แล้วเราก็เข้าใจกัน(ตอนที่4)

เรียงร้อยเป็นเรื่องราว

"เดี๋ยวตอนเย็นพ่อมารับนะครับ"
ทัศนัยยื่นหน้าออกมาบอกทางหน้าต่างรถ หวานพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ยกมือไหว้พ่อแล้วจึงเดินเข้าโรงเรียนไป
                                                 . . .
 
           "นักเรียนคะวันนี้ครูมีเพื่อนใหม่มาแนะนำให้รู้จักด้วยนะคะ"
ภาวิณีบอกกับนักเรียนประจำชั้นของเธอ พลางหันไปพยักหน้าให้นักเรียนใหม่ที่ยืนอยู่ข้างนอกเดินเข้ามาในห้อง
           "แนะนำตัวกับเพื่อน ๆ สิจ๊ะ" ภาวิณีบอกพร้อมกับยิ้มให้
           "สวัสดีคะ ชื่อเบญจลักษณ์ หรือจะเรียกว่าหวานก็ได้นะ"
          หวานแนะนำตัวเองออกมา น้ำเสียงที่พูดออกมาฟังดูเขินอายนิด ๆ แต่สายตาของหวานกับหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ หวานกล้าที่จะกวาดตามองเพื่อนทุกคนที่นั่งอยู่ ด้วยสายตาที่บ่งบอกความเป็นกันเองของเธอที่มีต่อเพื่อนทุกคน
                         "หวานมานั่งกับไอซ์สิ"
เด็กสาวผมบ็อบสั้นหน้าตาน่าเอ็นดูลุกขึ้นบอกเพื่อน หวานเดินเข้าไปนั่งตามคำเชิญของเพื่อน ท่ามกลางสายตาของเพื่อนทุกคนที่อยากรู้จักเธอมากกว่านี้
                     "ชื่อไอซ์นะจ๊ะ"ไอซ์บอกพลางยิ้มให้ และหวานก็ยิ้มตอบ 
                  "ไอซ์จ๊ะครูว่าเรียนกันก่อนดีกว่าไหม ถึงเวลพักแล้ว
                    ค่อยชวนหวานเขา คุย" ภาวิณีส่งเสียงบอก เมื่อเธอเห็นว่าไอซ์กำลังจะชวนหวานคุย
                                 "คะคุณครู"
                                              . . .
                 "เฮ้ย!ฉันได้ข่าวว่าไอ้ทัศมันเอาลูกมาเข้าโรงเรียนแกหรอว่ะภา"
พนัศกรอกเสียงไปตามสายทันทีที่ทางนั้นรับ
                "อือ"ภาวิณีส่งเสียงอยู่ในลำคอ แต่ก็พอทำให้ทางนั้นได้ยิน
                               "แล้วมันเป็นยังไงบ้าง"
พนัศถามเป็นทำนองคิดถึง เนื่องจากเป็นเวลานานมากแล้วที่เขาไม่ได้เจอทัศนัย
                           "ก็ดีนะและเขาเองดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นด้วย"
                            "นั่นมันแน่อยู่แล้ว อายุเกือบ30แล้วนี่"
พนัศพูดแล้วจึงถามไปถึงลูกสาวของทัศนัยขึ้นมา
                                 "แล้วลูกสาวมันเป็นไงบ้าง"
                       "ก็ดีนะ แต่รู้สึกว่าจะมีปัญหากับทัศเขา"
                                       "อ้าว!ทำไมล่ะ"
                                "แกคงยังปรับตัวไม่ได้น่ะ"
      "นั่นน่ะสิ ไม่เคยเจอหน้าพ่อมาตั้งแต่เกิด จู่ ๆ ต้องมาเจอ 
       เป็นใครก็ต้องเป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ เดี๋ยวอีกหน่อยคงปรับได้เอง"
                                 "ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีสิ"
                                   "มีอะไรหรือเปล่าว่ะแก"
พนัศถามราวกับจะรู้ว่าเพื่อนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ไม่สบายใจ
                 "ฉันคิดไปเองหรือเปล่าไม่รู้ ว่าแววตาที่ยัยหวานมองทัศเขาน่ะ
                  มันเต็ม ไปด้วยแรงแค้น"  
                 "ไม่หรอกน่า...เด็กตัวแค่นี้จะแค้นอะไรเป็น แล้วแกล่ะภา
                   ความรู้สึกของแกที่มีต่อไอ้ทัศ ที่ยังไม่ยอมมีใคร 
                   เพราะยังรักมันอยู่ใช่ไหม"
                                            "รักหรอ"
ภาวิณีทวนคำพร้อมกับนึกไปถึงอดีตที่ทัศนัยเคยทำร้ายจิตใจเธอ เพราะความหลงเพียงตัวเดียวของเขาแท้ ๆ เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดออกมาว่า
                 "ความรักที่มีให้ทัศเขามันไม่มีเหลืออยู่ในหัวใจฉันแล้วล่ะ
                  ความรู้สึกที่มีให้เขาตอนนี้คือความเป็นเพื่อนสนิทเท่านั้น
                 และที่ฉันยังไม่มีใครก็เพราะยังไม่เจอใครที่คิดว่ารักฉันจริง 
                 เจอแต่พวกหลงในรูปฉันเท่านั้นแหละ"
          จริงอย่างที่เพื่อนพูด เท่าที่รู้จักกับภาวิณีมา ในชีวิตเธอมีผู้ชายมากหน้าหลายตาวนเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย ด้วยความสวยระดับที่ประกวดนางงามแล้วต้องได้ที่หนึ่งอย่างแน่นอน ทำให้ใครต่อใครหลายคนพากันหลงใหล และหนึ่งในนั้นเองก็เคยมีทัศนัยรวมอยู่ด้วย
                       "แค่นี้แล้วกันนะภา เดี๋ยวสักพักฉันต้องเข้าประชุมด้วย"
                                       "จ้า งั้นบายเลยนะ"
                                   . . .
                                           "กิ๊งก่อง! กิ๊งก่อง!" 
          เสียงกริ่งหน้าประตูบ้านดังขึ้น ทำให้หญิงชราต้องละสายตาจากจอโทรทัศน์ เพื่อลุกไปดูว่าผู้ที่มานั้นเป็นใคร และทันทีที่รู้ว่าเป็นใคร หญิงชราจึงพาร่างที่ค่อนข้างท้วมของตนเดินไปประเปิดตูให้ผู้ที่มาเยือน 
                                  "สวัสดีครับแม่" 
            "ไหว้พระเถอะลูก แล้วยัยหวานล่ะไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ" 
                              "แกเปิดเทอมแล้วน่ะครับแม่" 
                         "อย่างงั้นหรอกหรือ มา...เข้ามาในบ้านก่อน"
 
                                           "ขอบคุณครับแม่"
ทัศนัยกล่าวเมื่อหญิงชรานำน้ำที่ผสมน้ำยาอุทัยเดินเข้ามาให้ในห้องรับแขก 
                      "ยัยหวานเป็นอย่างไรบ้างตาทัศ"
หญิงชราเอ่ยถามถึงหลานสาวด้วยความคิดถึง 
                                      "ก็สบายดีครับแม่"
ทัศนัยตอบ เขามองหญิงชรานิ่งด้วยแววตาอันเศร้าสร้อย ก่อนตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างออกมา 
              "แต่ดูท่าว่าแกจะไม่ยอมรับผมเป็นพ่อเอาเสียเลย"
สีหน้าของหญิงชราที่เปลี่ยนไป เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ทำให้ทัศนัยสงสัยเป็นอย่างยิ่ง 
                 "แม่พอจะรู้ไหมครับว่าทำไมยัยหวานถึงได้จงเกลียดจงชังผมขนาดนี้"
แทนที่หญิงชราจะให้คำตอบเขา นางกับพูดขึ้นมาว่า 
        "ทัศเอ๊ยสักวันตัวแกเองนั่นแหละที่จะเป็นคนให้คำตอบตัวเอง"				
comments powered by Disqus
  • เรียงร้อยเป็นเรื่องราว

    2 เมษายน 2549 18:18 น. - comment id 90313

    ตอนนี้มีผิดตั้งสามที่แน่ะ
    1.ลำคำ จริง ๆ แล้วต้องลำคอนะคะ
    2.คำว่าต้องมีตั้งสองคำแน่ะ ตรงนี้ไงคะ ทำให้หญิงชราต้องละสายตาจาก....
    3.ลืมใส่คำว่ามาตรงบทสนทนาที่ว่า แล้วยัยหวานไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ65.gif
  • เรียงร้อยเป็นเรื่องราว

    2 เมษายน 2549 18:59 น. - comment id 90315

    อ้าวไอ้ที่แก้ไขลงให้เรียบร้อยแล้วหรอคะ ขอบคุณนะคะ29.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน