วันนี้ ... ปราณออกมาซื้อของข้างนอก จึงถือโอกาสพกพากล้องถ่ายรูปมาเดินเล่นเลียบหาดบางแสนสักหน่อย
หาดบางแสน ... อยู่ไกลจากตัวเมืองชลบุรีเพียง 13 กิโลเมตรเท่านั้นเอง มีบริเวณหาดทรายยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร และกว้างประมาณ 50-200 เมตร ปราณจำได้ว่า เมื่อสมัยเด็กๆ คุณอาเคยพามาเล่นน้ำที่นี่ น้ำทะเลยังไม่สะอาดเท่าทุกวันนี้เลย แถมยังมีเศษเปลือกหอยและกระเบื้องหล่นอยู่ตามหาดและในน้ำจนบางทีหลายๆ คนถูกบาดเสียเลือดไปกับอุบัติเหตุตรงนี้ด้วยเหมือนกัน ..
ปราณรู้สึกกลัวน้ำทะเล ... ทะเลยิ่งใกล้ ยิ่งน่ากลัว เล่นน้ำทะเลแม้จะสนุกและเป็นอิสระ แต่ในใจลึกๆ ก็ยังมีความกลัวความเวิ้งว้างและความลึกล้ำของผืนน้ำไม่เคยจางหายไปสักที ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่ไหนก็ตาม ... แม้กระทั่งเมืองกาญจน์ ที่ปราณเลยลงเล่นน้ำกับเพื่อนๆ และเช่าแพทำส้มตำกินกันเอง ปราณยังต้องเกาะห่วงยางไว้กับตัวให้รู้สึกว่าปลอดภัยและไม่ยอมไปไกลจากแพเลยแม้สักเพียงเมตร เป็นอาการกลัวน้ำที่ไม่หายสักที ... เหมือนๆ กับการได้แต่เดินเลียบหาด แล้วมองคนอื่นๆ ลงเล่นน้ำกันอย่างรู้สึกเสรี มีความสุข ปราณก็เคยมีความสุขเสรีกับการลงน้ำที่เวิ้งว้างตรงนั้นเหมือนกัน เป็นจินตนาการที่หลุดพ้นจากโลกความเป็นจริงบนผืนดิน แต่ก็เป็นความรู้สึกเคว้งคว้างและไม่น่าไว้วางใจ ยิ่งสมัยเรียนมัธยม ... อาจารย์ท่านหนึ่งสอนจริยธรรมเคยกล่าวว่า เดินป่า หลงทางยังหาทางกลับได้ เดินลงน้ำหากไร้สติ มีสิทธิ์จมน้ำตายโดยไม่รู้ตัว ยิ่งตอกย้ำกับอาการกลัวของปราณ ทำให้รู้สึกลึกลงไปอีกว่า ห้วงน้ำนั้นแม้จะนำพาเสรีภาพมาให้กับเรา แต่ช่างไม่น่าไว้วางใจเสียเลย
ปราณมาถึงหาดบางแสน ... แล้วลงเดินเลียบไปเรื่อยๆ วันนี้ไม่ใช่วันหยุด บรรยากาศจึงเงียบ ผ้าใบและร่มสำหรับบริการให้ผู้คนมาตากอากาศพักผ่อนก็ดูร้างๆ แม่ค้าเรียงรายขายอาหารทะเล ส้มตำ ยังคงดำเนินต่อไป เพียงแต่ไม่คึกคักเหมือนวันหยุด สุดสัปดาห์ หรือช่วงปิดภาคเรียน
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ... ปราณเปิดดูหน้าจอ เห็นชื่อคนที่โทร. มา พอจะรู้ว่า เป็นเขาอีกแล้ว สวัสดีค่ะ ... คุณมารุต ปราณรดี ... ทำอะไรอยู่ครับ ปราณมาเดินเล่นเลียบหาดบางแสนค่ะ ปราณไปกับใคร เขารีบถามทันทีที่ปราณจบคำตอบ ปราณมาเดินคนเดียวค่ะ ไม่ได้เดินมานานแล้ว ... ทำไมปราณมาเดินคนเดียว ไม่ระวังบ้างเลยหรือ เป็นผู้หญิงไม่ควรเดินหาดคนเดียวรู้ไหม ทำไมปราณไม่บอกผมว่า ปราณอยากมาเที่ยว ผมจะได้มาเป็นเพื่อน ก็ปราณคิดอยากจะมากะทันหันไม่ได้วางแผนไว้ก่อนนี่คะ ... ผมเป็นห่วงปราณ รู้ไหม ... ปราณก็รู้ว่า ผมรักปราณ ปราณรู้ค่ะ แล้วปราณไม่รักผมบ้างหรือ ไม่รักค่ะ ครับ ... แต่ผมรักปราณ ผมเป็นห่วงปราณ ไม่เป็นไรค่ะ คุณมารุต ... ปราณอายุก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ปราณก็คิดอะไรคนเดียว ทำอะไรคนเดียว ตัดสินใจอะไรเองได้ มีสำนึกรับผิดชอบและบรรลุนิติภาวะตั้งนานแล้วนะคะ คุณเองก็อายุไม่ต่างจากปราณเท่าไรนัก ไม่จำเป็นต้องมาเป็นผู้ปกครองปราณค่ะ ขอตัวได้ไหมคะ ปราณอยากถ่ายรูป มีมุมมองดีๆ ที่ปราณจะเก็บข้อมูล หากบางที ระหว่างเวลาคุยกับคุณ ปราณอาจจะได้แหล่งข้อมูลและพูดคุยกับแม่ค้าแถวๆ นี้ ทำให้ปราณได้เรียนรู้อะไรต่ออะไรอีกมาก ที่จะมาคิดถึงเรื่องของตัวเองค่ะ ปราณครับ ... เมื่อไหร่ปราณจะมีหัวใจสักที ปราณมีหัวใจค่ะ มีหัวใจเรียนรู้ชีวิต ปราณรักชีวิตค่ะ ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจดังและแรง ...
ปราณไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่า ทำไมคนๆ หนึ่งถึงทุ่มเทวันเวลาไว้กับความรู้สึกของตัวเอง แล้วแขวนความสำคัญที่ให้กับคนอื่นไว้เสียสูงส่งอย่างมารุต ปราณไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ทำไมเขาไม่เห็นความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าที่มีอะไรน่าเก็บเกี่ยวมากมาย ทุกๆ ครั้งที่วงจรเวลาหมุนเข้ามาหาเรา เราเก็บรายละเอียดจากสิ่งต่างๆ ได้ตั้งมากมาย ทำไมมารุตถึงไม่รีบเก็บเกี่ยวประโยชน์ตรงนี้ และปราณก็ไม่เคยเข้าใจมารุตเลยจริงๆ ... ทำไมมารุตถึงรักปราณ ทำไมมารุตต้องเอาเวลามาห่วงใยปราณ และทำไมเขาไม่ปล่อยให้ปราณเป็นทุกอย่างเท่าที่ปราณต้องการจะเป็น ทำไมเขาต้องคอยระมัดระวังปราณ และทะนุถนอมราวกับปราณเป็นของมีค่ามากกว่าเป็นคนที่มีชีวิตจิตใจ
ปราณวางสายจากมารุตแล้ว ... วันนี้ ... ปราณได้ภาพถ่ายมาหลายภาพอยู่เหมือนกัน และบางแสนแห่งนี้เคยเป็นที่พักใจในขณะที่ปราณเคยอ่อนล้าอย่างหนักหนาสาหัสในช่วงเวลาหนึ่ง ปราณคิดมาถึงตรงนี้ ... ปราณเริ่มเข้าใจมารุต เข้าใจความเจ็บปวดในใจของมารุต มารุตคงรู้สึกไม่แตกต่างจากปราณในสมัยนั้นที่ปราณต้องมานั่งพักใจที่หาดบางแสน ปราณคิดถึงครูหนุ่มคนหนึ่ง ... เขาเป็นคนรูปร่างบาง ผิวขาวสะอาด และรักแม่เป็นอย่างยิ่ง จนบางทีหลายๆ คนคิดว่า เขาไม่ใช่ผู้ชายแท้ แต่ปราณรู้สึกรักเขา ... และพยายามติดต่อเขา พยายามหาทางคบหากับเขาและทำดีกับเขาเท่าที่จะทำได้ แม้เขาจะไม่เคยสนใจเลยก็ตาม เหนื่อย ... แต่ก็ยังคงทำ เป็นเช่นนี้มาเนิ่นนาน จนกระทั่งปราณจะตัดใจ เนื่องจากไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะทุ่มเทความรู้สึกให้กับใครสักคนโดยไม่ได้รับการตอบสนอง ปราณห่างเหินจากเขามาเรื่อยๆ ... แต่เขาจะเป็นฝ่ายติดต่อกลับมาหาปราณด้วยท่าทีเย็นชา แต่ก็มีบางถ้อยคำที่ซ่อนนัยความหมายอยู่ในนั้น หรือปราณอาจจะคิดไปเอง ปราณคิดถึงครูหนุ่มที่มีอุดมการณ์ ... เขามีความคิดจะสร้างสรรค์เด็กๆ ปราณรักคนดี ปราณอยากเห็นเขาเป็นครูที่หล่อหลอมเยาวชนให้มีเส้นทางชีวิตที่ดีๆ ปราณเคยเขียนกลอนให้เขา .. ปราณพยายามให้กำลังใจเขา แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นคือ ความเย็นชา และการที่เขาไม่สนใจปราณเลย เขาเล่าแต่เรื่องของตัวเองว่า วันนี้เขาสอนเด็กยังไงบ้าง และเขาทำอะไรบ้าง เล่าเพียงเรื่องราวของตัวเอง เหมือนเขียนบันทึกให้อ่านทางจดหมาย ไม่มีแม้ความใส่ใจที่จะหวนคืนกลับมาหาปราณ ... ความรักที่ให้ไป ยิ่งให้ยิ่งท้อ ... นี่คือ ... เหตุผลที่ปราณต้องออกจากชีวิตของเขา แม้เขาจะไม่เคยปฏิเสธอะไรออกมาชัดเจนนักก็ตาม ปราณมิอาจทนที่จะหลอกลวงตัวเองและถูกปล่อยให้รอ โดยที่เขาให้ความหวังปราณไปวันๆ ได้อีก ปราณหายไปจากเขาเป็นเวลาหลายเดือน ... และเขาก็ส่งข้อความมาบอกปราณว่า ติดต่อเขาได้ที่ไหนบ้าง ... เขากำลังจะไปสอนที่โรงเรียนไหน แล้วนั่นก็คือครั้งสุดท้าย ที่ปราณได้ข่าวคราวจากเขา ปราณตัดขาดการติดต่อจากเขามาเนิ่นนาน ... แม้กระทั่งอีเมลที่ปราณเคยติดต่อกับเขาก็เลิกใช้มานานแล้ว เพราะทนความเย็นชาและความเจ็บปวดใจไม่ได้
มารุตยังโชคดี ... ปราณไม่เคยโกหก ปราณไม่ปล่อยให้เขารอ ปราณบอกเขาตรงๆ ในทุกเรื่อง ชัดเจนในทุกอย่างที่ปราณกระทำ ไม่ต้องให้เขาทนฝันทนรอไปวันๆ เขาอาจจะเสียใจกับคำตอบที่ปราณให้กับเขาทุกครั้งที่เขาพยายามถาม ... แต่ดีกว่าที่จะให้เขาเคลิ้มฝันไปเอง และหลอกล่อให้รักไปวันๆ โดยสำคัญตัวว่า มีคนมารัก มาห่วงใย ปราณไม่ได้ต้องการให้ใครมารักปราณโดยที่เขาตกอยู่ในห้วงฝันไม่มองทุกสิ่งตามความเป็นจริง ปราณไม่อยากให้ใครต้องมาเจ็บปวดกับความพร่าเลือนทางความสัมพันธ์เหมือนที่ปราณเคยเป็นมา ....
ทะเลยังคงซัดคลื่นเข้าหาฝั่ง .... เงียบท่ามกลางเสียงคลื่นที่ไม่เคยมีวันหยุดซัดเลยแม้แต่ช่วงเวลาเดียว ตราบเท่าที่โลกยังหมุน ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจของโลกหมุนเวียนอยู่ บางแสน ... ดินแดนที่เคยเหมือนเพื่อนซับแผลแห่งความเจ็บปวดในใจ แม้ว่า ... วันนี้ปราณอาจจะสร้างแผลในใจให้กับใครสักคน แต่ดีกว่าสร้างฝันอันหลอกลวง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ... ปราณรดีครับ คุณมารุต ... สวัสดีค่ะ คุณอยู่ที่เดิมหรือเปล่าครับ ค่ะ ... ยังไม่กลับจากหาดเลย ผมกำลังขับรถไปหาคุณ ... บางแสนอยู่ไม่ไกลเท่าไรนัก ตอนนี้ใกล้เต็มทีแล้ว ผมจะไปพบคุณนะครับ คุณมารุต ... ปราณกำลังจะกลับบ้านพอดีเลย เกรงใจคุณจัง ไม่เป็นไรครับ ... ผมรักคุณนะ ปราณ ค่ะ ... ปราณรู้ อะ ... ผมมาถึงแล้ว จอดรถไว้แล้ว อ้อ ... เห็นคุณแล้ว ปราณรดี อ่า คุณชุดฟ้า น่ารักจังครับ ขอบคุณค่ะ ไม่เช่าผ้าใบนะคะ ... หาร้านอาหารทานอาหารกันเล็กน้อยดีกว่า ครับผม ... ผมรู้อยู่แล้วว่า ปราณคงไม่เช่าผ้าใบนั่งเล่นกับชายหนุ่มที่ปราณไม่รักหรอก เขาพูดเหมือนพ้อนิดๆ แต่เหมือนหยอกๆ ค่ะ ... แล้วเขาก็เดินมาอยู่ตรงหน้าปราณ เราเดินเลียบหาดกันมาเรื่อยๆ ... หลายครั้งที่ปราณรู้สึกได้ว่า เขาลอบมองหน้าปราณ ดูเหมือนเขาจะมีความสุข
ถึงร้านอาหารแล้ว ... เขาสั่งอาหารแล้วบ่นอุบๆ ว่า สู้นั่งริมหาดไม่ได้ ... ได้สูดกลิ่นลมทะเล ได้สัมผัสคลื่นทะเลและเห็นทะเลใกล้ๆ เมื่อก่อนปราณก็ชอบนอนตากลมทะเล ... แต่ตอนนี้เฉยๆ เพราะไม่ได้อกหักสักหน่อย เมื่อก่อนเคยอกหักหรือครับ ค่ะ ... อายุขนาดนี้แล้ว ไม่ผ่านความผิดหวังมานี่แสดงว่าใช้ชีวิตไม่คุ้ม ก็เลยปิดกั้น ... กลัวผมทำให้คุณอกหักหรือครับ ไม่เกี่ยวค่ะ ... ไม่ได้รักคุณจริงๆ จากแววสดใสเหมือนแววดาวสักครู่หม่นลงเล็กน้อย และมีน้ำรื้นๆ คลอเบ้าตา ปราณรู้สึกถึงความร้อนผ่าวๆ ที่ขอบตาของเขา แต่เขาพยายามสะกดกลั้นเอาไว้ ... ปราณรดี ครับ ... ทุกวันนี้ ปราณเคยรักใครไหมครับ ไม่ได้รักใครมานานแล้วค่ะ ... ปราณมีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งอื่น เพื่อการเรียนรู้ชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างน่ารักค่ะ น่าศึกษา น่าเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นเม็ดทราย ใบไม้แห้งกรัง หยดน้ำเล็กๆ เด็กตัวน้อยๆ คนเฒ่าคนแก่ที่ผ่านร่องรอยประสบการณ์มา ดอกไม้สีสดใสที่เบ่งบาน ตะวันยามเช้า ท้องฟ้าก่อนพลบ ทุกสิ่งทุกอย่างเลยนะคะ สอนอะไรปราณได้ทั้งนั้น ครับ ... ปราณ ถ้าปราณจะรักใคร คนๆ นั้นต้องรักโลกใบนี้เหมือนกับปราณด้วย ทำยากนะครับ ไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองค่ะ ... แค่เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนวิธีคิด คุณก็จะเข้มแข็งขึ้น คุณจะไม่จ่อมจมอยู่กับปราณ เพราะในโลกนี้มีอะไรน่าเรียนรู้มากกว่าปราณเยอะเชียวค่ะ ผมไม่เคยได้สนใจคน ผมอยู่กับเครื่องจักรยนต์กลไก สายไฟฟ้า ผมรู้จักปราณแล้วรู้สึกว่า ผมได้เห็นโลกใบใหม่ โลกที่ผมไม่เคยสนใจ ผมจึงหลงรักปราณ คุณพูดคำว่า รัก มากเกินไปแล้วนะคะ ... คุณพูดจนคำว่า รัก กลายเป็นคำธรรมดาสำหรับปราณไปเลย แทนที่ทำให้ปราณต้องการรู้จักคำว่า รัก จากคุณ ผม รัก ปราณ ... ค่ะ ปราณรู้ ไม่ต้องบอกซ้ำๆ หรอก ... กลัวใจตัวเองว่า จะรักไม่จริงเหรอคะ ถึงต้องตอกย้ำเช่นนี้ ปราณ ดักคอผมจัง เอาเถอะ ... ที่จริงคุณไม่น่าลำบากเดินทางมาอย่างนี้เลย ปราณต้องการใช้ชีวิตอิสระ คิดอะไรตามลำพัง ต้องการที่จะเก็บเกี่ยวรายละเอียดบางอย่าง คุณอยากกลับหรือยังคะ ปราณไม่ได้ตั้งใจไล่คุณนะคะ ปราณก็มีงานที่ปราณจะต้องทำ แดดกำลังจะหมด ปราณกลัวว่า จะไม่ได้ภาพถ่ายสำหรับเขียนหนังสือค่ะ ขอโทษปราณด้วยนะครับ ไม่เป็นไรค่ะ ... ขอโทษนะคะ ปราณรักคุณมารุตไม่ได้จริงๆ ครับ ... แต่ผมขอเป็นเพื่อนคุณตลอดไปนะครับ ปราณไม่เคยตัดรอนคุณเลยนะ ... คุณมารุต ไว้ปราณต้องการความช่วยเหลือ ปราณจะบอกค่ะ ณ เวลานี้ยังไม่ต้องการ ถึงเสนอมาก็ยังไม่จำเป็น เปลืองตัว เปลืองใจเปล่าๆ ค่ะ เมื่อไหร่คุณจะมีหัวใจสักทีหนอ ... ปราณรดี
ปราณยิ้มให้กำลังใจเขา ... อยากย้ำอีกครั้งว่า ... หัวใจของปราณรดีมีให้กับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ มิใช่มีให้กับใครเพียงคนใดคนหนึ่ง และรอคอยคนที่รักโลกใบนี้อย่างจริงใจ ร่วมทางกับปราณ แล้วปราณจะฝากใจเอาไว้ด้วยความไว้วางใจกันและกัน ก่อนที่จะเดินทางไปสู่ฝัน สู่สิ่งสร้างสรรค์ สู่ความดีงาม ไปพร้อมๆ กัน มากกว่าความรักที่จะต้องผูกกันไว้เพียงคนสองคน
มารุต ... ยังไม่ใช่คนที่ปราณรดี จะรักได้.
มารุตเดินจากไปขึ้นรถและขับออกจากหาดบางแสนไปได้สักครู่หนึ่ง เขาก็โทรศัพท์มาบอกปราณว่า ดูแลตัวเองดีๆ นะครับปราณ ผู้หญิงเดินชายหาดตัวคนเดียว ผมไม่ค่อยจะไว้วางใจ ไม่เป็นไรค่ะ ... ปราณเดินทางคนเดียวออกจะบ่อยไป ปราณไปเก็บข้อมูลเขียนสารคดี ทำสกู๊ปข่าว ถ้าปราณไม่ไปไหนคนเดียว ปราณไม่มีเวลาคิดค่ะ ไม่มีเวลาเก็บรายละเอียด การได้อยู่คนเดียวเป็นอิสระสำหรับปราณ เป็นงานของปราณค่ะ ผมเป็นห่วงคุณนะครับ ค่ะ ... ขอบคุณมาก
ถึงคราวที่ปราณจะนำภาพมาฝากให้คุณได้ดูกัน ... หลังจากอ่านนิยายรักของปราณจบลงแล้ว จังหวัดชลบุรี มีคำขวัญที่ปราณจำขึ้นใจมาตั้งแต่เด็กว่า มีทะเลงาม ข้าวหลามอร่อย อ้อยหวาน จักสานดี ประเพณีวิ่งควาย ส่วนคำขวัญของหาดบางแสน ปราณเพิ่งได้ข้อมูลมาไม่นานนี้ว่า บางแสนแสนสุข สามมุขลือนาม ข้าวหลามหนองมน ประชาชนสามัคคี ประเพณีวันไหล
เราจะเห็นเด็กๆ เล่นก่อกองทราย เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน และรู้สึกปลอดภัย เพราะทุกวันนี้ เทศบาลเมืองบางแสนดูแลเรื่องความสะอาดเป็นอย่างดียิ่ง หลายคนจะชอบออกกำลังกายริมหาด เพราะอากาศดี สูดลมทะเล ระยะทาง 2 กิโลเมตรกว่าๆ ไปกลับก็ประมาณ 5 กิโลเมตร หากได้ปั่นจักรยานออกกำลังกายคงได้เหงื่อกลับไปแล้วร่างกายคงจะกระปรี้กระเปร่า ปราณเคยปั่นจักรยานสามตอนกับน้องๆ เป็นคนปั่นคนท้ายสุด ไปจนสุดทางถึงหาดวอนนภา แล้วเราก็นั่งพักกัน จอดจักรยานไม่ค่อยเข้าที่สักเท่าไหร่ เลยทำให้โซ่พันกันแล้วเชื่อมติดกันไม่ได้ ลุงร้านขายของแถวนั้นจึงบอกว่า ให้ถอดออกแล้วใส่ถุงซะ เอาไปคืนเจ้าของ แล้วเราก็ปั่นจักรยานกลับไปอย่างทุลักทุเล เนื่องจากว่า คนข้างหน้าต้องคุมทาง แต่ไม่มีโซ่ให้ล้อหมุนได้ คนข้างหลังคือปราณ ต้องออกกำลังขาอย่างหนักตลอดทาง น้องๆ ถามว่า พี่ปราณไหวไหม? เหงื่อออกด้วยความเหนื่อย แต่ดีใจที่เหงื่อมีโอกาสออกมาบ้าง ก็เลยบอกน้องๆ ไปว่า ไม่เป็นไร ยังไหวอยู่ จนกระทั่งถึงร้านจักรยานเช่านั่นแหละ ... ถึงจบสิ้นวิบากกรรมกันสักที กลับมาถึงบ้านก็สลบไสล ... เหนื่อยอย่างสุดขีดในชีวิต แต่รู้สึกร่างกายสบายมากๆ และปวดเมื่อยน่องไปอีกหลายวัน
หาดบางแสน ... มีอะไรอีกมากมายในช่วงเวลาพักผ่อน ญาติๆ เคยรับปราณไปนั่งรับประทานอาหารทะเล เด็กๆ ลงเล่นน้ำ แต่ปราณไม่ชอบลงน้ำเลย อย่างที่บอกว่า ปราณกลัวน้ำเป็นที่สุด ใครสักคนบอกว่า ถ้าเรารู้สึกอย่างไรกับทะเล มีทัศนคติกับทะเลอย่างไร เราก็จะมีทัศนคติเช่นนั้นกับความรัก คงจะเป็นจริงอย่างที่เขาว่า ... ปราณคิดเช่นนั้น
ถ้าชีวิตปลอดมารุตสักคน ... ปราณคงมีอิสระกว่านี้เยอะเลย ความรักทำให้พลังการสร้างสรรค์น้อยลงจริงๆ ปราณไม่ได้รักมารุต แต่ความรักของมารุตที่มีต่อปราณ ก็ทำให้ปิดกั้นการสร้างสรรค์อะไรของปราณไปมากพอสมควร ทั้งที่รักแล้วไม่ได้อะไร ... แต่ทำไมหนอ คนจึงหลงใหลความรักไม่รู้จักจบสิ้น
ฝากใจเอาไว้ให้กัน ... เพื่อสร้างสรรค์คืนวันที่ดี มิอาจปิดกั้นเสรี และเราต่างไม่เป็นเจ้าของใคร.
13 สิงหาคม 2549 00:31 น. - comment id 92132
ความคิดของทั้งสองคนแตกต่างไงค่ะ มารุตต้องการที่จะทถุทนอมปราณไว้ โดยไม่รู้ว่าปราณต้องการอิสระ ต้องการเก็บเกี่ยวทุกๆอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ให้คุ้มค่าที่สุด แต่อีกด้านหนึ่งปราณก็ไม่ได้รับรู้ความหวังดีของมารุตเลย บ้างที่การเปิดใจรับใครเข้ามาในชีวิต มันก็เป็นประสบกาณ์ชีวิตอย่างหนึ่งนะค่ะ แวะมาทักทายค่ะ....คุณปราณรดี
13 สิงหาคม 2549 04:01 น. - comment id 92134
อยากไปเที่ยวอีกจังเลย อิอิ แงะ ๆๆๆ อยากไป แต่ไม่ว่างไปเที่ยวเลย เกี่ยนกับเปล่าเนี่ย อิอิ เรื่องหน้า แสงไร้เงา เป็นนางเองได้เปล่า เกิดมาไม่เคยเป็นนางเอกเลย เป็นแต่นางร้ายทุกที อิอิ อยากเป็นนางเอกอ่ะ 5 5 55 5
13 สิงหาคม 2549 09:33 น. - comment id 92135
คนเรารักกันยากรักกันยากแล้ว ยังอยากรักกันจัง อิอิ คนเราความรักเกิดขึ้นแล้วยากจะให้จบสิ้นได้ง่ายๆรักมีให้สำหรับคนบางคนแต่กับอีกบางคนให้ไม่ได้เหมือนไม่มีความยุติธรรมของหัวใจแต่เราฝืนใจให้รักไม่ได้. ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสอแต่เรามักมองเห็นความรักเป็นสีดำเพราะรักไม่ได้ดั่งใจที่วาดหวังสีดำจึงมาปกคลุมหัวใจให้หมองหม่น คิดถึงเขาจัง.....เขาจังคิดถึงเราบ้างไหมนะอยากเข้าไปนั่งในหัวใจเขาจังอยากรู้เขามีใครในหัวใจนะ
13 สิงหาคม 2549 21:25 น. - comment id 92148
ชอบบรรยากาศชายหาดครับ ไม่ชอบเล่นน้ำ ชอบเดินเรียบชายหาดมากกว่า
13 สิงหาคม 2549 21:29 น. - comment id 92149
14 สิงหาคม 2549 15:40 น. - comment id 92165
รักไม่มีอะไร แต่คนเราก็ยังอยาก ที่จะรักใครสักคน แต่สำหรับบางคนแล้ว ความรักไม่ควรเก็บเอาไว้เพื่อใครแค่คนเดียว คิดไปก็เหมือนต้นไม้ ต้นไม้บางชนิดเป็นแค่บอนไซในกระถางเล็กๆก็พอใจแล้ว แต่บางต้น อยากจะเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาแก่สิ่งมีชีวิตอื่นๆได้ด้วย ให้อาหารแก่นกได้ด้วย แถมยังบำรุงดินให้แข็งแรง ^^ และหว่านเมล็ดพืชไปตกในดิน ให้งอกงามเป็นต้นกล้าใหม่ได้อีก อ่านแล้วอยากไปเดินชายหาดบ้างค่ะ เอิ๊กๆ
14 สิงหาคม 2549 18:06 น. - comment id 92169
ครับบางแสนเป็นดินแดนคนจน ครับแต่ก่อน เป็นดินแดนของคนมีเงิน โลกเรากลับกันเสียแล้ว แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2549 22:12 น. - comment id 92173
สวัสดีค่ะ น้องเล็ก ใครเขาบอกว่า ปราณรดี ไม่เปิดใจรับ แล้วการที่ไม่รักใครสักคน นั่นคือความปิดกั้นหรือ? หรือ คนที่รักคนอื่นหลายๆ คนเป็นคนเปิดใจ ถ้าหากวัดกันด้วยเหตุผลนี้ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ... คนอื่นๆ ก็สามารถหยิบมาเป็นข้ออ้างได้สำหรับการเป็นคนหลายใจ รักคนหลายๆ คน โดยที่ไม่รู้จักใจตัวเองเลย หรือ กลัวว่าจะเป็นคนปิดกั้น จึงรับรักคนไปทั่ว ทั้งที่ไม่ได้รู้สึกรักจริงๆ ฉะนั้น ... ถ้ามีคนมารักปราณรดีสักสามคน ปราณรดีจะต้องเปิดรับคนเข้ามาในชีวิตด้วยการตอบรับความรักทั้งสามคนเลยหรือเปล่า? แล้วใครจะเป็นคนเจ็บปวด น้องเหมียว ลองเขียนเรื่องให้ตัวเองเป็นนางเอกสักเรื่องเองดีกว่านะคะ ไม่มีใครรู้จักบทบาทนางเอกที่เราต้องการให้เป็นเท่ากับตัวเราเองเลย พี่ไรไก่ เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ... ความรัก เป็นเรื่องที่กำหนดได้ยากนัก เพราะแต่ละคนมีกลไกทางประสบการณ์ไม่เหมือนกัน น้องหลิว ขอบคุณมากค่ะ ... สำหรับภาพงามๆ น้องขวัญ ร่มเงาของความรักที่เป็นหลักได้ ย่อมนำพาความร่มเย็นและความสงบสุขในชีวิต มากกว่าความรักที่เปราะบางต้องการการดูแลตลอดเวลา ลุงแก้ว หลายครั้งที่ปราณเคยคิดว่า ท้องฟ้ามีเจ้าของหรือเปล่า เพราะทุกวันนี้ ผืนดินก็มีเจ้าของแล้ว อีกหน่อยจะมีคนเก็บลิขสิทธิ์ค่ามองทะเลหรือเปล่าหนอ ขอบคุณทุกท่านที่มาเยือนกันค่ะ
15 สิงหาคม 2549 20:50 น. - comment id 92194
เป็นนิยายที่ดีมากครับ