พระพุทธชินราชงามเลิศ ถิ่นกำเนิดพระนเรศวร สองฝั่งน่านล้วนเรือนแพ หวานฉ่ำแท้กล้วยตาก ถ้ำและน้ำตกหลากตระการตา "โห่เอ๊ย .. ไปพิษณุโลกทั้งทีซื้อข้าวหลามมาฝาก แทนที่จะซื้อกล้วยตาก" เสียงบ่นเมื่อได้รับข้าวหลามของฝากจากฉัน บ่นทั้งๆ ที่ข้าวหลามหน้าสังขยายังอยู่ในปากนั่นแหละ .. แล้วกินทำไม (ฟระ)? ฉันเพิ่งมานั่งหาข้อมูลจังหวัดพิษณุโลกจากเวบไซต์ หลังจากกลับมาจากเมืองสองแคว จึงเพิ่งรู้ว่าคนรับของฝากมันบ่นทำไม .. อ๋อ .. ก็เพราะกล้วยตากเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่นั่นเอง .. เป็นครั้งแรกที่รู้สึกนึกอยากรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวใดๆ ปกติก็ไปหาเอาข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นที่พัก แหล่งท่องเที่ยว แม้กระทั่งว่า ไอ้จังหวัดที่จะไปเนี่ยไปทางไหน .. ก็ไปตายเอาดาบหน้าทั้งนั้น .. มันส์ดี กลับมาแล้วก็แล้วกัน ไม่เคยคิดอยากจะรู้จักมากกว่าที่ได้รู้จัก ได้เห็นกับตา แต่ครั้งนี้มันต่างไป .. รู้สึกอยากรู้จักพิษณุโลกให้มากขึ้น .. แล้วก็จะกลับไปอีก .. ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม? .. เลยลองดูรูปถ่ายที่ติดอยู่ในกล้อง .. เผื่อจะรู้สาเหตุ .. เริ่มจาก .. รูปนี้เลย .. เราได้พบกันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง หลังเลี้ยวซ้ายจากทางหลวงหมายเลข 1 (สายพหลโยธิน) เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเซีย) ฉันจอดรถใต้ร่มไม้ใหญ่ นั่งซดอาราบิก้าเย็นแก้วโต .. พลางเหลือบมองบรรยากาศรอบข้าง พลันสายตาก็ปะทะกับ ..
สีใกล้เคียงใบไม้มากเลย .. เห็นแล้วก็แอบยิ้มอยู่คนเดียว .. นึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ .. มีกำลังใจมากขึ้นเพื่อมุ่งสู่จุดหมาย เพราะแอบหวังเล็กๆ ว่า .. พรหมลิขิตอาจเกิดขึ้น ณ จุดหมายปลายทาง .. หากคำโบราณที่ว่าไว้มันเป็นความจริง .. ถ้าฝันว่างูรัดจะพบเนื้อคู่ .. เอาน่า .. เชื่อโบราณไม่บานบุรีแน่นอน .. ..... ... .. . เสียงบางอย่างดังข้างหู .. ปลุกสติสัมปะชัญญะให้ค่อยคืนจากภาวะไร้รู้สึก .. "ฮัลโหล .." "ตื่นยัง? .." เสียงจากปลายสายดัง "อือ .. ตื่นแล้วก็ได้" ตอบไปงั้นๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าตื่นหรือยัง "จะโทรมาบอกว่า เราจะแบ่งเสื้อไปแจกที่เชียงใหม่นะ มีอาจารย์จากโรงเรียนในอำเภอแม่แจ่มทำหนังสือขอเสื้อกันหนาวมา ที่นั่นหนาวมากเลย .." คราวนี้ฉันค่อยฟังเข้าใจมากขึ้นคงเพราะสติตื่นบ้างแล้ว "อือ .. ตามสบายเลย .." จำได้ว่าตัวเองตอบไปงั้น "ทำรัยอยู่วะเนี่ย? ตื่นแล้วแน่นะ?" ปลายสายชักไม่แน่ใจ คงเพราะฉันส่งแต่เสียง 'อือๆ' ล่ะมั้ง "อือ .. อยู่พิษณุโลก .." ฉันตอบไป วางโทรศัพท์ไปแล้ว .. แต่ฉันยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง .. นึกถึงภาพงูตัวเล็ก .. จริง หรือ ฝันหว่า? .. ช่างมันเห๊อะ!! อาบน้ำแต่งตัวไปซิ่งดีกว่า ขับรถเข้าไปในตัวเมืองหาอะไรใส่ท้องซักหน่อย มีคนบอกมาว่ามีก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยอยู่ในเมือง ก๋วยเตี๋ยวไก่ป้าล้อม อยู่แถวๆ วัดจันทร์ตะวันออก ใกล้ปั๊มเชลล์ .. คนแนะนำเขาบอกว่า น้ำซุปทำจากน้ำต้มกระดูกแมว ไม่รู้จริงเปล่า? .. รู้แต่ว่าอร่อยชะมัด ไก่ชิ้นเบ้อเริ่ม หลังจากท้องอิ่มก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีก แม้ฉันจะไม่รู้เส้นทางไปไหนเลยก็ตาม .. จะยากอาไร้ .. ขับมันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็รู้เองแหละ การจราจรอันวุ่นวายในตัวเมือง สองข้างทางมีแมคโคร, บิ๊กซี และเซเว่นอีเลฟเว่น ไม่ต่างอะไรนักกับเมืองหลวง .. ฉันเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบแม่น้ำน่าน ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะไปทะลุที่ไหน ขอเพียงแค่หลบความวุ่นวายของผู้คนและรถราได้ก็พอ ถนนลูกรังฝุ่นแดงตลบ .. สิ่งที่ได้เห็นตลอดทางด้านขวามือคือ บ้าน ที่อยู่ริมน้ำน่าน
เย็นนี้จะพาไปกินข้าวบนแพ .. บรรยากาศโรแมนติกมากๆ รับรองต้องชอบแน่ ฉันระลึกถึงคำที่เจ้าบ้านบอกไว้เมื่อวาน บางชีวิตต้องอยู่บนแพด้วยเหตุผลว่ามันคือ บ้าน หากแต่อีกหลายชีวิตพยายามกระเสือกกระสนลงแพเพียงเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ชีวิตที่จำต้องอยู่บ้านบนแพเขาจะคิดอยากเปลี่ยนบรรยากาศ มากินข้าวในบ้านบนดินมั่งมั๊ยนะ? .. ฉันนึกสงสัย .. ฉันขับรถเลียบแม่น้ำน่านไปเรื่อยๆ จนพบว่าสุดถนนเส้นนี้คือวัดจันทร์ตะวันตก ริมแม่น้ำน่านในบริเวณนี้มีแพหลังใหญ่จอดเลียบริมน้ำอยู่หลายหลัง แพแต่ละหลังมีสองชั้นและใหญ่โตกว่าแพบ้านที่ฉันผ่านมาเมื่อสักครู่มากมายนัก มีป้ายชื่อร้านตัวโตที่ทำด้วยนีออนติดอยู่บนหลังคาแพ หากยามกลางวันมันดูเหมือนซากไม้เก่าๆ ที่รกระเกะระกะไปด้วยโต๊ะเก้าอี้ หากยามค่ำคืน .. แสงสีมันคงเย้ายวนตานัก บ้านแพหลังเล็กๆ .. หากมีเพียงไฟสว่างจากแสงตะเกียงคงเพียงพอ ..
ฉันดูนาฬิกา .. ใกล้เวลานัดหมายกับท่านเจ้าบ้าน .. เพื่อไปสักการะพระใหญ่ ที่ วัดใหญ่กันแล้ว ฉันแวะรับท่านเจ้าบ้านจากหน้ามหาวิทยาลัยนเรศวร และตรงเข้าตัวเมือง .. ผ่านกำแพงคูเมือง และค่ายสมเด็จพระนเรศวร จนถึงวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่เรียกกันติดปากว่า วัดใหญ่ ขับรถฝ่าการจราจรอันวุ่นวายเลี้ยวเข้ามาในบริเวณวัดเข้าไปในที่จอดรถ แล้วต้องเดินผ่านร้านขายของฝากและของที่ระลึกตามสองข้างทาง กว่าจะมีถึงวิหารหลังงามอันเป็นที่ประดิษฐานของพระประธานองค์ใหญ่ นั่นคือพระพุทธชินราช หรือที่ชาวเมืองสองแควเรียกกันติดปากว่า หลวงพ่อใหญ่ นั่นเอง ผู้คนมากมาย .. นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มาเยี่ยมชมสักการะ รถบัสสองชั้นคันใหญ่ทั้งที่จอดตามข้างทาง และกำลังเลี้ยวเข้าวัด เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจเรียกนักท่องเที่ยวซื้อของฝากและของที่ระลึก ช่างภาพกล้องโพลารอยด์ส่งเสียงเรียกหาลูกค้าที่อยากจะได้รูปเป็นที่ระลึก หน้าองค์พระประธานองค์ใหญ่ในวิหารไม่เคยว่าง .. คนหนึ่งลุก อีกคนก็รีบนั่ง ยังกับเล่นเก้าอี้ดนตรี .. เพียงเพื่อต้องการถ่ายรูปกันไว้เป็นที่ระลึก จนต้องมีป้ายที่มีอักษรตัวโตชัดเจนเขียนไว้ว่า .. ห้ามยืนถ่ายรูปในวิหาร เสียงเคาะกระบอกเพื่อเสี่ยงเซียมซีดังสลับกับเสียงพูดคุยจ้อกแจ้กจอแจ ฉันนั่งพับเพียบกราบหลวงพ่อใหญ่ มองเห็นภาพความงดงามแห่งองค์พระประธานองค์ใหญ่ตรงหน้า นึกเสียดายในใจ .. ความสวยงามแห่งพระพุทธศาสนาที่ขาดองค์ประกอบอันสำคัญ .. .. ความสงบ ..
..T o b e c o n t i n u e ..
24 ธันวาคม 2549 00:41 น. - comment id 94422
แฮะ ๆ กีกี้ เราชอบกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขาว่ะ กินไปแกว่งไป อิอิ แล้วก็ชอบลูกชิ้นหมา(บางแก้ว) โอยไม่ไหวเดี๋ยวคนพิษณุโลก เคาะกบาลแยกไปนอนดีกว่า เย็นนนนนนนนนน
24 ธันวาคม 2549 07:28 น. - comment id 94423
.... เขียนได้น่าอ่านมากค่ะ บรรยายได้เห็นภาพ จนคนสองแควที่ย้ายมาอยู่เมืองกรุงเอง... อ่านแล้วคิดถึงบ้านขึ้นมา บรรยากาศวัดใหญ่ เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่อย่างไรเสีย...ก็ทำให้นึกภูมิใจ ที่เกิดเป็นสาวสองแคว ซึ่งมีพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในประเทศไทย อาหารขึ้นชื่อ มีก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ด้วยนะคะ (หน้าตาคล้ายก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย / ก๋วยเตี๋ยวชากังราว-กำแพงเพชร คือ ใส่ถั่วฝักยาวหั่นแฉลบ) เจ้าดั้งเดิม ต้องเป็น "ป้าถิน" ค่ะ (อยู่ร้านในสุด-ในซอย) อ้อ! น้ำซุปกระดูกแมว จากร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ป้าล้อมวัดจันทร์ เป็นคำหยอกล้อของคนพิด'โลกค่ะ ที่เห็นกระดูกชิ้นโตในหม้อน้ำซุป ....แต่ ที่จริงอ่ะ...เป็นกระดูกหมา.... (555 อ่ะ...ย้อเย่น) แต่ก็หวานน้ำต้มกระดูกใช่ม๊าล่า??? ....
24 ธันวาคม 2549 11:08 น. - comment id 94426
ไปหลายครั้งเหมือนกัน "เมืองสองแคว" มีหลายสิ่ง หลายอย่าง ที่งดงาม และเป็นความทรงจำที่ดีดี... ทำให้คิดใครคนหนึ่ง... ป่านนี้เขาเป็นไงบ้างนะ ขอบคุณ คุณกีกี้...
24 ธันวาคม 2549 12:12 น. - comment id 94428
มาตอนไหน ทำไมไม่บอกค่ะกี้ บ้านต่ายอยุ่พิษณุโลก เสียดายจังก็ขับรถผ่านวัดใหญ่ทุกวันน่ะ ถ้ารุ้ว่ามาจะพาไปเที่ยว พิษณุโลกน้ำตกเยอะน่ะ...ถ้าอยากซื้อกล้วยตาก จะพาไปดูที่เค้าทำเลยค่ะ ขับรถผ่านทุกวัน เสียดายเน๊อะ แพริมน้ำน่ะอาหารอร่อยแน่มาให้ถึงต้องไปกินผักบุ้งไฟแดงที่ไนซ์บาซ่าจ๊ะที่เค้าโยนน่ะ ของกินอร่อยๆเยอะ ข้างวัดใหญ่มีก๊วยเตี๊ยวห้อยขา เสียดายจริงๆ
24 ธันวาคม 2549 18:33 น. - comment id 94432
คุณร้อยฝัน .. เห็นแล้วล่ะ ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา แต่ตอนกีกี้ผ่านไปน่ะ ร้านยังไม่เปิด พอขับรถจะกลับไปอีกทีมันก็ไปไม่ถูกซะแระ .. ไม่บอกนี่ว่าชอบกินลูกชิ้นหมาบางแก้ว เราผ่านฟาร์มพ่อแม่พันธุ์เชียวนะ .. คราวหน้าจะอุ้มกลับมาฝาก เห็นเจ้าของเผลอบ่อยเชียว ไปเชือดเองละกันนะ .. คุณส้มแป้น-สาวสองแคว .. ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาที่ผ่านน่าจะเป็นร้านที่คุณบอกนะ อยู่สุดซอยมีที่จอดรถที่แม้ไม่หรูหราแต่ใหญ่โตเชียว .. บุญกีกี้มีแต่คงไม่ถึง จึงไม่ได้แอ้มก๋วยเตี๋ยวอร่อย คราวหน้าไม่พลาดแน่ .. น่าภูมิใจที่เกิดเป็นสาวเมืองสองแคว .. สาวเมืองกรุงอย่างเรายังหลงเสน่ห์ซะหัวปักหัวปำเลย .. ขอบคุณนะคะคุณส้มแป้น .. คุณมะกรูด .. ป่านนี้เขาคงนั่งคิดถึงคุณเหมือนกันนะ กีกี้ว่า .. คุณกระต่ายใต้เงาจันทร์ .. คราวหน้าจะไปถล่ม เตรียมตัวไว้แล้วกันคุณสาวสองแคว ..
24 ธันวาคม 2549 19:59 น. - comment id 94433
มะชวนมั่งอ่ะค้าบ
25 ธันวาคม 2549 09:52 น. - comment id 94439
ปกติแล้ว .. ถ้ายังไม่เที่ยง อัลมิตราก็ไม่ค่อยมั่นใจว่า กีกี้จะตื่น ยิ่งฟังเสียงขานรับจากปลายสาย ฮื่อ !!! แบบนี้ ยิ่งต้องทำให้ถามย้ำว่า ตื่นยังเนี่ย ? ๕๕๕ ..
25 ธันวาคม 2549 10:03 น. - comment id 94440
คุณ nig... เอาเบอร์โทรมาเลย .. ถ้าไปอีกจะได้โทรมาชวน .. อิอิ .. คุณอัลมิตรา .. อ่ะนะ .. ตามมาคอนเฟิร์มกันแบบนี้ .. หมดกัน .. /font>
25 ธันวาคม 2549 14:55 น. - comment id 94449
29 ธันวาคม 2549 16:04 น. - comment id 94529
nig ไม่เอาน่า อย่าให้
21 กรกฎาคม 2551 09:05 น. - comment id 100641
หนูอยากไปเป็นครูสอนหนังสือที่นั้นค่ะ