** ทัศยุราชันย์ (แปลกถิ่น) **

แก้วประเสริฐ


                                              ** ทัศยุราชันย์**
                                                     บทที่  ๒
                                                    แปลกถิ่น
        “ ตื่นเถอะคุณ...ๆ”  เสียงเรียกเบาๆดังขึ้นริมหู    
          “ นี่เกือบเที่ยงแล้วล่ะน๊ะ “  
          “รีบแต่งตัวเถอะเดี๋ยวต้องไปพบ “ท่านพ่อปู่ ”ท่านกำลังคอย อย่าช้านะจ๊ะ ” เสียงหญิงสาวเรียกรีบเร่ง
   ชายหนุ่มลืมตาขึ้นแล้วขยี้นัยน์ตาพลางหันมอง พบใบหน้าของหญิงสาวที่เคยพบกำลังถือเสื้อผ้าเรียกอยู่
พร้อมก้มมองตัวเองซึ่งมีเพียงแค่กางเกงขาก๊วยและผ้าขาวม้าผืนเดียวเท่านั้น ส่วนมีดและเชือกเถาวัลย์ไม่รู้
อยู่ตรงไหนหรือหล่นหายไปพร้อมกับสายน้ำคราวหนีน้ำหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน กระพริบตาถี่ๆแล้ว
ค่อยๆลุกขึ้นนั่งมองอย่างงวยงง พ่อปู่ไหนหรือเขาคิด  ก็พบเพียงหล่อนคนเดียวเท่านั้นยังมีใครอีกหรือ
แต่ไม่ได้ถามอะไรมากมาย เพราะปกตินิสัยเขาก็ไม่ค่อยชอบพูดจาวิสาสะกับใครๆอยู่แล้ว เมื่อรำคาญชาวบ้าน
ก็จะรีบแต่งตัวเข้าป่าทันทีเพื่อให้พ้นๆไปเสียจากการพูดจาต่างๆนานา มักจะชอบวิจารณ์เรื่องไม่ใช่เรื่องของตน
แต่กับไปวิจารณ์เรื่องของคนอื่น บางครั้งก็จะเกิดการทะเลาะวิวาทกันอยู่เสมอๆ เขาอยู่ตัวคนเดียวตั้งแต่พ่อแม่
ได้ทิ้งเขาไปเมื่อเริ่มวัยหนุ่ม เขาก็มิได้ติดพันใครๆทั้งสิ้น ญาติพี่น้องรึก็ไม่มี
               พ่อแม่ก็นิสัยเหมือนเขาคือไม่ค่อยชอบพบปะมักจี่กับใครๆนอกจากทำหน้าที่ภายในบ้านเท่านั้น 
จะมีบ้างก็เป็นงานประจำหมู่บ้านเท่านั้นหรือประชุมบางครั้งบางคราว ต่างคนต่างหากินกันไปตามอัตภาพ
ฉะนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรนอกจากยิ้มแล้วยืนมองหล่อน พร้อมทั้งกล่าวขึ้นว่า
         “ จะไปล้างหน้าและอาบน้ำที่ไหนล่ะจ๊ะ  ไม่เห็นมีน้ำที่ไหนเลยนอกจากแก้วหินเหล่านี้ ” ชายหนุ่มถาม
หล่อนยิ้ม   จนเขาต้องอดชมในใจเสียมิได้ว่าหล่อนช่างงามอะไรเช่นนี้ ผิดกับหญิงชาวบ้านป่าทั่วๆไปราว
ฟ้ากับดินทีเดียว  ใบหน้าเรียวกลมรับกับคิ้วจมูกปากราวกับถูกปั้นจากเทวดาตามที่เห็นจากปฏิทินรูปนางฟ้าจัง
เออ...แต่นี่อะไรๆก็ดูแปลกตาแปลกใจไปเสียทั้งหมดหรือว่าเป็นถิ่นสถานของเทวดาจริงๆน๊ะ เขาคิดรำพึง
        “เร็วๆเถอะจ๊ะ ท่านพ่อปู่คอยนานไม่ได้ ” หล่อนเร่งเขา
          “ เดี๋ยวก่อนจ๊ะ...เออๆ!!...ท่านมีชื่ออะไรหรือ...ตั้งแต่มายังไม่ทราบชื่อท่านเลยล่ะ” 
          “ อ้าๆๆ...ผมเองชื่อทัดจ๊ะ ทัดบ้านป่า...”  ชายหนุ่มถามพร้อมแจ้งชื่อให้หล่อนทราบ
          “ จะรู้ไปทำไมจ๊ะ เพราะเราก็ต้องจากกันอีกแล้วน๊ะ”  หล่อนติง
          “ อ้อ..เพื่อฉันจะได้จดจำผู้มีคุณแก่ฉัน ก็เท่านั้นเองแหละจ๊ะ” 
          “ สักวันหนึ่งแวะมาแถวๆนี้จะได้มาเยี่ยมเยียนจ้า”  ชายหนุ่มอ้อนพร้อมเผยยิ้มที่คิดว่าตัวเองจะยิ้มได้งาม
          “ ช่างเถอะ...เดี๋ยวคุณก็รู้เองแหละน่า”  หญิงสาวก้มหน้าตอบเพื่อหลบสายตาของชายหนุ่ม
          “ หากไม่ทราบชื่อคุณ ผมว่าไม่ไปดีกว่านะ เพราะเดี๋ยวท่านพ่อปู่ถามก็ไม่รู้ว่าใครช่วยเหลือผมซิ” เขาตอบ
    พร้อมทั้งทำท่าจะเอนตัวลงนอนต่อ หากไม่ได้รับคำตอบจากหญิงสาว  ทำให้หญิงสาวลังเลใจไปสักครู่
          “ อันที่จริงไม่สำคัญอะไรหรอกนะ แต่ว่าเฮอะๆๆช่างเถอะ  ฉันชื่อ “ดาริกา”  อย่ามัวโอ้เอ้เลยเร็วๆเข้า”
          “เพราะท่านพ่อปู่จะต้องรีบไป ให้มาเร่งก่อนท่านจะไปน๊ะ” หล่อนก้มหน้าตอบเขา
          “ แค่นี้แหละ..ทำหวงชื่อไปได้ ไม่เห็นจะน่าหวงเลยชื่อก็ไพเราะเหมือนดวงดาว ไม่เห็นเหมือนตัวตุ่นเลย”
     เจ้าหล่อนทำตาโต คิดจะพูดแต่ก็นิ่งเสียพร้อมวางเสื้อผ้าไว้ที่โต๊ะหินข้างๆ เดินหลบไปพร้อมเสียงกำชับ
          “แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยด้วยล่ะ  อ๋อ...น้ำอยู่หลีบหินโน้นแน๊ะ”  พร้อมชี้มือบอกทางเขา แล้วก็เดิน
หนีไปยังหลีบหินอีกด้านหนึ่ง คอยให้ชายหนุ่มชำระร่างกายแต่งตัวเสร็จจะมารับ
           “ อ้าวๆๆแล้ว ดาว จะไปไหนล่ะ ไม่รอก่อนรึ” เมื่อเห็นหล่อนเดินจะเข้าหลีบหินข้างหน้า
         “ ฉันชื่อดาริกาย๊ะ...มิใช่ ดาว น๊ะ...ฮึๆๆๆดาว ดาว เอ๊ะก็ไพเราะดีนี่นา “ หล่อนท้วงพร้อมอมยิ้มเหมือน
จะรู้สึกพึงพอใจต่อคำว่า “ดาว” เสียจริงๆ พร้อมทั้งรีบเดินหนีไปไม่ฟังคำท้วงติงใดๆจากชายหนุ่มอีก
         เขารีบลุกขึ้นเดินไปยังที่หลีบหินที่หล่อนบอกทางให้เมื่อพ้นหลีบหินก็เห็นเป็นลานกว้างพอประมาณ
ตรงกลางเป็นแอ่งน้ำใสสะอาดไม่ใหญ่และกว้างนักประมาณสองสามวาเห็นจะได้ มีหินย้อยหลากสีส่งประกาย
ระยิบระยับแพรวพรายส่งสะท้อนแสงแวววับช่างงดงามอะไรเช่นนั้น แต่แต่น้ำในแอ่งก็ยังส่งประกายหลากสี
เช่นกัน เรียกได้ว่าตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยได้พบเห็นอะไรจะงามเท่าสถานที่นี้อีกเลย
        “ แล้วเราจะปลดทุกข์หนักได้อย่างไรเล่าหว่า” ชายหนุ่มรำพึงกับตัวเอง แต่ทว่าเหมือนจะมีอะไรมาดลใจ
ทำให้ต้องเหลือบไปมองตรงหลีบหินตรงมุมสุดของลานหินเห็นเป็นหินเหลื่อมซ้อน  เขาจึงเดินไปสถานที่
ดังกล่าวจะเป็นตามที่เสมือนมีอะไรดลใจหรือไม่  ก็ต้องแปลกใจที่ความคิดอ่านช่างตรงกันเสียเหลือเกิน
เพราะสถานที่นี้ก็เป็นสถานที่ใช้สำหรับปล่อยทุกข์จริงๆด้วย   เขาจึงรีบจัดการทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ
พร้อมทั้งชำระร่างกายไปด้วย แล้วเดินออกมาเพื่อล้างหน้าอาบน้ำ แต่ทว่าพอหันหลังกลับไปมองอีกครั้ง
ก็ต้องสะดุ้งในใจเพราะบริเวณเมื่อกี้นี้หายไปกลับเป็นเพียงหินย้อยที่ย้อยลงไปจัดเป็นม่านเล็กๆเท่านั้นเอง
        “ ฮึๆๆหรือว่าพวกเทวดาไม่ต้องปล่อยทุกข์หนักดังเช่นเรา”  เขาคิดคำนึง เพราะที่นี้อะไรๆก็แปลกๆ
อยู่แล้วล่ะ
        “ มันเป็นวาสนาหรือเคราะห์แน่โว้ย” เขารำพึงกับตัวเอง พร้อมรีบจัดการกับตัวเองลงอาบน้ำในแอ่งน้ำ
        “ อ้าวๆๆไม่มีอะไรถูตัวหรือ เอ๊ะก้อนหินสีนี้มีกลิ่น เอาล่ะเอาไอ้นี่แทนก็ได้” เขาคิดพร้อมทั้งนำหินสี
นั้นมาทำความสะอาดร่างกาย  แล้วก็ต้องสะดุ้งในใจเพราะปรากฏว่าใช้ชำระร่างกายได้ดีกว่าสบู่ที่เขาทำขึ้น
ใช้เสียอีก ความรู้สึกว่าร่างกายช่างสะอาดสะอ้านกว่ากัน พร้อมทั้งเร่งตัวเองแล้วขึ้นจากแอ่งน้ำ
         “ตายล่ะหว่า  เสื้อผ้าที่เขาเอามาให้อยู่ข้างนอกโน่น จะเดินไปเอาก็กลัวสาวเจ้าจะมาเห็น ทำไงดีล่ะ”
แต่แล้วความคิดก็นึกถึงผ้าขาวม้าได้จึงรีบนำมาคาดนุ่ง พร้อมทั้งหยิบกางเกงเดินออกไปบริเวณลานถ้ำนั้น
        พร้อมทั้งจัดการรีบผลัดเปลี่ยน พอหยิบขึ้นมาเห็นเป็นกางเกงเช่นขาก๊วยก็ค่อยโล่งอกไป เพราะเขา
คิดว่าจะเป็นผ้าถุงหรือผ้าสำหรับนุ่งโจงกระเบนเช่นคนแก่ๆในหมู่บ้านเขาใช้นุ่งกันเสียอีก เพียงแต่ว่ากางเกง
นั้นเป็นสีลายแปลกตา ตรงขอบทั้งด้านล่างบนเป็นขลิบลายทองริมขากางเกง ส่วนด้านบนเป็นรูปคล้ายดอกไม้
กำลังบานช่างเถอะรูปอะไรก็ช่าง   แล้วหยิบเสื้อขึ้นมาดูเป็นเสื้อไร้แขนบางเบาใสมีขอบทองทั้งปกและขอบเสื้อ
        “จะใส่ไปทำไม  ใส่หรือไม่ใส่ก็คงเหมือนกันแหละบางอย่างนี้” เขาคิด  แต่พอสวมเสื้อดังกล่าวแล้วมองตัว
เองก็พบว่าไม่สามารถแลเห็นเนื้อตัวเองเลยซ้ำยังอบอุ่นเย็นๆอย่างประหลาด รู้สึกตัวชักเบาๆอย่างไรชอบกล
        “ช่างเถอะ มาถึงขั้นนี้แล้วอะไรจะเกิดให้มันเกิดไป” เขารำพึงตัวเอง พร้อมทั้งหันมองหาหญิงสาวคนนั้น
ก็เห็นเจ้าหล่อนเดินยิ้มออกมา แล้วยืนตะลึงจ้องมองดูเขาแต่งตัว รู้สึกตัวเจ้าหล่อนจะเบิกตากว้างเป็นพิเศษ
เหมือนจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง
        “เหมือนผิดกันเป็นคนละคน”  หล่อนยืนรำพึง
        “ เรียบร้อยแล้วหรือ  ทีแรกนึกว่าเต่าใส่เสื้อเสียอีก ผิดคาดจริงๆ ฮึๆๆ”  สาวเจ้ากล่าวหัวเราะเบาๆ
พร้อมทั้งเดินมาดึงแขนเขาเพื่อนำเขาออกไป
        “เดี๋ยวก่อนๆ ”  
        “ อะไรอีกล่ะ “
        “เปล่าหรอก....!!!.... ฉันคงหล่อนะซิ ฮิๆๆ” เขากระเซ้าหล่อน
        “จะบ้าหรือ...คนอะไรหลงตัวเอง รีบไปเถอะ” หล่อนปล่อยแขนเขา พร้อมก้มหน้าสะเทิ้นอาย
        “ บอกตรงๆนะเธอ...ตั้งแต่ผมเกิดมาเป็นหนุ่มนี่ยังไม่เคยเห็นใครสวยเท่าเธอเลยล่ะ”  เขายืนอมยิ้ม
        “ ช่างเถอะๆ  เธอก็หล่อจริงๆนี่  อุ๊ย บ้าบอเหมือนคุณไม่มีหรอก  ไปๆๆๆรีบไปเถอะพ่อปู่จะคอยนาน”
   หล่อนหันมาตอบพร้อมรีบเดินนำทางเข้าไปยังหลีบหินด้านที่หล่อนเดินออกมา   เขารีบเดินตามหลังหล่อน
ก่อนนั้นเคยมาสำรวจเห็นเป็นโพรงใหญ่พอประมาณมืดสนิท แต่พอเธอเดินผ่านพลันก็ปรากฏแสงเรืองรอง
กระจายไปทั่วบริเวณนั้นเป็นบริเวณกว้างพอประมาณใช้สำหรับเดินได้สักสามสี่คนเห็นจะได้ เป็นทางราบ
แต่คดเคี้ยวไปมา ข้างฝาผนังถ้ำส่งประกายสีขาวนวลอมแดงชมพูตลอดแนวทางเห็นสองข้างทางปูไปด้วยหิน
หลากสีเล็กๆส่งประกายใสสดแวววาวไปทั่วราวกับมณีที่ต้องแสงอาทิตย์ก็มิปานระยิบระยังพร่างพราวไปหมด
          สักพักหนึ่งก็แลเห็นปากทางออกเป็นแสงสว่างสีเขียวขจีสดใส    หล่อนและเขายืนหยุดตรงนั้นเห็นหล่อน
ยกมือแล้วทำปากขมุบขมิบเหมือนจะท่องอะไรสักอย่างหนึ่ง เขายืนมองอย่างสงสัยแต่มิได้กล่าวถามอะไรหล่อน
คงยืนดูหล่อนเฉยๆ  สักครู่ปรากฏตรงกลางแสงสว่างสีเขียวนั้นคล้ายมีบานประตูเปิดออก  หล่อนหันมามองเขา
พร้อมเร่งให้รีบเดินตามหล่อนอย่าได้ห่างไกลนัก  ทั้งสองเดินผ่านประตูนั้นเข้าไปแต่เขาอดเสียมิได้ที่ต้องหันหลัง
กลับไปมองทางออกอีกปรากฏว่าทั้งแสงและประตูนั้นหายไป เป็นเพียงผนังหินกั้นธรรมดาเท่านั้นเอง
         แล้วหันหน้ากลับแต่อนิจจา  เขาต้องตกตลึงพึงเพริศต่อภาพต่างๆอีกครั้งเพราะบริเวณที่เขาแหละหล่อน
ยืนอยู่เป็นบริเวณกว้างเต็มไปด้วยไม้นาๆพันธุ์ชนิด ทั้งสองด้านเป็นภูเขาขึ้นกั้นทางไว้แต่แปลกกว่าภูเขาทั่วๆไป
เพราะเขาแต่ละลูกมีประกายแสงส่องออกมาจากด้านหลังเป็นแสงสะท้อนขึ้นไปในอากาศส่วนด้านหน้านั้น
แพรวพราวหลากสีกระจายคล้ายแสงหิงห้อยที่กลับบินว่อนในอากาศก็มิปาน รอบบริเวณดังกล่าวมีดอกไม้สะพรั่ง
กำลังเบ่งบานส่งกลิ่นหอมโชยอ่อนๆล่องลอยมาจะว่ากลิ่นคล้ายดอกกุหลาบก็มิใช่เป็นกลิ่นนมแมวก็มิเชิง
ครั้นสูดเข้าไปทำให้ร่างกายสดชื่นสมองรู้สึกปลอดโปร่งเป็นพิเศษ แต่ละช่อละดอกมีแสงสีทองส่องลอยประกาย
รอบล้อมดอกไม้นั้นๆระยิบระยับวนพราวไปทั่วทุกๆช่อดอกไม้นั้น 
          เบื้องหน้าเป็นทางเดินเล็กๆแต่โรยด้วยหินสีประหลาดต่างๆส่งแสงแพรวพราวไปทั่ว     สองข้างทางเป็นต้นไม้เตี้ยดอกเล็กๆระยิบระยับพร้อมกลิ่นโชยมาแต่กลิ่นแตกต่างกันของระยะเส้นทางที่เดินเข้าไป   
 เขาเดินตามเจ้าหล่อนซึ่งเดินนำหน้ามุ่งตรงไปยังภูเขาลูกกลาง   ที่แลเห็นไม่ใกล้ไม่ไกลนัก  
พอเข้าระยะใกล้ก็แลเห็นวิหารเล็กๆตั้งอยู่โดดเด่นเดี่ยวหลังเดียวรายล้อมด้วยดอกไม้
หน้าวิหารเป็นลานกว้างเล็กน้อยสองข้างเป็นสระน้ำที่ปลูกดอกบัวกำลังเบ่งบาน  บริเวณรอบวิหารเห็นเป็นแสง
สว่างครอบคลุมเป็นแนววงโค้งครอบไว้หลากสี  หล่อนพาเขาเดินมาจนถึงปลายสุดของวงโค้งแสง  ก็ดึงเขาให้
ทรุดตัวลงนั่งกึ่งคุกเข่าพนมมือ   พลางหล่อนก็น้อมตัวกล่าวคำออกไป
         “ ท่านพ่อปู่...ข้าพเจ้านำท่าน “ทัศยุ”มาพบแล้วเจ้าค่ะ ”
    เสียงเงียบไร้สุ่มเสียงตอบรับ เพียงแต่แสงโค้งนั้นเปิดเป็นทางพอทีจะเดินผ่านไปได้ พลางหล่อนหันมากล่าว
กับชายหนุ่มเบาๆ
         “ ท่านระวังกิริยาไว้บ้าง กล่าวคำใดควรระมัดระวังคิดก่อนพูดนะ”  หล่อนหันมาเตือนเขา 
   เหมือนกึ่งได้ยินซึ่งเป็นช่วงที่เขางุนงงต่อคำที่หล่อนกล่าวกับพ่อปู่ของหล่อน  “ทัศยุๆ”  แต่ เราชื่อ “ทัด” นี่หว่า
ไหงเป็น “ทัศยุ”ไปได้ ก็ไม่เห็นมีใครอีกนอกจากเรา  จนกระทั่งหล่อนกระตุกชายเสื้อเขานั่นแหละถึงจะรู้ตัว
ทั้งสองเดินผ่านแสงเข้าไปยังประตูวิหารเล็กๆนั้นแล้วก้าวข้ามพ้นธรณีประตู  ก็แลเห็นชายชรานุ่งขาวห่มขาวนั่ง
อยู่ตรงกลางใกล้ๆริมผนังด้านหลัง อากาศภายในเย็นฉ่ำกำลังพอดีๆ ลืมตามองมายังเขาทั้งสอง ด้วยใบหน้าเฉยเมย
ปราศจากอาการใดๆทั้งสิ้นดั่งผู้ทรงศีล  ใบหน้าเต็มไปด้วยผมเครายาวขาวโพลงดุจดังใยหิมะ........ “ ทัศยุ ท่าน ”
				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    27 ตุลาคม 2549 14:01 น. - comment id 93178

    นางเอกมาแล้ว สวยเสียด้วย
    ไม่สวยก็เสียชื่อคนแต่งเนอะคุณลุงเนอะ อิอิ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • แก้วนีดาไม่ได้ล๊อกอิน

    27 ตุลาคม 2549 16:53 น. - comment id 93183

    ว๊าวๆๆๆ..นานๆๆเข้ามาที...ลุงแก้ว....เขียนนิยายให้อ่านด้วย
    
    ขอนั่งอ่านก่อนละ....แล้วจะรอตอนต่อไปนะลุงแก้ว
    
    ดูแลสุขภาพด้วยนะจ๊ะลุงแก้ว11.gif
  • อัสสุ

    27 ตุลาคม 2549 20:35 น. - comment id 93185

    124081132911007.gif
    
    แปลกถิ่นได้ แต่อย่าแปลกใจ เพราะ..
    
    เคยเจอกันแล้วนี่ 64.gif
  • แก้วประเสริฐ

    27 ตุลาคม 2549 21:49 น. - comment id 93194

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เพียงพลิ้ว
    
             ใช่แล้วจ้า ชื่อเต็มคือเจ้าหญิงกานต์วลีศรีสมร
    อมรดาริกาจ้า เธอสวยและใจดีเสียด้วยน๊ะ นั่นซินึก
    ถึงภาพเจ้าหญิงกานต์เลยจับมาเป็นนางเอก ฮ่าๆๆๆ
    
                        16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    27 ตุลาคม 2549 21:55 น. - comment id 93195

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แก้วนืดา
    
          ดีใจจังได้พบกันอีก เขียนกลอนชักเบื่อเลยหัน
    มาทางนี้บ้างเปลี่ยนอารมณ์ ก็สนุกดีนะ เชิญเลยจ้า
    แต่บอกไม่ได้ว่าจะยาวขนาดไหนนะต้องตามใจและ
    อารมณ์ผมเสียด้วยซีจ๊ะ รักและคิดถึงเสมอ
    
                       16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    27 ตุลาคม 2549 21:57 น. - comment id 93196

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ อัสสุ
    
         สำหรับเจ้าชายอัสสุไม่แปลกหน้าหรอกครับ 
    ยินดีที่มาเยี่ยมอีกครับ ขอบคุณ
    
                        16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แมงกุ๊ดจี่

    27 ตุลาคม 2549 23:11 น. - comment id 93198

    อ่านเพลินเลยนะคะ...
    
    36.gif  เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
  • idaho

    27 ตุลาคม 2549 23:42 น. - comment id 93206

    หวัดดีค่ะลุงแก้ว
  • แก้วประเสริฐ

    28 ตุลาคม 2549 09:28 น. - comment id 93209

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แมงกุ๊ดจี่
    
              ขอบคุณที่เป็นกำลังให้สร้างจินตนาการต่อไปครับ
    
                   16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    28 ตุลาคม 2549 09:30 น. - comment id 93210

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ idaho
    
             สวัสดีจ้าหลานสุดสวย  คิดถึงเสมอจ๊ะรอยยิ้ม
    อันน่ารัก
    
                      16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ยายแม่มด

    29 ตุลาคม 2549 11:46 น. - comment id 93230

    แอ่น  แอ้น...วันนี้เจ้าชายของยายแม่มดอารมณ์ดีนึ  ...แวะมาก่อกวนค่ะ16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    29 ตุลาคม 2549 16:29 น. - comment id 93234

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ยายแม่มด
    
            อย่าลืมอ่านตอนต่อไปทุกๆตอนนี้รับนับวัน
    จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำยังได้สิ่งแปลกๆใหม่ด้วยนา
    รับรองในนามปากกาแก้วประเสริฐจ้า  เจ้าชายคนนี้
    กำลังเจ้าหญิงแม่มดน้อยอยู่ ฮ่าๆๆๆๆ
    
                    16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ราชิกา

    30 ตุลาคม 2549 01:37 น. - comment id 93242

    ...ปกติก็ชอบเรื่องเจ้าหญิง...เจ้าชายอยู่แล้ว..พออ่านตอนที่ 2 เริ่มสนุกและเข้มข้นมากขึ้น..จะติดตามต่อไปค่ะ...36.gif36.gif36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    30 ตุลาคม 2549 13:06 น. - comment id 93244

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ราชิกา
    
             สงสัยคุณกับผมมักจะมีอะไรคล้ายกันหลายอย่าง
    ตามที่คุณแจ้งมานะครับ ผมเองมักชอบอ่านหนังสือ
    ลี้ลับโบราณมากกว่านิยายสมัยใหม่มาก เพราะไม่
    ตื่นเต้นในอารมณ์ผิดกับนิยายสมัยเก่ามาก ผมเอง
    ก็เขียนแนวสมัยใหม่จนต้องวางมือสักพักเพราะเหตุ
    ดังกล่าวนี้แหละ ตอนเด็กๆชอบอ่านนิยายพวก
    จักรๆวงศ์ๆครับ  ขอบคุณ
    
                  16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แม่มดใจร้าย

    22 พฤศจิกายน 2549 19:19 น. - comment id 93847

    แล้วนี่อยู่ถิ่นไหนละคะคุณแก้วประเสริฐ11.gif
  • แก้วประเสริฐ

    13 ธันวาคม 2549 19:58 น. - comment id 94280

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แม่มดใจร้าย
    
           ตอนนี้อยู่ถิ่นแถวมีนบุรีเขตชานเมืองครับผ๊ม
    
                         16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน