** ทัศยุราชันย์(เสด็จนครพระราชสวามี) **

แก้วประเสริฐ


                                     บทที่  ๒๓
                            เสด็จนครพระราชสวามี
         กาลก่อนกระโน้นนั้นหาได้ประดับด้วยธงทิวแต่ประการใดไม่ และเพราะเหตุใด
พระองค์ท่านพระมาตุลาองค์วานิระหะกับเจ้าหญิงเฌอมาลย์พระสหายเราทรงเสด็จไป
ที่ใดเล่าทั้งๆที่เป็นพระราชอาณาเขตในการปกครองของพระองค์หรือว่าทรงจะทรงได้
รับเหตุอันตรายนั้นเสียแล้วหรือ”     องค์เจ้าหญิงมณีกานต์ทรงรับสั่งถาม
       “นั่นซิเสด็จพี่  หากเป็นดังนี้เห็นทีจะต้องเข้าไปตรวจสอบดูก็ดีนะเพค่ะ”
องค์หญิงปทุมวดีทรงเอ่ยตรัสตอบ
        “ดีเหมือนกันน้องหญิง  จะได้ทราบแล้วหาทางช่วยเหลือหากทราบอย่างไรให้รีบ
กลับมาส่งข่าวให้พี่รู้ส่วนพี่จะรออยู่ตรงนี้นะ”  องค์หญิงมณีกานต์ทรงตรัสขึ้น
       เมื่อทรงดำรัสแล้วก็ทรงหันไปทางทหารชายหญิงทรงเรียกให้ สินธุกาฬ 
วารินสีห์  เกศแก้ว และปิ่นมณี    รีบติดตามพระขนิษฐาพระองค์เหาะลงไปยังยอดเขา
นิละวานรคีรีมาศทันที  ครั้นเจ้าหญิงปทุมวดีเสด็จลงไปก็พบทหารของเมืองสิงหะนคร
เข้ามาขวางกั้นมิยอมให้เสด็จผ่านเข้าไป   องค์เจ้าหญิงปทุมวดีพระองค์ซึ่งมีพระอุปนิสัย
หุนหันพลันแล่นอยู่แล้วก็ทรงขัดเคืองพระหฤทัยยิ่งนักมิได้สอบถาม พลันตวาดเสียงลั่น
พระองค์จึงทรงรับสั่งให้ สินธุกาฬและปิ่นมณี เข้าสู่รบกับทหารของสิงหะนครทันที
  สินธุกาฬและปิ่นมณีก็มีนิสัยดั่งเจ้าหญิงปทุมวดีต่างชักอาวุธประจำตัวประกอบด้วย
ดาบประกายสีทองประกายแวววับและมีดคู่ประกายเขียวดั่งมรกตส่งประกายแวววาว
เมื่อทั้งสองชักอาวุธออกมาพ้นฝักด้วยอำนาจอาวุธทั้งสองพลันส่งประกายโชติช่วง
สว่างไสวไปทั่วบริเวณเกิดพลังพายุหมุนเข้ากระแทกเหล่าทหารสิงหะนครต่างปลิว
กระเด็นไปทั่ว  ทำให้ทหารสิงหะนครต่างพากันส่งเสียงร้องเอะอะโวยวายดังสนั่นลั่น
เสียงดังกึกก้อง  แต่ก็มิยอมหยุดยั้งเมื่อตั้งตัวได้ต่างก็รีบทะยานพร้อมชักอาวุธตรงเข้า
เพื่อเข้าสู้รบกับทหารของเจ้าหญิงปทุมวดีทันที   หาได้มีความเกรงกลัวต่ออำนาจพายุ
ทั้งปวงก่อนที่การต่อสู้จะถึงเข้าปะทะกันจนถึงแก่จะถึงเสียเลือดเนื้อไปนั้น
     เสียงร้องของเหล่าทหารได้ยินกึกก้องดังไปถึงองค์พระยุพราชและเจ้าหญิงเฌอมาลย์
 ทั้งสามพระองค์ให้สงสัยเสียยิ่งนัก  จึงได้รีบเสด็จออกมาทันทีครั้นทรงแลเห็นเจ้าหญิง
ปทุมวดีก็ทรงพระปรีดิ์เปรมฤทัยยิ่งนัก  รีบตรงเสด็จไปห้ามทหารของพระองค์ที่กำลังต่อสู้
และรีบเสด็จส่งเสียงทักทายไปยังเจ้าหญิงปทุมวดีทันที เมื่อเจ้าหญิงปทุมวดีทอดพระเนตร
เหลือบแลมาเห็นเจ้าหญิงเฌอมาลย์ก็ทรงแปลกพระหฤทัยยิ่งนัก ตรัสสั่งให้สินธุกาฬและ
ปิ่นมณี ถอยออกมา  ครั้นทหารหญิงชายทั้งสองต่างพากันเก็บอาวุธเข้าฝักแล้วรีบถอยทันที  
        เจ้าหญิงปทุมวดี หันมาทักทายเจ้าหญิงเฌอมาลย์ด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้มทรงตรัสว่า
   “อ้าวหญิงใยจึงมาอยู่ที่นี้ล่ะ นึกว่ามีศัตรูบุกรุกอาณาเขตบนแนวเขานี้จัดตั้งเป็นกองทัพ
อ้าวนั่นใครล่ะที่ยืนอยู่ข้างหญิงนะ”
       เมื่อทรงตรัสแล้วก็รีบตรงเสด็จเข้ามาหาพร้อมน้อมพระวรกายทำความเคารพเจ้าหญิง
เจ้าหญิงเฌอมาลย์ก็รีบเสด็จมาเข้าสวมกอดเจ้าหญิงปทุมวดีด้วยความดีพระทัยยิ่งนัก 
 พลางทรงหันไปแนะนำเจ้าชายสิงหะฤทธาและเจ้าชายโกเมศกุมารให้เจ้าหญิงปทุมวดีได้รู้จัก
พร้อมแจ้งถึงเหตุการณ์ต่างๆถึงความพระประสงค์ของเจ้าชายทั้งสองที่จัดตั้งกองทัพบนเขา
ให้เจ้าหญิงปทุมวดีทรงทราบทุกประการ  ครั้นเมื่อเจ้าหญิงปทุมวดีทรงทราบกระจ่างดีดังนั้น
เจ้าชายทั้งสองซึ่งยืนรับฟังอยู่ก็เข้ามาแสดงความคาราวะแก่เจ้าหญิงปทุมวดีเพราะทราบก่อน
แล้วว่าเป็นพระชายาขององค์ท่านทัศยุราชันย์แห่งนาครินทนาครซึ่งมีฐานันดรสูงกว่าพระองค์นัก
    ครั้นเหตุการณ์เป็นดั่งฉะนี้แล้วเจ้าหญิงปทุมวดีก็ทรงตรัสแก่ปิ่นมณีซึ่งยืนเฝ้ารักษาเจ้าหญิง
      “ปิ่นมณี   เจ้าจงไปทูลอัญเชิญองค์หญิงมณีกานต์ตลอดจนไพร่พลให้เสด็จลงมายังสถานที่นี้
ได้แล้ว  เราและเจ้าพี่หญิงตลอดองค์พระยุพราชทั้งสองจะรอเฝ้าพระองค์เสด็จยังที่นี้นะ ”  
     “เพค่ะ”  ปิ่นมณีรับพระบัญชา ก็รีบเหาะกลับไปเฝ้าเจ้าหญิงมณีกานต์ทันที
       ครั้นเจ้าหญิงมณีกานต์ทรงทราบก็นำกองทัพเหาะลงมายังพลับพลาแล้วก็ทรงแลเห็น
เจ้าหญิงปทุมวดี เจ้าหญิงเฌอมาลย์และเจ้าชายทั้งสอง  กำลังยืนรอเฝ้ารับเสด็จพระองค์อยู่
เมื่อถึงทั้งหมดยืนอยู่   องค์พระยุพราชสิงหะฤทธา ก็ทรงน้อมพระวรกายทูลถวาย
บังคมพร้อมเจ้าชายโกเมศกุมารและเจ้าหญิงเฌอมาลย์ทันที อัญเชิญเข้าสู่ยังพลับพลาก่อน
 ด้วยองค์ชายสิงหะฤทธาทรงทราบแล้วว่าเจ้าหญิงมณีกานต์ทรงเป็นกษัตริย์แห่งรัตนานคร
อีกทั้งพระองค์ยังเป็นพระอัครมเหสีฝ่ายซ้ายขององค์ทัศยุราชันย์แห่งนาครินทนาคร
      ครั้นดำเนินมาถึงพลับพลาอัญเชิญเข้าภายในทรงประทับเป็นที่เรียบร้อย ต่างก็พากัน
ถามไถ่สาเหตุทุกข์สุขต่างๆกัน    ครั้นพระองค์ทรงทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่าง
เจ้าชายสิงหะฤทธากับเจ้าหญิงเฌอมาลย์แล้วพระองค์ทั้งสองก็ทรงพึงพอในพระราชหฤทัย
ยิ่งได้สนทนาปราศรัยกันก็ยิ่งทรงชื่นชมในพระอัชฌาสัยขององค์พระยุพราชทั้งสอง
 ถึงกับพระองค์ทรงตรัสชมเชยเจ้าหญิงเฌอมาลย์ที่มีพระเนตรทัศน์วิสัยกว้างไกลมาก
และทรงพระหยอกล้อเจ้าหญิงเป็นที่ขวยเขินแก่เจ้าหญิงเฌอมาลย์  จนพระองค์ทรงมี
พระพักตร์แดงฉาน เมื่อทรงความเป็นไปมากันกระจ่างดีแล้วก็ทรงร่วมเข้าปรึกษาวาง
แผนการต่างๆ และทรงเห็นด้วยที่จะให้องค์พระยุพราชทั้งสองจะวางกำลังไพร่พลไว้ที่นี้
เพื่อคอยประสานทางด้านนอกไว้และคอยเข้าโจมตีทหารของท้าวนิลกาฬและเจ้านครต่างๆ
เมื่อได้โอกาสอำนวยดีกว่าจะยกทัพเข้าเมืองนาครินทนาคร อาจทำให้องค์นิลกาฬสงสัย
รู้ตัวแล้วเปลี่ยนแปลงกลศึกเสียใหม่ก็จะทำให้ลำบากยากยิ่งขึ้น
      ส่วนพระองค์และเจ้าหญิงปทุมวดีจะเข้าไปยังเมืองนาครินทนาครพร้อมกับกองทัพ
พร้อมจะทูลให้องค์ทัศยุราชันย์ทรงทราบความเป็นไปมาด้วยพระองค์เอง  ถึงเหตุผลต่างๆ
ที่ได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากองค์พระยุพราชทั้งสอง   ครั้นได้เวลาพอสมควรแก่การเวลา
เจ้าหญิงมณีกานต์และเจ้าหญิงปทุมวดีก็กล่าวลา พร้อมเสด็จขึ้นยังพระยาราชสีห์และคชสีห์
นำทหารชายหญิงมุ่งตรงเข้าสู่กำแพงแก้วนครนาครินทนาคร  เมื่อครั้นทรงเสด็จมาถึงบริเวณ
     รัศมีที่คอยคุ้มครองนครก็ค่อยผ่อนคลายอำนาจลงยินยอมให้เอกอัครมเหสีและพระชายา
ในส่วนเหล่าทหารชายหญิงนั้นต่างก็ได้รับทานผลไม้วิเศษและน้ำอำมฤตจากท่านมหาราชครู
เป็นอำนาจที่ใช้ผ่านทางเข้าเมืองได้   เมื่อลุล่วงผ่านเข้าสู่กำแพงเมืองแล้วก็ทรงนำเหล่าทหาร
มุ่งเข้าสู่พระตำหนักด้านในทันทีผ่านทหารรักษาเมืองก็ให้การถวายการต้อนรับผ่านไป
        ภายในพระตำหนักก็ทรงแลเห็นเจ้าหญิงดาริกาพร้อมองค์ท้าวทัศยุราชันย์กำลังทรง
ยืนรอรับเสด็จอยู่หน้าพระตำหนัก ด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้มแจ่มใสยิ่งนัก
 เจ้าหญิงทั้งสองครั้นแลเห็นก็รีบเสด็จลงจากราชพาหนะก็น้อมพระวรกายถวายบังคม
ท่านท้าวทัศยุราชันย์และเจ้าหญิงดาริกาซึ่งตรงเข้ามาสวมกอดองค์หญิงทั้งสอง
ทั้งสองพระองค์  พลางองค์ท้าวเธอทรงตรัสด้วยความดีพระทัยว่า
      “รบกวนน้องหญิงทั้งสองยิ่งนักแล้ว พี่นั้นเฝ้าคิดถึงอยู่ตลอดเวลาจนน้องดาริกาทรงเย้า
หลังจากที่ฟื้นคืนกลับมานี้ยังไม่ได้ประสบพบเห็นน้องอย่างแต่ประการใด ครั้นจะไปพบ
ยังเมืองน้องหญิงก็พอดีมาเกิดเหตุทางนี้เสียก่อน  หวังว่าน้องหญิงคงจะเข้าใจเราดีนะ”
 พร้อมทั้งหันพระพักตร์ไปกล่าวแก่เหล่าสนมกำนัลให้นำทหารชายหญิงและราชพาหนะ
ของเจ้าหญิงทั้งสองไปยังที่สถานรับรองต้อนรับทรงกำชับอย่าให้ขาดตกบกพร่องอย่างใด
        เจ้าหญิงมณีกานต์และเจ้าหญิงปทุมวดี ทรงเขม่นมองพระวรกายองค์ท้าวเธอเห็น
พระวรกายแจ่มใสประกายสีทองเจิดจ้าหลากสียิ่งนัก ต่างก็ทรงรำพึงถึงอดีตความหลัง
ก่อนเก่าหาได้มีประกายเจิดจ้าดั่งฉะนี้   ยิ่งทรงแปลกพระราชหฤทัยในพระองค์ยิ่งนัก
 ก็ยิ่งทรงปลาบปลื้มในองค์พระสวามีกว่าเดิมอีก พระวรกายทั้งสองพระองค์ก็เริ่มสั่นสะเทิ้ม
ภายในทั้งจิตใจก็ยิ่งหวั่นไหวนัก    ยามเมื่อองค์ท่านท้าวเธอทรงเข้าประคองพระวรกายโอบ
เจ้าหญิงทั้งซ้ายขวาไว้ในอ้อมพระหัตถ์ก็ยิ่งทรงสั่นสะท้านพระหฤทัยจนถึงกับหลั่งน้ำพระเนตร
สะอึกสะอื้นไห้พลางซบพระพักตร์เข้ากับพระอุระทรงพระกรรแสงมิได้ขาด  จนองค์หญิงดาริกา
ที่ยืนเฝ้าทอดพระเนตรดูก็ทรงที่จะอดหลั่งน้ำพระเนตรตามไปด้วยอีกพระองค์หนึ่ง
         ท่านองค์ท้าวเธอทัศยุราชันย์ก็ทรงพระดำรัสเฝ้าปลอบประโลมเจ้าหญิงทั้งสามพระองค์ว่า
   “น้องหญิงทั้งสามจงฟังไว้  พี่นี้จะขอให้สัจจะวาจาแก่เธอทั้งหลายว่า ต่อแต่นี้เป็นต้นไป
หากมาดแม้นมิสิ้นพระชนม์ชีพไปในงานศึกครั้งนี้แล้ว จะขออยู่เคียงเธอมิหนีหายไปไหน
อีกแล้ว”   
เมื่อทรงตรัสแล้วก็ดึงร่างองค์หญิงทั้งสามเฝ้าลูบไล้ปลอบประโลมใจจนเจ้าหญิงทรงสร่างลง
เมื่อเห็นว่าเจ้าหญิงทั้งสามทรงมีพระอาการดีมากขึ้นแล้วพระองค์ก็ทรงตรัสขึ้นอีกว่า
     “ต่อไปนี้เราจะมิให้น้องหญิงมณีกานต์และปทุมวดีพรากจากเราอีกอยู่ร่วมกันที่นี่
พร้อมๆกันมิให้ห่างหายไปไหนได้อีกแล้วล่ะอยู่ร่วมกันทั้งหมดนี่แหละนะ”
    เมื่อตรัสแล้วก็ทรงประทับจูบลงบนพระพักตร์เจ้าหญิงทั้งสามทันที  สร้างความ
ปลาบปลื้มประโลมใจยิ่งนักแก่เจ้าหญิงจนทรงพระสะอื้นพากันซบพระพักตร์บน
พระอุระพระอังสาองค์ทัศยุราชันย์ทุกๆพระองค์
       มวลเหล่านางสนมกำนัลทั้งหลายก็ค่อยๆทยอยออกไปจากพระตำหนักจนหมดสิ้น 
เพื่อออกไปรอรับพระบัญชายังนอกพระตำหนัก คงปล่อยให้ทรงพระเกษมสำราญปรับทุกข์สุข
ต่อซึ่งกันและกัน  องค์หญิงมณีกานต์และเจ้าหญิงปทุมวดีต่างก็พากันเล่าเรื่องถึงองค์ชายแห่ง
สิงหะนครและทันทะกะนครอันมีเจ้าหญิงเฌอมาลย์จะทรงเข้ามาช่วยเหลือในการศึกครั้งนี้ 
โดยมีเจ้าหญิงเฌอมาลย์เป็นผู้ประสานงานร่วมด้วย จัดตั้งกองกำลังยังบนยอดเขาทั้งสอง
 ก่อนจะมานั้นองค์ยุพราชทั้งสองก็ทรงแจ้งให้ทราบว่าได้รับหนังสือลับจากองค์พระยุพราช
วานนรินทร์แห่งปักษินนครส่งมาว่าจะขอเข้าร่วมเป็นพระพันธมิตรอีกทางหนึ่งด้วยอีกพระองค์หนึ่ง
      เมื่อองค์ท้าวเธอทัศยุราชันย์และเจ้าหญิงดาริกา  ครั้นได้รับทราบจากองค์หญิงทั้งสอง
ก็ให้ทรงพระเกษมฤทัยยิ่งนักทรงตรัสขึ้นอย่างดีพระทัยว่า
      “ถ้าอย่างนั้นเราเห็นทีศึกครั้งนี้ที่คิดว่าหนักหนาสาหัสนัก ซึ่งคงจะเป็นไปตามฟ้าดินได้ลิขิต
เช่นนี้ทำให้เมืองทั้งสามนั้นทรงแปรเปลี่ยนพระหฤทัยแล้ว หรืออาจจะเป็นกระแสกรรม
ของท่านท้าวนิลกาฬที่จะถูกลงโทษโดยฟ้าดินมิอำนวยในการกระทำซึ่งครั้งนี้นั้น เราคิดว่า
เหตุการณ์คงจะเบาบางลงมิสาหัสหนักหนาดังที่คิดคาดไว้แล้วแต่ประการใด  อันเนื่องด้วยเป็น
เพียงแค่ทำศึกเพียงสองด้านเท่านั้นเอง  เห็นว่าเราทั้งหมดควรจะไปแจ้งให้ท่านพ่อปู่ราชครูทราบ
ด้วยตัวเองเพื่อฟังคำท่านพ่อปู่จะมีความคิดเห็นว่าดีร้ายเป็นประการใด  น้องหญิงเห็นชอบด้วย
ประการใดหรือไม่ล่ะ”
       “ถ้าอย่างนั้น เราก็ไปเสียบัดนี้ทั้งหมดดีไหมเพค่ะ” องค์หญิงดาริกาทรงดำรัส
        “เห็นด้วยที่พี่หญิงดาริกาทรงตรัสมาเพค่ะ”  เจ้าหญิงทั้งสองต่างทูลพร้อมเพรียงกัน
    เมื่อเป็นดังฉะนี้แล้วองค์ท้าวเธอจึงรีบทรงนำเจ้าหญิงทั้งสามเสด็จเข้าไปพบท่านพ่อปู่ราชครู
ยังพระตำหนักด้านหลังทันที
        ครั้นมาถึงที่ยังพำนักของท่านมหาราชครู ต่างพระองค์ก็เสด็จเข้าไปข้างในก็แลเห็น
ท่านมหาราชครูกำลังนั่งอ่านหนังสือตำราพิชัยสงครามอยู่  ท่านพ่อปู่มหาราชครูครั้นแลเห็น
เหล่าหน่อกษัตริย์เสด็จมาก็รีบลุกขึ้นน้อมก้มกายแล้วทรงเชิญเข้าประทับยังพระราช
อาสน์  กล่าวขึ้นว่า
       “ลมอันใดหรือที่ทรงนำมหาราชและองค์หญิงทั้งหลายเสด็จมาด้วยเหตุอันใดฤา”
       “เรามีเรื่องที่ต้องขอคำแนะนำจากพ่อปู่ ด้วยได้รับทราบจากน้องหญิงทั้งสอง
				
ภาพประกอบทั้งหมดนี้เป็นของคุณ  เฌอมาลย์ ขอรับท่าน...แก้วประเสริฐ.				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    29 พฤศจิกายน 2549 15:18 น. - comment id 93968

    เจ้าหญิงมณีกานต์มาแล้วค่ะ
    
    มาชื่นชมหญิงกล้าค่ะ
    ถ้ากานต์เก่งแบบนี้จริงๆก็ดีสิคะคุณลุง
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • เฌอมาลย์

    29 พฤศจิกายน 2549 18:24 น. - comment id 93972

    511eekk0.gif
    
    หมั่นไส้เจ้าหญิงมณีกานต์เพคะ เด็ดพี่..11.gif
    
    อ่านแล้วนึกถึงองค์หญิงกำมะลอ แสดงทางช่อง3 จริงๆ คริคริ 65.gif
  • เฌอมาลย์

    29 พฤศจิกายน 2549 18:30 น. - comment id 93973

    att888ks7.gif
  • เฌอมาลย์

    29 พฤศจิกายน 2549 18:32 น. - comment id 93974

    sleeplessnights2nb4.gifshirleysdollz4rg0.gifshirleysdollz3xr9.gif
  • เฌอมาลย์

    29 พฤศจิกายน 2549 18:33 น. - comment id 93975

    say12vr3.gif
  • เฌอมาลย์

    29 พฤศจิกายน 2549 18:34 น. - comment id 93976

    say9er5.gif
  • เฌอมาลย์

    29 พฤศจิกายน 2549 18:36 น. - comment id 93977

    say10nf8.gifsecretidentities1no1.gif
  • เฌอมาลย์

    29 พฤศจิกายน 2549 18:37 น. - comment id 93978

    sf011048701022yger0.gifsf011148401029nhxv6.gif
  • ทางแสงดาว

    29 พฤศจิกายน 2549 18:52 น. - comment id 93979

    57.gifคุณชาย....ปทุมวดีก้อมาเหมือนกันเจ้าค่ะ...29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    30 พฤศจิกายน 2549 06:44 น. - comment id 93985

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เพียงพลิ้ว
    
              ผมมานึกๆดูผู้หญิงที่มาที่นี่นะครับล้วนเก่งๆ
    กันทุกๆคนเลยครับ ผมทดสอบดูเห็นผู้หญิงมีมาก
    กว่าผู้ชายซะอีกครับ เรียกกันว่ากินขาดกันเลยล่ะ
    แสดงถึงความอาจหาญชาญชัยมากจริงๆนะครับ
    ผมเลยแต่งเรื่องนี้ให้ผู้หญิงเก่งกว่าผู้ชายซะเลย อิอิ
    
                           16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    30 พฤศจิกายน 2549 06:46 น. - comment id 93986

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เฌอมาลย์
    
             ผมว่าเก่งกันพอๆกันแหละครับ ไงไปองค์หญิง
    กำมะลอไปได้นะครับ แต่ช่างเถอะเป็นว่าผู้หญิงใน
    เรื่องนี้เก่งกว่าผู้ชายมากครับ ฮ่าๆๆๆแล้วอ่านไป
    ก็จะทราบเองแหละครับ
    
               16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    30 พฤศจิกายน 2549 06:49 น. - comment id 93987

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ทางแสงดาว
    
               จ้าเจ้าหญิงปทุมวดีเปิดเผยตัวแล้วนะครับ
    ฮ่าๆๆ  ครับต่อไปสนุกๆสนานกันมากครับแล้วจบ
    โอ้ยไม่บอกให้ติดตามเองดีกว่านะครับรับรองว่า
    ไม่จบแบบห้วนๆแน่นอนเลยล่ะ
    
                   16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน