แอบรักเธอยัยจอมแก่น(1)
เรียงร้อยเป็นเรื่องราว
"พี่เรียว"
"เฮ้ย!ชีสยะ..
ยังไม่ทันที่เรียวจะขยับปากห้ามไว้ทัน ร่างสมส่วนของแม่สาวน้อยวัยกระเตาะก็หล่นดังตุ๊บ!ลงมาบนที่นอนจากทางหน้าต่างของอีกฝั่ง
"เพี๊ยะ!"
"โอ๊ย!เจ็บนะพี่เรียว มาตีก้นชีสทำไมน่ะ"
"ก็ตีให้เจ็บน่ะสิ ประตูมีไม่รู้จักใช้ เดี๋ยวเหอะ สักวันแข้งขาจะหักเอา
"อะโด่..ชีสสะอย่าง"
"ชีสสะอย่าง แหม!มันน่านัก ขออีกสักทีเถอะ"
คราวนี้แม่สาวน้อยไม่ยอมให้โดนอีกง่าย ๆ เบี่ยงตัวหลบทันทีด้วยความเร็วจี๋ แถมยังยักคิ้วหลิ่วตาล้อเลียนอีกต่างหาก แต่แทนที่เรียวจะโกรธ กับรู้สึกขันขึ้นมา กับท่างทางเป็นลิงเป็นค่างของเจ้าหล่อน
"เจ้าเด็กทะเล้น!"เรียวพูดพร้อมกับส่ายหน้าอย่างขำ ๆ
"แก่นกระโหลกอย่างนี้เดี๋ยวไม่มีใครขอแต่งงานหรอก"
"ไม่มีใครขอ ชีสก็ขอพี่เรียวแต่งงานเองก็ได้"
แม่สาวน้อยลอยหน้าลอยตาพูดออกมา โดยไม่เอะใจสักนิดว่า ได้ทำให้หัวใจของผู้ฟังนั้นรู้สึกหวาบหวิวอยู่ลึก ๆ
"แล้วนี่มาเอาอะไรอีกล่ะ"
"เห็นพี่เรียวบอกว่าซื้อเกมส์มาใหม่เลยมาขอยืมน่ะ"
"ซื้อมาหลายเกมส์เหมือนกัน เดี๋ยวหยิบมาให้เลือก"
ว่าแล้วเรียวจึงเดินไปยังตู้โชว์ที่ตอนนี้ถูกดัดแปลงเป็นตู้เก็บแผ่นเกมส์เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว
"เอ้านี่เลือกเอาตามใจชอบเลย เฮ้ย!ทำอะไรน่ะ!"
"ถามได้ ดูหนังสืออยู่น่ะสิ"
ดูเหมือนแม่สาวน้อยไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเขาเลย ยังคงดูหนังสือที่ไร้ตัวอักษร มีเพียงภาพเหล่าสาวงามที่อยู่ในท่วงท่าอิริยาบทต่าง ๆ ทว่าเครื่องอาภรณ์ที่สวมใส่กับน้อยชิ้นนัก เรียวไม่อยากเชื่อเลยว่า แม่สาวน้อยคนนี้จะนั่งดูได้อย่างหน้าตาเฉย แถมบางทียังยิ้มออกมาอีก แค่นี้ยังไม่พอ ไม่รู้ไปเปิดเจอภาพไหนถูกอกถูกใจเข้า ถึงได้หัวเราะร่าออกมา อย่างชอบใจ
"เฮ้ย!นี่วางได้แล้ว ไม่ใช่หนังสือที่ควรจะดูเลย"
"ทีพี่เรียวยังดูได้"
"พี่เป็นผู้ชาย แต่ชีสเป็นผู้หญิง"
"ผู้ชาย ผู้หญิงแล้วไง ผู้ชายทำอะไรได้ ผู้หญิงก็ทำได้เหมือนกัน"แม่สาวน้อยพูดพร้อมกับย่นจมูกอย่างขัดใจนิด ๆ
"เอ้านี่ เชิญเลือกตามสบายครับองค์หญิง"
ขณะที่ชีสกำลังเลือกแผ่นเกมส์อยู่นั้น เรียวเองก็ได้ใช้ช่วงเวลานี้ แอบมองพร้อมรอยยิ้มอย่างสุขใจ ไม่ว่าด้วยหน้าตา สีผิว สาวน้อยคนนี้ช่างเหมือนเด็กญี่ปุ่นเหลือเกิน ครั้งแรกที่ได้เจอ เขาเองเคยเข้าใจผิดคิดว่า เป็นเด็กญี่ปุ่นจริง ๆ เสียอีก
"ชีสเอาสองอันนี้แหละ"
แก้มที่แดงตามธรรมชาติของมันอยู่แล้ว กับยิ่งแดงขึ้นอีก เมื่อพบว่าตัวเองกำลังถูกมองจากสายตาคมเข้ม ที่ทำให้ผู้ถูกมองไม่เข้าใจว่า เหตุใดจึงรู้สึกประหม่าและหวั่นไหวยิ่งนัก
"ชีส..เฮ้!อยู่กับพี่เรียวเปล่า"
ความรู้สึกของชีสต้องหยุดชะงักลงพร้อมกับเสียงเรียกเธอจากใครสักคนดังอยู่ข้างล่าง เป็นเสียงของนายเบิ้มนั่นเอง ที่กำลังเรียกเธออยู่ สาวน้อยลุกไปดูที่หน้าต่างเห็นนายเบิ้มยืนอยู่กับเพื่อนอีกสองสามคน ซึ่งกำลังเงยหน้าขึ้นมาบนนี้
"ไปเล่นเตะบอลกันเปล่าลูกเพ่สุดสวย"เบิ้มส่งเสียงชวน
"ไป ๆ รอแป๊บนะ พี่เรียวไปเตะบอลกันไหม"ชีสส่งเสียงบอกพลางหันมาชวนเรียว
"ไม่ล่ะ"เรียวปฏิเสธตามด้วยเหตุผลที่ว่า
"วันนี้พี่มีรายงานพรึ่บเลย ต้องส่งอาทิตย์หน้าด้วย"
"งั้นคนสวยไปแล้วนะ"พอคล้อยหลังแม่สาวน้อย เรียวก็ได้เอ่ยปากถามตัวเองอย่างข้องใจว่า
"คิดผิดเปล่าว่ะเรา"แต่ก็เผลอยิ้มอย่างสุขล้น
"ว่าไงนะเมื่อกี้บอกแม่ว่าจะไปไหนนะ"คุณวัลภาเอ่ยถามลูกสาวอีกครั้ง เพราะไม่แน่ใจว่าเมื่อสักครู่ที่ตนได้ยินนั้นผิดหรือเปล่า
"ไปเตะบอลคะ"โดนลูกสาวตอบเท่านี้แหละ ร่างของคุณวัลภาแทบล้มทั้งยืน
"ต๊าย!ตายจริงแม่ลูกสาวคนเดียวของฉัน"คุณวัลภาร้องออกมาพลันเอามือทาบลงไปบนอก
"จะเล่นอะไรให้มันเป็นกุลสตรีหน่อยไม่ได้หรอลูก"
"ไม่ได้คะ"ชีสตอบผู้เป็นแม่อย่างหน้าตาเฉย ทำเอาผู้เป็นพ่อที่ยืนอยู่แถวนี้ด้วยต้องหัวเราะออกมา
"นี่!คุณขำอะไรคะ"คุณวัลภาหันไปถามผู้เป็นสามีด้วยอารมณ์ขุ่นนิด ๆ
"จะขำอะไร ผมก็ขำแม่ลูกสาวจอมแก่นของเราน่ะสิ
ท่าว่าช่วงที่ผมไปดูงานที่อเมริกาตอนนั้น คุณคงต้องแอบเล่นชู้
กับท่านหนุมานแน่ ๆ"คุณเกรียงไกรพูดเป็นทำนองตลกออกมา พลางหันไปทางลูกสาว
"แล้วอย่ากลับให้มืดนะลูก พรุ่งนี้ต้องไปเรียน"
"คะพ่อ"ชีสรับคำแล้ววิ่งไปจากตรงนี้อย่างเร็ว ด้วยกลัวที่ว่าแม่จะไม่ยอมให้ไปเล่น
"เอ๊ะ!นี่คุณแทนที่จะห้ามลูกกับสนับสนุนนะคะ ฉันไม่พูดกับคุณด้วยแล้ว เข้าบ้านดีกว่า"คุณวัลภาอดที่จะลอบค้อนสามีไม่ได้ก่อนพาร่างเจ้าเนื้อนิด ๆ ของตนเข้าบ้านไป