เรามียายอยู่คนเดียว(ถ้ามีสองคนคงบ้านแตกไปนานแระ...อิอิ) เราจะพูดแทนชื่อตัวเองกับยายว่า"ลูก"เสมอ เหมือนที่พูดกับพ่อและแม่ ไม่รู้ว่าเราเริ่มแทนตัวเองว่า"ลูก"เวลาพูดกับยายตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ยายก็ให้ความรู้สึกว่า เหมือนแม่ ได้จริงๆ สรุปก็คือเรามีแม่ที่อบอุ่นจนเผาเราเกรียมได้ตั้ง 2คนแน่ะ....:p เมื่อก่อนตอนยายแข็งแรง ยายจะทำอาหารให้เรากับน้าทานเสมอไม่ว่าจะอยากกินอะไร ขอให้บอก ยายเนรมิตรได้อย่างใจ ยายดูมีความสุขเวลาทำอาหาร ยายไม่เคยขอร้องให้ใครไปช่วย หรือเป็นลูกมือเลย เราอยู่กับน้าที่ปากเกร็ดและยายจะลงมาจากเชียงรายเป็นพักๆ มาทีไม่ต่ำกว่าเดือนขึ้นไป ช่วงที่ยายมาอยู่ด้วย สวนจะสวยไม่มีใบไม้แห้งหล่นให้รกตาเลย บริเวณรอบๆต้นไผ่ที่รายล้อมไปด้วยหินเล็กๆยายยังสามารถพลิกก้อนหินทีละก้อนเพื่อคุ้ยหาใบไม้แห้งมาทิ้งขยะได้เลย ยายสามารถอยู่ข้างบ้านดูแลสวนอยู่กับต้นไม้ได้เป็นวันๆ ความสุขของยายมีไม่กี่อย่างจากที่เราสังเกตุ เราเคยถามยายว่า เวลาปวดท้องคลอดลูกเจ็บมั๊ย เพราะยายต้องคลอดตั้ง8คน แต่ยายกลับตอบหน้าตาเฉยว่า"ไม่เจ็บ...เหมือนปวดท้องอึนั่นแหละ..." เรายิ่งเป็นคนจินตนาการกว้างไกลอยู่ด้วย มีรึจะไม่คิดตาม555 ถูกแล้วเรานึกภาพ แม่เรากับน้าๆ(แม่เราเป็นลูกคนโต)เป็นอุนจิ...แล้วก็หลุดหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว...หารู้ไม่ว่ามีสายตาอำมหิตคู่หนึ่งจับจ้องอยู่เหมือนจะรู้ทันความคิดเรา...55555(ขากรรไกรจะค้าง...ไม่รู้สึกรู้สา)...ยายช่างเป็นผู้หญิงที่โชคดีจริงๆเพราะสมัยเรียนมัธยมเราเคยดูวิธีคลอดลูกโดยวิธีรรมชาติแล้วมัน สยึมกึ๋ย มากเลยอ่ะ ^~^" ติดตาแต่ไม่ติดใจ ยายมักมีมุขเด็ดมาเป็นระยะๆ อย่างตอนที่ ยายไม่สบาย ไม่ยอมเช็ดตัวเลย3-4วัน คิดดูเดินไปไหนแมลงวันตอม(ตอนนี้ยายอยู่เจียงฮายปู๊นนนน...เต็มที่ๆ...อิอิ)^A^ แล้วอยู่ดีๆยายก็ร้องเพลงหนึ่งที่พ่อเราเคยร้องสมัยเป็นทหารแล้วต้องติดอยู่ในป่าว่า "เจ็ดวันอาบน้ำหนเดียว...เจ็ดวันอาบน้ำหนเดียว....ใครๆก็ไม่แลเหลียว....อาบน้ำหนเดียวอยู่ได้เจ็ดวัน" จากที่เรากำลังจะแกล้งเอามือปิดจมูกแซวยายเล่นเรื่องไม่ยอมอาบน้ำทั้งๆที่หายไข้แล้วกลับต้องเอามือมากุมท้องเพราะหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งแทนซะนี่ ตอนนี้ยายไม่ค่อยแข็งแรงเพราะอายุ 78 แล้วเดินทางก็ไม่ค่อยไหวยายก็เลยไม่มาหาเราแล้วแต่พวกเราต้องเป็นฝ่ายไปหายายแทน แต่เดือนมีนาที่ผ่านมา น้าๆมาเที่ยวก็เลยคะยั้นคะยอให้ยายมาด้วยแล้วบอกยายว่า สงกรานต์ค่อยกลับเชียงรายพร้อมกัน...ยายถึงยอมอยู่ด้วย เรากับน้าคุยกันว่าต่อไปนี้จะทำอาหารให้ยายทาน เพราะตอนที่ยายแข็งแรงยายยังทำให้พวกเราทานได้เลยแล้วทำไมพวกเราจะทำอาหารให้ยายทานไม่ได้ล่ะ... ปีนี้รู้สึกยายไม่ค่อยสดใส ดูซึมๆไม่ค่อยพูด ไม่มีอารมณ์ขันเหมือนก่อน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าหูยายไม่ค่อยได้ยินแล้วก็เป็นได้ ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า...คนเราถึงจะสดใส แข็งแรงขนาดไหนก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อถึง วัย วันและ เวลา ซึ่งพวกเราก็คงหนีไม่พ้น จากที่ยาย ชอบทำอาหาร ก็เหลือแต่ ทานอาหารตามเวลา จากที่ยายชอบ ปลูกต้นไม้ ชอบขลุกอยู่ในสวน ก็เหลือแต่ นั่งมองเฉยๆข้างหน้าต่าง จากที่ยายชอบมีมุขเด็ดๆมาให้ขำ ก็เหลือแต่ ความเงียบ สงบ และสายตาที่เหม่อมองออกไปไกลๆ เราไม่รู้ว่ายายกำลังคิดอะไรอยู่...และไม่กล้าถามด้วย...ได้แต่ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยและสื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่องแล้วเพราะ ยายแก่ลงมากเลยปีนี้เวลาพูดก็ต้องเข้าไปใกล้ๆเสียงดังๆถึงจะได้ยิน สิ่งที่เราจะทำเพื่อยายได้ตอนนี้ก็คือ ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่าและดูแลยายอย่างที่ยายเคยดูแลเราขณะที่ท่านยังแข็งแรงอยู่ เรายังจำ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ สายตาที่อบอุ่นแม้บางครั้งจะแอบมีรังสีอำมหิตแผ่มาให้เสียวสันหลังวูบเวลาทำอะไรไม่ถูกใจยายบ้างก็ตาม ถึงแม้วันนี้ยายจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่เราก็เชื่อว่า ยายคงรับรู้ได้ว่า ลูกๆหลานๆทุกคนรักและเป็นห่วงยายแค่ไหน เพราะพวกเรา รักนะ...แต่แสดงออก...(^v^)...ให้ยายรู้ ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะดูแลยาย แม้ยายจะไม่ได้ดูแลเราอีกแล้วก็ตาม บางครั้งเวลา...จะเป็นตัวกำหนดด้วยตัวของมันเองว่า เราควรทำอะไร ตอนไหน อย่างไร เพื่อใคร เมื่อก่อนเรากับน้าไม่ต้องทำอาหาร อย่างเก่งก็เป็นลูกมือเล็กๆน้อยๆ แต่ช่วงที่ยายมาอยู่ด้วยเมื่อเดือนมีนาพวกเราจะเช่วยกันทำอาหารให้ยายทาน...เราไม่รู้หรอกว่าอาหารถูกปากยายหรือเปล่า แต่แค่ยายทานหมดจาน...แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว ถึงแม้อาหารที่ทำจะเทียบไม่ได้เลยกับที่ยายเคยทำให้เราแต่เราก็ทำด้วยหัวใจและยายคงจะรับรู้ได้(^8^)เมื่ออ่านจากสายตา เราไม่เคยรู้ว่าเวลายายทำอาหารร้อนขนาดไหน ทุกครั้งเวลายายทำอาหารเสร็จจะมายืนอยู่หน้าพัดลมด้วยชุดที่ชุ่มเหงื่อไปทั้งตัว...แต่ยายก็ยังมีรอยยิ้มเสมอ...(o^______^o) ตอนนี้เรารู้แล้วว่า การทำอาหารหากไม่ใช้หัวใจทำ เราจะไม่สามารถยิ้มออกได้เลย ภายในห้องครัวที่ร้อนอบอ้าวเพราะไอร้อนจาก อาหารและเตาเหล่านั้น คงเป็นเพราะรอยยิ้มของยายที่ออกมาจากห้องครัวทุกครั้งทำให้เราซึมซับอย่างไม่รู้ตัวว่า...การทำอาหารอย่างคนที่ใช้หัวใจทำเป็นอย่างไร...ตอนนี้ฝีมือของเราพัฒนาจนยายเอ่ยปากชมว่า"อร่อย"แล้ว...โย่ว์ (*^o^*)/ ถ้าหากคำกล่าวที่ว่า"คนเรายิ่งแก่ตัวลงจะยิ่งเหมือนเด็กเป็นเช่นนั้นจริง...ก็ขออย่าได้พรากความสดใสเหมือนเด็กไปจาก ยาย ของเราเลย"
27 พฤษภาคม 2550 18:19 น. - comment id 96338
เรนรักคุณย่า.. เรนจำได้นะคะ.. คุณย่าชอบพาเรนไปเที่ยว.. .. เรนมีชุดสวยที่คุณย่าซื้อให้.. มีสวนสวย..ที่คุณย่าทำ.. คุณย่าน่ารักที่สุด.. มือของคุณย่า..ที่เรนสัมผัส.. อบอุ่นที่สุด.. เรนรักคุณย่า.. .. ..
27 พฤษภาคม 2550 18:41 น. - comment id 96339
คุณยายเสียไปนานมากแล้ว .. กีกี้นอนเฝ้ายายอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลาเกือบสองเดือน แล้วก็อยู่กับยายขณะยายมีลมหายใจเป็นคนสุดท้าย .. น่าใจหาย .. ทุกวันนี้ก็ยังฝันถึงคุณยายบ้างเป็นบางครั้ง และอีกหลายครั้งที่คิดถึงคุณยายจนต้องขับรถไปหาคุณยาย (ที่มีแต่กองอัฐิ) ที่อยุธยา .. .. เชื่อว่าคุณยายของคุณคงรับความรู้สึกอบอุ่นจากหลานสาวอย่างคุณได้แน่นอน ..
27 พฤษภาคม 2550 19:03 น. - comment id 96340
***เรน*** คุณย่า ต้องดีใจแน่ๆที่มีหลานสาวที่น่ารักอย่าง เรน ***กีกี้***ตอนที่คนที่เรารักกำลังจะ จากไป มันเหมือนโลกนี้ไม่ยุติธรรมนะ...บางครั้งเราก็เกลียดคำว่า ปาฏิหารย์...ที่เราคิดว่าจะต้องเป็นจริงเวลาเราอธิษฐาน...เรา ร้องไห้ฟูมฟายโทษทุกสิ่งทุกอย่างทั้งๆที่จริงแล้วมันคือ เรื่องธรรมดาของ ชีวิต ที่ต้องมี เกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่มันก็ น่าใจหาย อย่าง กีกี้ ว่านั่นแหละ เราเคยอยู่ในช่วงลมหายใจสุดท้าย ทั้ง ของ ทวด ตา ป้า และ ย่า รวมทั้ง น้องหมา ของเราด้วย เพียงแต่วัยต่างกัน วันที่ ทวดเสีย เรายังไปยืนดูตามประสาเด็กไม่กี่ขวบ ไม่น่าเชื่อว่าเราจะจำเหตุการณ์วันนั้นได้...แต่เราไม่มีน้ำตาหรือรู้สึกอะไรเลย พอมาคิดถึงตอนนี้ตอนนั้นเราเด็กมากยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร...ยิ่งเราโตขึ้นๆเท่าไหร่เหมือน ความเสียใจมันจะถาโถมเข้ามาหนักขึ้นเท่านั้น... น้าเราฝันเห็นว่า ยายถอดใจแล้วมาบอกลา....มันก็เลยใจหาย...และกลัวจะไม่ได้เจอยายอีก...แต่เราก็คงทำได้แค่ ขอให้มันเป็นเพียงความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง ขอบคุณ เรน...และ กีกี้อีกครั้งจ๊ะ สำหรับวันเหงาๆที่เข้ามาอ่านเรื่องเล่าจากความรู้สึกของเรา
27 พฤษภาคม 2550 19:12 น. - comment id 96341
.. ฝากหอมแก้มคุณยายด้วยนะ .. กีกี้อยากหอมแก้มยายแต่ตอนนี้ยายไม่อยู่ให้หอมน่ะ ..
27 พฤษภาคม 2550 19:45 น. - comment id 96342
..... เรื่องของคุณยายกะ คุณโคลอน.... แบบขำๆคะ อย่าเครียดๆๆ นะคะ... ... ดู๋ ดู หูยาย ... กริ๊ง!!! กริ๊ง!!! กึ่ก หลาน : ฮัลโหล...ยาย นี่หนูเองน๊ะค๊ะ!! ยาย : อ๋อ..หนูเองเหรอจ๊ะ หลาน : ตอนนี้หนูได้เป็น Freshy ยาย : อ้าว!! ไปเป็นที่..(เซ็นเซอร์ค่ะ ) -- ทำไมล่ะลูก หลาน : ไม่ใช่!!! หนูอยู่ปีหนึ่ง ยาย : ถูกเค้าจับขึงด้วยเหรอลูก หลาน : ยายคะ คือ...หนูเป็นรุ่นน้อง ยาย : ไปทำยังไงท้องละลูก หลาน : หนูเป็นน้องวิดคอม ยาย : อ๋อ โดนเค้ามอมเหรอลูก หลาน : เปล่า หนูเรียน มศว ยาย : ยังท้องไม่มีพ่อด้วยเหรอลูก หลาน : ยายอ่ะ ฟังผิด ยาย : พ่อมันดัดจริตอีกเหรอลูก หลาน : ยายง่ะ ชอบพูดบ้าๆ ยาย : มันชอบเล่นท่าเหรอลูก หลาน : ทำไมยายไม่ตั้งใจฟัง ยาย : มันล่อซะพังเชียวเหรอลูก หลาน : หรือหนูพูดไม่ดัง ยาย : โห!! หนูติดสังฆัง แย่จังเลยลูก หลาน : โว้ย!! คุยกับยายแล้วเซ็ง ยาย : คงไม่ใช่มะเร็งมั้งลูก หลาน : ยายทำหนูอารมณ์เสีย ยาย : จะอมจะเลีย ปล่อยเค้าเถอะลูก หลาน : ทำไมยายไม่ฟังดีๆ ยาย : แค่สองที.. กระจอกลูก หลาน : ไม่เอาแล้ว หนูไปดีก่า ยาย : ท่าตีลังกา ยายลองแล้วลูก หลาน : จึ๋ย..เอ่อ..ยายแปลกปายน้าค้า... ยาย : บนหลังคา..ก็น่าลองนะลูก หลาน : เน่!! ถ้ายายไม่หยุด หนูจะด่า....เจงๆด้วย..ง่ะ!?!?.. ยาย : ??????????????????????? .........................
29 พฤษภาคม 2550 16:10 น. - comment id 96362
ขอบคุณมากจ๊ะ...ฉางน้อย...ยิ้มหน้าบานแระ