สิ่งเดียวที่เหลือรอด
HamMostFear
จำเอาไว้ ฉันคือผู้หญิงคนสุดท้ายของโลก ตาทึ่ม หญิงสาวพูดเสียงเย็นชาใส่ชายหนุ่มที่กอดรัดร่างเธอแน่น ฝ่ายชายไม่ตอบกลับ ไม่แม้แต่จะคิดเรื่องอื่นใด ขอแค่ให้เธอได้พูดกับเขาอะไรก็ได้สักประโยค แค่นี้เขาก็รู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกแล้ว...
ราวกับถูกมนต์สะกด สมองของเขารู้สึกปลอดโปร่ง อันที่จริงอาจจะเรียกได้ว่ากลวงเปล่าก็ได้ ขณะที่เนื้อเปลือยๆของทั้งสองร่างต่างแลกจุมพิตซึ่งกันและกัน แลกกลิ่นเนื้อและลมหายใจร้อนๆ ราดรดบนเรือนร่าง หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ เอนกายอันเปลือยเปล่าลงบนพื้นอันเย็นยะเยือกราวน้ำแข็ง แต่ไฟตัณหาในดวงจิตกลับร้อนเร่ายิ่งกว่าสิ่งใด ร่างของเธอโน้มตัวค่อมลงเหมือนร่างเขา เหมือนประกาศฐานะอย่างนัยๆ ว่าถึงอย่างไรเธอก็เป็นฝ่ายมีชัยอยู่เหนือเขาทุกอย่าง
เขาได้ยินเสียงลมหายใจที่เริ่มกระชั้น หัวใจกำลังเต้นระรัว ความสุขกำลังถูกขับออกมาอย่างหนักหน่วงจนไม่มีอะไรมาหยุดยั้งมันได้ ร่างกายทั้งสองกำลังส่งเสียงสนทนาด้วยการสัมผัสอย่างใกล้ชิดยิ่งกว่าชิดใกล้ธรรมดา มือซ้ายของเธอกุมไหล่ขวาของเขา (ที่ปราศจากท่อนแขน) เล็บยาวเรียวจากนิ้วทั้งห้าจิกเข้าไปในเนื้อหนัง เหมือนสิงโตผู้หิวโหยตะครุบเหยื่อที่แสนอ่อนแอ ส่วนมือขวาของเธอก้าวล่วงลึกไปในส่วนที่สำคัญที่สุด...
เธอกำลังออกสำรวจความเป็นชายบนร่างของเขาอย่างละเอียดถี่ถ้วน จนตัวเขาเริ่มสั่นน้อยๆ ด้วยใจระทึก หลังจากนั้นทั้งสองร่างก็กลิ้งไถลไปบนพื้นเหมือนหินก้อนกลม ยิ่งกลิ้งร่างทั้งสองก็ยิ่งกอดรัดรวบแน่น ฝ่ายชายหัวเราะร่าเสียงดัง เสียงหัวเราะของเขาสะท้อนออกมาจากภายในที่อยู่ลึกที่สุด บางสิ่งที่ถูกเก็บซ่อนมานานแสนนานได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ
ร่างเขาโถมถลารัดเร้า กอดตะกายก่ายร่างเธอเคล้ากับเสียงจังหวะแห่งดนตรีกาม ที่บรรเลงอย่างเมามันส์จนหัวใจแทบจะเต้นทะลักออกมานอกอก แค่นี้...แค่นี้เองที่เขาต้องการ แม้ว่าเขาจะต้องแลกบางสิ่งในตัวเขา...เพื่อจะให้ได้มาซึ่งตัวเธอ เขาก็ไม่เคยหวั่นเกรงเลย
เมื่อมาถึงจุดสุดยอด ร่างของเขาก็ต้องสะดุ้งเฮือกเหมือนมีเหล็กแหลมคมแท่งใหญ่ทิ่มทะลุที่กลางหลังอย่างฉับพลัน ความรู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัสอันคุ้นเคยกลับมาเยือนอีกครั้ง คราวนี้เขาต้องสูญเสียนิ้วชี้ที่มือข้างซ้าย มันถูกตัดออกไปอย่างไม่ปราณีด้วยมีดอันคมกริบ มันส่งเสียงแหวกอากาศดัง
ฉึบ!
ภาพของแมงมุมตัวผู้ถูกแมงมุมตัวเมียกินสดๆ หลังร่วมสัมพันธ์พัดเข้ามาในสมองเขาวูบหนึ่ง...
ขอบใจมาก ตาทึ่ม เธอส่งเสียงเย็นชาใส่ขณะที่ร่างเปลือยเปล่าสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวดและตื่นเต้นสุดขีด แต่เขาไม่ได้รู้สึกเสียดายเลยสักนิด แต่กลับรู้สึกยินดีเป็นที่สุด ราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
เพราะรักนี้แล้ว ถึงจะต้องตัดอวัยวะบางส่วนทุกครั้งเมื่อร่วมรัก ถึงจะต้องเจ็บปวดและสูญเสียสักแค่ไหน... เพื่อเธอแล้ว แค่นี้ยังน้อยไป!
คนเราโง่เสมอในเรื่องของความรัก โดยเฉพาะรักที่มีอารมณ์ทางเพศชักนำ มันทำให้คนดีๆ กลายเป็นสัตว์โง่ๆ ตัวหนึ่ง ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ทุกสิ่งที่ตัวเองต้องการ เหมือนแมงมุมตัวผู้ยอมแลกเหยื่อที่หาได้มาอย่างยากลำบากให้กับตัวเมีย เพื่อให้มันพอใจและยอมร่วมผสมพันธุ์ด้วย
คนเราในบางครั้งก็ไม่ต่างอะไรจากสัตว์ ขอแค่คนรักพอใจก็ยอมแลกกายถวายชีวิต โดยไม่หวั่นว่าจะสูญเสียอะไรอีกแล้ว
แค่ให้ได้เธอมาครอบครอง ถึงตายก็คุ้ม!
เขายิ้มกับตัวเอง ขณะที่ความมืดครอบคลุมทุกสิ่งเหมือนราตรีที่ไม่เคยเห็นแสงดาวมาก่อนในชีวิต ดวงตาทั้งสองของเขาไม่เคยเห็นแสงตะวันนานแสนนานเสียจนลืมไปแล้วว่าแสงสว่างเป็นอย่างไร เช่นเดียวกันกับความทรงจำครั้งก่อนเก่า ที่ทั้งเบลอและเลือนรางเต็มทน ดั่งสติในตอนนี้ที่กำลังจะเลือนหาย...
-----------------------------------------------------------------------------
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะสงคราม...สงครามหายนะที่กลืนกินทุกสิ่งดั่งคลื่นซึนามินับร้อยๆ คลื่นถาโถมเข้ามาพร้อมๆ กัน มันได้กวาดล้างโลกนี้ให้สะอาดด้วยเลือดของประชากรโลกนับหมื่นล้าน สงครามโลกครั้งที่สามยิ่งใหญ่และรุนแรงยิ่งกว่าสงครามครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ มันเหมือนฝันร้ายที่ดูใกล้เคียงกับวันสิ้นโลกที่สุด...
เมื่อผู้นำโลกผู้ยิ่งใหญ่พบกับผู้ต่อต้านที่เริ่มสั่งสมอาวุธสังหารเพื่อต่อกร สิ่งเดียวที่ผู้ยิ่งใหญ่คิดได้ด้วยสมองใหญ่ๆ แต่ไร้จิตสำนึก คือการ กวาดล้างให้สิ้นซาก
อาวุธลับสุดยอดที่ผู้ยิ่งใหญ่ได้ถูกงัดใช้เพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ อาวุธลับที่นานาประเทศไม่เคยแม้แต่จะคาดคิดว่าจะถูกสร้างขึ้นมาได้ด้วยน้ำมือมนุษย์ มันสร้างความสูญเสียอย่างมหาศาลให้กับโลกที่ได้แต่ยืนตะลึง มันเป็นหายนะครั้งใหญ่หลวง ที่มาไกลเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการถึง...
อาวุธลับปิศาจนั้นร้ายแรงยิ่งกว่าระเบิดปรมาณูนับร้อยๆ เท่า ภายในสามเดือนแผนที่โลกก็เปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ ถ้าไม่นับน้ำท่วมที่เกิดจากน้ำแข็งขั้วโลกละลายจนทำให้หลายประเทศกลายเป็นเมืองบาดาลแล้ว สงครามครั้งนี้ก็ดูเหมือนเป็นการกระตุ้นให้หายนะเกิดขึ้นซ้ำลงไปอีก
แค่ 3 เดือนเท่านั้น...แผ่นดินของผู้ต่อกรและผู้สนับสนุนก็สูญหายไปในชั่วพริบตา ราวกับถูกสามเหลี่ยมปิศาจกลืนกินอย่างหิวกระหาย
ฝ่ายผู้ยิ่งใหญ่และพันธมิตรเองก็สูญเสียไม่ใช่น้อย อาวุธที่ทรงอานุภาพและทันสมัยที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานอาวุธชีวภาพที่ฝ่ายศัตรูพัฒนาถึงขีดสุดได้ ร้ายแรงยิ่งกว่าโรคร้ายใดๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ สิ่งเดียวที่จะป้องกันอาวุธปิศาจได้คือการกลั้นหายใจ ห้ามแม้แต่จะหายใจเข้าออกสักครั้งเดียว
ถ้าหากว่ามนุษย์ไม่ได้หายใจด้วยปอดแล้ว สิ่งนี้คงทำอันตรายไม่ได้แม้แต่จะระคายผิว
แต่เพราะพัฒนาการของร่างกายมนุษย์ไม่สามารถพัฒนาให้กลายเป็นปลาได้ภายในเวลาแค่ไม่กี่เดือน ไม่นานผู้ยิ่งใหญ่ก็จากลาโลกนี้ไปพร้อมๆ กับข้อพิสูจน์ที่ว่า มนูษย์ทุกคนไม่ว่าจะยิ่งใหญ่ หรือต่ำต้อยสักแค่ไหน ก็ต้องหายใจด้วยปอด และตายเป็นเหมือนๆ กัน
ผลร้ายจากสงครามโลกครั้งที่สาม...ประชากรมนุษย์ที่เหลือรอดก็ถูกจัดเข้าประเภท ใกล้สูญพันธุ์
ผู้ที่เหลือรอดใช่ว่าจะแข็งแรง ด้วยสภาวะที่เต็มไปด้วยมลพิษ ทั้งบนบก ในน้ำ หรือแม้แต่อากาศก็เต็มล้นไปด้วยพิษ อากาศที่เป็นพิษลอยฟุ้งแทนที่อ็อกซิเจนอันบริสุทธิ์ที่มีอยู่น้อยนิด หมอกควันสีดำหนาทึบลอยเหนือแผ่นดินแทนที่ก้อนเมฆสีขาว บดบังแสงสว่างจากดวงดาวทั้งหลายในจักรวาล ราวกับโลกนี้ถูกสูบหายไปในหลุมดำ ที่มีแต่ความมืดมิด สิ้นหวัง ว่างเปล่า...
การที่ได้เห็นแสงตะวันสักครั้งนับเป็นของขวัญชิ้นพิเศษที่สวรรค์ประทานให้ แต่สิ่งนี้ก็ถูกเลือนหายไปพร้อมๆกับลมหายใจของผู้เหลือรอดที่เริ่มสูญหายไป ทีละคน...ทีละคน...
จนในที่สุด ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ เหลือรอดบนโลกนี้ ยกเว้นก็แต่แมลงสาบ และมนุษย์ชายหญิงเพียงสองคนเท่านั้น
สิ่งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากที่บิดาของทั้งสอง...นักวิทยาศาสตร์ผู้เป็นมันสมองของโลกที่ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อทำโครงการวิจัยลับชิ้นนี้ โครงการที่สามารถทำให้มนุษย์กลายเป็นซุปเปอร์แมน สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้มนุษย์เหาะเหินเดินอากาศได้ แต่เป็นการ ดึงสัญชาตญาณเอาตัวรอด จากสัตว์มาใช้กับคน
ทำไมสัตว์โลกบางประเภทจึงรอดชีวิตมาได้ ทั้งที่ไดโนเสาร์ได้สูญพันธุ์ไปนานนับล้านปีแล้ว
เพราะสัตว์ใหญ่ตายง่ายกว่าสัตว์เล็ก
ปัจจัยสำคัญคือการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่อความอยู่รอด ก่อนอื่นต้องหาหนูทดลองเสียก่อน หนูที่สามารถทนทานกับทุกสภาวะเพื่อความอยู่รอด ถ้าจะให้เห็นผลเด่นชัดในระยะยาว ก็ต้องทนลองกับ...
เธอ...มนุษย์เพศหญิงที่ถูกสร้างจากการโคลนนิ่งพร้อมๆ กับ เขา...มนุษย์เพศชาย ทั้งสองคนถูกสร้างขึ้นมาเพื่องานวิจัยชิ้นนี้โดยเฉพาะ
ความทรงจำในวัยเยาว์ของทั้งสองเมื่อเทียบกับเด็กทั่วไปแล้วนับว่าโหดร้ายเกินกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะทนได้...
การที่จะได้ผู้ที่เข้มแข็งที่สุด ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนักจากสถานการณ์อันเลวร้ายนับไม่ถ้วน มีแต่ผู้ที่แกร่งที่สุดเท่านั้นที่อยู่รอดได้
เด็กทั้งสองต้องดื่มยาพิษต่างน้ำมาตั้งแต่เด็ก แต่ภูมิคุ้มกันขั้นสุดยอดในร่างกายที่ถูกพัฒนาขึ้นได้ปกป้องทั้งสองจนรอดชีวิตมาได้ เหมือนผู้ที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใส หรือเป็นหัดมาแล้วจะไม่กลับมาเป็นโรคนั้นอีก
นอกจากนี้ทั้งสองยังต้องผ่านการฝึกฝนอย่างทรหดนับไม่ถ้วน ทั้งอดข้าวอดน้ำเป็นเดือน ถูกขังตัวแต่ในห้องมืดที่อุณหภูมิที่แม้แต่นกแพนกวินยังทนไม่ได้ อีกทั้งยังต้องทนกับความเจ็บปวดกับการถูกสารเคมีที่ละเหยในห้องมืดกัดกร่อนผิวหนังจนแสบไหม้ไปทั้งร่าง ทั้งสองถูกทารุณอย่างหนักแต่ไม่เคยปริปากบ่นสักคำ ราวกับว่าหัวใจพวกเขาไม่เคยแม้แต่ยื่นขอคำอุทธรณ์เพื่อขอรอดพ้นจากความตาย...มันไม่เคยย่างกรายเข้ามาในชีวิตของพวกเขา
นอกจากถูกทรมานทางกายแล้ว ทางจิตใจก็ถูกทำร้ายจนเจ็บช้ำไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเด็กหญิงที่ต้องทนร่วมเพศสัมพันธุ์ทุกครั้งกับผู้ที่ให้กำเนิดเธอมา ทุกครั้งที่ผ่านบทเรียนอันโหดร้ายด้วยการรอดชีวิต บิดาของเธอจะมอบร่างกายให้เป็นรางวัล
ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตทั่วไปแล้ว การที่ร่วมเพศสัมพันธุ์กับเชื้อสายของตนเอง ทายาทที่ออกมาจะอ่อนแอลง แต่บิดาของเธอเชื่อว่าเธอข้ามพ้นขีดจำกัดนี้ไปได้แล้ว
ผู้เป็นบิดากระซิบที่ข้างหูเธอเสมอ หน้าตาของหนูเหมือนแม่มาก
ขณะที่มืออันหยาบกร้านของเขาลูบไล้ส่วนต่างๆ ของเธอที่เขาสร้างขึ้นมา ท่ามกลางสายตาอันเย็นชาของลูกชายวัยเยาว์ของเขาเอง ในห้องนอนของผู้เป็นบิดา...เธอตกเป็นของพ่อตัวเองทุกวัน
และในบางคืนยามที่บิดาหลับใหล ลูกที่เกิดจากการโคลนนิ่งทั้งสองก็จะเรียนรู้แลกเปลี่ยนวิชา เพศศึกษา ซึ่งกันและกัน
วิชาเพศศึกษาของทั้งสองถูกปิดเป็นความลับมานาน และจะเป็นความลับไปตลอดกาลเมื่อบิดาของทั้งสองได้สิ้นใจลง
เขาไม่ได้ตายด้วยวิธีธรรมชาติ แต่ตายเพราะถูก ฆ่า ด้วยน้ำมือของลูกตัวเอง
ผู้ที่อ่อนแอจะตกเป็นเหยื่อของผู้ที่เข้มแข็งกว่า สิ่งนี้คือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องเช่นพ่อเธอสอนเธอมาตลอดชีวิต เขาได้พิสูจน์บทเรียนนี้ด้วยชีวิตของเขาเอง
-----------------------------------------------------------------------------
นี่นายไม่เคยเล่นหุ่นยนต์มาก่อนเลยเหรอ
ภาพลางๆ อันเป็นภาพสามมิติส่งเสียงถามเด็กชายที่อยู่เบื้องหน้า เหมือนภาพวิญญาณเลือนรางที่สามารถสนทนาโต้ตอบกับคนเป็นได้ แต่เนื่องจากมันถูกสร้างด้วยโปรแกรมสนทนาสามมิติแบบดั้งเดิม ภาพนั้นจึงเป็นภาพขาวดำที่ความคมชัดไม่คงที่ ร่างนั้นจึงดูเหมือนหิ่งห้อยเรืองแสงที่เดี๋ยวก็สว่าง เดี๋ยวก็เลือนหาย
เด็กชายสนทนาผ่านโปรแกรมนี้มานานหลายปีแล้ว เพราะเขาไม่เคยมี เพื่อน จริงๆ เลย ถ้าไม่นับน้องสาวอีกคนของเขา เขาคงจะรู้สึกโดดเดี่ยวจนแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเลยทีเดียว
หุ่นยนต์คืออะไรเหรอ เด็กชายถามอย่างใสซื่อกับโปรแกรมที่หน้าตาเหมือนเขาราวกับถอดแป้นพิมพ์เดียวกันมา นี่ไง เด็กชายอีกคนชู หุ่นยนต์ ที่หน้าตาเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมขนาดจิ๋วที่ประกอบออกมาเป็นรูปร่างคนที่มีแขนขา ของแบบนี้หายากมากเลย รู้ป่าว เมื่อ300 ปีก่อนเด็กชายทุกคนจะต้องเล่นมัน แบบนี้...
เด็กชายร่างขาวดำค่อยๆ ถอดส่วนประกอบหุ่นยนต์ออกทีละชิ้น เริ่มจากส่วนแขน ขา และส่วนหัวตามลำดับ เด็กชายมองดูของเล่นชิ้นใหม่อย่างเพลิดเพลินจนแทบไม่ได้ยินเสียงเย็นชาที่ดังก้องในห้องนอนขนาดเล็กเท่ารูหนูของเขา
นี่! ตาทึ่ม คุยกับเขาอีกแล้วเหรอ เดี๋ยวจะไม่เล่นกับตาทึ่มอีกแล้ว!
เจ้าของน้ำเสียงเย็นชามองดูเขาด้วยสายตาเคืองขุ่น ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะออกมาจากห้องนอนของผู้เป็นพ่อเพราะร่างนั้นเปลือยเปล่า แต่เด็กชายไม่ใส่ใจกับท่าทีของน้องสาวเพราะกำลังจ้องเด็กร่างขาวดำกำลังประกอบส่วนหุ่นยนต์เข้าไปใหม่เหมือนดังเดิม
นั่นอะไรอ่ะ ตาทึ่ม น้ำเสียงเย็นชาออกโทนเสียงสูงขึ้นอีกนิดเมื่อเธอเห็นหุ่นยนต์รูปร่างประหลาดในมือเด็กชายร่างขาวดำ ส่วนฝ่ายที่ถูกเรียกว่า ตาทึ่ม กลับไม่ยอมตอบ ได้แต่จ้องดูเพื่อนประกอบร่างหุ่นยนต์ และถอดอีกหนเป็นรอบที่สอง
มันเล่นแบบนี้ รู้มั้ย ส่วนหัวของหุ่นยนต์ถูกถอดออกแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ งั้นคนก็ถอดร่างแบบนี้ได้งั้นสิ คราวนี้ฝ่ายเด็กหญิงเริ่มถามบ้างขณะที่สายตาจดจ้องของเล่นชิ้นใหม่อย่างสนอกสนใจไม่แพ้กัน
เนื่องจากแสงสว่างอันไม่คงที่จากร่างเพื่อน ทำให้เด็กชายรู้สึกปวดตา เขาพักสายตาโดยการเบนความสนใจไปยังภาพแขวนบนผนังห้อง มันเป็นภาพถ่ายครอบครัวที่เคลื่อนไหวได้ในกรอบพลาสติกที่ทำลายเลียนแบบไม้ ภาพถ่ายภาพนั้นมีรูปของเขาขังอยู่ภายในพร้อมๆ กับผู้ที่เป็นพ่อกับแม่ เด็กชายส่งยิ้มแล้วยิ้มอีกอย่างไม่เมื่อยริมฝีปาก นานๆ จะมีเสียงร้องว่า เฮ้! จากรูปเหมือน และบางครั้งเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของผู้เป็นแม่ด้วย
ในภาพนั้น เขายืนอยู่ตรงกลางระหว่างบุพการีทั้งสอง ผู้เป็นพ่อเป็นชายร่างสูงผิวคล้ำ ใส่แว่นกรอบดำโต และสวมเสื้อสีขาว ส่วนแม่เป็นหญิงร่างเล็ก ผิวขาวซีด เธอไว้ผมยาวสีน้ำตาลแดงยาวสยายเคลียบ่า และใส่เสื้อสีดำรัดรูปจนเห็นร่างสะโอดสะองเด่นชัด ส่วนรูปของเขา...ส่วนที่ดูเหมือนโตกว่าส่วนอื่นกำลังพยักหน้าหงึกๆ เมื่อมีคนจ้องมอง เขาส่งสายตาซื่อๆ ที่ดูเหมือนตาทึ่มแก่ๆ มายังเขาและส่งยิ้มที่มีฟันหลอสองซี่มาให้อีก เขาไม่ส่งยิ้มให้เด็กชายเพราะเขาลืมวิธียิ้มไปนานแล้ว
รูปนั้นเป็นภาพครึ่งตัวที่ดูสมจริงทีสุด ถ้าหากเป็นรูปถ่ายเต็มตัวเชื่อเหลือเกินว่าเด็กชายในรูปคงเดินออกมาสนทนากับเขาเหมือนโปรแกรมขาวดำนั่นแน่ เขาจะได้ไม่ต้องเมื่อยตาเพื่อจ้องมันนานๆ เด็กชายคิดอย่างเหม่อลอย
ความคิดของเขาล่องลอยออกไปเหมือนม่านอากาศที่ลอยไปมา เขาจำไม่ได้เลยว่าเขาเคยถ่ายรูปครอบครัวจริงๆ ตอนไหน แล้วเขาก็คิดไม่ออกเลยว่าเขาเคยเห็นตัวจริงของแม่เมื่อไหร่ เพราะตั้งแต่จำความได้ เขาไม่เคยได้เห็นหรือพูดคุยกับแม่ที่แท้จริงเลยสักครั้งเดียว
เธอตายก่อนที่เขาจะเกิดเสียอีก เพราะแม่ของเขาเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว
และภาพเด็กชายที่ยืนยิ้มอยู่ในภาพ ตอนนี้กำลังสอนการประกอบหุ่นยนต์ให้กับน้องสาว นั่นเป็นลูกชายที่แท้จริงของพ่อ ส่วนเขาและน้องสาวเป็นเพียงแค่ร่างโคลนนิ่งเท่านั้น
เด็กชายในภาพก็ตายไปตามหลังแม่ตัวเองเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาสิ้นใจลงเมื่ออายุได้ 9 ขวบ เท่ากับเขาและน้องสาวในขณะนี้...
คนอ่อนแอต้องตาย...
ส่วนหัวของหุ่นยนต์ขาดกระเด็น
-----------------------------------------------------------------------------
ฉันชอบการถอดร่างมากที่สุดเลย ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวยังคงกอดร่างเขาไว้ ขณะที่เขาหลับตารำลึกถึงความหลังที่ดูเหมือนได้ผ่านไปนานแสนนานเหลือเกิน...
ทั้งสองร่วมกันถอดร่างพ่อของตัวเอง เหมือนกับหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง
เสียดายที่ประกอบเข้าไปใหม่ไม่ได้
เขาได้แต่ยิ้มให้กับคำพูดที่ฟังดูไร้เดียงสาของเธอ เสียดายที่เธอไม่เห็นรอยยิ้มนั้น เพราะโลกใบนี้ลืมแสงตะวันไปนานตั้งแต่วันที่เกิดสงครามโลกแล้ว
เสียงเย็นชาของหญิงสาวยังคงพูดเรื่อยๆ อย่างไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใดที่ได้ทำลงไป
ทุกๆ คืน พ่อจะต้องกินยานอนหลับ แล้วเราก็ได้แอบถอดชิ้นส่วนของพ่อกัน เริ่มจากส่วนแขนก่อน... เขากุมหัวไหล่ข้างขวาที่ขาดด้วนไปโดยไม่รู้ตัว ...แล้วหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยส่วนอื่นๆ อีก น่าแปลกที่พ่อไม่ดิ้นเลย เหมือนหุ่นยนต์จริงๆ
หญิงสาวกล่าวเสริมขณะที่บรรจงจูงลงบนแก้มของชายหนุ่มที่นอนอยู่เคียงข้าง แล้วฉันก็ถอดแขนของตาทึ่มออกต่อจากเขา แต่ตอนนั้นฉันไม่รู้นี่นาว่าคนต่างจากหุ่นยนต์ยังไง โดยเฉพาะตาทึ่ม
เธอชอบเรียกเขาว่าตาทึ่มตั้งแต่เขาจำความได้ น่าแปลกที่เขาเองก็ชอบฟังคำนี้เสียด้วย
คนเราก็ไม่ต่างอะไรไปจากหุ่นยนต์สักเท่าไหร่หรอก เขาตอบเธอขณะที่หลับตา หวนนึกถึงฉากสีแดงฉันที่เกิดจากการถอดร่างผู้ให้กำเนิดด้วยคมมีดอันคมกริบ เขาไม่นึกเสียใจเลยที่ทำสิ่งเลวร้ายที่สุดให้กับพ่อ ในเมื่อเขาเองก็เฝ้าทรมานลูกๆ อย่างเลือดเย็น จนพวกเขากลายเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกภายในเวลาไม่ถึงสิบปี
และกลายเป็นมนุษย์คู่สุดท้ายของโลกในตอนนี้...
คมมีดกรีดเข้าไปในท้องแขนข้างซ้าย ผู้ที่นอนอยู่ข้างกายเขากำลังกรีดเนื้อของเขาเป็นแนวยาว...เลือดสีดำข้นหลั่งออกมาจากบาดแผล เลือดที่เต็มไปด้วยพิษต้องถูกขับออกมา เธอทำหน้าที่นี้ทุกวัน
และอีกไม่นานเขาจะต้องเสียอวัยวะอีกส่วน เพื่อเป็นการเอาใจเธอ ผู้ที่อยู่เคียงข้างมาตลอดชีวิตอันอ้างว้างและเจ็บปวดของเขา
ฉันยอมเสียทุกอย่างได้เพื่อเธอ
แต่ถ้าจะให้ต้องเสียเธอไป ฉันยอมไม่ได้...
ตาทึ่ม... หญิงสาวส่งเสียงอ่อนระโหยที่ฟังดูอ่อนโยนจนน่าตกใจ มันทำให้เขาสะดุ้งเฮือกยิ่งกว่าตอนที่ถูกตัดนิ้วเสีย
อีก ทำไมเหรอ... เขาตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้งขณะที่โอบกอดร่างน้องสาวให้กระชับยิ่งขึ้น เพราะร่างนั้นเริ่มสั่นน้อยๆ
ฉัน...ฉันกลัว... เธอพูดพึมพำด้วยเสียงที่ไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบ หนาว...ฉันหนาว...
ร่างของเธอยิ่งเกร็งแน่นกว่าเก่า...สัญญาณของความอ่อนแอเริ่มแสดงออกมา
คนอ่อนแอต้องตาย...เขาคิดอย่างใจหาย...
เขาทนไม่ได้เด็ดขาด!
อาจเป็นเพราะเธออดอาหารและน้ำมาหลายเดือน
อาจเป็นเพราะอากาศที่หนาวเหน็บจนติดลบ
อาจเป็นเพราะภูมิต้านทานที่ถูกสร้างมาตลอดเริ่มถดถอย...
อาจเป็นเพราะความเหงาแสนเหงาสุดจะทน
อาจเป็นเพราะเหตุผลนับล้านอย่างที่ทำให้เธออ่อนแอลง...
มีสิ่งเดียวที่ยิ่งใหญ่เหลืออยู่ในตัวเขา มันถูกเก็บซ่อนอยู่ข้างในมาตลอดชีวิต และวันนี้เขาก็ได้ตัดสินใจอย่าเด็ดขาดว่าจะมอบสิ่งนั้นให้กับเธอ...
มีดปลายแหลมที่เธอกำไว้อย่างหลวมๆ ในมือถูกดึงออกมาอย่างง่ายดาย และรวดเร็วเสียจนเธอร้องเสียงหลง
จะทำอะไรน่ะ ตาทึ่ม!
ฉึก!
เลือดสีดำพุ่งออกมาจากร่างของเขาอย่างรุนแรง...จากอกข้างซ้าย
ใบมีดอันคมกริบแทงทะลุเข้าไปจนมิดด้าม...
ฉันไม่มีอะไรจะให้เธออีกแล้ว... เสียงของเขาสั่นพร่าขณะที่คราบน้ำตาของเธอหยดรดใบหน้าของเขา
ตาทึ่ม...เธอนี่มันงี่เง่าที่สุดในโลก!เธอพยายามดึงมีดปลายแหลมออกมาจากอกของเธอ มือนั้นสั่นเสียจนทำอะไรไม่ได้แม้แต่จะปาดน้ำตาตัวเอง
งี่เง่า...ชอบทำอะไรโง่ๆ ...อยู่เรื่อย...
ฉันยอมเสีย...ทุกอย่าง...แต่ไม่อยาก...เสียเธอ...ไป...เสียงของเขาเริ่มขาดห้วงลงเรื่อยๆ เอา...หัวใจ...ของฉัน...ไป...เถอะ...
ตาทึ่ม ไม่! พี่!!! เธอกรีดร้อง เขย่าร่างอันอ่อนปวกเปียกของเขาราวกับคนบ้า ขณะที่มือข้างซ้ายของเขากุมมือเธอไว้ อย่าทิ้งฉันไปอย่างนี้สิพี่! พี่!!!
เรียกฉัน...ตา...ทึ่ม...
มือที่กุมไว้...คลายออก...
คนอ่อนแอต้องตาย...
คนอ่อนแอ...ที่มีหัวใจไว้เพื่อรักผู้หญิงคนเดียว....
ทนเจ็บตลอดชีวิต ยอมทิ้งทุกสิ่งที่มีอยู่...
เพื่อรัก...
คนเราก็โง่เสมอแหละ โดยเฉพาะเรื่องความรัก
ตาทึ่ม...
-----------------------------------------------------------------------------
ซี่โครงข้างซ้ายซี่หนึ่งถูกดึงออกมาจากร่างของชายหนุ่ม
ในตำนาน...ยามเกิดหญิงสาวคนแรกของโลก พระเจ้าทรงใช้ส่วนหนึ่งในร่างกายของชายในยามที่เขาหลับใหล เพื่อสร้างคนที่อยู่เคียงข้างเขา
มนุษย์คู่สุดท้ายของโลกก็เช่นกัน
สิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ กำลังดิ้นอยู่ในครรภ์มารดา
เธอลูบท้องตัวเองอย่างแผ่วเบา...โดยใช้มือเปื้อนเลือดของผู้เป็นพ่อ
พ่อของหนูอยากเจอหน้าหนูนะลูก...เสียดายที่เขาไม่ได้เห็นหน้าของหนูอีกแล้ว...
มืออีกข้างของเธอกำมีดปลายแหลมไว้แน่น...