หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์ของลูกสาวและเพื่อนๆว่าหอพักหญิง ในมหาวิทยาลัยและหอพักหญิงบริเวณด้านหน้าเต็มหมดแล้ว ผมก็รีบเข้า กทม.ทันที ด้วยเป็นห่วงกลัวว่าลูกสาวจะไม่มี ที่ซุกหัวนอนกันในวันเปิดเทอมวันแรก ผมมาถึงหน้ามหาวิทยาลัยในช่วงเที่ยงของวันนั้นเอง หลังจากสอบถามฝ่ายทะเบียนห้องพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัย จนแน่ใจแล้วว่าไม่มีห้องว่างแน่แล้ว ผมจึงรีบพาลูกๆเดินหาหอพัก ที่อยู่รอบนอกทันที ที่ด้านหน้ามหาวิทยาลัยจะเป็นหอพักรวมเสียส่วนใหญ่ ส่วนหอพักสตรีนั้นเต็มหมดแล้วราคาค่าเช่าก็สูงไม่ใช่น้อย มีราคาตั้งแต่ 4,000 บาทขึ้นไป รวมเงินประกัน เงินล่วงหน้าด้วย ก็คงจ่ายกันเป็นหมื่น แต่ราคาค่าเช่าห้องมันไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากนัก ปัญหาของผมตอนนี้ก็คือ ทำอย่างไร จึงจะหาหอพักสตรีให้ลูกได้เท่านั้น ผมเดินจนเมื่อยล้า ปากก็ถามคนนั้นที คนนี้ทีว่า แถวนี้ยังมีหอพักหญิงเหลืออยู่อีกใหม ? คำตอบคือ ไม่มีแล้ว แต่ถ้าต้องการก็คงต้องเดินกันเหนื่อยหน่อย เพราะรอบนอกอาจมี ผมกับลูกเหนื่อยล้าเต็มที เลยหยุดพักนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันแถวๆนั้น และบังเอิญว่าช่วงนั้นแม่ค้าเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวว่างพอดี ผมก็เลยชวนเธอคุย พอเป็นความรู้ไว้บ้าง ผมถามเธอไปว่าทำไมแถวนี้หอพักหญิงมีน้อยจัง เธอตอบว่า ก็มีพอควรแต่น่าจะเต็มหมดแล้วทุกที่ ต้องจองกันตั้งแต่ยังไม่ปิดเทอมโน่น มาตอนนี้ไม่มีเหลือหรอก จะมีก็แต่หอพักรวมนั่นแหละที่ยังเหลืออยู่บ้าง พวกนักศึกษาเค้าชอบกัน เค้าชอบอยู่กันเป็นคู่ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกรุ่นพี่ พอมีแฟนก็แยกตัวออกมาจากเพื่อน มาช่วยกันแชร์ค่าห้องกับแฟน อยู่กันแบบผัวเมีย ใช้ชีวิตแบบผัวเมีย เป็นอย่างนี้มานานแล้ว ผมก็เชื่อว่าจริงนะ เพราะจากที่เห็นก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกว่าได้เห็นอะไรบางอย่างที่คิดว่าน่าจะใช่เลยแหละ พวกเค้าใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแบบนั้นจริงๆ แต่เห็นเป็นพวกรุ่นพี่เสียส่วนใหญ่ คำถามมันก็เลยเกิดขึ้นมากมาย เคยมีคนคุยในกระทู้คำถามที่ผมเคยถาม เกี่ยวกับทัศนะคติของเด็กหอพักรวมชาย-หญิงที่จับคู่กันแชร์ค่าห้อง "เรื่อง ผัวเมียนักศึกษา" อยู่หลายคน เค้าถามไปว่า ความรู้สึกของนักศึกษาหญิง ได้อะไร มีข้อดีอะไร กับการได้อยู่ร่วมกับแฟนตนเอง เธอตอบว่า รู้สึกอบอุ่นและรู้สึกปลอดภัย รู้สึกว่ามีคนคอยดูแลห่วงใยใกล้ชิดตลอดเวลา ถามนักศึกษาชายต่อว่า รู้สึกอย่างไร ที่ได้มาอยู่ร่วมห้องกับน้องผู้หญิง เค้าตอบว่า รู้สึกดีใจ ที่มีคนซักผ้าให้ รีดผ้าให้ ทำความสะอาดห้องให้ และเมื่อมาถึงตรงนี้ผมจะยังไม่พูดอะไรต่อ ชั่วโมงนี้ ผมต้องรีบเดินหาหอพักหญิงให้กับลูกสาวโดยเร็ว เรื่องอย่างนี้ผมคิดว่า ถึงอย่างไรก็ตาม เด็กสาวปี 1 ก็ยังคงเป็นเด็กปี 1 อยู่วันยังค่ำ เธอยังต้องเรียนรู้ ถึงการใช้ชีวิตของพวกรุ่นพี่ ที่เป็นผัวเมียนักศึกษา อยู่ภายในหอพักสตรีอย่างน้อยอีก 1 หรือ 2 ปี และผมคิดว่า เธอคงจะได้เห็นอะไรอีกมากมายตรงนี้ ในชีวิตของการเป็นนักศึกษาของเธอ ผมขอเวลาเดินหาหอพักหญิงให้ลูกสาวสักประเดี๋ยวนะ เดี๋ยวคงมีข่าวดีมาบอก ...
19 พฤษภาคม 2550 10:44 น. - comment id 96212
การกระทำน่าจะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมด้วยค่ะ และอีกอย่างคือวัฒนธรรมของครอบครัว ถ้าใครที่อยู่ในครอบครัวที่ค่อนข้างจะหัวโบราณ เด็กก็อาจจะมองว่าไม่ดีและอาจไม่ทำตามอย่าง แต่ถ้าเป็นเด็กที่ออกจะตามแนวสมัยก็มักจะทำตามคนอื่นโดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมาหรอกค่ะ
20 พฤษภาคม 2550 01:01 น. - comment id 96222
อาจจะมีการสรับคู่นอนกันไปได้น๊ะ.....