ดั่งมานหมอกกั้น ตอนที่5

สุวรรณโสภิต

รถยนต์คันหรูแล่นเมาจอดหน้าตึกตำหนักใหญ่ในวังดวงดารา กรรณติมาสก้าวลงมาในชุดแซกสั้นแค่เข่าสีขาวนวลฉะลุลูกไม้ ดูอ่อนหวานตามด้วยเพื่อนสาวทั้งสองและคุณธงรบ กรรณติมาสและวินวรรณมองไปรอบๆวังอย่างตื่นตาในความงามของวังที่จะเป็นแบบวังของไทยออกๆไปทางเหนือนิดหน่อย  กับสวนดอกไม้ไทยที่หอมอบไปทั่วบริเวณเพราะเจ้าของก็มีเชื้อสายไทยสวนหนึ่งจึงยังรักและรักษาความเป็นไทยที่ทางเจ้าของวังคนก่อนเคยทำไว้ 
สวยจังเลยยายรตี เหมือนอยู่ในวังเก่าๆในไทยเลย
วินวรรณเอ่ยขึ้น
ก็คนที่นี้เขามีเชื้อสายไทยส่วนหนึ่งอย่างที่ฉันบอกเมื่อคืนไง รตีตอบ ก่อนหันไปหากรรณติมาสที่ยืนยิ้มอยู่  เป็นไง จะอยู่ได้ไหม
หญิงสาวพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มงาม  วันนี้เธอดูงามมากกว่าทุกวันยิ่งเวลายิ้มเหมื่อนทำให้โลกสดใสขึ้นทันทีกรรณติมาสนั้นเหมือนมารดาของเธอเป็นคนนิ่มๆ งามแบบที่มองไม่เบื่อ
เชิญข้างในค่ะ เสียงของหญิงคนหนึ่งใส่เสื่อแขนกระบอกคอปาดกับผ้าซิ่นยาวถึงข้อเท้า รวบผมเป็นมวยไว้ทางด้านหลัง เดินเข้ามาทำความเคารพแขกที่มาเยือนแล้วเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
หม่อมไม่อยู่หรือคะคุณแสงคำ รตีเอ่ยขึ้นกับคุณข้าหลวงอย่างคนที่คุนเคยกับที่นี้ เธอมาที่นี้บ่อยมากจนจะกลายเป็นคนของที่นี้ไปแล้วเพราะสามีของเธอเป็นพระสหายของท่านชายและเธอยังเป็นคนไทยเหมือน หม่อม 
หม่อมอยู่ที่ห้องทรงพระอักษรกับเสด็จค่ะ เดี๋ยวคงออมารับ ท่านทราบแล้วว่าพวกคุณมา
ทั้งหมดไปนั่งในห้องโถงใหญ่ที่มีประตูหลายบานทะลุไปยังห้องต่างๆ มีม่านสีน้ำเงินปิดไว้ภายในห้องหอมไปด้วยกลิ่นน้ำอบที่เจ้าของวังชอบทำขึ้น นั่งไม่นานก็มีหญิงวัยกลางคนแต่งตัวจะดีกว่าคุณแสนคำคนที่ไปรับคนแรกหน่อย เดินเข้ามาหม่อมละออยังดูแข็งแรงไม่ได้แก่อย่างที่วินวรรณคิดเลยแสดงว่าเธอคิดผิดแล้วหนึ่งเรื่องหญิงสาวแอบยิ้มขำในความคิดตัวเอง หลังจากรตีแนะนำแล้วว่าบุคคลที่เข้ามาคือใคร
หม่อมนี้ยังไม่แก่เลยนะคะเท่าที่รตีบรรยายดิฉันคิดว่าจะต้องเป็นผู้หญิงที่มีอายุมากแล้ว
วินวรรณเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี ดูหล่อนจะทำความสนิทสนมได้เร็วกว่าเพื่อนสาวที่จะเข้ามาอยู่ที่นี้เสียอีก กรรณติมาสกลับนั่งยิ้มเงียบๆ  ไม่พูดอะไร
แก่แล้วค่ะใครว่าไม่แก่แต่คงเป็นเพราะดิฉันไม่ได้ทำงานหนักมังคะ หม่อมละออตอบนิ่มๆใบหน้าฉาบไปด้วยรอยยิ้มตลอด
คุณกรรรณติมาสเป็นลูกสาวของคุณหญิงกรรณศิริหรือคะ ดิฉันพอรู้จักคุณแม่คุณบ้างตอนที่อยู่เมืองไทย
เสียใจด้วยนะคะ
กรรณติมาสไหว้ขอยคุณผู้อาวุโสตรงหน้า  ขอบคุณค่ะ คุณแม่ท่านทราบว่าดิฉันมาอยู่กับหม่อมท่านก็คงเบาใจ
ค่ะ ที่นี้เราอยู่กันอย่างญาติพี่น้องค่ะ คุณสบายใจได้ เสด็จท่านทรงพระทัยดี
แล้วเสด็จละคะทรงอยู่หรือเปล่า รตีถาม
อ้อ ดิฉันก็ลืมไปมัวแต่คุย ท่านทรงให้มาบอกว่าเดี๋ยวท่านจะออกมาค่ะท่านทรงงานอยู่รอสักครู่นะคะ
ไม่เป็นไรค่ะ
ขาดคำรตี หญิงวัยเดียวกับหม่อมละออก็ก้าวพ้นประตูข้างห้องเข้ามาพอดี ใบหน้าฉาบไปด้วยรอยยิ้มละมุนต้อนรับแขกผู้มาเยือนแล้วเดินเข้าไปทิ้งตัวลงนั้งบนเก้าอี้ตัวใหญ่ตรงกลางแค่เห็นการแต่งตัวและการหมอบกราบจากพวกข้าหลวงที่นั่งอยู่ภายในห้องกรรณติมาสและวินวรรณก็ทราบทันทีว่าใครมา ทั้งสองไหว้ผู้ที่นั่งอยู่ตรงหน้าอย่างอ่อนน้อมโดยที่รตีและคุณธงรบไม่ต้องแนะนำ ส่วนวินวรรณดูเหมือนว่าหล่อนจะคิดผิดอีกแล้ว
คนไหนคะคุณรตีคุณครูที่จะมาสอนท่านหญิงทั้งสอง 
เสด็จทรงตรัสน้ำเสียงระรื้นหูทำให้กรรณติมาสคลายความกังวลใจลงได้บ้าง 
คนนี้มังคะ รตีผายมือไปทางกรรณติมาส คุณกรรณติมาส  พิพัฒพงษ์
กรรณติมาสกราบผู้ที่อยู่ตรงหน้าอย่างงามแต่ก็ยังประหม่าอยู่
แล้วอีกคนเป็นเพื่อนของหม่อมฉันมังคะชื่อ วินวรรณเขาอยากตามมาส่งยายมาสมังคะ
มีคุณครูสวยๆแบบนี้นี่เล่าท่านหญิงทั้งสองถึงเร่งรัดอยากเรียนนัก  พวกเธอบอกว่าดูจากรูปแล้วเธอว่าคุณคงจะใจดี ส่วนฉันไม่เคยเห็นละพวกเขาสามพี่น้องเลือกกันเอง อยู่ที่นี้ไม่ต้องกลัว รับประกันความปลอดภัย เสด็จตรัส ฉันไม่ใช่พวกเจ้าใจร้ายหลอกไม่ต้องกลัวไม่เชื่อถามหม่อมละออได้ 
กรรณติมาสได้ยินคำชมก็ซ่อนอายหน้าแดงนึกในใจว่าถ้าอาไม่รู้หลานชายจอมจุ้นคงเป็นคนจัดการแน่นอน  
ท่านชายนั้เป็นคนเลือกเองเพียงแต่นำประวัติมาให้เสด็จทรงอ่านเฉยๆ 
ดูพระพัตรแล้วก็พอจะทราบว่าไม่ทรงใจร้ายมังคะหม่อมฉันจะได้หมดห่วง วินวรรณตอบ
เสด็จทรงตรัสอย่างอารมณ์ดีว่า
ฉันไม่เอาเพื่อนคุณมาฆ่ามาแกงแน่  แล้วเป็นอย่างไรบ้างการเดินทางเรียบร้อยดีหรือเปล่าคุณรตี
เรียบร้อยดีมังคะ ท่านชายทรงจัดการทุกอย่างให้หมด แล้วนี้ท่านชายไปไหนมังคะ
เขาก็อยู่แถวนี้ละไม่ได้ไปไหน เดี๋ยวก็คงออกมาส่วนท่านหญิงทั้งสองเขาพาพี่หมอของพวกเขาไปเที่ยวประเดี๋ยวก็คงกลับ  ฉันดีใจที่คุณตกลงมาทำงานให้กับเราหวังว่าคุณจะทำมันอย่างเต็มที่  และเสียใจด้วยเรื่องคุณแม่ของคุณ ท่านชายเขามาบอกฉัน เขาก็ไปรวมงานศพมาด้วยแต่คงไม่เจอกัน
ประโยคหลังท่านทรงหันไปบอกกับกรรณติมาส
คนเราชีวิตก็มีแค่นี้เกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดาของคน เพียงแต่คนที่ยังอยู่ไม่นำมันมาเป็นความเสียใจมากจนเกินไปจนกระทบต่อการดำเนินชีวิตและคนที่อยู่ก็เท่านั้น เสด็จทรงตรัสอย่างคนที่ผ่านโลกมามากและรู้ว่าอะไรเป็นอะไร				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน