"คุณมีความสุขไหมคะที่คิดกับแม่จ๋าแบบนี้?!" ทัศนัยนิ่งงันอยู่อย่างนั้น คำถามที่เปล่งออกมา เหมือนราวกับโดนลูกกระสุนที่พุ่งออกจากปากกระบอกปืน พุ่งตรงเข้าใส่หัวใจให้ต้องรู้สึกเจ็บร้าว "มีความสุขมากใช่ไหมคะที่ทำร้ายจิตใจแม่จ๋าได้น่ะ?!" "หวาน! พ่อขอโทษ!" "ขอโทษ! คุณพูดว่าขอโทษงั้นหรอ..คนที่คุณควรขอโทษคือผู้หญิงที่ ชื่อนวลปรางค์ต่างหาก! แต่มันสายไปแล้วล่ะ เพราะแม่ได้ตาย ไปแล้ว! ตายไปเพราะคุณเป็นคนฆ่า!..ฆ่าด้วยความคิดโง่ ๆ ของคุณอย่างไงล่ะ!" หวานโพลงออกมาอย่างสุดแค้น น้ำตาไหลนองหน้า ร่างบางที่ยืนอยู่สะท้านไปด้วยความโกรธ "พ่อไม่ได้ตั้งใจลูก!" "คุณรู้ไหม ทำไมหนูถึงรู้เรื่องราวระหว่างคุณกับแม่ เพราะเพื่อนสนิท แม่คนหนึ่งเป็นคนเล่าให้หนูฟัง แต่สำหรับแม่ แม่ไม่เคยพูดถึงคุณว่า ไม่ดีเลย สักครั้งก็ไม่เคยมี ทุกประโยคที่หนูได้ฟังแม่เล่านั้น มันมี แต่เรื่องดี ๆ ของคุณทั้งนั้น" หวานหยุดพูดยกหลังมือเช็ดน้ำตาที่มันเริ่มทำให้ตาของเธอพร่ามัว "มีครั้งนึงหนูเคยถามแม่ว่า.." . . . "แม่จ๋า แม่โดนเขาทำร้ายจิตใจขนาดนี้ แม่ไม่รู้สึกโกรธ เกลียด เขาบ้างหรือไงจ๊ะ" "ไม่หรอกจ๊ะหวาน" "ทำไมล่ะจ๊ะแม่" "เพราะในหัวใจดวงนี้ของแม่เก็บแต่สิ่งดี ๆ ของพ่อจ๋าไว้เยอะแยะ เลยน่ะสิจ๊ะ เยอะจนไม่มีที่พอให้เก็บสิ่งไม่ดี ของพ่อจ๋าไว้" . . . "นี่ไงคะคำพูดของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่คุณเคยคิดว่าเธอเสแสร้ง!" แล้วหวานก็วิ่งพรวดพราดขึ้นข้างบนไป ไม่สนแม้แต่จะหันมามองผู้เป็นพ่อว่า ตอนนี้จะรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวกับสิ่งที่ตนเคยทำไว้อย่างไรบ้าง "ทำไมล่ะปรางค์ ในเมื่อผมทำเลวกับคุณถึงขนาดนี้ ทำไมคุณยังดี กับผมอยู่ ทำไมล่ะปรางค์ ทำไม!!!!!!!!!!!!!" น้ำตาลูกผู้ชายอย่างทัศนัยได้ไหลออกมา ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว ผสานกับความรู้สึกผิด เขาทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งที่รักเขาสุดหัวใจอย่างนี้ได้อย่างไร จิตใจของเขามันทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้เลวเพียงนี้ มันสมควรแล้วล่ะที่จะโดนลูกสาวว่า เป็นฆาตกร ภายในห้องของหวาน "แม่จ๋า! ไม่เอาแล้ว หวานไม่อยากอยู่กับเขาอีกแล้ว ไม่เอาอีกแล้วนะแม่" . . . แม้เมื่อคืนมันจะเต็มไปด้วยเรื่องราวที่เจ็บปวด แต่ทัศนัยก็ตื่นแต่เช้ามาหุงหาอาหารให้ลูกสาวเหมือนเช่นทุกวัน กับความรู้สึกเสียใจที่ยังคงติดค้างอยู่ มันทำให้เขาไม่มีกระจิตกระใจที่จะทำอะไร จึงเลือกที่จะทำครัวซองแฮมชีส อย่างง่าย ๆ ให้ลูกสาวทานก่อนไปโรงเรียน "หวานแต่งตัวเสร็จยังลูก" เขาตะโกนถามลูกสาวที่อยู่ข้างบนอย่างแปลกใจ เพราะปกติลูกสาวจะต้องลงมานานแล้ว ด้วยความรู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก ทำให้เขาต้องรีบวิ่งไปดูลูกสาวทันทีพร้อมความรู้สึกที่มันหวิว ๆ ยังไงชอบกล "ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก" เขาเคาะประตูตามด้วยเสียงตะโกนเรียกลูdสาวอย่างอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ "หวานครับ ลงมากินอาหารเช้าได้แล้วลูก" .... เงียบไม่มีเสียงตอบออกมาจากห้องของลูกสาว ไม่ว่าจะเรียกสักกี่ครั้งก็ตาม และเมื่อลองบิดลูกบิดประตู ทัศนัยก็ต้องพบกับความแปลกใจที่มันไม่ได้ทำการล็อคแต่อย่างใด เขารีบเปิดประตูพรวดพราดเข้าไปทันที และสิ่งที่เขาพบมันก็คือ....
10 เมษายน 2549 23:13 น. - comment id 90371
ชอบๆๆๆ สะเทือนอารมณ์ดี อ่านแล้วสะเทือนใจแผ่ไปถึงปอดเลยอ่ะค่ะ คุณนักเขียนเก่งมากๆเลยนะค่ะคิดจุดไคลแม็กส์ได้เจ๋งมากๆเลยค่ะ มีทิ้งท้ายไว้ให้คนอ่านคิด มีการปูและเก็บเนื้อเรื่องได้เรียบร้อยกว่าทุกๆเรื่องที่ผ่านมา จะรู้สึกแปลกๆตอนอ่านบทที่พ่อลูกเค้าทะเลาะกันนะค่ะ อ่านแล้วสับสนไม่รู้ใครเป็นพ่อเป็นลูกเลยลูกดุยังกะเสือ ฮ่าๆๆๆ ปราบพ่อซะอยู่หมัดเลย ***ชื่นชมคุณนักเขียนมากๆเลยค่ะชอบอ่านเรื่องนี้มากเลยถ้าหากคุณนักเขียนสอดแทรกแง่คิดเข้าไปอีกหน่อยนะค่ะ ส่งชิงรางวัลได้เลยค่ะ แถม รางวัลนิยายสร้างสรรค์สังคมไปอีกรางวัลด้วยเอ้า
11 เมษายน 2549 06:58 น. - comment id 90372
นี่เจ้าเพลิงกุหลาบเราน่ะชม แต่อีกเว็บนึงฉานโดนด่ายับเลยอ่ะ อิ อิ ไม่เป็นไร มันยิ่งไปกระตุ้นต่อมกำลังใจของฉานให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้รู้สึกคุณน้องจะชมสะเว่อร์เชียวนะคะ