เอ่ยรักมาทักทาย
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
จะหักอื่นขืนหักก็จักได้
หักอาลัยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก
สารพัดตัดขาดประหลาดนัก
แต่ตัดรักนี้ไม่ขาดประหลาดใจ
"สุนทรภู่" กวีสี่แผ่นดิน นามระบิลว่า "พระสุนทรโวหาร"
เคยกล่าวไว้ในเรื่อง "พระอภัยมณี" ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์
แต่คำนี้ยังคงได้ยินคนกล่าวขานถึงอยู่เสมอ และเป็นบทกลอนหนึ่งที่ทำให้คนตัวเล็กในใจกาพย์กลอน
ใครจะรู้เล่าว่า วันเวลาผ่านพ้นไป วันหนึ่งเราจะได้มาเจอเรื่องความรักกับตนเอง
ถ้ารักสมหวังก็ดีนะ แต่ถ้าไม่สมหวังก็ยากจะห้ามหักใจได้
อันความรักมักมีทั้งดีร้าย
คนมากมายเสาะหาอยากจะได้
ทั้งที่รู้ว่าร้อนจริงยิ่งกว่าไฟ
ยังฝักใฝ่รักกันฉันล่ะงง
หากสมหวังก็ดีโลกนี้สวย
คิดการค้าก็รวยรักช่วยส่ง
คิดการเรียนเพียรภักดิ์รักดำรง
จิตมั่นคงต่อกันนั่นน่ารัก
หากไม่สมดังคาดปรารถนา
เหมือนชีวาจะดับคับข้องหนัก
หายใจก็ติดขัดอึดอัดนัก
ยังฟูมฟักเก็บซ้ำระกำทรวง
เรื่องความรักนี้ไม่เข้าใครออกใครหรอกนะ สมัยก่อนเคยได้ยินบทกลอนกึ่งเล่นกึ่งจริง
เป็นบทกลอนที่ฟังแล้วยิ่งพาใจให้ฉงน สนเท่ห์นัก เจ้าความรักนี่ประหลาดแท้
บทกลอนดังกล่าวเขากล่าวกันต่อสืบมาว่า
อันความรักไม่เลือกชั้นวรรณะ
ไม่ว่าพระหรือเณรที่เป็นสงฆ์
ความรักก็ยากจะหักห้ามนะ ถ้าไม่ระมัดระวังใจตนเอง แม้จะบอกใจตนเองอยู่บ่อยครั้ง
บางทีก็ยังวกวน สับสน
เคยได้ยินคำพระสงฆ์ผู้ทรงคุณธรรมเคยสอนพร่ำย้ำแนะนำไว้ว่า
หากเกิดก่อนมองเป็นเช่นดังพี่
หากคนดีเกิดหลังตั้งเป็นน้อง
หากเกิดพร้อมเป็นเพื่อนตักเตือนประคอง
จะไม่ต้องหวงห่วงดั่งดวงใจ
เมื่อก่อนเคยดูหนังเรื่อง "พี่ชาย" ความย่อคือ ฝ่ายชายรักหญิงเหมือนคนรัก แต่ฝ่ายหญิงมองชายเป็นพี่
บทโศกจึงเกิดขึ้น เมื่อฝ่ายชายต้องมาดูแลฝ่ายหญิง ในฐานะของพี่ชาย
โอ้น้องสาวคนดีที่พี่รัก
แม้ประจักษ์แก่ใจไม่อาจเร่ง
ด้วยศรัทธาแน่นย้ำน่ายำเกรง
จะบรรเลงเช่นใดหนอใจเรา
ยินถ้อยคำน้ำเสียงสำเนียงใส
เรียกแต่ไกลใจฝืนกลืนยิ้มเศร้า
ว่า "พี่ชาย" หลายครั้งฟังวิ่งเหงา
ยังใฝ่เฝ้าพะนอรอคนดี
ใครระกำช้ำหนักเท่ารักซึ้ง
จากก้นบึ้งหัวใจมิหน่ายหนี
ปรารถนารักเธอเท่าชีวี
แต่น้องพี่มองเห็นเป็น "พี่ชาย"
เห็นเธอยิ้มน่ารักแต่หักอก
ยากสาธกถ้อยคำพร่ำขยาย
เจ็บจุกแน่นแผ่นหินทับเจียนตาย
รักสลายกล้ำกลืนยืนรับเธอ
เหตุเพราะว่าความรักนั้นเกิดจากใจ จะเป็นมนุษย์หน้าไหน ก็ล้วนมีจิตใจด้วยกันทั้งนั้น
ด้วยเหตุนี้กระมัง พระพุทธเจ้าจึงให้มองความรักอย่างกว้าง ๆ เป็นความรักที่ประเสริฐ
เรียกว่า
"รักอย่างพรหม"
คือ
รักแบบเมตตา ปรารถนาให้คนรักามีความสุข
รักแบบกรุณา ปรารถนาให้คนรักพ้นจากทุกข์
รักแบบมุทิตา ปรารถนายินดีเมื่อคนรักได้ดี
รักแบบอุเบกขา ปรารถนาความเป็นกลาง วางใจได้
แม้ไม่สมปรารถนา ก็ไม่นำรักนั้นมาบีบคั้นบังคับตนและคนรัก
ความจริงเป็นสิ่งที่ยากนะ รักอย่างพรหมตามหลักพรหมวิหาร ถือเป็นรักในอุดมคติในพระพุทธศาสนา
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ให้เป็นแนวทางสำหรับพ่อแม่ จึงเรียกว่า พ่อแม่เป็นพรหมของลูก
เราจึงเห็นรูปปั้นพรหมมี ๔ หน้า ก็คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา
จะใช่ หน้ายักษ์ หน้ามาร หน้าดุ หน้าด่า ก็หาไม่
หวังใจว่าจะเป็นเฉกเช่นนั้น
แต่ว่ามันยากนะจะหลีกเลี่ยง
พยายามห้ามหักรักเอนเอียง
ยังยินเสี้ยงสะอื้นกลืนน้ำตา
แปลกแต่จริงหญิงชายในโลกกว้าง
ชอบเป็นห่วงหวงนี่สิเนหา
เมื่อได้รักอยากเห็นทุกเวลา
เมื่อรักลาแค้นเคียดเกลียดขังกัน
แต่ก็ยังมีนะ ประเภทยอมรับความจริง เมื่อรักกันเพื่อครอบครองกันและกันไม่ได้
ก็วางใจ พบกันครึ่งทาง เรามาเป็นเพื่อนกันนะ หรือเป็นพี่น้องกันดีกว่า คบกันได้นานกว่า
ถ้าบอกกันตั้งแต่ต้น ก็คงดีนะ ไม่ต้องห้ามหักใจให้ลำบากมากนัก
แต่ถ้ารักสุกงอมแล้ว ค่อยมาเอ่ย โอ้อกเอ๋ยสุดจะทน
อาจต้องบ่นพร่ำรำพันว่า
ความผูกพันมั่นหมายในวันก่อน
ถูกริดรอนเหลือเพียงเพื่อนห่างหาย
พยายามติดต่อเธอแทบตาย
ไร้ความหมายต่อจิตคิดคำนึง
ก่อนเคยบอกผูกพันและมั่นจิต
จะเริ่มต้นชีวิตอีกก้าวหนึ่ง
ร่วมเผชิญเดินไปใฝ่ตราตรึง
ความลึกซึ้งสองเราเฝ้าประคอง
วันนี้แม้สุ้มเสียงสำเนียงใส
ก็มิได้ยลยินถวิลหมอง
คล้ายแค้นเคียดเกลียดชังคนหวังปอง
วันนี้ต้องจำห่างเธอร้างลา
คิดถึงฉันบ้างไหมในวันนี้
โอ้คนดีเฉยเย็นมิเห็นค่า
วันก่อนนั้นใครเล่าเฝ้านำพา
อนิจจาเธอไม่สนใจจำ
นี่ล่ะคือความรักล่ะ
หากใครทำใจให้เป็นกลางได้ ไม่เกี่ยวข้องได้
แม้จะรัก ก็ให้เป็นไปตามหลักพรหมวิหาร ๔ ข้างต้นได้
จิตใจของผู้นั้นจะอาจหาญและชาญชัย เหมาะจะเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจของเพื่อนผู้ร่วมทุกข์ในโลกนี้
คนตัวเล็กจึงน้อมกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์
พระเถระทั้งหลาย ที่ท่านวางใจห่างจากรัก โลภ โกรธ และหลง
ยังคงทำหน้าที่ของพุทธสาวกที่ดีต่อไป แม้จะไม่มีใครไปเสนอข่าวการทำความดี
บางท่านก็มีวจีที่น่าฟังและไพเราะจับใจ เช่นว่า
ทำดีไม่ต้องรอฤกษ์ยาม ตรงกันข้าม ถ้าทำความชั่วแม้ฤกษ์จะดีแค่ไหน ทำไปแล้วก็มีแต่เสีย
ทำดีไม่ต้องมีใครป่าวประกาศ ทำตามโอกาสและความสามารถของเรา
ทำดีทันทีที่คิดได้ จิตใจจะคุ้นเคยกับความดี
การที่เรารักใครสักคนแล้วทำดีในช่วงที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน เป็นสิ่งดีงามนะ
แต่การทำดีแล้วไม่หวังผลใด ๆ จิตใจของผู้กระทำต้องฝึกมาเป็นอย่างดี
เพราะความดีสามารถเอาชนะจิตใจคนเราได้
ถ้าทำถูกที่ ถูกเวลา ถูกบุคคล และไม่จนใจตนเอง
การที่รักใครสักคนแล้วทำดีให้ หากดีเสมอต้นเสมอปลายได้ ใครได้รับรักนั้น ก็ถือว่าโชคดีในชีวิตนะ
ธรรมดาคนเราเมื่อเริ่มรัก ก็มักจะมอบสิ่งดี ๆ ให้กัน ถ้าสิ่งนั้นก่อเกิดจากใจจริง ๆ แม้มีปัญหาและอุปสรรคเกิดขึ้น
ก็ย้งพร้อมจะหยัดยืนเป็นกำลังใจกันและกัน ให้ความมั่นใจแก่กันและกัน แต่ยากนะ
เพราะจิตใจบอบบางยิ่งกว่าแก้ว
เคยใสแจ๋วกลับหมองและข้องขัด
คิดสับสนวนเวียนสารพัด
เมื่อเริ่มชัดว่ารักมาปักใจ
จิตใจจะบางเบาและห้าวหาญ
เมื่อพ้นผ่านเรื่องรักจิตฝักใฝ่
ปล่อยวางรักหักกรรมมิร่ำไร
หากทำได้แกร่งกล้าศิลามิปาน
ทำอย่างไรใจตนจะพ้นรัก
สุดห้ามหักเคล้ามิห้าวหาญ
จิตอ่อนแอแท้ท้อทรมาน
สุดฟุ้งซ่านกลับกลอกหลอกหลอนตน
มิเคยร่ำร้องไห้มีให้เห็น
มิเคยเป็นเฉื่อยชาก้มหน้าหม่น
มิเคยคิดน้อยใจกลับเวียนวน
มิเคยด้นดั้นไปก็ไกลจร
หากความรักเป็นรักที่ยินดีมอบให้ จะไม่รู้สึกสูญเสียรัก
หากรักเป็นรักที่เรียกร้อง จะหม่นหมองเพราะอาจต้องสูญเสียรัก
รักใดเป็นไปโดยไม่หวังผลตอบแทนใดใด รักนั้นค่ายิ่งใหญ่ชนะใจคนทั้งปวง
รักใดเป็นไปด้วยความหึงหวงและปรารถนา รักนั้นจะนำพาไปสู่ความปวดร้าวแสนสาหัส
หากคิดจะหัดรัก ถึงตระหนักจิต สะกิดเตือนใจตนให้มาก
อยากเห็นทุกคนสุขสมหวังในรักนะ
จากใจชายตัวเล็ก