เหลือเชื่อ..เหลือซาก

จ่าจุ๊..ผู้หญิงเลี้ยงนก

สายตาที่เพ่งมองไปที่กรงนกซึ่งแขวนไว้ใต้ชายคาหลังบ้าน  ในระดับความสูงพอพ้นศีรษะ พลันความรู้สึกบางอย่างบอกตัวเองได้ทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นภายในกรง  นกน้อยซึ่งดูเหมือนร่างกายแข็งแรงสุขภาพจิตเบิกบานแจ่มใสบินเล่นไปมาภายในกรงเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา  บัดนี้มีอาการโงนเงน คล้ายกำลังหมดสิ้นเรี่ยวแรง สุดที่จะฝืนทนยืนเกาะคอนภายในกรงต่อไปไหว และหล่นลงไปนอนหายใจแผ่วอยู่ที่พื้นกรงในที่สุด
ภาพตรงหน้าที่ปรากฏ สร้างความตกใจและรู้สึกสับสนยิ่งนักภายในใจ  สืบเท้าก้าวตรงไปที่กรงอย่างเร่งรีบ  ทันทีที่ยกกรงลงมาเบื้องล่างและตั้งบนโต๊ะหินอ่อน ไม่รอช้าที่จะจัดแจงเปิดประตูกรงประคองเจ้านกน้อยไว้ในอุ้งมือ ความสับสนวุ่นวายใจในเหตุการณ์ที่กำลับประสบอยู่ ความรู้สึกพรั่งพรูไม่รู้ว่าคำตอบหรือคำรำพัน... เจ้าเป็นอะไรไป...ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ..เราจะทำอย่างไรต่อไปดี ที่จะช่วยให้เจ้าดีขึ้น..เจ้าอย่าเป็นอะไรนะ...เราสัญญาว่าจะเลี้ยงดูเจ้าให้ดี ไม่ยกเจ้าให้ใครที่ไหน ไม่ให้ใครอีกแล้ว..ขออย่างเดียวว่าเจ้าอย่าพึ่งตายนะ ฯลฯ
นกน้อยในอุ้งมือทั้งสองที่เรานั่งมองด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ  ยังคงหายใจแผ่วและมีอาการกระตุกเล็กน้อยในบางครั้ง เวลาผ่านไปชั่วขณะจึงฉุกคิดได้ว่าไม่ควรนั่งมองรอวาระสุดท้ายโดยไม่ได้ทำอะไรเลย อุ้งมือซ้ายยังคงรองรับร่างของนกน้อยผู้น่าสงสาร มือขวาช้อนน้ำจากภาชนะที่พอจะหามาใส่น้ำได้ในยามนั้น ปลายนิ้วชี้และนิ้วโป้งข้างซ้ายช่วยกันเปิดปากนกน้อยให้เผยอรองรับหยดน้ำจากปลายนิ้วมือข้างขวา ด้วยความหวังว่าเจ้านกน้อยอาจจะมีอาการดีขึ้น น้ำเพียงหยดเล็กๆ ที่ผ่านลำคอของนกน้อย สร้างความตกใจให้มือใหม่ใจเสาะอีกครั้ง เมื่อเห็นอาการคล้ายสำลักพร้อมกับน้ำสีดำแดงข้นที่สาดกระเซ็นออกมาจากปากของนกน้อย เปรอะเปื้อนมือแขนและเสื้อผ้าที่สวมใส่ แต่มิได้ใส่ใจ เพราะมัวตกใจจนทำอะไรไม่ถูก นอกจากนั่งประคองร้างนกน้อยในอุ้งมือทั้งสองเพียงลำพังเงียบ ๆ บนเก้าอี้โต๊ะหินอ่อนหลังบ้าน
เวลาผ่านไปร่างนกน้อยซึ่งหยุดเคลื่อนไหวแน่นิ่งไป  สักพักร่างกายเริ่มมีสภาพแข็ง  แข้งขาชี้เหยียดตรง เราคงนั่งนิ่งถือซากนกน้อยนั้นต่ออยู่พักใหญ่  จึงนึกขึ้นได้ว่าสมควรได้เวลาที่ต้องกลับไปทำงานต่อ  แต่ก่อนไปควรจัดการซากนกน้อยนี้ให้เรียบร้อยโดยเร็ว วางซากนกน้อยไว้ แล้วเดินไปหยิบเสียมซึ่งวางอยู่ไม่ไกล เมื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมได้ จึงรีบลงมือขุดหลุมทันทีด้วยกำลังแรงที่มีอยู่อาจไม่มากนัก  เมื่อได้ระดับความลึกที่น่าพอใจจึงจัดแจงนำซากนกน้อยลงไปวางก้นหลุมทันใดพร้อมกับการใช้เสียมเกลี่ยดินกลบหลุม ระหว่างนั้นความรู้สึกนึกกังวลกลัวไปว่า เจ้าไก่โต้งตัวใหญ่ที่มักเดินคุ้ยเขี่ยหาอาการในทุกวันบริเวณนี้  จะคุ้ยเขี่ยซากนกน้อยขึ้นมาจากหลุมได้  เพื่อความมั่นใจให้แน่นหนาขึ้น จึงได้เท้าเหยียบทับไปบนดินปากหลุม
พลันทันใดนั้น หูได้แว่วยินเหมือนเสียงนกร้องดังขึ้นมาจากในหลุม ความตกใจว่าทำเราอะไรผิดพลาด หรือเจ้านกน้อยตายสนิทหรือยัง  รีบใช้เสียมเกลี่ยดินจากปากหลุมด้านบนออกและตัดสินใจใช้มือคุ้ยดินต่อเพราะกลัวว่าเสียมจะบาดนกน้อยได้  ขณะใช้มือคุ้ยดินยังรู้สึกว่าได้ยินเหมือนเสียงนกร้องดังแว่วมาอีกครั้ง เมื่อเห็นร่างที่วางก้นหลุมจึงรีบดึงขึ้นมาทันที ตกใจระคนอกสั่นขวัญแขวนกับเหตุการณ์ซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไร ซึ่งต่อมาภายหลังจากเหตุการณ์ผ่านพ้นไปได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าคงเพราะความวิตกกังวลมากไปจึงทำให้ได้ยินเสียงลึกลับนี้..
ซากนกน้อยที่ดึงขึ้นมาจากก้นหลุม ยังคงปรากฏแก่สายตาว่าเป็นซากนกที่ตาสนิทจนแข็งแล้ว เริ่มรู้สึกไขว้เขวว่าควรทำอย่างไรต่อไปดีกับซากนกน้อยตัวนี้ที่วางอยู่ ไม่แน่ใจว่าไม่อยากทำหรือไม่กล้าที่จะนำซากนกน้อยฝังลงไปใหม่อีกครั้ง ชั่งใจในเวลาที่จวนเจียนจำกัดว่าต้องรีบไปทำงาน ตัดสินใจเลือกวิธีที่เรียกว่ามักง่ายไม่ถูกต้องและไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง คือนำถุงพลาสติกใสมาใส่ซากนกน้อย และไม่ลืมขมวดปิดปากถุงให้แน่นหนาหย่อนลงใส่ในถุงบรรจุขยะ วิธีที่ถูกต้องและดีที่สุดของการทำลายซากนกที่ตายควรใช้วิธีฝังกลบด้วยความลึกที่มั่นใจว่าปลอดภัยจากเชื้อโรคหรือปัญหาที่อาจเกิดตามมา หรือมิเช่นนั้นควรเลือกวิธีเผาทำลายให้สิ้นซากจะเป็นการดีที่สุด เหตุการณ์ครั้งนี้ที่ได้ประสบมา ได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้เกิดขึ้นอีก..ไม่อยากพบอยากเจอ ไม่อยากรับรู้และต่อสู้กับความรู้สึกที่สับสนวุ่นวายใจหลากหลายอารมณ์ที่เกิดขึ้นในคราวเดียวกัน..ที่สำคัญ ความรู้สึกผิด ที่เราอาจเป็นต้นเหตุของการตายในครั้งนี้ยังคงอยู่......อโหสินะ เจ้านกน้อยที่จากไปพร้อมบทเรียนที่ทิ้งไว้ให้เราเก็บมาคิดทบทวน				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน