>>>years of good luck!!! *** >>>>แต่...ถ้าคุณบอกไปยังเพ'> >>>years of good luck!!! *** >>>>แต่...ถ้าคุณบอกไปยังเพ' />
.....อ่านหน่อย อ่าน..... >>>>ถ้าคุณอ่านไม่จบจบ...คุณจะต้องประสบกับโชคร้าย ไป เป็นปี >>>> >>>>But... if you send it to (at least) two friends ... you'll have 3 >>>>years of good luck!!! *** >>>>แต่...ถ้าคุณบอกไปยังเพื่อน (อย่าง น้อย) 2 คน...คุณก็จะโชคดีไปอีก 3 >>>> ปี >>>> >>>> >>>> >>&a mp;g t;>Did you know that those who appear to be very strong in heart, >>>>are real weak and most susceptible? >>>> คุณรู้ไหมว่าคนที่มองภายนอกดูจิตใจเข้มแข็งมากๆ >>>>แท้จริง แล้วเขานั้นแสนจะอ่อนแอและอ่อนไหว เป็นที่ สุด >>>> >>>>Did you know that those who spend their time protecting others >>>>are the ones that really need someone to protect them? >>>>คุณรู้ไหมว่าคนที่ ใช้ เวลาของเขาปกป้องผู้อื่นนั้น >>>>เป็นคนที่ต้องการใครสักคน ที่ จะคอยปกป้องเขาเสียเหลือเกิน >>>> >>>>Did you know that the three most difficult things to say are: I >>>>love you, Sorry and help me >>>> >>>>คุณรู้ไหมว่าคำที่พูดยากมากที่ สุด 3 คำ คือ ฉันรักเธอ ขอ โทษ >>>>และ ช่วยฉัน ด้วย >>>> >>>> >>>> >> >>Did you know that those who dress in red are more confident in >>>>themselves? >>>>คุณรู้ไหมว่าคนที่แต่งกาย ด้วยชุดสีแดง >>>>เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมากกว่าคน อื่น >>>> >>>>Did you know that those who dress in yellow are those that enjoy >>>>their beauty? >>>>คุณรู้ไหมว่าคนที่แต่งกายด้วยชุดสีเหลืองเป็นคนที่เพลิด เพลินกับความสวยความงามของเขา >>>> >>>>Did you know that those who dress in black, are those who want to >>>>be unnoticed and need your help and understanding? >>>>คุณรู้ไหมว่าคนที่แต่งกายด้วยชุดสี ดำ >>>> เป็นคนที่ไม่ต้องการให้ใครคอยสังเกต และต้องการ ความ >>>>ช่วยเหลือและ ความเข้าใจจากคุณ >>>> >>>>Did you know that when you help someone, the help is returned in >>>>two folds? >>>>คุณรู้ไหมว่าเมื่อคุณช่วยใครสักคน ความช่วยเหลือ นั้น จะคืนกลับมาเป็น >>>>2 เท่า >>>> >>>> >>>> >> >>Did you know that it's easier to say what you feel in writing >>>>than saying it to someone in the face? But did you know that it >>>>has more value when you say it to their face? >>>>คุณรู้ไหมว่า >>>>ช่างเป็นเรื่องง่ายที่ จะ บอกกล่าวความรู้สึกด้วยการเขียนแทนที่จะบอกด้วยวาจากับ ใคร >>>> สักคนต่อหน้า แต่คุณรู้ไหม ว่า >>>>มันจะมีค่ายิ่งกว่าเมื่อคุณได้บอกความรู้สึกนั้นด้วย วาจาต่อหน้าเขา >>>> >>>>Did you know that if you ask for something in faith, your wishes >>>>are granted? >>>>คุณรู้หรือไม่ว่า ถ้าคุณร้องขอบางสิ่งด้วยความ ศรัทธา >>>>คุณจะได้รับในสิ่งที่ ปรารถนา >>>> >>>>Did you know that you can make your dreams come true, like >>>>falling in love, becoming rich, staying healthy, if you ask for >>>>it by faith, and if you really knew, you'd be surprised by what >>>>you could do. >>>>คุณรู้หรือไม่ว่าคุณ สามารถทำฝันให้เป็นจริงได้ เช่น การตกหลุมรัก >>>>กลายเป็นคน ร่ำรวย อยู่อย่างมี สุขภาพแข็ง แรง >>>>ถ้าคุณร้องขอในสิ่งนั้นด้วยความศรัทธา และถ้าคุณรู้ อยู่แก่ใจ >>>>คุณจะรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่คุณสามารถทำ ได้ >>>> >>>> >>>>But don't believe everything I tell you, until you try it for >>>>yourself, if you know someone that is in need of something that I >>>>mentioned, and you know that you can help, you'll see that it >>>>will be returned in two-fold. >>>>แต่อย่าเชื่อในทุกอย่างที่ฉัน บอก >>>>จนกว่าคุณจะได้ลองปฏิบัติดูด้วยตัวคุณ เอง >>>>ถ้าคุณรู้จักใครสักคนที่ต้องการบ้างสิ่งอย่างมากดัง ที่ ฉันได้บอกไปแล้วนั้น >>>>และคุณรู้ว่าคุณสามารถช่วยเขา ได้ >>>>คุณจะเห็นว่าสิ่งเหล่านั้นจะตอบแทนกลับคืนมาอย่างทวี คูณ >>>> >>>> >>>>Today, the ball of FRIENDSHIP is in your court, send this to >>>>those who truly are your friends (including me if I am one). >>>>Also, do not feel bad if no one sends this back to you in the >>>>end, you'll find out that you'll get to keep the ball for other >>>>people want more. >>>>วันนี้ลูกบอลแห่งมิตรภาพอยู่ในสนามของคุณ แล้ว >>>>ส่งมันออกไปยังคนเหล่านั้นซึ่งเป็นเพื่อนแท้ของคุณ ( รวมถึงฉันด้วย >>>>ถ้าฉันเป็นหนึ่งใน นั้น) >>>>และอย่ารู้สึกแย่ถ้าท้ายที่สุดแล้วไม่มีใครส่งมัน กลับมาหาคุณ >>>>คุณจะพบว่าคุณจะต้องรักษาลูกบอลไว้เช่นนั้น เพราะยังมีคนที่ต้องการมันอยู่อีก มาก >>>> >>>> >>>> >>& amp; gt;>กำไลแห่ง มิตรภาพ >>>> >>>> >>>>Ok, this is what you have to do: >>>>เอาล่ะ นี่คือสิ่งที่คุณต้อง ทำ >>>> >>>>Send to ALL your FRIENDS! >>>>ส่งไปยังเพื่อนของคุณทุก คน >>>> >>>>But you have to DO THIS within an hour after you open this mail! >>>>แต่คุณต้องลงมือภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากเปิดเม ลนี้ >>>> >>>>Now..... MAKE 1 WISH!!!!!! >>>>ถึงตอนนี้....อธิษฐานขอพร 1 อย่าง >>>> >>>> >>>> >> ; ;>>Make it now, >>>>เร็วเข้าเดี๋ยว นี้ >>>> >>>>It's you last chance!! >>>>นี่โอกาสสุดท้ายของคุณ แล้ว >>>> >>>> >>>> >> >> >>>>I hope you did make a wish, Now send the mail to: >>>> >>>>1 person~ your wish will come true in a year >>>>3 persons~6 months >>>>5 persons~ 3 months >>>>6 persons~ 1 month >>>>7 persons~ 2 weeks >>>>8 persons ~ 1 week >>>>9 persons~ 5 days >>>>10 persons~ 3 days >>>>12 persons~ 2 days >>>>15 persons~ 1 day >>>>20 persons~ 3 hours >>>> >>>>*** If you delete after reading ... you'll spend a year of ill >>>>luck! >>>> >>>>But, if you send it to (at least) two friends ... you'll have 3 >>>>years of good luck!!! *** >>>> >>>>_________________________________
11 ตุลาคม 2548 20:50 น. - comment id 87219
นี่เหรอเรื่องสั้น ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องสั้นเราก็ขอเรียกสิ่งที่คุณเอามาลงนั้นว่า เรื่องสั้น ที่สมมุติว่าเป็นเรื่องสั้น ก็แล้วกันนะ ก็ดีค่ะมีให้ความรู้ ที่ยังไม่รู้ แต่ถ้าให้ดี ควรที่จะเอาเรื่องสั้นจริงๆมาลงดีกว่านะ
13 ตุลาคม 2548 17:55 น. - comment id 87277
เรื่องสั้นมีหลายประเภทนะครับ นี่เป็นเรื่องสั้นขนาดยาวครับผม