การฆ่าตัวตายของข้าพเจ้า บทว่าด้วยการตัดสินใจ เช้าวันที่ 20 กันยายน วันที่ผมคิดฆ่าตัวตาย มันไม่ใช่ครั้งแรกหรอก และมันจะไม่สำคัญเลย หากว่ามันไม่ใช่ความคิดฆ่าตัวตายครั้งแรกที่จริงจังและมืดมน เกินกว่าจะปล่อยผ่านไปเหมือนเคย อะไรกันล่ะที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ ผมตื่นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เหมือนเช้าธรรมดาๆที่มันเคยผ่านเข้ามา ผมชอบนึกเล่นๆก่อนหลับตาลงนอนเสมอว่า ถ้ามีวันใดวันหนึ่งที่ผมไม่ตื่นขึ้นมาแล้วล่ะก็ มันจะเป็นอย่างไร จริงๆแล้ว ผมไม่รู้คำตอบนั้นหรอก รู้ไหม ดูเหมือนผมจะชอบผ่านเลยกับเรื่องยุ่งยาก แต่คำถามแบบนี้ก็ยังวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา คืนแล้วคืนเล่า เป็นเรื่องน่าแปลกอีกอย่าง ที่ผมไม่กล้าหาคำตอบนั้นอย่างจริงๆจังๆ ทั้งๆที่ผมเป็นคนที่ชอบคิดเองตอบเอง จนหลายๆครั้ง มันทำให้ผมเงียบ และดูไม่น่าพูดคุยด้วยเสียเลย เพราะผมให้คำตอบตัวเองจากทุกคำถามแล้วนี่ ไม่เหลืออะไรให้พูดอีกแล้ว แต่จริงๆแล้วผมต้องการอย่างนั้นน่ะเหรอ ไม่หรอกผมไม่คิดเช่นนั้น มันผิดด้วยหรือที่ผมจะดูแปลกแยก อย่าทำเหมือนผมไม่ใช่คนเลยน่า [ ถูกแล้ว ในสายตาที่จ้องมองกู มีแค่ตัวประหลาดตัวหนึ่ง ชอบยัดเยียด นักใช่ไหม เออ กูจะเป็น... ] ผมมีอวัยวะทุกอย่าง อย่างคนทั่วไป แต่แค่การวางตัว มันทำให้ผมหลุดสังคมขนาดนั้นล่ะก็ ผมก็น่าจะไม่ใช่คนให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยเสียดีกว่า พวกคุณไม่รู้หรอก เวลาที่ถูกสายตาของคนอื่นมองเราเหมือนตัวอะไรสักอย่าง สายตาที่เหยียดหยาม ดูถูก มันเป็นความร้ายกาจอย่างที่สุดที่คนจะสามารถมอบให้แก่กัน แต่.. แต่ยังไงผมก็อยู่คนเดียวไม่ได้ โลกนี้กว้างใหญ่เกินกว่าจะเป็นไปเพื่อคนๆเดียว มันดีแล้วเหรอที่จะแตกต่าง [ เฮ้ย งั้นกูสมควรเสแสร้ง ทำให้เหมือนไอ้พวกนั้นน่ะเหรอ? ] .. < ไม่หรอก.. แรกๆอาจจะรู้สึกแย่ แต่ต่อไปมันต้องดีขึ้นแน่ๆ เชื่อสิ > ถ้าหากการมีอยู่ของคนเป็นไปเพราะมีใครสร้างมาแล้วล่ะก็ [ ใครล่ะ? ] < พระเจ้าเหรอ? > ..ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าใคร อาจพระเจ้าก็ได้ แต่ผมไม่อยากสร้างตัวตนแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ ปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นแหละดีแล้ว คำว่าพระเจ้าก็เหมือนตัวเลขที่คุณบอกว่ามันคือ อินฟินิตี้ มันเท่ากับว่าคุณกำลังวางกรอบให้จินตนาการอันไร้ขอบเขต เหมือนที่เด็กชายบาสเตียน ตัวละครของมิฆาเอ็ล เอ็นเด้ ได้ทำ ในท้ายสุด เขาสูญเสียตัวตน และเกือบทิ้งโอกาสกลับบ้าน... จินตนาการเป็นสิ่งเดียวที่ผมภาคภูมิใจได้ในขณะนี้ หรือมันจะทำให้ผมดูบ้า อย่างไรก็เถอะ ผมเชื่อว่าการที่เขาสร้างแต่ละคนให้แตกต่างกัน ย่อมมีจุดประสงค์ที่แน่นอนในตัวแล้ว ก็แล้วทำไมผมต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ผมด้วยล่ะ [ กูเห็นด้วย ] < ไม่ใช่นะ เราต้องฝืนทำในสิ่งที่รู้สึกแย่ เพื่อคนอื่นในบางครั้ง ท้ายสุด พวกเขาจะเติมเต็มสิ่งที่เราขาดหายเอง.. > มันผิดอะไรที่ผมจะแสดงความเป็นปัจเจกบุคคล.. < ก็เราไม่ได้อยู่คนเดียวนี่.. > ..จำเป็นเหรอที่ผมต้องก้าวก่ายชีวิตคนอื่น เหมือนที่พวกเขาทำ.. < ก็นะ.. > ..แล้วการที่ต้องพึ่งคนอื่นตลอดเวลาน่ะ มันเป็นทิศทางที่ถูกต้องของกระบวนการวิวัฒนาการงั้นเหรอ < เอ่อ...เข้าใจบ้างสิ > ในที่สุดแล้ว ชีวิตที่ต้องยืมลมหายใจคนอื่น ไม่เท่ากับว่าเราสูญเสียสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ของชีวิตไปเหรอ.. < ... > แล้วอย่างนั้นการมีชีวิตอยู่ และการตายไป จะต่างอะไรกันล่ะ ดูเหมือนผมจะได้ข้อสรุปของความว้าวุ่นในใจแล้ว ตายดีกว่า... (จบบทหนึ่งว่าด้วยการตัดสินใจ อย่าเพิ่งตีค่ามันจนกว่าจะครบทั้ง 3 บท ในบท2ว่าด้วยการตัดสิน และบทสุดท้าย ว่าด้วยการตัด)
13 มกราคม 2549 10:06 น. - comment id 88981
เชื่อได้ว่า ยังไม่ตัดสินใจ
13 มกราคม 2549 13:10 น. - comment id 88989
พี่พุด รู้สึกเป็นห่วงลึกๆ และ เข้าใจทุกข์รู้สึกค่ะ อย่าทำอะไรชั่ววูบ ลองดูไปรอบๆ หากเรายังมีดวงตาและดวงใจ เลือกที่จะสัมผัสความสวยใส ตราบใดที่ยังมีลมหายใจค่ะ และ โชคดีนักที่เราได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา การฆ่าตัวตายเป็นบาปมากค่ะ ลองอ่านหนังสือธรรมะ ที่ประดุจดังน้ำอมฤตธรรมดูนะคะ จะทำมห้ใจเราฉ่ำเย็นสงบ และ ใครจะมากระทบกระแทก เราจะไม่กระเทือนค่ะ พีพุดรักนะ
13 มกราคม 2549 16:01 น. - comment id 88990
อาจตัดสินแล้วว่าจะตัด นั้นคือการตัดสินใจ ที่จะคิดทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้แล้ว ตามที่จะได้ทยอยมาให้อ่านกันละมัง ..
14 มกราคม 2549 20:15 น. - comment id 89008
จำเป็นเหรอที่ผมต้องก้าวก่ายชีวิตคนอื่น เหมือนที่พวกเขาทำ.. ลองอ่านประโยคข้างบนซ้ำไปซ้ำมาสิ บ้างทีพระเจ้าอาจอยู่ในตัวท่าน ก็เป็นได้ การยืนหยัดด้วยพระหัตของพระเจ้านั้นมีค่าแก่การกระทำการใด เปรียบเสมือนพระองค์อยู่กับเราตลอด
17 มีนาคม 2549 14:45 น. - comment id 90087
ขี้เกียจอ่านไว้วันหลังค่อยอ่าน........ มีไรดี ๆ ไม่บอกกันบ้างลืมเพื่อนได้งายหว่า.....