สายลมทะเลพัดแรง ทะเลสีฟ้าใส หากยังแลเข้มกว่าท้องฟ้า.. . ฟ้ามีเมฆขาวหลายหย่อม ประปราย อยู่ตรงนั้น ตรงนี้ . วันนั้น ผมนั่งมองฟ้า ดูเมฆขาวก่อตัวเป็นรูปต่างๆ ไอศครีมโคน ปราสาท มังกรตัวยาวๆ . จริงๆมันก็ไม่เหมือนนักหรอก อาศัยจินตนาการช่วยเอาเสียเยอะ ปราสาทดูโย้เย้บูดเบี้ยวไม่สมประกอบ มังกรก็ดูคล้ายไปทางกิ้งกือมีหนวดเสียมากกว่า . เหมือนบ้างไม่เหมือนบ้าง แล้วจะเป็นไรไป? บางที..ชีวิตมันก็ไม่ต่างจากนี้นักหรอก มีอะไรบ้างไหมเล่าในชีวิตที่ใช่และตรงกับที่เราฝันไปเสียทุกอย่าง . บางทีก็แค่คลับคล้าย หากแต่บางทีก็ต้องใช้จินตนาการโขอยู่ ในการที่จะบอกว่าใช่.. . จนบางครั้งก็ไม่แน่ใจว่าสมควรเรียกมันว่าจินตนาการ หรือการหลอกตัวเอง.. ....................................................................................... ถึงอย่างนั้นผมก็ยังสนุกกับการนั่งมองก้อนเมฆบนท้องฟ้ายามบ่ายเปลี่ยนรูปไปมา ตามแต่กระแสลมเบื้องบนจะพัด . ถึงแม้เมฆจะเปลี่ยนรูปไปอย่างไม่มีรูปแบบ ทิศทาง แต่การไม่มีรูปแบบที่แน่นอนนี้เอง ตามกฏของความน่าจะเป็นแล้ว มันก็มีโอกาสหนึ่งในพันหรือหนึ่งในหมื่น ที่จะมีรูปแบบที่ชัดเจนที่เราเห็นแล้วสามารถบอกได้ว่าถ้าจินตนาการดูแล้วมันจะคล้ายกับอะไร.. . ผมยังคงนั่งดูไปเรื่อยๆ . แล้วเมฆก็ค่อยๆก่อรูปขึ้น มีหู มีหัว ขาหน้าและหาง . เมฆก่อตัวเป็นรูปแมว.. ........................................................................................ ผมนั่งอ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็น . มันเหมือนแมวจริงๆเสียจนไม่ต้องใช้จินตนาการใดๆ . มันคือเมฆรูปแมวที่มีชีวิตเลยนั่นแหละ ให้ตายสิ!! . เจ้าเหมียวก้อนเมฆที่มีอวัยวะครบ กำลังนั่งแลบลิ้นเลียเท้าหน้าข้างซ้าย หางงอเล็กน้อยแบบที่เรียกกันว่าหางกวัก . ผมตาฝาดไปหรือเปล่าเนี่ย?? . มองดูคนรอบข้าง บางคนมองทะเล บางคนก็มองท้องฟ้า บางคนมองสาวๆนุ่งบิกินี่ . แต่เหมือนจะไม่มีสักคนที่เห็นเจ้าเหมียวนั่น เหมือนที่ผมเห็น . เจ้าแมวนั่น มันเหมือนจริงเสียจนเกินความน่าจะเป็น!! ........................................................................................ คุณเห็นแมวบนท้องฟ้านั่นไหม ? ผมหันไปมองที่ต้นเสียง หญิงสาวสูงโปร่ง ผมดำขลับเคลียบ่า ตากลม น่ารัก.. พูดกับผมโดยที่เธอยังคงเงยหน้ามองฟ้าอยู่ . เธอมาอยู่ใกล้ผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ใกล้..เสียจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆทีเดียวแหละ . เห็น เมื่อกี๊มันเลียขาซ้ายอยู่เลย ตอนนี้เจ้าแมวเหมียวก้อนเมฆมันสลับเอาขาขวาขึ้นมาเลีย . มันเกิดขึ้นได้ยังไงนะ ผมเป็นฝ่ายชวนคุยต่อ เมื่อเห็นเธอเงียบไป . เรื่องของความน่าจะเป็นมั้ง? ผมชะงัก เธอตอบเหมือนอย่างที่ผมนึกเมื่อตะกี๊ . ทุกๆอย่างในโลก บางทีอาจเกิดจากความน่าจะเป็นทั้งนั้นแหละ เธอพูดต่อ หรือที่เราเรียกว่าความบังเอิญไง . บังเอิญเป็นแมวเนี่ยนะ? ชัดขนาดนี้เนี่ยนะ? . อื้อ เธอผงกหัว บางทีอาจจะแค่หนึ่งในล้าน แต่มันก็เป็นไปได้ เป็นไปแล้ว เธอละสายตาจากก้อนเมฆบนท้องฟ้า หันมาสบตาผม ฟันขาวเป็นระเบียบ สวยทีเดียว.. . คุณไม่คิดว่ามันคือปาฏิหารย์บ้างหรือ เธอส่ายหัว . มีอะไรแตกต่างกันล่ะ ระหว่างปาฏิหารย์กับความบังเอิญ เธอว่า บางทีปาฏิหารย์อาจเป็นแค่หนึ่งในความน่าจะเป็นล้านอย่างที่อาจเกิดขึ้นในวันใดวันหนึ่งก็ได้โดยที่เราไม่คาดคิดมาก่อน . เป็นเรื่องธรรมดาสามัญเหมือนความน่าจะเป็นอื่นๆ เพียงแต่เราเรียกมันว่าปาฏิหารย์เพราะเราใช้ใจไปยึดถือมันไว้ เราคว้าความน่าจะเป็นหนึ่งในล้านนั้นไว้ เพื่อนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่เราต่างหาก . ผมอึ้งไปกับสิ่งที่เธอพูด.. . ยอมรับว่าผมไม่เข้าใจ ........................................................................................... ต่อจากนั้น เราคุยกันมากมายหลายอย่าง . เรื่องโน้น เรื่องนี้.. . ยิ่งคุยกับเธอมากขึ้น ผมก็ยิ่งรู้สึก ว่าผู้หญิงคนตรงหน้านี้ น่าสนใจกว่าไอ้เจ้าแมวเหมียวบนท้องฟ้าเป็นไหนๆ . . . ฉันต้องไปแล้วหละ เธอบอกง่ายๆ นัดเพื่อนไว้บ่ายสาม . อืมม ผมใจหาย ไม่รู้ทำไม แล้วผมจะได้เจอคุณอีกไหม ? . ไม่รู้สิ.. อาจจะก็ได้นะ เธอยิ้มใส่ตาผม ตาเธอเป็นประกาย ซุกซน แต่มีอะไรบางอย่างที่ลึกซึ้ง . มีความน่าจะเป็นทุกอย่างอยู่ในชีวิตเรานั่นแหละ ........................................................................................... วันนี้ ผมมานั่งที่เก่า นั่งมองก้อนเมฆอยู่เหมือนเดิม . เวลาผ่านไปแล้วสามเดือน . ผมเพิ่งเข้าใจคำว่าปาฏิหารย์ที่เธอพูด.. . ในความน่าจะเป็นทุกอย่าง มีปาฏิหารย์ . แต่มันจะไม่มีทางเกิดปาฏิหารย์ได้ หากเราไม่รู้จักที่จะฉวยความน่าจะเป็นนั้นไว้.. . ทำไมผมไม่ถามชื่อเธอ ทำไมผมไม่ขอเบอร์โทร หรืออะไรก็ได้ที่จะทำให้เราติดต่อกันได้ . ทั้งๆที่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ผมรู้สึกว่า ผมเจอคนที่ ใช่ . การที่เราพบกันอาจเป็นแค่ความน่าจะเป็น แต่เรื่องที่เรา ทำ ต่อจากนั้นต่างหาก ที่จะทำให้เราบอกได้ ว่าความน่าจะเป็นอันไหน.. คือปาฏิหารย์ ................................................................................. ผมนั่งมองท้องฟ้า ดูเมฆเปลี่ยนรูปไปเป็นรูปร่างต่างๆ . หวัง ว่าอาจมีอีกสักครั้ง ที่เมฆจะก่อตัวขึ้นเป็นเจ้าแมวเหมียว . ถึงแม้ว่ามันจะมีความน่าจะเป็นแค่หนึ่งในล้านก็ตามที . แต่ถ้ามันเกิดขึ้นอีกครั้ง . ผมสัญญากับตัวเอง . ว่าครั้งนี้ ผมจะทำให้มันเป็นสิ่งที่เรียกว่า . ..ปาฏิหารย์.. ................................................................................
24 มีนาคม 2549 03:52 น. - comment id 90175
โดน มาก ๆ เลยครับงานชิ้นนี้
24 มีนาคม 2549 16:38 น. - comment id 90180
25 มีนาคม 2549 14:20 น. - comment id 90187
เรนชอบภาพจัง.... สีฟ้าที่อ่อนโยน.. อยากเก็บเมฆมาปั้น.. สร้างสีสันในท้องฟ้า.. ปั้นเมฆปั้นนกกา.. ปั้นยิ้มหรา..ให้มาเต็มฟ้าเลย.. อิอิอิ .. ซาแว้ปป..ปปป..
28 มีนาคม 2549 14:14 น. - comment id 90261
หลายครั้งที่เคยคิดว่าบางสิ่งบางอย่างน่าจะเป็นอย่างนั้น .. แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นอย่างนี้ .. อีกหลายครั้งที่เคยปลงตกว่าอะไรต่อมิอะไรคงไม่เป็นดั่งใจหวังทุกอย่าง .. แล้วก็ต้องผิดหวังเพราะมันกลายเป็นดั่งหวังซะงั้น .. ปาฎิหารย์ กับ ความบังเอิญ .. คล้ายกันนัก .. ต่างกันแค่ .. ใครๆ ก็รอคอยให้เกิดปาฎิหารย์ .. แต่น้อยคนนักจะรักความบังเอิญ .. .. %36 ..
23 กุมภาพันธ์ 2550 08:12 น. - comment id 95084
อยากเห็นเมฆแบบนั้นบ้างจังค่ะ งั้นนัสจะรีบไปฉวยความน่าจะเป็น ถึงแม้มีเพียง1ในล้าน ไปอ่านหนังสือสอบก่อนนะคะ