกที่คราวนี้ เหมือนเราต่างจนด้วยคำพูด ฉันเอง ก็กระวนกระวายใจกับคำตอบของเขา จนไม่มีแก่ใจชวนคุย) ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน..กับเขา.. เรานัดเจอกันในเย็นวันหนึ่ง...ที่ร้านอาหารเดิมที่เราเคยมาทานด้วยกันเป็นครั้งแรก...แม้ฉันจะเจอเขามาแล้วหลายครั้ง..แต่ครั้งนี้ กลับไม่เหมือนครั้งไหนๆๆ ฉันรู้สึกตื่นเต้น..กระวนกระวาย...ใช่ค่ะ..ฉันถึงกับนอนไม่หลับในคืนก่อนที่เราจะเจอกัน..คำตอบของเขาจะเป็นแบบใด..มันคุ้มค่ากับการรอคอยของฉันหรือไม่...ฉันจะได้รู้จากเขาพรุ่งนี้แล้วค่ะ
8 กรกฎาคม 2550 13:52 น. - comment id 96844
โอ้ละหนอนั่งเฝ้าหน้าจอมาตลอดเลยนะเนี่ย อดกระวนกระวายไปด้วยไม่ได้.....ตื่นเต้ล....กะนางเอกไปด้วยนิ..... ตอนต่อไปแอ่น แอ้น แอ๊น......
8 กรกฎาคม 2550 16:13 น. - comment id 96846
ขอบคุณค่า...คุณโอ้ละหนอ..จุ๊บๆๆๆ :) มะคิดว่าจะมีคนรอค่ะ..ช่วงนี้งานยุ่งค่ะ ไม่มีเวลาเขียนเรื่องเลย วันนี้ที่เขียนมา อ่านแล้ว รู้สึกว่ายังไม่ดีเท่าที่ควร แต่เพราะไม่อยากเว้นช่วงนาน (กลัวคนอ่านลืม.... เลยต้องรีบเข็นออกมาให้อ่านกันก่อน สำหรับตอน(ที่ 4)นี้ ถ้าไม่ได้อย่างใจ ก็ขอน้อมรับคำติ ด้วยความเต็มใจเป็นอย่างยิ่งค่ะ สัญญาค่ะว่าจะพยายามให้มากกว่านี้
8 กรกฎาคม 2550 20:22 น. - comment id 96847
เขาจะบอกว่า "ช่วงชีวิตฉันที่ขาดเธอเหมือนจะตาย...หัวใจมันทนไม่ไหว" อ๊ะป่าวววววววว คริคริ ลุ้นๆ
8 กรกฎาคม 2550 21:10 น. - comment id 96848
ขอบคุณค่ะ คุณ fouth พูดเหมือนเคยผ่านช่วงนั้นมาแล้วนะคะ...คริคริ