ในกล่องเหลี่ยม
Dr.FreaK
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างเกียจคร้าน ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่มันควรทำไม่ใช่การกลิ้งอยู่บนผ้าห่ม แต่คือการซึมลงไปในเนื้อผ้า ทะลุไปทักทายปุยนุ่นก่อนที่จะแห้งระเหยกลายเป็นไอ วนเวียนอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมใบยักษ์นี้จนกว่าจะมีใครสักคนเปิดช่องข้างๆกล่องนั้น
จิ้งจกที่เกาะอยู่บนเพดานก้มลงมองเจ้าของหยดน้ำตาอย่างสงสัย มันมีคำถามมากมายที่อยากจะถามแต่จิ้งจกน้อยเข้าใจดี ไม่มีใครเข้าใจภาษาของมันหรอก โดยเฉพาะพวกมนุษย์ ไม่ว่าจิ้งจกน้อยจะพูดอะไรมนุษย์ก็ทึกทักไปเองว่ามันเตือนไม่ให้ออกจากบ้าน
"ไม่มีใครเข้าใจฉันหรอก
ไม่มีเลย
ไม่มีสักคน"
สิ้นเสียงของหญิงสาวจิ้งจกขมวดคิ้วของมันเข้าหากัน เจ้าของน้ำตาเพิ่งสร้างคำถามใหม่ ทำไมล่ะ ในเมื่อมันเองก็ไม่มีคนเข้าใจเหมือนกัน แต่มันกลับไม่รู้สึกอยากจะขับของเหลวออกมาจากกระบอกตา มนุษย์นี่แปลก คิดได้ดังนี้แล้วเจ้าตัวเกาะผนังก็วิ่งรี่กลับไปยังที่อยู่ของมัน
แสงดาวเองก็ยังแอบมองเจ้าของน้ำตาผ่านทางช่องของกล่องสี่เหลี่ยม แต่มันมองเพียงครู่หนึ่งแล้วก็หนีจากไปยังกล่องอื่น แสงดาวอยากรู้ว่าในค่ำคืนนี้มีคนปล่อยหยดน้ำตากี่คน และมันต้องรีบทำเวลาก่อนที่รุ่งเช้าจะตอกบัตร
ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศกำลังตัดสินใจว่าจะพัดเข้าไปปลอบมนุษย์ผู้นี้ดีไหม อันที่จริงลมเย็นตัดสินใจเสร็จแล้วแต่มันยังนึกคำสวยงามไม่ออก มันไม่แน่ใจว่าจะใช้สรรพนามแทนตัวเองว่าอะไร และแน่นอน สรรพนามแทนมนุษย์ผู้นั้นด้วย ในที่สุดลมเย็นก็ตัดสินใจได้ในจังหวะเดียวกับที่มนุษย์ผู้นั้นเดินไปปิดเครื่องปรับอากาศ
หยดน้ำตาชุดที่สองถูกไล่ออกมาจากร่างกายอีกครั้ง พวกมันค่อยๆทิ้งไหลไปตามโหนกแก้มพลางตื่นเต้น มันไม่อยากหล่นลงบนพื้นไม้ปาร์เก้เพราะมันอาจจะถูกเหยียบ ถูกเช็ด ถูกทำร้ายก่อนที่จะได้ระเหย หยดน้ำตาเกาะปลายคางของหญิงสาวไว้แน่นแต่พรรคพวกที่พรั่งพรูออกมาจากนัยน์ตาหญิงสาวตามมาสมทบจนกระทั่งเกือบจะต้านแรงโน้มถ่วงไม่ไหว แล้วอยู่ดีๆหญิงสาวก็ปาดทีมน้ำตาเสี่ยงตายให้ไปติดอยู่ตามมือแทน
เธอเดินเข้าห้องน้ำแล้วจ้องมองเงาตัวเองในกระจก เช่นเดียวกับที่เงาในกระจกจ้องมองเธอ เงากำลังอารมณ์เสีย ก่อนที่เธอจะมาส่องกระจกนั้นเงากำลังเล่นโป๊กเกอร์อยู่กับเงาเพื่อนสนิทของเธอ เงากำลังมีความสุข แล้วอยู่ดีๆก็ถูกเรียกมาทำหน้าเศร้าเปื้อนรอยน้ำตา เงาภาวนาให้เธอเดินลับกระจกไปเร็วๆหรืออย่างน้อยก็เบี่ยงสายตาไปทางอื่น แต่ไม่ ... หญิงสาวจ้องเงาของตัวเองตาไม่กระพริบ เงาพยายามอ่านความคิดของเธอ แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ในที่สุด หญิงสาวก็ละสายตาจากกระจกก้มลงไปล้างหน้า
คราบน้ำตาบางส่วนที่ไม่ถูกปาดไปอยู่ที่มือหรือทิ้งให้ซึมอยู่กับผ้าห่มถูกชะออกไปรวมกับกระแสน้ำประปาเชี่ยวกราด ทั้งสองฝ่ายทักทายกันพอเป็นพิธีแล้วจับมือกันไหลลงไปตามท่อประปา
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองกระจก เงาตกใจสะดุ้งตามขึ้นมา คราวนี้ความเศร้าบนใบหน้าของเธอหายไป เงารู้สึกได้ถึงความรู้สึกใหม่ มันเป็นครั้งแรกที่เงาอยากจะเอ่ยปากถามหญิงสาว ละเมิดกฎของเงาที่ต้องทำตามเจ้าของ แต่หญิงสาวหันหลังกลับเข้าห้องไปเสียก่อน เงาจึงเดินแกร่วกลับไปเล่นโป๊กเกอร์เหมือนเดิม
เธอปิดไฟแล้วเดินกลับไปยังเตียง ห่มผ้าและหลับตาลง แทบจะทันทีที่เธอหลับสนิท ความมืดซึ่งแอบดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ตามมุมต่างๆที่แสงสว่างเข้าไม่ถึง ก็รีบดิ่งไปยังผ้าห่มทันที
"นี่" ความมืดเรียกหยดน้ำตา
"อะไร" หยดน้ำตาบางส่วนเริ่มแห้งไปแล้ว ที่เหลืออยู่กำลังหยอกล้อกับปุยนุ่น
"เธอคือความเศร้าเหรอ"ความมืดถาม
"เปล่า พวกเราคือหยดน้ำตา"
"งั้น... เธอแบกความเศร้าได้เหรอ" ความมืดยังคงเซ้าซี้
"เปล่า พวกเรามาตัวเปล่า ไม่ได้แบกอะไรมาด้วย"
"เหรอ" ดูเหมือนความมืดจะไม่ค่อยพอใจกับคำตอบ "ถ้าอย่างนั้น ทำไมเจ้านายเธอถึงหายเศร้าหลังจากที่พวกเธอออกมาล่ะ"
"อย่ามาโทษพวกเรานะ" หยดน้ำตาโกรธ "พวกเราถูกสั่งให้ออกมาเราก็ออกมา แค่นั้นแหละ ถ้าอยากรู้ว่าความเศร้าหายไปในก็ไปถามความเศร้าโน่นไป!"
ความมืดสงสัย
ความมืดอยากรู้ว่าความเศร้าหายไปไหน
ความเศร้าไม่ได้อยู่กับหยดน้ำตา
ความเศร้าเองก็ไม่ได้อยู่กับความมืด
หรือว่าจะเป็นความเงียบกับความเหงา
แต่ไม่หรอกเพราะความเงียบกับความเหงาเป็นเพื่อนสนิทกับความมืด
ความมืดรู้ดีว่าเพื่อนของเขาก็ไม่ได้คบกับความเศร้า
อ้าว แล้วความเศร้าหายไปไหนล่ะ?
ความมืดคิดแล้วคิดอีกจนกระทั่งตัดสินใจได้ว่า
"รู้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา"
แล้วความมืดก็ทำหน้าที่ของมันต่อไป