ตรึงไว้ในการเวลา
ขุนเขายะเยือก
ในชีวิตของคนเราจะมีสักกี่คนที่สามาทำได้ดังใจปรารถนา จะสามารถนาประสบความสำเร็จไปทุกๆสิ่ง ในความเป็นจริงแล้วทุกคนมักจะลืมเลือนบุคคลที่มีพระคุณเมื่อเวลาผ่านไป
ใครจำได้ไหม? ....ครูคนแรกของเราชื่ออะไร
ใครจำได้ไหม? ....เพื่อนคนแรกของเราชื่ออะไร
ใครจำได้ไหม? ....คนที่เรารู้สึกชอบคนแรกชื่ออะไร
ใครจำได้ไหม? ....ใครจำได้ไหม? .... ใครจำได้ไหม? ....
สิ่งใดเล่าที่กลืนหายความรู้สึก ความทรงจำ ของเราจนแทบจะลืมเลื่อนว่ามันเคยเกิดขึ้นกับเรา
ในท่ามกลางความสับสนวุ่นวายในเมืองหลวง ในสังคมที่มีการแก่งแย่งแข่งขันกันไม่มีที่สุดสิ้น ในท่ามกลางความขัดแย่งระหว่างขาวกับดำ ในท่ามกลางความขัดแย่งระหว่างถูกกับผิด ในท่างกลางอากาศที่ร้องระอุราวกับจะแผดเผาเป็นผุยผง ในท่ามกลางสายฝนที่เปียกปอนจนเผยให้เห็นมังสาที่ปิดบังไว้ด้วยอาภร ในท่ามกลางอากาศหนาวที่แทบจะเป็นตุ๊กตาหิมะ ในท่ามกลางความขัดสนแล้งแค้นจนแทบไม่มีจะกิน ในท่ามกลางความมั่งคั่งรำรวยจนกลัวว่าธุรกิจจะขาดทุน ในท่ามกลางความเห็นแก่ตัวจนก่อให้เกิดสงคราม ในท่ามกลางเด็กกำพร่า ในท่ามกลางผู้อดอยากหิวโหย ในท่ามกลางความแตกแยกทางความคิดจนก่อให้เกิดความแตกแยกทางสังคม ในท่ามกลางระหว่างความรักและความเกลียดชัง เรายืนอยู่ที่ใดกันเล่า... ที่ผ่านมาเรายื่นอยู่ในท่ามกลางตลอดเวลา จนบางคนชินชาไปเสียแล้ว ไม่มีความรู้สึกไปเสียแล้วในท่ามกลางนั้น......
ท่ามกลางกาลเวลา เรากำลังยืนอยู่ในท่ามกลางการเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุดไม่รู้จะไปหยุดที่ตรงไหน ไม่รู้ว่ากาลเวลาเคยหยุดอยู่ที่ใด จนคนแล้วคนเล่าที่ต้องพ่ายแพ้ต่อกาลเวลา เพราะกาลเวลาไม่เคยหยุด แต่ ณ บัดนี้กาลเวลานั้น สำหรับฉันกาลเวลาได้หยุดไว้แล้ว ฉันหยุดกาลเวลาเอาไว้ให้ตราตรึงอยู่ในหัวใจ หยุดช่วงเวลาประทับใจทุกช่วงให้หยุดนิ่ง แม้ในบางครั้งกาลเวลาพยายามพังทลายกำแพงแห่งความทรงจำในใจฉันเพื่อทำลายช่วงเวลาประทับใจของฉันที่หยุดเอาไว้ให้ลบเลื่อนลงไป แต่ก็ไม่เป็นไร ...เพราะถึงแม้มันจะลบเลื่อนลง ฉันยังสามารถเอาหัวใจของฉันไปสัมผัสความรู้สึกนั้นได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างได้หล่อหลอมให้ฉันเติบโตขึ้นมา ณ ขณะนี้
สิทธิชัย แก้วพวง 16/ก.พ./2546.