คำท้า(ตอนที่2)

เมฆฟ้า

ผมได้แต่คิดในใจไม่กล้าที่จะบอกหรือปรึกษาใครวันนั้นที่นอนเราแทบไม่มีเลย ที่ที่สามารถนอนได้ก็ต้องสละให้พวกผู้หญิงเขานอนกัน หลายคนต้องยืน บางคนก็ยังพอได้นั่งบ้างพวกเราอดทนจนถึงประมาณตีสองเกือบตีสามฝนก็เริ่มซาลงแต่กระนั้นก็เถอะเราก็ยังนอนกันไม่ได้บางคนก็ออกไปเดินเล่นแก้เมื่อยแต่ก็ยังดีพอฝนหยุดเราก็ยังพอมีที่วางเหล้ากันแล้วถึงจะไม่ได้ นอนแต่มันเป็นเรื่องที่ชินเสียแล้วเวลาอยู่ในมหาลัยเราก็ไม่ค่อยได้นอนกลางคืนกันอยู่แล้ว ตกลงเป็นว่า คืนนั้นเราไม่นอนกันทั้งคืนเลย
	พอรุ่งเช้าเราทำตามแผนการที่กำหนดเอาไว้ทุกคนเข้าไปตามฐานที่ได้ตกลงกันการรับน้องเป็นไปแต่โดยดีไม่ได้มีใครเป็นอะไรมากตามที่วิตกกันอย่างที่พี่พจน์คิดไว้ กิจกรรมดำเดินมาเรื่อยจนของค่ำคืนของอีกวัน พี่พจน์แกยังคงเป็นห่วงเรื่องเมื่อคืนอยู่กระมังเห็นนำเครื่องเซ่นไหว้มาไหว้เจ้าที่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดูยิ่งใหญ่กว่าเมื่อคืนนี้มากอลังการเหมือนกับว่าเจ้าที่เจ้าป่าเจ้าเขาพากันทานของไหว้กันทั้งป่าอย่างนั้นแหละและก่อนที่เดินทางไปไหว้เจ้าที่กันแกได้ประชุมด้วยตนเองโดยกำชับมากเกี่ยวการปฏิบัติขณะทำพิธี  อย่าได้ทำเล่นกันเป็นอันขาด โดยแกยกเหตุการณ์เมื่อคืนมาเป็นตัวอย่าง  ไม่ว่าใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามแต่ว่าคืนนี้พิธีกรรมสงบมาก เงียบมากจนวังเวงแม้ว่าที่ตรงนี้จะมีคนเกือบ60ชีวิตก็ตาม คงได้ยินแต่สรรพสำเนียงเสียงของธรรมชาติเท่านั้น
เรากลับจากสถานที่นั้นแล้วยังคงมีกิจกรรมในตอนกลางคืนกันอีกเราเล่นรอบกองไฟกันจนดึกบางคนหาที่นอน บางคนยังคงเล่นกันอยู่โดยเฉพาะคอทองแดงทั้งหลายเห็นว่าไม่มีใครถอยกันเลยผมรู้สึกเบื่อก็เลยเข้ามานอนเล่นที่เต็นท์นอนได้สักพักก็มีเพื่อนที่นอนเต็นท์เดียวกับผมมาเพิ่มอีกสองคนมันไม่ได้มานอนหรอกมันมาลากตัวผมไม่กินเหล้าตากหากกำลังต่อรองกันได้สักพัก เจ้านนท์เพื่อนของผมก็เข้ามาคุยเล่นหัวกันได้ไม่นาน
นนท์ : 	  เรามาเล่นอะไรกันสนุกๆดีกว่า
ต้อม:  	 เล่น ไรของมึงที่ว่าสนุกน่ะ
นนท์:  	 รอเดี๋ยวๆกูมา
สักพักมันหอบกระดาษมาแผ่นหนึ่งในกระดาษมีอักษร บ้านหลังเล็ก แล้วก็เขียนอะไรอีกหลาย อย่างและถ้วยแก้วใบเล็กใบหนึ่ง ดูรู้ว่ามันคือ  อุปกรณ์การเล่นผีถ้วยแก้ว
หวัน: 	 มันจะดีเหรอ เ อาของพวกนี้มาเล่นป่าน่ะ  
ต้อม: 	  ไช่  ข้าว่าบรรยากาศที่นี่มันเสียวๆไงไม่รู้
นนท์: 	 แล้วมึงว่าไง สืบ
เพื่อนสืบของผมกำลังนอนสูบบุหรี่อยู่อย่างสบายใจ กล่าวขึ้นบ้างว่า
ไร้สาระว่ะ  มันจะเชื่อได้เ หรอ 
นนท์: 	 ของพวกนี้ไม่ลองไม่รู้นะเฟ้ย อย่าลบหลู่เป็นอันขาด
สืบ:	อ๋อไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คำนี้ใช้ได้ตลอดเลยนะ ข้าว่าเอาไปหลอกเด็กแถวบ้านเองดีกว่ามั้ง
นนท์:	แกก็พูดเกินไป ข้าอุตส่าห์หาของมาให้ลองสนุกกันไม่เล่นก็ไม่น่าจะว่ากันขนาดนี้นี่นา แล้วเอ็งว่าไง ต้อม
ต้อม: 	ไม่รู้สิ ถึงข้าไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องผีถ้วยแก้ว แต่ข้าก็กลัวผี อึ๋ยย พูดแล้วเสียว
สืบ:	ไอ้ห่าโตเป็นควายแล้วยังกลัวผีอีกเหรอ
แต่ข้าว่าไม่น่าเล่นว่ะ มันไม่เหมาะยังไงก็ไม่รู้ที่นี่มันไม่ไช่ที่บ้านเรานะเว้ย  หวันออกความเห็นบ้าง
นนท์: 	ก็ได้ไม่เล่นก็ไม่เล่นกูอุตส่าห์หอบมาจากบ้าน
สืบ:  	เอาๆๆ เล่นก็เล่นพูดนิดพูดหน่อยทำเป็นงอน เฮ้ไอ้ต้อม หวันเล่นให้มันหน่อย
นนท์:	กูไม่ได้งอนนะเว้ย ถ้าไม่เชื่อก็ไม่ต้องเล่นถึงเล่นไปก็คงไม่เห็นผลอยู่ดี ต้องเล่นด้วยความศรัทธารู้ป่าวศรัทธาน่ะ
สืบขำแย่เส็กน้อยพร้อมกับพูดขึ้นมาว่าเออน่ากูก็เล่นแล้วไง พวกมันก็เล่นเหมือนกันไช่ป่ะต้อม
ผมยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบอะไร
สืบ:	หวันมืงว่าไง
หวัน:	มันจะดีเหรอ
สืบ:	ลองดูน่า ไม่เป็นไรหรอก นนท์ เตรียมอุปกรณ์
นนท์:	เฮ้ย ตั้งใจหน่อยนะเว้ยก่อนเล่นทำสมาธิ กันก่อนคาถาจะได้ขลัง
คิ๊กๆๆสืบมันขำเล็กน้อย
นนท์:	ไอ้สืบแมร่งกวนตีนว่ะ
พอพวกเราทำสมาธิกันได้สักพักผมรู้สึกว่าบรรยากาศรอบนอกเรามันเงียบมากเสียงพวกที่กินเหล้าก็แทบจะไม่ได้ยินเพราะอยู่ไกล เสียงแมลงกลางคืนหรือเสียงธรรมชาติของป่าก็คงหายไปด้วยชวนขนลุกนานๆครั้งคงได้ยินเสียงของนกที่หากินกลางดังมาเป็นพักๆแต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาทำเสียบรรยากาศของเพื่อนซึ่งกำลังทำสมาธิกันอยู่
นนท์:	เอาหล่ะเอามือมาวางไว้ที่ถ้วยแก้วนี่แล้วพูดคำว่า พุท   โธ	ธา      ยะ   คนละคำพูดให้ครบสามจบนะเว้ยและห้ามทำเล่นด้วย
ขณะที่พวกเรากำลังท่องคาถาที่นนท์ให้มานั้นผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นใจผมมันเต้นแรงมาก เหมือนมีแรกกดดันมหาศาลที่ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไรมาบีบหน้าอกของผมอย่างนั้นแหละมันทำให้ผมหายใจไม่เป็นจังหวะ อาจเป็นเพราะความกลัว ความตื่นเต้น หรือมีอำนาจของอะไรบางอย่างที่ผมสัมผัสได้กันแน่ เมื่อท่องคาถาครบสามรอบ เจ้านนท์ผู้มีความอยากรู้อยากเห็นของผมถามไปก่อนเลยว่า     วิญญาณที่สิ่งสถิตอยู่ ณ ที่นี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดเมื่อได้เข้ามาแล้วจงเดินไปรอบของกระดานนี้ด้วยเถิดพอสิ้นเสียงของเพื่อนผมถ้วยแก้วใบเล็กก็ไหลไปรอบกระดานอย่างรวดเร็วจนผมไม่อาจระงับความตื่นเต้นไว้ได้
เฮ้ยนนท์มันไหลเร็วไปหรือป่าวข้าว่ามันเร็วไปนะเก่งแกล้งป่ะเนี๊ย   ผมถามนนท์อย่างไม่ค่อยมั่นใจ
นนท์:	เฮ้ยกูป่าว ไอ้สืบแน่เลยแม่งยิ่งไม่เชื่ออยู่
สืบ:	พูดงี้ก็กวนตีนดิหาว่ากูแกล้งได้ไง ไม่มึงก็ไอ้หวันนั่นแหละ ทำมาพูดดี
หวัน: หวันไม่ได้แกล้งนะครับ ต้องเป็นคนใดคนหนึ่งในที่นี้แหละที่แกล้ง
นนท์:	เอาหล่ะใครจะแกล้งหรือไม่แกล้งก็ช่างเถอะลองมาถามดูดีกว่า
	วิญญาณที่เข้าสถิตอยู่นะที่นี้บอกผมหน่อยเถิดว่าท่านมีชื่อว่าอะไร เป็นใครมาจากไหนและตายได้อย่างไร
ถ้วยแก้วใบนั้นลอยวนไปวนมาตามตัวอักษรต่างๆได้เรื่องมั่งไม่ได้เรื่องมั่งแต่สรุปได้ว่าวิญญาณที่มาสถิตอยู่นั้นมีชื่อว่า แฮ่น 
แฮ่น:	กูคือชื่อว่าแฮ่นเป็นทหารรับใช้ในพระองค์ต้นโดยไอ้อีมันร่วมมือกันฆ่า
นนท์ถามต่อไปว่า ทำไมต้องฆ่าด้วยเหรอครับ
มันลักได้เมียกูกูจับได้มันก็เลยฆ่ากูกูรอมันมานานแล้ว
เฮ้ยนนท์ถามเรื่องอื่นเถอะหวันบอก
แล้วท่านพอจะบอกได้ไหมครับว่าเมื่อชาติที่แล้วเราเป็นใคร
เอาสิเดี๋ยวกูจะบอกให้
       ไอ้นนท์   เป็นนางทาส ในเรือนเจ้านายคนหนึ่งตกน้ำตาย
       หวัน     เป็นทาส  ชื่อว่า แฮ่น ริลักลอบกับเมียเจ้านายโดนฆ่าตาย
สืบ      ผีตนนั้นมันบอกว่า เจ้าคือ เจ้าพระยาเทพทินกรไกรภพแห่งอโยธยา
       และผม    เป็นทหารรับใช้ในสมเด็จพระเจ้าตาก มีชื่อว่า ขอน 
       แค่นั้นแหละไอ้ สืบ มันเอามือออกจากแก้วแล้วบอกว่า 
          ไอ้ห่าใครแกล้งว่ะ แม่งมั่วว่ะ พระเจ้าเฮี้ยอะไร  ไอ้นนท์มึงแกล้งแน่ผีถ้วยแก้วอะไรว่ะแม่งโม้เป็นเรื่องเป็นราว
เฮ้ สืบพูดอะไรก็ระวังมั่งแล้วถ้าเกิดกูไม่ได้แกล้งมันจะไม่ดีนะ
กูไม่เชื่อต้องมีใครสักคนอธิบายเรื่องนี้
แกล้งไม่แกล้งแล้วมึงเป็นเฮ้ยอะไรนักหนาว่ะ
กูไม่ชอบกูไม่ชอบให้ใครทำอย่างนี้นะโว้ย เอาสิว่ะผีห่าซาตานตนใดถ้ามีจริงก็ออกมาสิว่ะแม่งโกหกชัดๆเจ้าพระยงเจ้าพระยาบ้าที่สุด ถ้ากูเป็นเจ้าพระยาแล้วพวกเองมิได้เป็นพระราชาเลยรึ
  ซักพักรุ่นพี่คนนึงก็เข้ามา (ชวนไปกินเหล้านั่นแหละ )ถามว่าทำอะไรกัน ผม บอก เล่นผีถ้วยแก้วพี่  พี่แกบอกว่า  เก็บเลยๆ เล่นไม่ดูสถานที่เดี๋ยวก็เจอดีหรอก  ทุกคนก็พากันออกมากินเหล้า ยังไม่ทันได้เมาเลย ไอ้ สืบ มันเหมือนคนเป็นลมบ้าหมูยังงั้งแหละลงไปชักน้ำลายฟูมปากต้องพากันปฐมพยาบาลกันใหญ่  แทนที่มันจะหาย กลับเกิดเหตูการณ์ไม่คาดคิดมันลุกขึ้นจับค้อนไล่ฟาดคนนู้นทีคนนี้ที ได้วิ่งกันกระเจิงสิครับ สักพักมีคนรวบตัวไว้ได้พากันปลอบเป็นอะไร ใจเย็น ค่อยพูดจากัน กลับมีสิ่งแปลกที่เกิดขึ้นมาคือ เสียงที่ออกมามันไม่ใช่เสียงไอ้สืบ อีกต่อไปมันเป็นเสียงของใครอีกคนซึ่งเราไม่รู้  เสียงนั้นน่ากลัวมาก ในตาแดงกล่ำ แทบจะเป็นเลือด เที่ยวด่าคนนู้นที คนนี้ที ว่ามันโดนลบหลู่กูอย่างแรง ถามว่าลบหลู่อย่างไรมันก็ไม่ยอมบอกบอกแต่เพียงว่า ปล่อยกู เดี๋ยวนี้  กูจะเอาไอ้นี่(สืบ)ไปอยู่ด้วยมันท้ากูมันอยากลองดีกูก็จะให้มันได้ลอง พร้อมทังดิ้นไปดิ้นมาไม่น่าเชื่อว่าไอ้สืบ เพื่อนพี่ซึ่งผอมๆ ตัวบางจะแรงเยอะได้ขนาดนี้ พี่พจน์ รุ่นพี่ผู้อาวุโสกว่าใครเพื่อน เข้ามาขอขมาแล้วสวมพระเข้าไปที่คอ พร้อมทั้งตะโกนว่า เจ้าป่าเจ้าตนใดหากน้องผมกระทำการอันใดผิดไปอภัยให้ลูกด้วยเถอะ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน