"เจ้าไม้ขีดไฟ ก้านน้อยเดียวดาย แอบรักดอกทานตะวัน แรกแย้มยามบาน อวดแสงตะวัน ช่างงดงามเกินจะเอ่ย ดอกเหลืองอำพัน ไม่หันมามอง แม้เหลียวมา ยังไม่เคย ไม้ขีดเจ้าเอ๋ย เลยได้แต่ฝัน ข้างเดียว ดอกไม้จะบาน และหันไปตาม แต่แสงจากดวงอาทิตย์" ได้ฟังเพลงนี้ทีไรทำให้ฉันนึกถึงตัวเองและคิดถึงเธอเสมอ เธอคนที่ฉันคิดว่าฉันเข้าใจ แต่สุดท้ายฉันก็ไม่เข้าใจเธอสักอย่าง ตั้งแต่วันแรกที่ฉันยอมรับกับตัวเองว่าฉันรักเธอ ฉันก็พูดคำว่าไม่เป็นไรมาตลอด เพราะฉันคิดว่าเธอคงไม่มีใครเข้าใจเธอได้อย่างฉัน แต่สุดท้ายฉันก็เข้าใจว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอมีคนที่อยู่ข้างกาย และเธอคงอึดอัดที่มีฉันแต่เธอก็ไม่บอกฉันสักคำ สิ่งที่เธอทำคือพยายามห่างฉันไปเรื่อยๆ ในเพลงนี้ไม้ขีดไฟยอมจุดตัวเองเพื่อให้ดอกทานตะวันหันมามอง แต่ฉันคงไม่ยอมทำขนาดนั้น ฉันเคยรักเธอและยังคงรักอยู่ แต่ฉันคงยอมปล่อยให้เธอไปตามทางที่เธอเลือก ฉันเหนื่อยและคงพอเสียที่กับการวิ่งตามเธอ "ฉันไม้ขีดไฟ เธอดอกทานตะวัน และใครคนอื่นๆคงเป็นแสงตะวันสำหรับเธอ"
5 เมษายน 2550 22:45 น. - comment id 95574
เศร้าจัง....
6 เมษายน 2550 00:13 น. - comment id 95585
"ฉันไม้ขีดไฟ เธอดอกทานตะวัน และใครคนอื่นๆคงเป็นแสงตะวันสำหรับเธอ" ท่อนนี้ซึ้งมากเลยค่ะ คุณจอมงก ดิฉันอยากเขียนเรื่องประเภทสืบสวนสอบสวนค่ะ เช่น โคนัน หรือ เรื่องดาวินชี่โค้ด แต่ความสามารถมันไม่ถึงอ่ะค่ะ 55 เขียนได้แค่เรื่องสั้น ขำขำ เฮ้ออ...
6 เมษายน 2550 00:22 น. - comment id 95586
คุณจอมงก ประโยคสุดท้ายเศร้าซะ.... ดิฉันเอง อยากเขียนเรื่องออกแนว โคนัน หรือ ดาวินชี่โค้ดนะค่ะ แต่ความสามารถมันไม่ให้อ่ะค่ะ...55 ได้แต่เรื่องสั้นๆ ไม่เปนเรื่องเท่าไหร่.. อย่างที่เห็นอ่าค่ะ..... ปล. กระทู้คุณจอมงกเละไปหมดเลยT^T
6 เมษายน 2550 10:27 น. - comment id 95591
ไม่เป็นไรค่ะคุณcanon อภัยให้
6 เมษายน 2550 13:59 น. - comment id 95597
อยากแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเอง เพราะเป็นคนชอบทำบุญ เนื่องจากวันหนึ่งได้ไปแถวท่าน้ำศิริราช และบังเอิญผ่านไปพบกับ ชายพิการขาลีบ คนหนึ่ง ใส่เสื้อเหลือง (เราจะทำความดีเพื่อในหลวง) แขวนป้ายบอกว่าเป็นคนพิการ ยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า ร.พ.ศิริราช ใกล้กับท่าน้ำ ขาของเขาเดินไม่สะดวก ต้องใช้ไม้เท้าคอยค้ำยันพยุงร่างเวลาเดิน เขาบอกกับเราว่า "มาโรงพยาบาลมีเงินติดตัวมานิดหน่อยและจ่ายค่ายาไปหมดแล้ว ตอนนี้หิวข้าวแต่ไม่มีเงินจะซื้อข้าวกิน ขอเงินซื้อข้าวกินได้ไหมครับ" เราบอกว่า "ได้ เดี๋ยวจะพาไปกินข้าวที่ร้านอยากกินอะไรล่ะจะซื้อให้" ชายพิการกลับปฏิเสธความปรารถนาดีของเรา เราก็เลยงง?? ก็ไหนว่าหิวข้าวแต่ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน พอเราจะซื้อให้กลับปฏิเสธเฉยเลย ทำให้เรารู้ว่าเขาไม่ได้ลำบากจริง แต่เขาอาศัยความพิการและนิสัยขี้สงสารของชาวบ้านมาหากินหลอกขอเงิน ต่อมาอีกหลายวันเราไปเดินแถวท่าน้ำศิริราชอีก เราก็ได้พบกับชายพิการคนนี้ กำลังคุยกับเจ้าของร้านโทรศัพท์แถวท่าน้ำ เขาเอาโทรศัพท์ออกมาอวด เราเห็นแล้วโอ้โห! ใช้โทรศัพท์มือถือหรูและแพงกว่าของเราอีก เราทราบภายหลังว่าชายพิการคนนี้ยังคงทำมาหากินอยู่แถว ๆ โรงพยายาบาลศิริราชทุกวันด้วยการโกหกว่าไม่มีเงินซื้อข้าวบ้าง ไม่มีเงินค่ารถกลับบ้านบ้าง ดังนั้น จึงขอเตือนเพื่อน ๆ ว่าบางทีความสงสารคนพิการของเราซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องเลือกพิจารณาในการช่วยเหลือเขาสำหรับคนที่ลำบากจริง ๆ การให้เงินไม่ควรให้เพื่อตัดความรำคาญหรือเห็นว่าสะดวกไม่ต้องเสียเวลา แต่ควรให้ในสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ เช่น หิวข้าวก็ซื้อข้าวให้กินเลยจะดีกว่า
7 เมษายน 2550 00:07 น. - comment id 95603
สวัสดีคุณ gg ดิฉันก็มีคิดว่า เค้าจะหลอกเราหรือป่าวน่ะ แต่เราก็ยังให้อยู่อ่ะ เพราะถึงยังไงเค้าก็ มีโอกาศน้อยกว่าเราคนปกติ แต่เค้าจะเอาเงินไปทำอะไรก็แล้วแต่ ...เฮ้ออ เราน่ะทำงานแถวสีลม ขอทานมีทุกรูปแบบเลย อยากเล่าเรื่องรูปแบบขอทานตรงสีลมมานานและ.... ++++++++ ....เดินบนเส้นสีลม จะเจอขอทานตลอดทาง โดยจะไม่นั่งติดกันน่ะ จะห่างทุกๆ 10 เมตร(ลองไปดูได้) ที่มีขอทานเยอะเพราะ เป็นย่านใจกลางเมือง อีกอย่าง พนักงานออฟฟิตเยอะม๊ากกก ขอทานจะมีตั้งแต่ 1. ตาบอด 2 ข้าง แล้วเคาะขันเหล็ก ร้องเพลงไม่รู้เรื่องเพื่อดึงความสนใจ 2. ตาบอดแบบมาเป็นวง เล่นดนตรีสากล 3 ชิ้น หรูเลย 3. คนเดียว เป่าหีบเพลง อันนี้คนให้เยอะเพราะ เสียงมันลื่นหู เพราะดี 4.คนโดนไฟไหม้ ตาหน้าเละเหมือนกันอ่า สงสาร ..ให้ตังค์ไปหลายรอบและ 5. คุณลุงผิวคล้ำ แต่งตัวเหมือนคนไร่คนสวน ปกติดี ..แต่! มีกระดาษใบนึงเขียนว่า "ขอตังค่ารถกลับบ้าน... คาดว่าคนเดิมตระเวนไปทุกมุมเมือง ไปแต่ละที่ จะอยู่สัก 1 เดือนแล้วก็ย้ายที่" 6. ขาพิการข้างเดียว อันนี้ไม่ค่อยมีคนให้ แต่ก็เห็นไม่ถึง 1 นาทีจะได้ตังค์ที (1ชม. ก็ได้ 60*10 = 600บาท ) 7. หญิงแก่มากๆ แต่ปกติดี ++++++++ ... การให้ทาน มันดีที่ตัวเราเองน่ะ ขอสนับสนุน ^^