รวย...รวยแล้วเรา ผมกระโดดโลดเต้นอย่างสุดแรงกับกองเงินที่วางอยู่ตรงหน้า เพียงชั่วข้ามคืนไม่น่าเชื่อว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของธนบัตรละพันกองใหญ่สูงเกือบฟุต ตั้งเรียงรายอยู่ถึง5กอง ไอ้ดำเอ๋ยไอ้ดำ เอ็งต้องอิจฉาข้าแน่ ผมตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง งวดที่แล้วเอ็งถูกเลขท้ายสองตัวได้แค่สองพัน แต่นี่ แต่นี่ ...ฮ่าๆๆๆๆ ผมตะเบ็งดังขึ้นไปอีก โดยไม่สนใจว่าใครจะอิจฉาหรือหมั่นไส้ เพราะผมคือเศรษฐีใหม่ของเมืองไทย ผมลืมไปสิ้นว่าผมกระโดดโลดเต้นไปนานแค่ไหน แต่คิดว่ามากพอสมควร เพราะเหงื่อซึมผุดออกมาจนเปียกแผ่นหลังชุ่มเสื้อและกางเกงสีฟ้าที่ผมรักมัน ผมตั้งใจจะใส่สีนี้ทุกวันเพราะคิดว่าเป็นสีนำโชค ในสวนอันร่มรื่นของยามเช้านั้น ผมเริ่มคิดหนักว่าจะนำเงินที่ได้ไปใช้อะไรดี ตามที่เพิ่งดูรายการในทีวีช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา นักลงทุนบอกให้ซื้อกองทุนรวมบางกองที่ได้อัตราผลตอบแทนที่ดีในช่วงนี้ นายแบงก์บอกให้ซื้อตั๋วแลกเงินช่วงสั้นๆเพราะดอกเบี้ยดีกว่าฝากประจำ ส่วนเจ้าของบริษัทประกันบอกให้ออมเงินแบบมีความคุ้มครองสูงๆตามแบบประกันใหม่ที่ออกมา เอ๊ะ หรือว่าเราควรจะไปลงทุนทำร้านสักร้าน ร้านอาหารเล็กๆก็ได้ ตั้งชื่อมันว่าร้านบ๊องเป็นแกง หรือแบงก์เป็นกองดี โอยแค่คิดก็มึนหัวไปหมด ไม่ได้ ไม่ได้..... ผมนึกในใจ เราจะมึนไปกับมันไม่ได้ เราต้องมีความสุขกับมันสิ แล้วผมเริ่มยิ้มกริ่มออกมาอีกครั้ง ในหนังเรื่องหนึ่งพระเอกตกลงไปในบ่อเงิน แล้วเขากอบเอากองธนบัตรโยนขึ้นสูงๆ ให้มันปลิวลงมาหาตัวเขาเอง ดูหน้าตาของพระเอกเรื่องนั้นมีความสุขมาก นึกถึงเรื่องนั้นแล้วผมก็เริ่มลองทำตามอย่าง เริ่มกอบเอาเท่าที่แรงตัวเองจะพึงมีแล้ว โยนขึ้นบนอากาศ ผมมองตามไปบนฟ้าแล้วก็ยิ้มกับธนบัตรที่ค่อยๆปลิวช้าๆ ตกลงมาหาตัวเอง ฮ่าๆๆๆ............... เสียงหัวเราะของผมที่กำลังมีความสุขแค่สิ่งที่อยู่ต่อหน้า เป็นความสุขที่ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นมาผสมให้หนักหัว และแล้ว.... หางตาของผมก็สะดุดกับชายร่างผอมบางผิวคล้ำที่เดินอยู่ระแวกนั้น ไอ้ดำนั่นเอง ดูเหมือนมันได้ยินข่าวการเป็นมหาเศรษฐีของผมแล้ว ที่สำคัญดูท่าทางมันจะอิจฉาผมแน่นอน ไม่อย่างนั้นมันไม่ทำเป็นเดินผ่านมาทางนี้หรอก ต่อให้ทำหน้าเฉยๆอย่างนั้นก็เถอะ ไอ้คุณดำครับ... ผมเริ่มทำเสียงทุ้มมาดมั่นแบบคนมีอันจะกินเขาพูดกัน เอ่อ... ได้ยินเมื่อวานว่าคุณถูกหวยเหรอครับ ผมเริ่มประโยคกรุยทาง เพื่อสู่บทสรุปว่าผมรวยกว่าหลายเท่า โดยไม่ลืมน้ำเสียงทุ้มนุ่มลึกแบบเดิม อื้อ ไอ้ดำเปล่งเสียงตอบเบาๆ พร้อมกับพยักหน้ารับด้วยสายตาที่เฉยชา มีผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้ดีว่าสีหน้าที่เฉยชาของมันนั้น ข้างในใจกำลังสกัดกั้นอารมณ์อิจฉาที่มีต่อผมอยู่เต็มเปี่ยม หึ หึ ผมเริ่มหัวเราะเบาๆ หลังจากที่มันเดินผ่านไปแล้ว ผมนึกในใจ สักวันเถอะแกจะต้องซมซานมาเป็นลูกจ้างร้านบ๊องเป็นแกงที่ฉันบงการอยู่ คุณพี่สง่าคะ ผมได้ยินเสียงเรียกอยู่ข้างๆตัว ถัดออกไประยะสี่ถึงห้าเมตร อ๋อ... น้องปลา นางฟ้าของผมนั่นเอง เธอมาในชุดสีขาวและหมวกที่ผมคุ้นเคย ดูน้องปลาเองก็ทำท่าเฉยๆกับมหาเศรษฐีอย่างผมเหมือนไอ้ดำด้วยหรือนี่....... ก่อนที่สมองผมจะนึกอะไรต่อ เธอก็พูดออกมาอีกว่า วันนี้คุณพี่สง่าเป็นเศรษฐีพอแล้วนะคะ ช่วยมารับประทานยาที่น้องปลาจัดไว้ให้ด้วยนะคะ อ้อ...แล้วพี่สง่าอย่าโยนกองเงินกระจัดกระจายอีกนะ ประเดี๋ยวลำบากลุงแม้นต้องเหนื่อยเก็บกวาดกองเงินให้พี่สง่าใหม่ ครับ ผมตอบเสียงอ่อยๆอย่างว่าง่าย พร้อมกับเดินตามหลังไปกินยาที่น้องปลาจัดให้อย่างเสียมิได้ ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยมารวยกันใหม่นะครับ ผมได้ยินเสียงลุงแม้นพูดเบาๆด้านหลัง แกหยิบไม้กวาดทางมะพร้าวด้ามโตเดินมาที่กองเงินของผม แล้วค่อยๆกวาดเงินมาไว้เป็นกองเหมือนเดิม ชุดสีขาวของน้องปลา และชุดสีฟ้าสุดโปรดของผม แกคงเห็นไม่ถนัดนักเพราะเริ่มเดินห่างแกไกลพอสมควรแ
10 มิถุนายน 2550 15:15 น. - comment id 96520
เฮ้อ แอบไปรวยอย่างนี้นีเอง ถึงว่าหายหน้าหายตาไปนานเชียวค่ะ แต่เอชุดสีฟ้ากะนางฟ้าชุดขาวนี่ ...ออกจะคุ้นๆ อยู่นะคะ...
10 มิถุนายน 2550 21:18 น. - comment id 96523
อิอิ... การงานรัดตัว จนมัวแต่ก้มหน้ารัดเข็มขัดอยู่น่ะขอรับ สบายดีนะขอรับ คิดถึงเป็นพัลวันครับทุกท่าน ขอทำมาหากินไปก่อนขอรับ เวลาว่างมายิ้มให้กันทีน๊า.........