~*เป็นอะไรไป ความรัก*~ ตอนที่ 1 การพบพานภายใต้พรหมลิขิต
Epilogue
ตอน การพบพานภายพรหมลิขิต
แม่เอาจริงเหรอ!! ที่ให้ผมเข้าโรงเรียนประจำ
นั้นเป็นเสียงโอดคราญของผมเอง ที่จริงแล้วผมก็โอดคราญไปงั้นเองแหละ จริงๆแล้วผมก็อยากไปอยู่เหมือนกัน ผมมีชื่อมีชื่อว่า มิน เป็นลูกชายคนโตของบ้าน ซึ้งตอนนี้ผมก็กำลังจะได้เข้าโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง และผมก็หวังลึกๆว่าจะมีอะไรแปลกใหม่ให้กับชีวิตผมบ้าง ไม่ใช่ว่าผมเบื่อชีวิตที่เป็นอยู่หรอกนะ แต่ผมเบื่อที่ผมเป็นคนธรรมดามากกว่า
ประกาศนักเรียนชั้น ม.1 ทุกคนมารวมกันที่หอประชุมจะเริ่มการปฐมนิเทศแล้ว
เอาล่ะ ผมคิดในใจว่ามาเรียนใหม่ ทุกอย่างเริ่มใหม่
การปฐมนิเทศเป็นอะไรที่หน้าเบื่อที่สุด พูดอะไรได้ยาวนานซะจริง ผมเป็นพวกความอดทนสั้นสุดๆ ผมจึงหันหน้าไปมองข้างนอก แต่ที่ผมเห็นสะดุดตา เล่นเอาผมหายเบื่อจาการปฐมนิเทศเลย ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเธอร่ารักจริงๆนะ ซึ้งเธอนั่งถัดผมไปอีก 3 เก้าอี้ ตอนนั้นผมคิดในใจแต่เพียงว่า ถ้าเธออยู่ห้องเดียวกับผมก็ดีซิ
การใช้ชีวิตที่โรงเรียนประจำของผมช่วงแรกลำบากนิดหน่อย แต่ที่ผมกังวลในตอนนี้ ผมกังวลเรื่องเพื่อนมากกว่า ก็มาที่นี่ก็เกือบอาทิตย์แล้วปรับตัวยังไม่ได้ แถมเพื่อนก็ยังไม่มีอีก ไม่ใช่ผมอัธยาศัยไม่ดีหรอกนะ แต่ผมไม่กล้าที่จะเริ่มคุยกับคนอื่นก่อน
และแล้ววันเปิดเทอมวันแรกก็เริ่มขึ้น ผมอยู่ห้อง ม.1/1 ผมตื่นเต้นมากที่จะได้รู้จักเพื่อนซักที เพื่อนผู้ชายทุกคนผมก็พอจะจำหน้าจำชื่อได้หมดแล้วเพราะอยู่หอเดียวกัน แต่รู้สึกว่าห้องนี้ผู้ชายจะน้อยแหะ แค่ 8 คนเองรวมถึงผมด้วย ผมก็กวาดสายตาไปรอบๆห้องและผมก็เจอกับเธอเข้า ผมดีใจจริงๆที่เธออยู่ห้องเดียวกันกับผม
เอาล่ะนักเรียน เงียบๆกันหน่อย วันนี้เป็นวันแรกที่พวกเราทุกคนจะได้เป็นนักเรียน ม.1 อย่างเต็มตัวแล้ว ตั้งใจเรียนนะ ครูคิดว่าคงรู้จักกันดีแล้ว งั้นเสียงคงไม่เจี๊ยวจ้าวขนาดนี้หรอก เอาเป็นว่าครูดีใจและยินดีที่ครูได้เป็นครูประจำชั้นพวกหนู งั้นขอจบโฮมรูมเพียงเท่านี้ พอดีครูมีธุระน่ะ เงียบๆกันหน่อยนะ เดี๋ยวห้องอื่นเค้าจะว่าเอา
แล้วอาจารย์ก็ออกจากห้องไป ทุกคนในห้องเริ่มเดินทำความรู้จักกัน คงมีแต่ผมมั้งที่ไม่ได้เดินออกไปทำความรู้จักกับใคร
นี่ๆ แกชื่ออะไรอ่ะ เสียงนั้นดังมาจากข้างหลังผม
เอ่อ.เราชื่อมินครับ
จะครับทำไมว่ะเนี่ย เป็นอะไรมากเปล่า คนนี้ชื่อปอด์น เป็นคนอารมณ์ดีมากถึงมากที่สุดและเค้านี่แหละคือเพื่อนสนิทผม
แล้ว แกชื่ออะไร อ่ะ
ข้าชื่อปอด์น ข้าเห็นแกเงีบยๆนึกว่าเป็นเด็กมีปัญหาซะอีก
ไม่หรอก ฮ่าๆ
ปอด์นเป็นคนคุยเก่งและคุยสนุกด้วย ทำให้ผมผ่อนคลายจากการประหม่าไปได้มาก ผมคิดในใจว่า ใครๆเค้าก็ทำความรู้จักกัน จะอายไปทำไมว่ะเนี่ย ปอด์นทำให้ผมมีความกล้าขึ้นมาหน่อยที่จะพูดคุยกับคนอื่น ผมตัดสินใจที่จะเข้าไปคุยกับเธอคนนั้น
หวัดดี เธอชื่ออะไร ผมทักเธอไปด้วยความมั่นใจแบบเดียวกับที่ปอด์นทักผม เธอหันมาตอบผมพร้อมกับพูดว่า
ส้มโอ โอ้! ใช่แล้วอย่างเธอต้องชื่อส้มโอเท่านั้น ช่างเป็นชื่อที่ไพเราะอะไรอย่างนี้ ชื่อน่ารักคนก็น่ารักด้วยช่างเหมาะสมกันจริงๆ แต่เอ๊!! แค่นี้เหรอ? ผมยังยืนรอเผื่อเธอจะถามชื่อผมบ้าง เธอหันมาอีกทีพร้อมกับพูดว่า
อะไรอีกเหรอ
หา!?
อะไรอีกล่ะ ส้มโอย้ำคำเดิม
ปเปล่า ไม่มีอะไร ให้ตายซิเป็นผู้หญิงที่เย็นชาอะไรอย่างนี้นี่เธอไม่คิดที่จะทักผมกลับบ้างเหรอ ผมกลับมานั่งที่ ในใจก็คิดว่า อะไรเนี่ยทักคนครั้งแรกก้เจอย่างงี้ซะแล้ว จ๋อยเลยซิเรา ซักพักช่วงโมงแรกก็เริ่มขึ้น
นี่ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วทุกคนในห้องเริ่มสนิทกัน แต่ผมกับส้มโอยังห่างไกลจากคำว่าเพื่อนยิ่งนัก วันนี้มีคาบเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมีการจัดกลุ่ม สมัยก่อนเครื่องคอมยังมีน้อยทำให้ต้องมีการจัดกลุ่มกัน 1 เครื่องต่อ 3 คน ซึ่งผมก็หวังลึกๆว่าผมจะได้อยู่กลุ่มเดียวกับส้มโอ ถ้าอยู่กลุ่มด้วยกันก็น่าจะมีโอกาสได้คุยมากขึ้น แม้โอกาสจะน้อยนิดก็ตาม ผลการจัดฉลากผลปรากฏว่า ผมได้อยู่กลุ่มเดียวกับส้มโอ อาจเป็นเพราะแรงจิตพิศวาสรึเปล่านะ
แต่ตอนนี้ได้อยู่กลุ่มเดียวกับส้มโอแล้ว ผมดีใจฉิบเป๋งเลย
เอ้า! นักเรียนประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ วันนี้เราจะมาเรียนโปแกรม เพ้นท์กัน หา!?อะไรกันโปแกรมเพ้นท์เหรอ เด็ก ป.2 เค้าก็ทำเป็นแล้วสงสัยอาจารย์คงไม่มีอะไรจะสอนจริงๆ แต่ตอนนี้อะไรก็ช่างเถอะผมได้อยู่กลุ่มเดียวกับส้มโอแล้ว ผมนั่งขวาสุด ส่วนตุ๊กตานั่งนั่งทางซ้ายสุด ก็หลือที่ตรงกลาง อย่างงี้ก็เข้าทางผมน่ะซิ
เอ่อตุ๊กตาเค้าขอนั่งที่ตุ๊กตาได้ไหม หา!? เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องเปลี่ยนที่ด้วยเนี่ย ผมทำอะไรผิดเหรอถึงไม่อยากนั่งใกล้ผมขนาดนี้ รึรังเกียจผมกันแน่
ได้ซิ แต่เป็นอะไรรึเปล่าทำไมไม่นั่งตรงกลาง
เปล่าไม่มีอะไร เค้าใช้คอมไม่เป็นน่ะ โกหกแน่ๆ ผมมั่นใจอย่างที่สุด นึกว่าวันนี้จะเป็นคาบเรียนในฝันซะอีก อย่างนี้ก็ไม่ต่างกับนั่งเรียนในชั้นเรียนน่ะซิ
นี่ก็ผ่านไปเกือบจะกลางภาคแล้วได้แล้วมั้ง ผมกับส้มโอยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากตอนแรกที่เรารู้จักกัน ผมพยายามหาเรื่องมาคุยกับเธออยู่ตลอด แต่ส้มโอจะตอบผมเพียงคำสองคำแล้วก็เงียบไป ส้มโอเธอเป็นคนที่สนุกสนานและก็ร่าเริงเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนทุกคนไม่ว่าชายหรือหญิง รุ่นพี่ที่มาจีบเธอก็เยอะเหลือหลายแต่เจ้าหล่อนไม่เห็นยักจะสนใจเลย หรือว่ายังไม่ถูกใจกันนะ ไม่มีเคยสนใจและไม่เคยให้ความหวังแม้แต่น้อย เป็นผู้หญิงที่เย็นชาจังน้า เพื่อนผู้ชายในห้องที่เข้าไปคุยกับส้มโอก็คุยด้วยกันปรกติ ไหง๋! มีแต่ผมคนเดียวล่ะเนี่ยที่เธอเย็นชาเหลือเกิน หรือเธอเกลียดเราแล้วจริงๆ
เวลาก็ผ่านไปผมยังคงเป็นคนธรรมดาเหมือนเดิม ยังคงหวังว่าส้มโอจะคุยดีๆกับผมซักครั้ง
เอาล่ะนักเรียนนี่ก็ใกล้ถึงวันแม่ ครูอยากให้นักเรียนทุกคนช่วยโหวตเพื่อนเราในห้องหน่อย ว่าจะให้ใครเป็นลูกดีเด่น เดี๋ยวเราจะเอาไปแข่งกับทั้งสายชั้น เพื่อหาตัวแทนของลูกดีเด่น ของ ม.1
ผมคิดในใจ แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครเป็นลูกที่ดี ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ซักหน่อย แต่ผมโหวตปรากฏว่า เกือบครึ่งห้องโหวตให้ผมเป็นลูกดีเด่นฝ่ายชาย และที่ผมเห็นหนึ่งในนั้นโหวตให้ผม คือ ส้มโอ ผมสุดแสนจะดีใจ คนที่ไม่เคยคิดที่จะคุยกับผมดันยกมือโหวตให้ผม หลังชั่วโมงโฮมรูมผมเข้าไปคุยกับส้มโอ
โหวตให้เราเป็นลูกดีเด่นเหรอ
อื้อ ใช่เห็นว่าบ้านใกล้ น่าจะไม่ลำบากพ่อแม่ จะว่าไปเธอรู้ได้ยังไงว่าผมบ้านใกล้
อ่าเหรอ แค่นั้นเองเหรอ ผมยังคงเซ้าซี้เธอ
อื้อใช่
เย็นชาจังนะ ผมทำเสียงแผ่วอยู่ในลำคอ
อะไรนะ?
เปล่าไม่มีอะไร แหะๆ
ไม่มีอะไรก็รีบกลับไปนั่งที่ได้แล้ว เดี๋ยวอาจารย์ก็จะมาสอนแล้ว
คราบ คราบ
นานๆครั้งที่บทสนทนาผมกับส้มโอจะยาวขนาดนี้ ช่างเป็นก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ของผมตอนนี้ซะจริงๆ ได้แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วแหละและผมก็คิดด้วยว่า ต่อให้เป็นลูกดีเด่นระดับห้องแต่จะไปสู้ระดับสายชั้นคงไม่ไหวหรอก ผมก็ไม่ใช่คนดีเด่นอะไรด้วย แล้วผมก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันอีกเลยจนหนึ่งอาทิตย์ผ่านไป
นักเรียนฟังทางนี้หน่อย อาจารย์จะประกาศผลการคัดเลือกลูกดีเด่นที่จะได้เป็นตัวแทนของสายชั้นเรา ฝ่ายชาย มิน 1/1 ฝ่ายหญิง แพร 1/4
อะไรกันอีกล่ะเนี่ย เค้าเอาเกณฑ์อะไรมาตัดสินว่ะ เกณฑ์บ้านใกล้รึไงกัน เพื่อนๆในห้องเจี๊วจ้าวกันใหญ่
ยินดีด้วยนะลูกดีเด่น ปอด์นแควะผม
ไม่เห็นดีตรงไหนเลย
สงสัยที่เป็นลูกดีเด่นเพราะ ตื่นสาย อาบน้ำช้า แต่ตัวนาน หรือชอบหลับในห้องเรียนว่ะ ฮ่าๆ
เออ งั้นแกก็น่าจะได้เป็นลูกดีเด่นเหมือนกันนี่หว่า ก็เห็นเป็นเหมือนกันนิ ฮ่าๆ แต่จะว่าไปแพรงั้นเหรอ?
หลังจากนั้น หลังเลิกเรียนก็ได้มีการซ้อมพิธีการต่างๆก่อนที่งานวันแม่จะมาถึงอีกไม่กี่วัน และผมก็ได้พบกับแพรตัวแทนลูกดีเด่นฝ่ายหญิง
เอ่อนี่แพรรึเปล่า
อื้อนี่แพรเอง
นี่คงเป็นมินซินะ ไอ้คำว่านี่คงเป็นมินซินะนี่มันยังไงๆอยู่แหะ
อื้อใช่
แพรจำมินได้ไหม มินเคยเรียนห้องเดียวกับแพรตอนอยู่ประถมน่ะ
อ๋อๆๆ
จำได้ใช่ไหม ผมย้ำกับเธอเผื่อธอจะจำได้บ้าง
จำไม่ได้เลยอ่ะ มินนี่ใครเหรอ ก็คนที่ยืนคุยด้วยตอนนี้อยู่ไงเล่า
เอ่อก็ไม่แปลกหรอกที่จำมินไม่ได้ขนาดตอนนั้น มีผู้ปกครองมาหามิน อาจารย์ก้มาตามหามินถึงห้อง พออาจารย์ถามว่า ห้องนี้มีคนชื่อมินไหม เท่านั้นแหละ ทั้งห้องตอบประสานเสียงทั้งห้องว่าไม่มีทั้งที่มินนั่งอยู่หน้าห้องแท้ๆ เฮ้อ!
อ่ะเหรอ ขนาดนั้นเลยเหรอ เหมือนแพรจะจำมินได้บ้างแล้วแหละ
ใช่คนที่ชอบขอเข้าห้องน้ำบ่อยๆจนเพื่อนล้อใช่ป่ะ
ไม่ใช่!
ฮ่าๆ แพรล้อเล่นน่ะ
แพรเธอเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกับผมตอนสมัยประถม ก่อนขึ้น ป.5 ผมก็ได้ย้ายออกจากโรงเรียนด้วยเหตุผลบางประการไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ที่เพื่อนจำผมไม่ได้หรอกนะ แพรเป็นคนน่ารักและก็ขี้เล่นชอบอำเพื่อนไปเรื่อย และเธอก็เป็นคุณหนูด้วย จริงๆผมไม่ได้อำนะ เธอเป็นคุณหนูจริงๆเอาใจเล็กน้อย แต่นั้นก็เป็นความน่ารักของเธออีกแบบ
ที่ระเบียงหน้าห้องวันต่อมา
นี่นาย เป็นอะไรรึเปล่า ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คนเดียว ส้มโอทักผม
เปล่านี่ คิดอะไรเพลินๆ
แล้วส้มโอล่ะ ทำไมไม่ยิ้มบ้าง
ฉันไม่ได้บ้าอย่างเธอนิ ที่มานั่งยิ้มคนเดียว
อ้าว งั้นคนบ้าเท่านั้นเหรอที่ยิ้ม
ตะกี้เรายังเห็นเธอ ตอนทักเราแหละ
ไม่ได้ยิ้ม
ยิ้ม ตะกี้เรายังเห็นอยู่เลย
ต้องยิ้มแน่ๆเลย
ไม่ได้ยิ้ม!!
โอ้ย!! ไม่เอาแล้ว ไม่คุยกับแกแล้วไอ้บ้า
ก่อนที่เธอจะลุกแล้วหันหน้าจากไป ผมสาบานได้เลยนะ ผมเห็นเธอยิ้มจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอชวนผมคุย ถ้าเป็นแต่ก่อน ผมคงจะดีใจมากๆแน่ แต่ตอนนี้ทำไมผมรู้สึกเฉยๆล่ะ เพราะอะไรนกันนะ?
วันนี้ก็เหมือนเคยผมต้องมาซ้อมพิธีวันแม่
อ้าวมิน เจอกันอีกแล้ว ก็แหงล่ะ ม.1 มีกันอยู่แค่ 2 คนนี่หว่า
แล้วมินมาทำอะไรเนี่ย
แพร ก็ชอบอำจริงนะ
ฮ่าๆ โทษทีแพรล้อเล่น
แพรจะเป็นอย่างนี้อยู่เสมอ อำผมไปเรื่อย แต่แปลกแหะผมคุยกับเธอแล้วรู้สึกสบายใจมากกว่าที่คุยกับส้มโอเสียอีก หลังจากงานวันแม่ผ่านไป ผมก็ไม่ค่อยได้คุยกับแพรซักเท่าไหร่ อาจจะได้คุยบ้างบางครั้งตอนเดินวนกัน และอีกบางครั้งตอนที่ผมแวะไปหาเพื่อนที่ห้องเรียนของแพร ผมก็ว่าดีแล้วนิที่เป็นอย่างนี้ ต่อมาอีกไม่นานก็มีข่าวที่แพรจะย้ายโรงเรียน ซึ่งผมคิดว่าแพรก็เข้ากับเพื่อนได้ดี แต่ทำไมถึงต้องย้ายโรงเรียน
ตอนนั้นพักเที่ยง ผมเดินสวนกับแพรจึงได้มีโอกาสคุยกับแพร(ครั้งสุดท้าย)
นี่แพรจะย้ายโรงเรียนจริงเหรอ ทำไมอ่ะ เพื่อนไม่รักเหรอ
ช่าย แพรเหงา แพรโดดเดี่ยวต้องนอนร้องไห้ทุกคืน
เหอะๆ นี่มินถามจริงๆ
อ้าว ก็ดันถามเล่นมุขกับแพรก่อนนิ
อ่ะ! งั้นขอโทษครับคุณหนูแพร
ก็เปล่าหรอก แพรคิดว่าอยู่ที่นี่ก็สนุกดี แต่ว่าพ่อแม่ของแพรน่ะซิ คิดถึงแพร ก็เลยอยากให้แพรกลับไปเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน
แหม! สมกับเป็นลูกดีเด่นจังนะ
มินก็ว่าไปนั้น
แล้วจะไปตอนไหนอ่ะ
ก็ว่าจะไปตอนจบภาคเรียนนี้แหละ
ไปที่โน้นแล้วจะจำเพื่อนที่นี่ได้เปล่าน้า~~
จำได้ซิ แพรไม่ใช่ปลาทองซักหน่อย จะได้ความจำสั้น เธอทำท่างอนนิดๆ
ฮ่าๆ งั้นมินไปก่อนนะ เดี๋ยวต้องเอาสมุดไปส่งการบ้านให้เพื่อน
อื้อ
ผมเดินไปได้ซักพักก็ได้ยินเสียงแพรจากด้านหลัง
เอ๊!! เด๋วก่อน นายชื่ออะไรนะ
..
ชื่อ มินไง ผมตะโกนหวังจะให้เธอจำได้
ฮ่าๆ แพรล้อเล่น แพรไม่ลืมชื่อมินหรอก บะบายนะมิน
บะบายแพร
แพรยังคงเป็นแพรสดใสตลอดเวลานี่รึเปล่านะที่เค้าเรียกว่า เสน่ห์ของผู้หญิง ถ้าเราเจอกันอีกทีหวังว่าเธอจะจำผมได้จริงๆนะ
นี่ก็ใกล้จะปิดเทอมภาคเรียนแล้ว ความรู้สึกของผมยังคงรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้เอง ผมว่าชีวิตของเด็กโรงเรียนประจำก็ไม่ได้เลวร้ายอย่าที่ใครเค้าพูดกันหรอก ผมคิดว่าสนุกเสียด้วยซ้ำ เพื่อนก็เยอะ แถมมีกิจกรรมให้ทำตลอดไม่มีเวลาให้เบื่อเลย ผมชอบที่นี่จริงๆนะ
ช่วงโมงเรียนกิจกรรมเข้าจังหวะ กิจกรรมสุดท้ายก่อนจะเปิดภาคเรียน
ฟังนะ ครูจะให้แบ่งกลุ่มกันเองจะชายหรือหญิงก็ได้ แบ่ง 6 กลุ่มเต้นให้เข้าจังหวะกับเพลงจะเป็นเพลงไทยหรือเพลงสากลก็ได้ เดี๋ยวอาจารย์จะให้สอบก่อนปิดภาคเรียน 1 อาทิตย์ตั้งใจด้วยล่ะ เอ้า!! เลิกแถว
1 2 3 เฮ้!! เสียงเพื่อนทุกคนขานรับอาจารย์รวมถึงผมด้วย
ผมกำลังจะกลับหอ วิชานี้เป็นวิชาสุดท้าย แต่ว่า เฮ้อ! หิวข้าวจัง
นี่นาย เสียงนั้นผมรู้ทันทีว่าใคร ผมรีบขานรับอย่างรวดเร็ว
คครับ
นายจะครับอะไรของนาย
เอ่อเปล่าแค่ตกใจน่ะ
เอ่อแล้วนายมีกลุ่มยังล่ะ
ยังเลย ยังไม่ได้ลองถามเพื่อนเลย
งั้นจะเข้ากลุ่มกับเราไหม พอดีขาด 1 คนน่ะ จริงเหรอเนี่ยเธอชวนผมเหรอเนี่ย!
นี่คิดอะไรนานจัง ไม่อยากเข้ากลุ่มก็บอกมาซิ เสียงส้มโอมาขัดจังหวะตอนที่ผมกำลังคิดในใจ
ให้เข้ากลุ่มได้จริงเหรอ ผมตอบด้วยท่าทีที่ไม่มั่นใจ ใครจะไปคิดล่ะว่าเธอจะชวนผม
พรุ้งนี้ 4 โมงเย็นเจอกันที่นี่ด้วยไอ้บ้า
เป็นวิธีชวนที่สมกับเป็นเธอจริงๆผมเดินกลับหอพร้อมกับอมยิ้มเล็กๆ ผมว่าแค่นี้ก็พอแล้ว ปล่อยให้มันเป็นไปตามจังหวะของมันเถอะ อย่างอื่นจะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากันอีกทีนะ
ตอนเย็นของอีกวัน
นายมาช้า เสียงส้มโอเปิดฉากขึ้นมาเลย
มาช้า 15 นาทีเอง ที่จริงพึ่งกลับมาจากเวียดนาม ผมแก้ตัวไปอย่างข้างๆคูๆ เพื่อให้สถานการณ์ณ์ดีขึ้น
แต่เพื่อนรอแกอยู่นะ คิดถึงเพื่อนบ้างซิ ดูท่าเธอจะโกรธผมแบบมีเหตุผลและไม่มีเหตุผลไปพร้อมกัน และเธอก็ไม่สนใจมุขที่ผมปล่อยออกมาด้วย
งั้น ขอโทษนะ ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัวหรอกก็ผมผิดเต็มๆ เห็นๆกันอยู่
ขอโทษงั้นเหรอ.งั้นให้อภัย
อ้าว?! เกิดอะไรขึ้น เธอไม่สบายหรือเปล่าหรืออยากหาเรื่องผมไปงั้นเอง ผมไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ ไม่เพียงแต่ผมที่ไม่เข้าใจเธอ รวมถึงเพื่อนทั้งกลุ่มด้วย
จะยืนอยู่ไปถึงเมื่อไหร่ รีบๆมาซ้อมซิ
คราบผม ผมรีบขานรับก่อนที่เธอจะเริ่มเอ็ดใส่อีกรอบ
แต่อย่างน้อยตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าเธอไม่ได้เกลียดผมมากเหมือนตอนแรกที่รู้จักกัน ถ้าเธอพูดกับผมดีๆ เหมือนเพื่อนคนอื่นก็ดีซิ
หลังจากพักไปกินน้ำผมก็มีโอกาสได้คุยกับส้มโอ
นี่ ส้มโอ
อะไร เสียงเธอเด็ดขาดจริงๆ
ถามจริงเห็นรุ่นพี่จีบส้มโอ ตั้งเยอะแยะทำไมไม่เห็นสนใจล่ะ
พูดอะไรของนาย ไม่เห็นมีเลยซักคน เธอตอบพร้อมกับหันหน้าหนี
อ้าวแล้วทำไมต้องเขิลด้วยล่ะ
โอ้ย ไม่เอาแล้วไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับนาย
นี่ มินถามจริงๆนะ ผมจริงจังนิดหน่อย
.เธอคิดซักแปปแล้วเธอก็ตอบผมว่า
ไม่รู้ซิ อาจเพราะยังเด็กอยู่มั้ง
เด็กจริงๆนั้นแหละ ผมตอบส้มโอพร้อมกับหัวเราะ
โอ้ย อย่าขำซิ แล้วนายอ่ะ ไม่มีบ้างหรือไง
โอ้ย มีให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว แต่ไม่เอาหรอกไม่ถูกใจ แน่นอนผมพูดโกหกเธอ
โห เก่งจริงนะพ่อรูปหล่อ
ถ้าส้มโอจะจีบก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่จะขอคิดดูก่อน ผมหยอดใส่ส้มโอคำโตเลย
ไม่ต้องคิดหรอก ไม่มีทาง ฝันไปเหอะ ไม่เอาแล้วไร้สาระไปกินน้ำแล้ว
เธอเดินออกไปแล้ว โดยไม่คิดที่จะหันกลับมามองผมอีก แต่ตอนนี้ผมกลับคิดว่าเธอน่ารักจริงๆ ยังกับโกหกที่ส้มโอพูดกับผมได้เป็นธรรมชาติขนาดนี้ แต่อีกใจหนึ่งผมก็คิดว่า ผมกับส้มโอคงเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้นแหละ เธอคงจะไม่ชอบคนที่สนุกเฮฮาไปวันๆอย่างผม เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว คงจะดีกว่า ผมกับส้มโอเข้าหน้ากันไปติดหลังจากที่ผมสารภาพรักเธอไป งั้นขอให้ผมแอบรักเธอข้างเดียวต่อไปนะ สวรรค์
และแล้วการสอบกิจกรรมเข้าจังหวะก็ผ่านไปด้วยดีและคะแนนกลุ่มผมก็ดีที่สุด คงเป็นเพราะส้มโอที่เป็นหัวหน้าทีมอีกแหละ และแล้วเทอมนี้ก็จบลงโดยที่ผมไม่ได้พูดอะไรกับเธอก่อนที่จะกลับบ้าน ตอนนี้ผมคิดถึงพ่อแม่น้องสาว และบ้านของผมยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งนั้น อาจเป็นเพราะนานๆได้กลับทีก็เป็นได้
เอาเถอะ ผมคิดในใจ บะบายนะโรงเรียนเทอมหน้าเจอกัน พ่อแม่มารับผมกลับบ้านพร้อมกับจากโรงเรียนไป