.....ไอ้เบิ้มแห่งโป่งคำ..... (ตอนจบ)

ธนา

ไอ้เบิ้มแห่งโป่งคำ (ตอนจบ)
โดย.ธนา
........เสียงลูกซองเดียวจากใครคนใดคนหนึ่งในกลุ่ม ดังสนั่นทั้งราวป่า พร้อมกับเสียงร้องแปลกๆของไอ้เบิ้มเจ้าหมีใหญ่ นาครพยายามข่มความรู้สึกจุกเสียดไว้ เป็นนัยว่า อย่าประมาท เมื่อส่วนของร่างการไม่มีส่วนชำรุดเสียหาย นาครก็คลำที่เอวเพื่อหาปืนพกขนาด 9 มม. สมิทฯ โมเดล 3906 ที่พกติดตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะไปไหน มันยังอยู่ในสภาพดี พร้อมแม็คกาซีนจุ 8 นัดอีก 2 แม็ค ยังอยู่ครบ ไม่ได้หล่นหายไปไหน ก็เบาใจไปอีกเปาะหนึ่ง
........ยังไม่ทันไร ก็ปรากฏพงป่าข้างบนไหวยวบ ปรากฏร่างดำทะมึนใหญ่ พุ่งลงมา เล่นเอานาครใจหายชาไปทั่วไขสันหลัง 
	ไอ้เบิ้ม... นาครครางในลำคอ 
	ตายหะ....กูอยู่คนเดียวด้วย.... เมื่อพระกาฬอยู่ข้างหน้า ไม่มีเวลาคิดอะไรมากนัก เท่าที่ดี ไอ้เบิ้มเจ้าหมีใหญ่ ก็มีอาการที่ไม่สู้ดีนัก ในขณะที่มันพุ่งตัวตกลงมา ท่าทางมันทรงตัวไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ความคล่องแคล่วลดลงไปมาก จังหวะเวลานี้ ใครได้เปรียบก่อนก็ลอด นาครไวเท่าความคิด ยกปืนประทับบ่าทันที จังหวะไอ้เบิ้มกำลังจะตั้งตัวได้ ระยะ ไม่เกิน 10 เมตร นาครกลั้นใจและแล้ว
	ตูม....!! เสียงไบคาลเดียวลูกซองคู่ใจคำรามสนั่นทุ่ง ระยะขนาดนี้ ไม่พลาด ลูกซองขนาดเกจ 12 โอโอบั๊ค 9 เม็ด ระเบิดเข้าสู่สีข้างไอ้เบิ้มอย่างจัง จนเห็นกระเซ็นเลือดของมันสาดออกมา ขนสีดำกระจายว่อน
	โอ๊กกกกกกกก!! มันร้องพร้อมกับเซตามแรงปะทะของกระสุนลูกซอง นาครไม่ปล่อยโอกาส ระยะไม่เกิน 10 เมตร เป็นระยะอันตราย และไอ้เบิ้มก็ยังไม่ล้ม สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ นาครเหวี่ยงลูกซองเดี่ยวทิ้งลงข้างตัว มือขวากลับชักเอา เจ้าสมิทแอนเวสสัน ขนาด 9 มม. ออกมาจากเอว พร้อมปลดเซฟ พยายามบังคับมือให้นิ่ง เล็งบริเวณลำตัวตรงแผลลูกซองเปิดเอาไว้ แล้ว...
	ปังๆๆๆๆๆ..... เสียงรัวถี่ยิบของ 9 มม.กระสุนไฮดราช็อคหัวรู ลั่นออกไปอย่างหูดับตับไหม้ 
........นาครค่อยๆเสือกเท้าเข้าไปหาเป้าหมายอย่างช้าๆ เพื่อเป็นการรักษาวิถีกระสุนให้เข้าเป้าทุกนัด ได้ผล ไอ้เบิ้มเริ่มเซ ทำท่าจะล้ม หมดแม็คที่หนึ่ง นาครยัดแม็คที่ 2 ตามเข้าไป ปลดคันค้างสไลค์ลง พร้อมก็ลั่นไกต่อ จนหมดชุดที่ 2 ผลคือ ไอ้เบิ้มหมีใหญ่ล้มทั้งยืน นอนชักแล้วค่อยๆแน่นิ่งไปในที่สุด จบเกมเลือดเสียที นาครถึงกับเข่าอ่อน แต่ปืนยังจ้องที่ซากของไอ้เบิ้มอยู่ รอดูจนแน่ใจว่า มันสิ้นฤทธิ์จริงๆ จึงลดปืนลงเก็บเข้าซองข้างเอว
	ว่าไงๆ สำราญกล่าวทักทายคณะที่ไล่ล่าไอ้เบิ้มกลับมา อย่าร่าเริง 
	อ้าว...ไม่ได้ออกไปช่วยเค้าหรอกรึพี่ เฉลิมพลร้องถาม
	ไม่ไปหรอก นั่งเฝ้าขวดเหล้าอยู่นี่ดีกว่า กูแก่แล้ว หน้าที่นี้ยกให้รุ่นน้องๆทำก็แล้วกัน แกหัวเราะพร้อมกรอกเหล้าเข้าปากอักๆ
........นาครเพิ่งนึกขั้นได้ว่า ตลอดเวลาที่พันตูอยู่กับไอ้เบิ้ม พี่สำราญ แกไม่ได้จับปืนเลย เพียงแต่ถือขวดเหล้าวิ่งไปวิ่งมาแล้วก็ร้องโวยวายก็เท่านั้นเอง เมื่อทุกคนทราบเรื่องจากนาคร ต่างก็ร้องด่ากันโขมงโฉงเฉงกันไปตามเรื่อง แต่ก็ไม่มีใครถือสาหาความกันมากนัก 
........ในใจลึกๆของนาคร ที่ยืนนิ่งอยู่หันหน้าไปทางทิศที่เจ้าเบิ้มนักเลงใหญ่แห่งพงไพรนอนสงบอยู่ คงแต่ได้แต่ขออโหสิกรรมที่ทำไว้ซึ่งกันและกัน แต่ก็ไม่มีอะไรที่สูญเสียอย่างเปล่าประโยชน์ เนื้อของเจ้าเบิ้ม ก็กลายเป็นเสบียงให้กับคณะ เพื่อใช้ในการเดินทางอันยาวนานต่อไป และไม่รู้ว่าเมื่อไร วันไหน จะถึงจุดหมาย
จบ.				
comments powered by Disqus
  • ไรไก่

    2 กันยายน 2549 15:43 น. - comment id 92587

    เอ๊า...กินเนื้อหมีด้วยหรอเนี้ย
    ป๊าดโซ๊ะ....รำก่อจิ้นหมี
    9.gif9.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน