::: ชมอักษรชวนชิม ( แอ่วเจียงใหม่ ภาค 2 เจ้า ) :::

ชมอักษร

ชมอักษรมาแว้ววววว .. ฮะฮะฮะ  ..
กลับมาเล่าเรื่องตามที่ทิ้งท้ายไว้ในคราวก่อน .. 
คราวนี้ .. แอ่วเจียงใหม่ ภาค 2 .. ชมอักษรชวนชิม .. เจ้า ..
.....
				

โปรแกรมแรกของการเที่ยววันที่สอง ( 12 ก.พ.49 ) ก็คือการไปไร่สตรอว์เบอร์รี่ ..
ตามที่กำหนดไว้แต่แรก .. คนจัดโปรแกรมตั้งใจจะพาไปที่สะเมิง ..
ซึ่งเป็นแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รี่ที่ใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ..
แต่ด้วยความผิดพลาดบางประการ .. ทำให้ออกเดินทางล่าช้า ..
จึงต้องแวะไร่สตรอว์เบอร์รี่เล็ก ๆ ข้างทาง .. ( แถวไหนจำไม่ได้ค่ะ .. เหะ ๆ )
ซึ่งตรงจุดนี้ก็มีสตรอว์เบอร์รี่ขาย .. แถมยังถูกมาก ๆ ด้วย .. 


				

ก่อนอื่น .. ขอเล่าเรื่องโง่ ๆ ของตัวเองนิดหนึ่งค่ะ ..
วันแรก .. ก่อนที่จะขึ้นอินทนนท์ .. 
ด้วยความที่ชอบกินสตรอว์เบอร์รี่มาก .. ก็เลยแวะแผงขายผลไม้ข้างถนน ..
ลูกโตกว่าที่ขายใน กทม. สอบถามราคา .. กก.ละ 180 บาท
ชมอักษรเห็นว่า ถูกอ่ะ .. ถูกกว่า กทม. ก็เลยไปยืนเลือกลูกสวย ๆ โต ๆ มาครึ่ง กก.
ถูกใจที่สุดละ .. มารู้สึกว่า เสียค่าโง่ .. อุตส่าห์มาเชียงใหม่
ก็ยังกินสตรอว์เบอร์รี่แพงอยู่ดี ..

ก็เพราะที่ที่ชมอักษรแวะในวันนี้ .. สตรอว์เบอร์รี่ลูกโตกว่า .. สดกว่า .. สวยกว่า ..
ขายในราคา กก.ละ 70 บาทเท่านั้นค่ะ .. ( โอ้แม่เจ้า )
ในขณะที่ ลูกที่เล็กลงมานิดนึง ที่มีขายทั่ว ๆ ไปใน กทม.นั้น กก. ละ 50 บาทเองด้วย ..
ยืนอึ้งไปพักใหญ่ .. ก็กระดี๊กระด๊าลืมโง่ไปในบัดดล .. ไม่สนใจแระ ..
ในเมื่อมาเจอที่ดีและถูกกว่าแบบนี้ .. จะรออะไรอีกน้อออ ..


				

สนุกสนานกับการเลือกสตรอว์เบอร์รี่ใส่กล่องมาก .. ซื้อไปทั้งหมด 2 กก.
ใจอยากซื้อเยอะกว่านี้ .. แต่ขนไม่ไหว และกลัวจะเน่าเสียก่อนได้เอาไปฝากเขา ..

ซื้อเสร็จก็ขึ้นรถเดินทางต่ออย่างสบายใจ .. 
คอยดูเถอะ .. กลับบ้านไปจะกินให้เบื่อกันไปข้างนึงเลย ..
แล้วจะจำเอาไว้ด้วยว่า ..จะไม่ซื้อสตรอว์เบอร์รี่ราคาแพงเกิน กก.ละ 100 เด็ดขาด ..



โดยที่กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว .. ชมอักษรลืมถายรูปต้นสตรอว์เบอร์รี่ไปซะงั้น ..
มัวเริงร่ากับของชอบ ( แถมยังถูก ) .. ลืมไปเลยว่าอยากเห็นดอกสตรอว์เบอร์รี่ ..
เคยเห็นแต่ในรูป .. มันเล็กน่ารัก .. สีขาวตัดกับสีของผลจนอยากเห็นของจริงค่ะ ..

				

ดอกเล็ก ๆ สีขาวบริสุทธิ์ .. ก่อนจะไปเป็นผลสีแดงสด .. ผลโต ๆ น่ากิน ..
เอารูปที่เสิร์ชได้มาให้ดู .. สวยดีค่ะ ..

** รูปสตรอว์เบอร์รี่เป็นรูปที่หาเอาจากเว็บค่ะ .. ยกเว้นรูปที่ 3
ต้องขอบคุณ"นายดอกไม้" ที่เคยส่งรูปนี้มาให้เมื่อนานมาแล้วค่ะ ..**

แบบว่า .. ลืมถ่ายมาจริง ๆ .. 



				

นั่งรถชื่นชมทัศนียภาพ 2 ข้างทาง ..
จนเริ่มหิว .. ดูเวลาก็ใกล้เที่ยงแล้ว .. จึงมุ่งหน้ากลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง ..
จุดมุ่งหมายคือ .. ร้านข้าวซอยชื่อดังค่ะ ..
และเพราะเนื่องจากเป็นร้านดัง .. แน่นอนว่าคนต้องเยอะ ..
ถ้าไปช่วงเที่ยง .. คงหาโต๊ะนั่งลำบาก .. 
ชมอักษรจึงไปแวะร้านเค้กที่เป็น 1 ใน 2 ร้านที่ตั้งใจมาชิมเค้กให้ได้ก่อน ..
ชื่อร้าน "เฟิร์น ฟอร์เรส"ค่ะ..


				

ป้ายชื่อร้านที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านค่ะ ..
แค่เห็นป้าย .. ก็อยากเข้าไปเห็นหน้าตาเค้กแล้วใช่มั๊ยคะ ..


				

ภายในร้านซึ่งอยู่ในบริเวณบ้าน .. จะมีโต๊ะให้นั่งอยู่ในสวนที่ค่อนข้างร่มรื่น ..
บรรยากาศเหมือนเรานั่งกินเค้ก .. จิบกาแฟอยู่ในสวนบ้านของตัวเองค่ะ ..

โชคไม่ค่อยดี .. ที่เค้กของทางร้านมีไม่ครบทุกอย่างแล้ว ..
เพราะขายหมด ยังไม่ได้ทำใหม่ ..
แต่เท่าที่มีอยู่ .. ก็ยั่วน้ำลายชมอักษรได้แล้วค่ะ ..
ดีนะคะ .. ที่เค้กอยู่ในตู้ .. ไม่งั้นน้ำลายคงหยดลงเค้กแน่ ๆ ค่ะ .. 5555


				

และนี่คือ .. "บลูเบอร์รี่ชีสพาย" 1 ชิ้น ที่ชมอักษรซื้อมาเป็นของหวานหลังมื้อเที่ยง ..
และก็ยังมี "Black Forest Cake" กับ " White Choc Cheese Cake" 
อีกอย่างละ 1 ชิ้น .. นอรอชมอักษรอยู่ในกล่องค่ะ .. หนีเราไม่พ้นแน่ ๆ .. ฮี่ฮี่ฮี่ ..

((( Black Forest Cake อ่ะ .. ม่ะรู้ว่าใครน้อที่อยากกิน .. เจ๊กีกี้ .. มาตอบโลด .. )))

......


หลังจากได้เค้กที่ถูกใจแล้ว .. เราก็มุ่งหน้าสู่ร้านข้าวซอยชื่อดังของเชียงใหม่เลยค่ะ ..
มื้อเที่ยงรอเราอยู่ที่นั่น ....

...

.....


				

น่าตาดูดีใช่มั๊ยคะ .. ต้องอร่อยแน่ ๆ ..
แล้วเดี๋ยวจะบอกว่าชมอักษรเลือกซื้อเค้กอะไรค่ะ .. ( บางคนคงอยากรู้ .. อิอิ )


				

ให้ดูชัด ๆ .. อันนี้เป็น  "ชีสเค้กชาเขียว" ค่ะ .. 
ไม่ถูกสเป็คเท่าไหร่ แหะ ๆ  .. แต่หน้าตาดูดีค่ะ ..

				

นี่คือ " บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก" ร่วมด้วย " แครอทเค้ก" ค่ะ ..
น่าหม่ำทั้ง 2 อย่างเลยเนอะ .. อิอิอิ ..

				

ที่เห็น 2 ชิ้นโดดเด่นก็คือ .. "เบอร์รี่เค้ก" ค่ะ 
มีทั้งสตรอว์เบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ตกแต่งหน้าเค้กค่ะ .. ในเนื้อเค้กก็มีนะคะ ..
โอ๊ย ๆๆๆ .. หิวตอนดึกขึ้นมาเลย ..


				

และแล้วก็มาถึง ..
 
( ไม่ได้ค่านายหน้าหรอกนะคะ .. อย่าเข้าใจผิดไป )

				

ขนาดว่าบ่ายโมงแล้ว .. คนยังแน่นร้านค่ะ ..
จริง ๆ ยังมีโต๊ะอีกเยอะนะคะ .. ร้านใหญ่ค่ะ .. เต็มทุกโต๊ะเลย.. คนเข้า-ออกตลอดเวลา ..
ขายดีแบบนี้ .. ไม่กลัวรวยเหรอไงก็ไม่รู้  .. 


				

ไม่พูดพร่ำทำเพลง .. เรียก "หมูสะเต๊ะ" มารองก้นกระเพาะ ..


				

ตามด้วย "ขนมจีนน้ำเงี้ยว" อีก 1 .. หิวง่ะ ..



				

ดูให้ชัด ๆ .. น่ากินมั๊ยคะ .. ห้ามหิวตอนดึก ๆ กันเน้อ ..


				

มาถึงนี่ .. ไม่สั่งข้าวซอยก็กระไรอยู่ ..
ว่าแล้วก็เรียก "ข้าวซอยเนื้อ" ตามมาติด ๆ .. เดี๋ยวขาดช่วง .. 5555


				

"ข้าวซอยไก่" อันนี้ไม่ใช่ของชมอักษร .. แย่งคนอื่นเขามาถ่ายรูปไว้เฉย ๆ ..
ว่าแต่ .. หน้าตาสู้ข้าวซอยเนื้อของเราไม่ได้เลย .. 
นอกจากดูดีแล้ว .. ยังอร่อยมาก ๆ ด้วย .. เนื้อนุ่ม .. น้ำแกงก็หอมมันกะทิ ..
สมกับที่เป็นร้านดังเลย .. การันตีด้วยภาพข้างล่างค่ะ ...

				

เอิ๊กกก .. ทั้งหมดนี่ม่ะใช่ความผิดชมอักษรคนเดียวนะคะ ..
ฝีมือของ 5 คนค่ะ .. ข้าวซอย 7 .. น้ำเงี้ยว 1 .. สะเต๊ะ 1 .. ไส้อั่ว 1 .. ลอดช่อง 2 ..
รวมแล้วไม่ถึง 300 บาท .. ไม่แพงเลยเนอะ .. 



				

หลังจากอิ่มท้องกันถ้วนทั่วแล้ว .. ( เกินอิ่มด้วยซ้ำ )
ก็ออกเดินทางยังจุดมุ่งหมายต่อไป .. สันกำแพง ..
จะไปดูน้ำพุร้อน .. นอนแช่น้ำแร่ค่ะ .. 


ถึงแว้ววววว .. ( เร็วมะ .. อิอิอิ )
				

ก่อนที่จะเข้าไป .. ก็ต้องเสียค่าผ่านประตูก่อน .. ตามระเบียบ ( ไม่มีรัตน์นะ .. เหะ ๆ )
เด็ก 10 บาท .. ผู้ใหญ่ 20 บาท .. กำนันเข้าฟรี .. 

และเนื่องจากที่นี่เป็นรีสอร์ทด้วย .. ก็จะมีบ้านพักเป็นหลัง ๆ ..
มีสวนดอกไม้สวย ๆ จัดอยู่โดยรอบ ..
มีหินธรรมชาติที่รูปร่างแปลก ๆ .. ตั้งอยู่ตามจุดต่าง ๆ ..
ซึ่งแต่ละก้อน .. ก็แล้วแต่คนมองจะจินตนาการว่าหินก่อนนั้น ๆ รูปร่างคล้ายอะไร ..
ชมอักษรไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลยสักรูป .. เพราะแดดร้อนค่ะ ..
ได้แต่ถ่ายรูปดอกไม้มา .. เพราะอย่างที่บอก .. ชอบอ่ะ .. 
ถ้าไม่โพสต์รูปดอกไม้ก็คงจะไม่ได้ .. ขอสักสามสี่ภาพละกันนะคะ ..

				

ดอกอะไรไม่รู้ค่ะ .. เรียกไม่ถูก .. ครั้งแรกที่เห็น .. รู้สึกว่าป็นดอกไม้ที่สวยดี .. 
แต่ต้นแปลก ๆ ..เป็นต้นเดี่ยว ๆ .. สูง ๆ .. ถ่ายรูปลำบากหน่อยอ่ะค่ะ .. 
ไม่ใช่มืออาชีพซะด้วยสิ .. แหะ ๆ

				

ดูใกล้ ๆ ค่ะ .. สวยดี .. มีหลายสี .. ไล่จากชมพูอ่อน ..ชมพูเข้ม .. ไปจนชมพูแก่ออกม่วง .. 
คล้าย ๆ ดอกไม้ชนิดนึงแถวบ้านเรา ( ที่กลีบดอกสีเหลือง ๆ .. จะบานเฉพาะช่วงเช้าค่ะ )



				

นี่อีกค่ะ .. แปลกอีกแล้ว .. ไม่รู้ชื่อเหมือนเดิม ..
มองเห็นไกล ๆ ก็วิ่งเข้าหาคว้ากล้องเลยค่ะ .. แหะ ๆ .. เหมือนโรคจิตเลย ..

				

ใกล้เข้าไปอีกนิด .. ดูไปดูมาเจ้าดอกนี้น่ากลัวแฮะ ..
เห็นดอกบานพาลนึกไปถึงดอกไม้กินแมลงอ่ะ .. ยิ่งเห็นตอนหุบยิ่งแหยง ๆ ..
รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ .. ถอยห่างดีกว่า .. กลัวโดนงับมือ .. เหอ ๆๆ



เราไปดูน้ำพุร้อนกันดีกว่า ....

				

เห็นหน้าตาแล้วค่อนข้างผิดหวังค่ะ .. มันไม่เป็นธรรมชาติเลยค่ะ ..
แถมเป็นสีฟ้า ๆ อีก .. 
แต่เรื่องความร้อน .. ไม่ผิดหวังค่ะ .. ร้องจริง ๆ .. ลองเอาเมือแหย่ ๆ แล้วอ่ะ .. เอิ๊ก ๆๆๆ

				

นี่คือเป็นรายละเอียดของบ่อแรกค่ะ ..

ส่วนที่เห็นไกลออกไปอยู่ด้านหลังที่เป็นน้ำพุสูง ๆ นั่นเป็นบ่อที่ 2 ..
ไม่กล้าเข้าใกล้ค่ะ .. กลัวโดนลวก .. เพราะพุ่งสูงมาก .. 
ตกลงพื้นกระเด็นอีกต่างหาก .. 

				

แล้วน้ำพุร้อนมันเกี่ยวกะชวนชิมยังไง .. อิอิ .. บางคนคงคิดออกแล้ว ..
ดูจากภาพเลยค่ะ .. ไปยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่นานเหมือนกัน .. 
เขากำลังต้มไข่กันอยู่ .. หิวขึ้นมาแระ .. อิอิอิ ..


				

ว่าแล้วก็เอากะเขามั่ง .. ไม่รอนานค่ะ ..
4 ฟอง 20 บาท .. แถมซีอิ๊วด้วย .. 
อยากได้ข้าวสวยร้อน ๆ จัง .. ( ยังไม่ทันจะต้มเลย .. เหะ ๆๆ )


				

ถือไว้นิ่ง ๆ ก่อนน๊าาา .. ขอถ่ายรูปหน่อย .. ทำหน้าหล่อด้วย ..
อิอิอิ .. เรื่องแกล้งเด็กละถนัดนัก ..
สงสารน้องเขาเลย .. ทั้งเมื่อยทั้งร้อน .. 5555

จะหย่อนไข่ละน๊าาาาา ..

.....

..

..



และแล้ว .. เวลาก็ผ่านไป ..


..

..

....



แถ่น แทน แท๊นนนนนน ..


				

น่ากินใช่มั๊ยล่ะ .. นี่คือไข่ที่ผ่านการต้มเป็นเวลา 10 นาทีค่ะ ..
ถ้าสัก 8 นาที .. ไข่แดงจะเป็นยางมะตูมน่ากินกว่านี้แหละ ..

ไม่รอแระ .. ขอจัดการมันก่อน .. มีหนี้แค้นกันอยู่ .. ฆ่ามัน .. ฆ่ามัน !!

..

..

และแล้ว .. ไข่ต้ม 4 ฟองก็สิ้นชื่อในพริบตา .. เอิ๊กกกกก ( อร่อย .. )



ของคาวก็ผ่านไปแล้ว .. เริ่มมองหาของหวาน ..

และแล้ว .. สายตาชมอักษรก็ไปปะทะกับ 2 หนุ่มน้อย .. กับแท่งไอติม .. ปิ๊ง ๆๆ ..

				

ท่าดูดไอติมของหนุ่มน้อยที่เห็นในภาพน่าอร่อยมาก ..
ชมอักษรต้องยั้งใจไม่ให้เข้าไปแกล้ง .. เอ๊ยย .. แย่งเด็กอ่ะ .. 

แบบว่า .. คนหน้าตาดีเขาไม่ทำกัน .. โฮะ ๆๆๆ 

แต่เห็นเด็ก ๆ แล้วก็สดชื่นดีค่ะ .. น่ารักมาก .. อดไม่ได้ที่จะเก็บภาพมาโพสต์ให้ดูกัน .. 

......