บางอารมณ์ - บางคน - ชลพฤกษ์

อัลมิตรา

 " จัดกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยหรือยังครับ คืนนี้อย่านอนดึกนะ พรุ่งนี้ต้องไปลงทะเบียนกี่โมงครับคนดี " 
เสียงตามสายของเขาทำให้ฉันยิ้ม เขาอาทรฉันเสมอและถึงแม้ว่าเราจะอยู่ห่างกัน แต่ทว่า ..อบอุ่นในหัวใจนัก.. หลายหนที่ฉันต้องเดินทางไกล เขาจะพร่ำบอกว่าอย่าลืมนั่น อย่าลืมนี่ ให้เตรียมนั่น เตรียมนี่ จนฉันเคยออกปากไปครั้งหนึ่งว่า ทีหลังมาจัดกระเป๋าให้ด้วยนะ ซึ่งเขาก็ตอบรับทันทีว่า ได้เลย..
" ยังเลยค่ะ แต่คงไม่เตรียมอะไรมาก ค้างแค่คืนเดียว เตรียมแป๊บเดียวก็เสร็จล่ะ อ้อ..พรุ่งนี้ลงทะเบียนหกโมงเช้า เขามีอาหารกล่องให้ด้วยค่ะ " 
" ถ้างั้นเตรียมของให้เรียบร้อยนะครับ ไม่รู้ว่าที่คุณไปฝนจะตกหนักหรือเปล่า อย่าลืมยา ที่นี่ฝนตกจังครับ"
" ค่ะ เตรียมเสื้อกันฝนไปด้วย ปีที่แล้วต้องเดินตากฝนตั้งแต่บ่ายจรดหกโมงเย็น เข็ดแล้วค่ะ "
" ถ้างั้นผมไม่รบกวนล่ะ ไว้ผมโทรมาอีกทีตอนดึกนะครับ ผมจะออกไปทานข้าวก่อน "
สองทุ่มกว่าแล้ว ฉันเพิ่งตรวจเอกสารเสร็จ เป้สีดำใบเดิมถูกนำออกมาวางหน้าตู้เสื้อผ้า และแล้วฉันก็รีบจัดแจงเตรียมเสื้อผ้า+สัมภาระจำเป็นใส่ลงเป้ นั่งมอง.. เป้สีดำ ระยะหลังมันเดินทางพร้อมไปกับฉันบ่อย  เป้ใบนี้ ลุงอ่ำเป็นคนซื้อให้ เมื่อคราววันเกิดปีก่อน ที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงละแวกบ้าน ตอนแรกลุงอ่ำชี้ไปที่แก้วเบียร์ทรงโต "แก้วนั่น สนมั๊ยลูก ? "
" ยี้.. หนูจะเอาไปทำไมคะ หนูไม่ใช่นักดื่มนะลุง ขอเปลี่ยนเป็นเป้ได้ไหมคะ " 
ในที่สุดเป้สีดำที่มีโลโก้โรงเบียร์ก็กลายเป็นสมบัติของฉัน
  				
 " จัดกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยหรือยังครับ " เขาพูดเหมือนเมื่อสองทุ่มเป๊ะเลย
" อย่าลืมเตรียมยาไปนะครับ คราวก่อนก็ลืมเตรียมยาไปทีหนึ่งแล้ว "  อ้อ .. ประโยคนี้ตอนสองทุ่มเขาไม่ได้บ่น
" จัดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ยาเหรอ โอย.. ลืมอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไรนะ พรุ่งนี้ต้องลงทะเบียนที่บริษัท จะแวะไปที่โต๊ะทำงานก่อน ยาอยู่ในลิ้นชักค่ะ " ว่าแล้วเชียว ว่าต้องลืมอะไรบางอย่าง
 " ก็อย่าลืมนะครับ ผมโทรปลุกดีไหมครับ ประมาณตีสี่ครึ่งดีไหมครับ "
" ตีห้าดีกว่าค่ะ ได้นอนเพิ่มอีกนิด " ฉันต่อรอง
" ได้ครับ ถ้างั้น นอนได้แล้วนะครับคนดี พรุ่งนี้ตีห้า ผมจะโทรปลุก "

ก่อนปิดโทรศัพท์ ฉันมองดูเวลา ตอนนี้เกือบห้าทุ่มแล้ว ฉันเดินไปหยิบกล้องดิจิตอลมาใส่ในเป้ โทรศัพท์มือถือถูกชาร์ตเตรียมพร้อม ฉันยังไม่ง่วง แต่ไม่ใช่ว่าตื่นเต้นอะไรหนักหนา ฉันเดินไปที่ตู้หนังสือเลือกหนังสือเล่มบางที่ยังไม่ได้อ่าน หยิบมาใส่ไว้ที่ช่องด้านหลังของเป้ กระดาษ A4 จำนวนหนึ่งและกล่องดินสอวาดรูปถูกจัดใส่ลงไปด้วย 

หลังจากที่เตรียมของเรียบร้อย แทนที่จะนอนฉันกลับนอนไม่หลับ พระจันทร์คืนนี้สวยนะ ฉันมองเห็นผ่านระเบียงห้องนอน ดวงโตสีส้มสุกสกาวเชียว ..อยากเอื้อมคว้า แต่ทว่าอยู่ไกล ฉันไม่รู้ว่าในขณะที่ฉันมองดูพระจันทร์ จะมีใครเฝ้ามองอยู่เช่นกันหรือเปล่า .. คงไม่มี .. ฉันอ้างว้างตามเคย				
ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนที่จะมีคนโทรปลุก ยังเหลือเวลาอีก 3 นาที ตอนนี้คนที่จะโทรปลุกฉันยังคงหลับอยู่ ฉันยิ้มให้กับตัวเองพลางลุกขึ้นไปจัดการอาบน้ำแต่งตัว เขาโทรมาตอนตีห้าสิบห้านาที 
 " ฮั่นแน่ คุณโทรมาสายไปสิบห้านาทีค่ะ  "
 "ขอโทษที ผมตั้งนาฬิกาผิด ไปตั้งเอาหกโมงปลุก  "
 " โอ้โห ผิดเวลาไปตั้งชั่วโมง ดีนะที่ไม่หลับเพลิน ไม่งั้นต้องรีบแย่เลยค่ะ ไปไม่ทันลงทะเบียน โดนเจ้านายคาดโทษเชียวนั่น  "
 " เป็นไงบ้างครับ ตอนนี้คุณเรียบร้อยหรือยัง  "
 " อาบน้ำแปรงฟันเรียบร้อยแล้วค่ะ เหลือแต่นุ่งผ้า ..  "
 " หือ ! โทรศัพท์น่าจะมีรุ่นติดกล้องได้นะครับ  "
 " ล้อเล่นค่ะ แต่งตัวเสร็จแล้วล่ะ สัมภาระพร้อม ตอนนี้นั่งทานอาหารเช้าอยู่ค่ะ ทานด้วยกันมั๊ย "
 " คุณทานเถอะ แต่อย่าลืมนะครับ ถ้าคุณมีเวลา คุณโทรหาผมบ้างนะ ผมเป็นห่วง "
 " ไปสัมมนาเนี่ยนะ ไม่ได้ไปรบซักหน่อย เอาล่ะ จะโทรไปหาคุณค่ะ  "

คุ้นนะ ประโยคนั้น คำที่เคยบอกบางใครว่า ถ้ามีเวลาอย่าลืมโทรหาด้วย ตอนนั้นบางใครเดินทางไกล 
แต่แล้ว บางใครก็ลืม.... ใช่ ลืมทั้งที่รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ
ฉันไม่อยากให้ความรู้สึกผิดหวังนี้เกิดขึ้นกับใครอีก ฉันรู้ดี ช่วงเวลาแห่งการรอคอยที่คืบผ่านไปอย่างช้า ๆ พร้อมกัดกินหัวใจให้เว้าแหว่งไป มันย่ำแย่เกินจะบอกใคร
 				
 ฉันนั่งอยู่ค่อนมาทางด้านหลังของรถบัสคันใหญ่ เป้สีดำถูกนำไปวางรวมกับกระเป๋าใบอื่นในห้องเก็บสัมภาระ เสียงของเพื่อน ๆที่นั่งแถวหลัง ส่งเสียงฮาเฮกันดัง แต่ฉันนั่งเงียบ ๆ คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปคนเดียว กระจกที่ไม่ได้เลื่อนผ้าม่านบัง ฉันมองทิวทัศน์ข้างทางอย่างไร้จุดหมาย แดดยามเช้าสาดมากระทบผิว ฉันปล่อยให้ตัวเองนั่งตากแดดอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงโทรศัพท์จากเขา  เขาคือ..คนที่ฉันเรียกเขาว่า ..บางใคร..

 สวัสดีครับ คุณอยู่ที่ไหน ผมโทรไปที่บ้าน ไม่มีใครรับสาย  เขาทักทายมา
 สวัสดีค่ะ ตอนนี้อยู่บนรถบัสค่ะ  ฉันตอบ
 อ้าว ! ทำไมล่ะครับ คุณจะไปไหน  ฟังจากน้ำเสียงแล้ว ดูเขาแปลกใจ
เดินทางค่ะ เร่ร่อนไปเรื่อย  กลับพรุ่งนี้  ฉันตอบอย่างที่ไม่ควรตอบ แต่ความน้อยเนื้อต่ำใจที่เคยมี มันยังคงอยู่
 คุณไปกับใคร แล้วคุณจะไปไหน คุณยังไม่ได้ตอบผมเลย  
 ไปนครนายกค่ะ คนเดียว   เอาอีกแล้ว ฉันบอกไปทำไมนะ ว่าไปคนเดียว 
 คุณ ทำไมคุณไม่บอกผมล่ะครับ  คุณเป็นอะไรไปหรือเปล่า คุณไปกับใคร  เขาถาม แต่ฉันนิ่งเงียบ
 บอกผมสิครับ ทำไมผมได้ยินเสียงคนอื่นอีก  เขาถามอีกครั้ง 
 ก็อยู่บนรถบัส แล้วเสียงคนอื่น ก็ไม่ใช่คนอื่นที่ไหนหรอกค่ะ 
 หือ ว่าไงนะครับ 
 ไปสัมมนาค่ะ บอกคุณไปแล้วเมื่อวันก่อน คุณคงลืม  สิ้นคำว่า คุณคงลืม ดูเหมือนว่าน้ำตาของฉันจะปริ่ม ๆ 
 หือ เดี๋ยวนะครับ ..ใช่แล้ว ผมลืมไป ผมยังเขียนไว้ที่ปฏิทินนี่เลย ขอโทษที ผมลืมไปเสียถนัด  
 ไม่เป็นไรค่ะ  กลายเป็นคำที่ฉันเชยชินที่จะต้องพูดบ่อย ๆ นอกจากนั้นยังต้องทำใจให้ชาชินอีกด้วย

ฉันพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้เขาจับความรู้สึกได้ว่า ฉันผิดหวังที่ฉันถูกลืม(อีกแล้ว) ดูเหมือนเขาไม่ค่อยเอาใจใส่ต่อฉันเท่าที่ควร จริงสิ ฉันไม่ควรสนใจกับเรื่องนี้มากนัก เทียบกับอีกคนที่อยู่ไกล ไกลเสียจนฉันคิดว่าความรู้สึกดีต่าง ๆ ถูกขวางกั้นด้วยระยะทาง แต่ก็เปล่าเลย คนไกลคนนั้น..เขายังคงเอาใจใส่ต่อฉันอย่างดีเสมอมา และไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำให้ฉันเสียใจ

 				
เส้นทางจากกรุงเทพฯไปยังนครนายก ระยะทางไม่ไกลเลย แต่ก็นานพอที่ฉันคิดอะไรได้หลายอย่าง  เสียงหัวเราะของเพื่อนๆดังมาเป็นระยะ  มีเสียงคุยกันเบา ๆ บ้าง และมีบางคนหลับ.. ฉันดึงปีกหมวกให้หรุบต่ำลง เพื่อบังแดด ว่าจะหลับตาสักพัก แต่เสียงโทรศัพท์ก็ทำให้ฉันเปลี่ยนใจ

 ถึงไหนแล้วครับคนดี แล้วเมารถหรือเปล่า ว่าจะบอกตั้งแต่เมื่อคืนแล้วให้เตรียมยาแก้เมารถไปด้วย แต่ก็ลืม 
 เอ ตรงนี้ เรียกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ เพิ่งจะผ่านดรีมเวิร์ล เส้นทางนี้เรียกว่าคลองอะไรนี่แหล่ะ แต่ไม่รู้คลองเท่าไหร่ค่ะ  ฉันตอบ
 เมารถหรือเปล่าครับ 
 ไม่เลยค่ะ แอร์เย็นสบาย ก็เลยไม่มีอาการค่ะ 
 ผมจะเข้าห้องประชุมครับ เป็นห่วงเลยโทรมาถาม ถ้ายังไง ถึงรีสอร์ทแล้ว โทรมาบอกผมนะครับ 
 ค่ะ จะโทรไป แต่คุณห้ามรับสายนะ เปลืองตังค์ จากที่นั่งเงียบ ๆ จู่ ๆ ฉันก็หัวเราะร่วน จนทำให้เพื่อนหลายคนแปลกใจ หันมามอง .. แต่พอรู้ว่าฉันคุยโทรศัพท์อยู่พวกเขาก็ได้แต่ยิ้ม 
     
  ครับ รู้แล้วครับ คุณนี่จอมประหยัดจัง  
 แถวบ้านคุณเรียกแบบนี้ว่าประหยัด แถวบ้านฉันเรียกว่างกค่ะ ทำไงได้ โทรศัพท์ซื้อมา มีไว้เพื่อรับสายค่ะ 
 ครับผม เน้นจัง ผมก็เป็นฝ่ายโทรหาคุณทุกทีนี่ครับ คุณเคยโทรหาผมซะที่ไหน 
 ไหนบอกว่าจะไปประชุม  ฉันเตือนความทรงจำเขา
 จริงด้วยเกือบลืม ดูสิ หอบเอกสารมาตั้งเยอะ แต่ลืมว่าจะไปประชุม ผมไปล่ะครับ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ 
 ค่ะ คุณก็เช่นกัน  ฉันเก็บโทรศัพท์ใส่ซองผ้า หลับตาและนึกถึงภาพเขาที่ต้องหอบแฟ้มเอกสาร ส่วนอีกมือถือโทรศัพท์คุยกับฉัน วันละกี่ครั้งนะ ที่เขาหมั่นโทรมาหาฉัน บางทีแค่ฝนตก ก็ต้องโทรมาบอก ยิ่งตอนที่น้ำท่วมเชียงใหม่ รายงานถี่ยิบยิ่งกว่าผู้สื่อข่าวเสียอีก  
..คนดี ตอนนี้ผมกำลังไปช่วยเพื่อน น้ำเข้าบ้านเพื่อนแยะเลย 
..คนดี ผมกำลังส่งเสบียงไปช่วยเพื่อนอยู่ครับ ก็ง่ายๆครับ น้ำ+อาหารกล่อง
..คนดีตอนนี้ผมกำลังเดินลุยน้ำไปทำงาน น้ำถึงเอวแล้วครับ ..
..คนดีวันนี้ผมไม่ได้ไปทำงาน เมื่อวานตอนเดินลุยน้ำ เศษแก้วบาดเท้าตอนนี้อักเสบครับ
คนดี ..................
คนดี...................
ผู้ชายตัวโตๆนี่ บางทีพวกเขาก็ทำอะไรที่ดูตลกเหมือนกัน แต่ฉันก็มีความสุขนะ สุขในอารมณ์กับบางคน
				
ชลพฤกษ์ .. 

บรรยากาศดี ค่อนข้างสงบ (แต่ตอนนี้ไม่สงบเพราะเพื่อนฉันเจี้ยวจ้าว) ..
ภาพนี้ถ่ายโดยการซูมกล้องจากอีกฝั่งของบึงบัว ..
สวยนะ .. เขียวร่มรื่น .. 
ฉันคงไม่มีปัญญาที่จะสรรหาสิ่งเหล่านี้ให้กับตัวเอง ..
แต่ฉันก็หวังว่า .. กระท่อมไพรเล็ก ๆ ที่มีรักเต็มเปี่ยม ..ยังคงรอให้ฉันไปอยู่ ..				
ท่ามกลางแดดจ้า แต่ก็ไม่ร้อนจนเกินไป ยังมีลมพัดเฉื่อยมาเป็นระยะ ๆ ..
สองข้างทางร่มรื่น และมีดอกไม้สวย ๆเต็มไปหมด ได้ยินเสียงนกร้องแกร๊ก ๆ ..
ทางเดินแคบๆที่คดเคี้ยว ฉันเดินไปอย่างช้า ๆ สูดอากาศเข้าปอดซะเต็มโป่ง ..

อั่นแน่ ! .. 
เจอเจ้าถิ่นซะด้วย ..				
..๏ ขอเด็ดดอมดอกเจ้า................ยามรุ่งเช้าคราวดอกบัว-
สวรรค์เบ่งบานงามทั่ว................ ด้วยตื่นตัวเพราะต้องใจ
แม้นนามงามสูงเด่น...................ดอกหลบเร้นตามหลืบไพร
ขอล่วงเกินทันใด.......................เอื้อมมือไขว่คว้าเด็ดดม ฯ				
ฉันเดินถ่ายรูปไปเรื่อยตามเส้นทางเล็ก ๆ ซึ่งเจ้าถิ่นมายืนขวางทางตั้ง ๖ ตัว..
เอาล่ะสิ เจอมาเฟียตัวจิ๋ว ฉันถ่ายภาพมันหลายคลิ๊ก บางภาพดูตลกดี..
ตลกตรงที่เวลาตัวที่นำหน้าหันหน้าไปด้านไหน เหมือนจะสนใจบางอย่าง..
เจ้าตัวที่เหลือ ก็หันขวับไปมองเช่นกัน พลอยทำให้ฉันหันไปมองด้วย ..

 เหมือนผู้หญิงชุดขาวทาปากสีส้มใส่รองเท้าบู๊ททรงสูงสีส้มเนอะ ..
ได้ยินเพื่อนบอกบ่นเบา ๆว่า   โห จินตนาการ.. คิดไปนั่นเชียว..

เพื่อนร่วมงานพากันขำ ตอนที่ฉันสงสัยว่า เจ้าเตาะแตะข้างหน้าเป็นเป็ดหรือเป็นห่าน ..
ฉันไม่อายหรอกที่จะแสดงความเปิ่นออกมา จริงสิ ฉันไม่เคยเห็นเป็ดสีขาว..
แต่ก็ไม่เคยเห็นห่านคอสั้นแบบนี้				
..๏ บัวสวรรค์บานยามรุ่ง.............กลิ่นหอมฟุ้งคละคลุ้งไกล
เชยชมดอมดมใกล้....................ชวนฝันใฝ่ละเมอหา
หมายดอกที่งอกงาม...................เกินหักห้ามยามโรยรา
เกรงหมู่ภู่ผึ้งมา...........................ลวนลามพาให้หมองมัว ฯ				
..๏ นำมาพาขึ้นหิ้ง.....................บูชาสิ่งอันเหมาะสม
องค์พุทธ ฯ สุดนิยม...................งามภิรมย์ควรคู่กัน
ที่เหลือเผื่อใจไว้.........................ตกแต่งให้ใจสุขสันต์
ลอยบนวารีอัน-..........................อยู่ในขันตั้งพานรอง ฯ				
..๏ บัวเอยบัวสวรรค์....................ดอกเจ้านั้นงามผุดผ่อง
กี่วันผ่านเดือนปอง-...................หมายแตะต้องยามดอกมี
รดน้ำและพรวนดิน....................ดอกโศภินจักมากมี
เมื่อคราวเจ้าโสภี........................เกินคำมีที่เปรียบเปรย ฯ				
..๏ แม้นบานเมื่อกาลเปลี่ยน........ยังพากเพียรรอชมเชย
ยามดอกออกกลีบเผย..................งามเช่นเคยแม้นเปลี่ยนคราว
สูงนักจักเอื้อมคว้า......................แม้สมัญญา ณ กลางหาว
เทียมเดือนเพ็ญเด่นดาว.............ทุกครั้งคราวเจ้าเบ่งบาน ๚ะ๛				
มวลนกน้อยขับขานผสานเสียง 
ด้วยสำเนียงสูงต่ำยามกู่ก้อง
แล้วบินโฉบเฉี่ยวมาช่างน่ามอง 
พร่ำเพรียกร้องพร้อมเพรียงบินเลี่ยงมา				
ที่โดดเดี่ยวไร้คู่ดูหงอยเหงา 
บ้างสั่นเทาอ้างว้างยืนจับกิ่ง
ที่มีคู่เคียงกันพลันแอบอิง               
ซุกปีกนิ่งเอ่ยเอื้อนเหมือนเจรจา				
ในบ้านพักที่เขาจัดให้อยู่ มุมหนึ่งในห้องโถงมีตู้กระจก และบนตู้มีตุ๊กตาปั้น ..
ยืนมองอยู่นานสองนาน ติดตาติดใจกับตุ๊กตาปั้นเล็ก ๆเหล่านี้ ..
ความจริงถ่ายรูปมาหลายภาพเชียวนะ แต่เลือกมาให้ดูเพียงหนึ่ง ..
ชอบที่สุดก็น่าจะเป็นขวาสุด เด็กที่ถือหนังสะติ๊กนั่นไง ..

เฟี้ยว .. กำลังเล็งเด็กอีกคนที่กำลังเพลินกับการกระโดดเชือก				
เกือบนั่งทับเสียแล้วไหมล่ะ  ไม่ทันเห็นว่ามีเจ้าหมูน้อยยิ้มแต้อยู่ใต้ต้นไม้ ..
ดูสิ ! .. น่ารักจัง เหนื่อย ๆมา เห็นรอยยิ้มแบบนี้แล้ว หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ..				
..๏ เริ่มจากสองดวงใจอันหมายมั่น 	
ร่วมสร้างสรรค์สิ่งงามตามปรารถนา 
แล้วร้อยรักถักไมตรีร่วมชีวา 		
หลอมอุราเป็นหนึ่งซึ่งผูกพัน 

อยู่ครองคู่เคียงกันในบ้านน้อย		
ต่างหมั่นคอยรักษาสมานฉันท์ 
มากความรักน้ำใจมีให้กัน 		
ร่วมแบ่งปันความสุขทุกวันคืน 

แว่วคำหวานไพเราะเสนาะหู 		
ผ่านไปสู่หัวใจให้สดชื่น 
เพรียกกังวานดั่งรักนี้ที่ยั่งยืน 		
ยามขมขื่นยังมอบคำปลอบใจ 

ต่างเป็นที่ปรึกษาคราเหนื่อยอ่อน 	
แม้นรุ่มร้อนสับสนจนหวั่นไหว 
ทุกถ้อยคำล้ำค่าเยียวยาใจ 		
ผ่านพ้นภัยวิกฤติการณ์อย่างมั่นคง 

ต่างเกื้อกูลประกอบกิจดังจิตหวัง 	
ล้วนเป็นดังมุ่งมั่นพลันสมประสงค์ 
ร่วมก่อร่างสร้างตนจนมั่นคง 		
ด้วยจิตส่งรักเสริมเติมเรี่ยวแรง 

แม้เคยพลาดพลั้งไปในบางครั้ง 	
หมดความหวังเปรียบตะวันอันยอแสง 
ยังพร้อมภักดิ์ประสานใจไม่เปลี่ยนแปลง 
จวบจนแกร่งพ้นภัยในบัดดล 

ผ่านคืนวันเดือนปียังมีรัก 		
แจ้งประจักษ์เข้าใจในเหตุผล 
เพียรสานถักสายสร้อยร้อยกมล 	
อย่างเปี่ยมล้นมิตรภาพตราบนิรันดร์ 

อยู่ร่มเย็นเป็นสุขทุกค่ำเช้า 		
มีสองเราครองคู่ดูสุขสันต์ 
ภายในบ้านหลังนี้ที่ผูกพัน 		
อยู่เคียงกันสมัครสมาน บ้านรักล้น ๚ะ๛				
๏ กลิ่นกรุ่นละมุนฝน............และระคนธุลีดิน 
เพรียกแผ่วพระพายยิล...........อุระสิ้นระทมตรอม 
แว่วเสียงวสันต์พรำ................สิกระหน่ำและขับกล่อม 
ดุจเพลงระบำพร้อม...............จิตย่อมระเริงตาม ๚				
๏ ฟ้าฝนกมลชื่น...................ชระมื่นประพันธ์ความ 
ร่ายฉันท์กวีงาม....................ดุจร่ำระบือไป 
หวังเพียงนิพนธ์นี้.................ดรุณีสิเข้าใจ 
ร่วมภักดิ์สมัครใน-................รติใกล้นิรันดร์กาล ๚				
๏ ขับกล่อมถนอมนวล...........สุรสรวลสนุกนาน
ยินฝนและยลกานท์..............อุระซ่านภิรมย์จริง
อิงแอบและแนบเนื้อ..............มิจะเบื่อสิอ้างอิง
ดอกไม้ไสวกิ่ง.......................ผิว์กระดิ่งระงมดัง ๚				
๏ แล้วพร่ำวจีอ้อน..................ขณะตอนพิรุณยัง
แซกเสียงกวีดัง......................สติตั้งกระจ่างใจ
เอื้อนเอ่ยเฉลยพจน์................มธุรสบุราณไทย
หวังน้องสิผ่องใส....................และสบายหทัยนาน ๚ะ๛				
โอ้แรงฤทธิ์วิษณุกรรมนำรังสรรค์ 
ยังอัศจรรย์ความงามล้ำหลากสี
แต่งแต้มพันธุ์พฤกษาทั่วปฐพี 
หลากมาลีปรุงใจให้คลายตรม				
ด้อม ๆ มอง ๆ จนเพื่อนแปลกใจ ตะโกนถามข้ามบึงบัวมาว่า "ทำอะไรอยู่ ?"..
" กำลังดูมด " ฉันตอบ
" ไม่เคยเห็นมดเหรอ ? " แน๊ ถามมาได้ ฉันแปลกหรือพวกเขาแปลกกันนะ 

" แต่นี่มันเป็นมดที่มีหนวดสั้นข้างยาวข้างนะ " ฉันตอบอย่างฉะฉาน
" เฮ้อ ดูมันเถียง " เพื่อนบ่นมาอย่างนี้				
" แน่ใจนะว่าที่ตักมา ทานหมด " เสียงห้าว ๆของเจ้านายทักมา
" กำลังหาวิธีลำเลียงค่ะ อันดับไหนก่อนดีนะ " ฉันตอบ
" หิวอะไรปานนั้น " ก่อนไปเขาฝากไว้เป็นประโยคที่ดูเหมือนไม่ต้องการคำตอบ
" ถ้าให้ซื้อทานเอง คงไม่ทานขนาดนั้นหรอกค่ะ " ฉันตอบในใจ				
เฮ้อ ..! จะไหวไหมนะ เพิ่งถอดผ้าพันแผลที่มือมาแหม่บ ๆ ..
ครั้นจะใช้สิทธิ์วีไอพี (จะโดนหักคะแนน) ก็กลัวเสียฟอร์ม..
เอาน่า ลองดูซักตั้ง ถ้ามันหนักหนานัก ก็โดดลงคลองเลยละกัน ง่ายดี ..
แต่แหม.. ! ใครกันนะ ทำเชือกขาดอีกต่างหาก งานนี้มีลุ้นเฟ้ย ..				
" หันมาทางนี้หน่อย จะถ่ายรูปให้ " เสียงเพื่อนโหวกเหวกอยู่อีกฝั่ง
" เฮ้ย !! ไม่เอา เดี๋ยวเสียสมาธิ " ฉันตอบแบบที่ไม่ต้องหันหน้า
" ดูสิ ไต่เชือกที เชือกงี้หย่อนเชียว " เพื่อนผู้ชายล้อมา
" อยากเก็บรูปท่าตกน้ำมั๊ย ไม่ไหวแล้ว เจ็บมือ " ฉันตอบ แบบหมดสภาพ
" เฮ้ย ๆ ใจเย็น อีกนิดเดียว อดทนหน่อย ตกน้ำไป ปลาตายหมดคลองแน่ ".
" ยี้ " เสียงยี้ของฉันดังพร้อม ๆ กับก้าวสุดท้าย				
คนตั้ง ๑๖ คน ช่องที่มีให้ทั้งหมด ๑๒ ช่อง แต่ละช่องเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ..
กติกามีอยู่ว่า ..
ต้องผ่านโดยไม่ซ้ำช่อง ห้ามมีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายถูกเชือก ..
ถ้าครบ ๑๒ ช่องแล้ว คนที่เหลืออีก ๔ สามารถเลือกช่องผ่านซ้ำได้ ..

เอาล่ะสิ งานนี้ มีแบก ..				
" เฮ้ เฮ้ ..อย่าดุกดิก แขม่วท้องหน่อย นั่นต้องงั้น หนักวุ๊ย " 
" ระวัง ระวัง ช่วยกันยกตรงนั้นขึ้นหน่อย (ตรงไหนนะ) "
" อีกนิด อีกนิด ใกล้ล่ะ "				
" เอ่อ คือว่าเราพายเรือไม่เป็น ยังไงก็มารับเราด้วยนะ " ฉันบอกเพื่อน
" มีคนพายเรือเป็นอยู่สามคน ไม่เป็นไรเดี๋ยวผลัดกัน " เพื่อนบอก
" ให้ถึงฝั่งนะ กลางทางล่ม ม่ายอาววววววว " ฉันต่อรอง
" เหอะน่า อยากเก็บดอกบัวไหมล่ะ "
..ฮา ..				
งานนี้สาวภูธรได้โชว์ฝีมือสุด ๆ ..
ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ตอนที่ผ่านฐานต่างๆ ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีบทบาทนัก ..
เห็นไหมล่ะ ..
เขาว่า สถานการณ์สร้างนางเอก ..				
มีหลายฐานที่ไม่ได้เก็บภาพมาฝาก แต่บอกได้ว่า โหดพอ ๆ กัน ..
จนกระทั่ง ฐานนี้ ต้องเดินกลับมาที่ห้องสัมมนา ..
คิดดูสิ คนกำลังเหงื่อโชก พอมาถึงห้องแอร์ ..
เอาล่ะ ความเปิ่นของฉัน ..
ห้องนั้นยังปิดอยู่ ฉันรู้ว่าฐานอยู่ในห้องนั้น ผู้กำกับฐานอยู่หน้าห้อง ..
บอกว่าเข้าได้เลย แต่เพื่อนยังคงร่ำไร ..
ฉันเปิดประตูเข้าไปก่อนใคร .. หนำซ้ำ ..
ฉันรั้งเสื้อเปิดพุงรับแอร์เต็มที่ โดยไม่ทันมองว่า 
มีเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทอยู่ที่นั่น ..โอยพระเจ้าจอร์ด
มารู้อีกทีตอนเขาบอกให้หลับซะ ..
นอนไปเลย นอนซะ ได้เวลาแล้วจะปลุก แล้วก็มีเพลงบรรเลง ..
อายเขามาก ๆ เฮ้อ ไม่น่าเล้ย รั้งเสื้อขึ้นมาไม่แยะ

หนำซ้ำตอนหลับ เพื่อนมาแต๊ะอั๋งอีกต่างหาก
งานนี้ มีเรียกร้องค่าเสียหาย แหะ แหะ				
ฐานนี้ไม่ได้เล่น ภาพที่เห็นเป็นภาพของอีกทีมที่เล่น
ที่ไม่ได้เล่น ก็เพราะว่านอนหลับจนเลยเวลา คนกำกับฐานลืมปลุก ..
ทำให้แพ้บาย ได้ศูนย์คะแนน อีกทีมได้ 10 คะแนนไปฟรี ๆ ..
เพื่อนบางคนเสียใจนะ เซ้าซี้ขอแข่งให้ได้ ..
แต่ฉันบอกเพื่อนว่า ..
เราต้องยอมรับ เรามาฐานนี้สายกว่าเวลาที่เขากำหนดไว้ ..
อีกอย่าง .. หากอีกทีมให้โอกาสเราแก้ตัว ก็ย่อมทำได้ ..
แต่ถ้าเขาไม่ให้โอกาส เราก็อย่าเสียใจ อย่าโกรธ ..
มันแค่เกมการแข่งขันเท่านั้น ..

เพื่อนยังคงเดินไปบ่นไปตลอดทาง ฉันฉุกคิด ..
ใช่ สถานการณ์บางอย่างเราไม่อาจแก้ไข ..
สิ่งที่เป็นไป มันย่อมเป็นไป ขืนมาวิตกทุกข์ร้อน ..
ก็เท่ากับว่า เอาใจใส่มันเกินไป ทั้งที่อย่างอื่นที่น่าสนใจยังรออยู่ ..
ฉันยิ้มให้กับความคิดของตนเอง และ ยอมรับความเป็นจริง ..

เอาน่า .. ฐานนี้ได้ศูนย์คะแนน แต่ยังมีอีกหลายฐานนะ ..
เราไปมุ่งมั่นเอาคะแนนจากตรงนั้นดีกว่า ..
อย่ามัวแต่เสียดายไปเลย ..

อ๊ะ บอกให้ก็ได้ เพื่อนคนนั้น ก็เพื่อนที่แต๊ะอั๋งฉันนั่นแหล่ะ				
กลุ่มก๊วน ที่มีชื่อว่า เฮง เฮง เฮง ..
แหม๊ ตอนแรก จะตั้งชื่อว่า แปดสหาย มันเหมือนผัดผักชอบกล
กับอีกชื่อนะ ฟังแล้วกระเด้งดึ๋งเชียว ป๊อกเด้ง น่ะ
แต่ในที่สุด ชื่อ เฮง เฮง เฮง ก็หลายเป็นชื่อก๊วนนี้

รูปนี้ถ่ายเมื่อตอนกู้กับระเบิดเสร็จสิ้น
ดูกางเกงซะก่อน เขรอะซะไม่มีอ่ะ 
เพื่อนบอกว่า ตอนก่อนเล่นเกม ทำไมไม่ถ่ายรูป ดันมาถ่ายหลังเล่นจบ
ไม่ล่ะ ขืนถ่ายตอนนั้น หน้าก็ไม่โทรมสิ ..กิ..กิ..				
" อย่าบอกนะว่าต้องมีการโดดหอ "
" เฮ้ย ไม่มีนี่นา ในแผนที่ไม่มี "
" แล้วทำไมเดินมาทางนี้ล่ะ "
" ตื่นเต้นไปได้ โดดก็โดด .."

เป็นเสียงของเพื่อน ๆ คุยกัน ไม่ใช่เสียงของฉันหรอก
เรื่องโดดหอ ไม่หวั่นแม้วันมามากอยู่แล้ว				
แค่วันนึงที่ได้พักที่นั่น ก็รู้สึกเหมือนว่าได้ไปชาร์ตแบตมาเต็มที่
เอาล่ะ 
กลับมาอยู่บ้านทรงแท่งตามเดิม ป่าคอนกรีตคู่กับมนุษย์เงินเดือน				
ไม่ใช่พจมานแห่งบ้านทรายทองหรอก
ความจริงเป็นแค่ลิงเร่ร่อนตัวหนึ่งเท่านั้น

เฮ้อ .. ชาตินี้จะเจอคุณชายกลางมั๊ยเนี่ย				
มุมนี้ที่มีตุ๊กตาเด็กปั้น .. อยากได้จัง
ใครมีบ้างเนี่ย ขอเอาดื้อ ๆ วุ๊ย

ข้างบนตู้มีเหล้าหลากยี่ห้อ อย่าถามเชียว ไม่ถนัดแฮะ
ตาได้แต่มอง มือไม่ต้อง ของอาจเสีย .. เพื่อนผู้ชายว่างั้น 
แต่จนแล้วจนรอด ไม่เห็นมีใครแตะเลยแฮะ

อ้อ ! ลืมบอก บ้านนี้มีสามห้องนอน แต่ละห้องนอนมีห้องน้ำในตัว
พักสามคู่ คู่หนึ่งเป็นผู้ชาย ไอ้เรารึ หวังว่าเพื่อนจะดูแลสาว ๆ ในบ้าน
ที่ไหนได้ หายไปเล่นไพ่ กลับมาตั้งตีสองแน่ะ				
เห็นรูปด้านหลังนั่นไหม .. ? รูปนั่นน่ะ 
อ๋อ ยังเห็นไม่ชัดเหรอ ถ้างั้น รอปูเหลียว				
อ่า !! นี่งัยล่ะ 

ภาพนี้ฉันจ้องอยู่นาน จนเพื่อนบอกว่า 
จ้องซะขนาดนั้น นางแบบอายแย่แล้ว
ฉันคิดที่จะเขียนร้อยกรองชุดหนึ่ง เขียนเกี่ยวกับภาพนี้
อยากบรรยายความงามที่ปรากฏตรงหน้านี้จัง

ไม่แน่นะ .. ถ้ามีคนยุ ฉันอาจเขียน..
ว่าแต่ว่า คนอ่าน..อยากอ่านมั๊ยล่ะ ?				
จนเพื่อนบอกว่า " นี่เธอ จะไม่อาบน้ำอาบท่าบ้างเหรอ ?"
อาบสิ ทำไมจะไม่อาบ ห้องน้ำแบบนี้ อาบแล้ววาบหวิวนะ
เคยซะที่ไหน แต่อยากอาบน้ำท่ามกลางแสงจันทร์ 
เขาว่ากันว่า คนที่อาบน้ำท่ามแสงจันทร์ผิวจะสวย
จริงเปล่าก็ไม่รู้ แต่ว่า ตอนนี้ ยังขี้เกียจอาบ .. ข้ออ้างน่ะ				
ยืนดี ๆ อย่าผลักกัน ประเดี๋ยวตกบ่อ				


ฉันนั่งอยู่ที่ม้านั่งเก่าๆตัวหนึ่งบริเวณหลังบ้านพัก นั่งมองบึงบัวอยู่พักหนึ่ง
โทรศัพท์ก็ดังขึ้น คิดโน่นคิดนี่หลายอย่าง

 เป็นไงบ้างครับ ทานข้าวหรือยัง  เขา คนที่อยู่ไกลถามมา
 ยังค่ะ เพิ่งกลับเข้ามาที่บ้านพัก ว่าจะอาบน้ำแล้วไปทานข้าวค่ะ
 เหนื่อยไหมครับ คนดี 
 ค่อยยังชั่วแล้วค่ะ แต่ตอนกลางวันเหนื่อยมากเลย 
 แผลเป็นไงบ้างครับ เห็นว่าจะมีพวกปีนป่าน โหนเชือกทำนองนั้น 
 อื้อ ! เจ็บค่ะ ที่แขนขวาตอนไต่เชือก คงเพราะรั้งตัวไว้ไม่ให้ตก เชือกเลยเสียดสีกับต้นแขนถลอกจนเลือดซึม 
 ใส่ยานะครับ แล้วที่มือขวาที่บาดเจ็บล่ะครับ 
 ก็เจ็บค่ะ หลายฐานต้องออกแรง
 โอย คุณต้องดูแลตัวเองนะครับ ผมเป็นห่วงคุณมากเลยรู้มั๊ย 
 ทราบค่ะ ขอบคุณค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ จะไปอาบน้ำค่ะ เดี่ยวไปพร้อมเพื่อนทานข้าว 
 คืนนี้ผมจะโทรหานะครับ 
 ได้คะ หลังสามทุ่มนะคะ เพราะต้องเข้าห้องประชุมหลังทานข้าว 

ฉันวางสายจากเขาก่อนที่จะไปทำธุระส่วนตัว และเดินออกไปทานข้าวพร้อมเพื่อน เพื่อนหลายคนแซวว่า ..คงอิ่มอกอิ่มใจแล้วกระมัง .. เปล่าหรอก  ฉันไม่อาจบอกความรู้สึกบางอย่างให้เพื่อนรู้ได้ ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายใน ความรู้สึกที่คนมองฉันอย่างฉาบฉวย ย่อมไม่มีวันที่จะเข้าใจ 				
 มองไปที่บึงบัวอีกครั้ง ดอกบัวสีชมพูสวยนักจนอดไม่ได้ที่จะเก็บภาพนั้นไว้ ม่านมืดค่อยๆเคลื่อนปกคลุม ฉันต้องรีบแล้ว เดี๋ยวจะค่ำ ตอนนี้ทุกคนในบ้านพักแต่งตัวพร้อม คงเหลือฉันที่อ้อยอิง ฉันใช้เวลาไม่นานนักในการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็เดินรวมกลุ่มกับเพื่อนไปยังที่เขาจัดให้ทานอาหารเย็น 

แต่ละบ้านพัก เปิดไฟสีส้มที่หน้าบ้าน แต่บนเส้นทางเดินไม่มีไฟทาง ฉันเดินลัดตัดสนามหญ้าเมื่อใกล้ห้องอาหาร เดินซุ่มซ่ามไปเตะคางคกพลั่ก คางคกลอยลิ่ว ส่วนตัวฉันก็กระโดดโหยงเหมือนกัน 

คืนนั้น .. ที่สวนลำใย ฉันเดินตามหลังเขาด้วยความกลัว กลัวความมืด และกลัวสัตว์ต่างๆ ที่สำคัญ ฉันกลัวผี.. เขาเร่งเดิน ฉันก็ยิ่งต้องเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นตาม แต่ถึงอย่างไรฉันก็ก้าวตามเขาไม่ทัน ฉันดึงชายเสื้อของเขาเพื่อรั้งให้เขารอฉัน ... ได้ยินเสียงเขาหัวเราะเบา ๆ .. คงหัวเราะที่ฉันขี้ขลาด 

ฉันเดินไปยิ้มไป จนเพื่อนถามว่าเป็นอะไร .. ฉันจะบอกได้อย่างไรว่า ฉันมีความสุขเมื่อนึกถึงคืนนั้น
				

 คนดีหลับหรือยังครับ  เขาถามแปลก ถ้าหลับแล้วจะรับสายได้อย่างไร
 ยังค่ะ แต่เพื่อนร่วมห้องหลับแล้ว เมื่อคืนก่อนเข้าเวรดึก คงเพลียจัดค่ะ 
 คุณง่วงนอนหรือยังครับ  
 ยังเลย นั่งดูทีวีอยู่ลำพังค่ะ ตอนนี้ เลือกสถานีไม่ถูกเหมือนกัน 
 ผมมารบกวนหรือเปล่า ผมโทรหาคุณบ่อย ๆ กลัวคุณรำคาญนะครับ  

ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถาม ก่อนหน้านั้นเขาก็เคยถามมาแล้ว เขาบอก..เขากลัวว่าสิ่งที่เขาทำจะทำให้ฉันเกิดความรำคาญใจ ซึ่งฉันก็ตอบเขาไปแล้วเช่นกันว่า ไม่เคยรำคาญ  ฉันเข้าใจเขา และเข้าใจด้วยว่าเขาทำเพื่ออะไร ..ฉันไม่อาจตอบรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีจากเขา .. ฉันดูเหมือนคนที่สับสน				

ฉันนอนไม่ค่อยหลับ แขนขวาที่บาดเจ็บออกอาการปวด ฉันได้แต่หลับตานิ่งและพยายามข่มตาให้หลับ เพื่อนอีกคนที่ร่วมห้อง หลับไปนานโข .. ฉันค่อยๆคลำหาเป้ และค้นยาระงับปวด แต่ไม่มี ฉันไม่ได้เอามา คงมีแต่พล๊าสเตอร์และยาใส่แผลสด .. แย่จัง ฉันหลับไม่สนิททั้งคืน เพราะไม่ว่าจะพลิกตัวไปทางไหน ก็เจ็บระบมไปหมด

รุ่งขึ้นขณะที่คนอื่นสดใส แต่ฉันกลับหน้ายับ จะเดินแต่ละก้าวแทบจะยกเท้าสูงไม่พ้นหญ้า หากคราวก่อนไม่เกิดอุบัติเหตุก่อนไปสัมมนา ฉันคงไม่ต้องทุลักทุเลอย่างนี้ ดูไปแล้ว 
นึกสมน้ำหน้าตัวเองเหมือนกัน .. แต่ก็ดี เจ็บแล้วจะได้เข็ด

				
" อรุณสวัสดิ์ครับ ตื่นหรือยังเอ่ย เป็นอย่างไรบ้างครับ หลับสนิทมั๊ยเมื่อคืน" เสียงของเขาผ่านสาย โทรมาถาม 
" อรุณสวัสดิ์ค่ะ นอนไม่ค่อยหลับค่ะ ไม่ว่าจะพลิกตัวไปทางไหน ก็ปวดเมื่อยไปหมด"
" ต้องทานยาคลายกล้ามเนื้อครับ แล้วมาบาล์มทามั๊ย "
" ไม่มีค่ะ "
" ถ้างั้น คุณควรแจ้งเจ้าหน้าที่นะครับ อีกอย่างแผลที่มือขวาของคุณควรใส่ยาและพันผ้า"
" ค่ะ ก็คิดว่างั้นเหมือนกัน"
" คุณครับ" เสียงของเขาดูขรึมทันตา
" หือ"       
" คุณสัญญากับผมแล้วนะครับ ว่าจะดูแลตัวเอง"
 " ก็ดูแลตัวเองแล้วค่ะ"
" ถ้างั้น คุณอย่าลืมไปแจ้งเจ้าหน้าที่นะครับ แล้ววันนี้จะต้องcheck out กี่โมงครับ"
" อื้อ ! นี่ก็จัดของใส่เป้อยู่ค่ะ คง check out เลย เพราะว่าหลังจากทานอาหารเช้าแล้ว ก็จะไม่กลับเข้าบ้านพัก ต้องเข้าห้องประชุมตอนเก้าโมง ก็กะว่าจะเตร็ดเตร่ถ่ายรูปแถว ๆนั้นค่ะ เดินไปเดินมา มันไกลนะ"
" ครับผม ดีแล้ว check out ก็ดี คุณจะได้ไม่ต้องลำบากเดินไปกลับอีกรอบ บ้านพักคงไกลนะครับ"
" ไกลนะ เอ หรือว่าไม่ไกล พอดีว่า เดินไม่ค่อยไหวแล้วค่ะ ไหนๆจะต้องเดินไปทานข้าวแล้ว ก็ตัดสินใจกับเพื่อนว่าไปรอบเดียวพอ"
" ออกจากห้องประชุม กลับเข้ากรุงเทพฯทันทีหรือเปล่าครับ"
" เขามีเลี้ยงอาหารกลางวันด้วยค่ะ ทานเสร็จแล้วก็กลับกรุงเทพ คงไม่แวะซื้อของฝากอะไรที่ไหน เพราะว่าเพื่อนบางคนที่ร่วมสัมมนาต้องเดินทางกลับภูมิภาคค่ะ"
" อ๋อ ! ครับ .. ถ้างั้น ถึงบ้านแล้วกดโทรศัพท์หาผมนะครับ"
" ค่ะ ขอบคุณค่ะ ที่...เอาใจใส่เสมอ"
" ไม่เอาน่า คุณจะมาขอบคุณผมทำไมกัน ผมอยู่ไกล ดูแลคุณได้ก็เพียงเท่านี้เอง"
" ต้องขอบคุณค่ะ คุณดูแลฉันในขณะที่ฉันไม่เคยถามคุณสักคำเลยว่า คุณสบายดีไหม"
" ผมรู้ว่า คุณไม่ปริปากถามผมหรอกครับ และผมก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรด้วย แต่ให้คุณรู้ไว้นะครับว่า ทั้งหมดที่ผมทำไป ผมปรารถนาดีกับคุณ และผมก็เต็มใจ"
" ขอบคุณค่ะ"
" ว้า ! ขอบคุณอีกแล้ว ผมเพิ่งพูดแหม่บๆ" 

ฉันคิดว่า สองวันที่เดินทางไปชลพฤกษ์ ฉันหลากหลายอารมณ์ มีทั้งเศร้าบ้าง และสุขพอสมควร กับบางคนที่ทำให้ฉันคิดถึง และบางคนที่เขาเฝ้าแต่คิดถึงฉัน ทุกอย่าง..เกิดที่ชลพฤกษ์    

the end.				
comments powered by Disqus
  • มัดหมี่ค่ะคุณอัล

    25 สิงหาคม 2548 19:31 น. - comment id 86281

    อ่านแล้วค่ะคุณอัล นาน ๆ มาทักทาย
    อยากถามเหมือนคนบางใครว่า
    
    คุณอัลมิตราเหนื่อยเป่าคะ
    
    มัทแวะมาเยี่ยมค่ะ
    
    บางอารมณ์เนี่ย .....มีเกิดขึ้นทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาทีค่ะ 
    
    คิดถึงคุณอัลค่ะ
    ดีใจที่ได้อ่านเป็นคนแรก รูปก็สวย เรื่องราว อ่านแล้วให้ความรู้สึกหลายอย่าง
    
    1.gif16.gif
  • ทะเลน้ำตา...

    25 สิงหาคม 2548 22:50 น. - comment id 86284

    คุ้นนะ ประโยคนั้น คำที่เคยบอกบางใครว่า ถ้ามีเวลาอย่าลืมโทรหาด้วย
    แต่แล้ว บางใครก็ลืม.... ใช่ ลืมทั้งที่รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ
    ...ฉันรู้ดี ช่วงเวลาแห่งการรอคอยที่คืบผ่านไปอย่างช้า ๆ พร้อมกัดกินหัวใจให้เว้าแหว่งไป มันย่ำแย่เกินจะบอกใคร
  • แฟนตัวจริง...เสียงจริง

    26 สิงหาคม 2548 08:35 น. - comment id 86289

    สวัสดีครับ คุณอัลมิตรา46.gif
    
    มาตามอ่านเหมือนเช่นเคย
    ผมชื่อ..คิม..มาแสดงตัวให้ทราบ คุณก็จะสบายใจด้วยอย่างน้อยมั่นใจได้ว่าผมเป็นมิตร 
    
    ผมติดตามอ่านกลอนที่ผมชอบ ไม่เคยมีเจตนามาสร้างปัญหาใดๆ
    
    ผมมาหัดเขียนกลอนที่ กวีนิพนธ์สยามครับ มาสมัครเป็นลูกศิษย์คุณเวทย์ ไม่ค่อยมีผลงานอะไร เพราะเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
    
    จะตามอ่านเรื่อยๆครับ
  • อัลมิตรา

    26 สิงหาคม 2548 12:14 น. - comment id 86291

    คุณมัดหมี่ .. ทิวาสวัสดิ์ค่ะ
    ใครหนอที่ถามอัลมิตราว่าเหนื่อยมั๊ย ? อยากรู้จังค่ะ
    อัลมิตราไปสัมมนามาเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านพ้น
    เหนื่อยเหมือนกันค่ะ แต่ก็สนุกสนานดี 
    ได้แง่คิดหลายอย่างกลับมาประดับใจ 
    ได้ความลำบากไว้คอยกำกับใจไม่ให้เหลิง และให้อดทนค่ะ
    
    คุณทะเลน้ำตา ..
    ประโยคที่อัลมิตราเขียนลงในเรื่องสั้น 
    หากไปกระทบถูกหัวใจของคุณ
    คงต้องกล่าวขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
    และอัลมิตราอยากบอกว่า หากเป็นจริงเช่นนั้น 
    อัลมิตราเข้าใจและรับรู้ค่ะ
    โดยที่ บางคราสิ่งที่เกิดกับอัลมิตรา ยากที่ผู้ใดจะรับรู้
    
    คุณคิมหันต์ .. สวัสดีค่ะ
    ขอบคุณมากค่ะ ที่แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ 
    อัลมิตราขอน้อมรับในน้ำใจ
    คุณหัดเขียนอ่านที่กวีนิพนธ์สยาม 
    คุณย่อมได้รับผลประโยชน์ในด้านความรู้มากมาย
    และแน่นอน หากคุณเป็นผู้ใฝ่รู้ คุณไปถูกทางแล้วค่ะ
    ที่นั่นจะเป็นแหล่งให้คุณค้นคว้าและฝึกฝนได้เป็นอย่างดี
    
    สำหรับอัลมิตราซึ่งไม่ค่อยปรากฏผลงานที่นั่น
    แต่ อัลมิตรายังคงได้รับการอบรมจากครูเสมอ
    
    ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งค่ะ ศิษย์ร่วมสำนัก
  • แฟนตัวจริง....เสียงจริง

    26 สิงหาคม 2548 13:05 น. - comment id 86292

    โอ้โฮ...เรียกเต็มยศเลยครับ
    46.gif
    
    รู้จักกันแล้วก็เรียกคิมเฉยๆละกัน
    ยินดีที่ได้รู้จักครับ31.gif
  • กุ้งหนามแดง

    26 สิงหาคม 2548 16:20 น. - comment id 86298

    วันนี้แวะมาเปิดบ้านกลอน..เห็นมีคำว่าชลพฤกษ์ เพิ่มมา..มีเรื่องและรูปเพิ่มเติมด้วย
    
    เลยอ่านได้แค่ครึ่งเรื่องที่ลงครั้งแรกเอง สัญญาว่าจะกลับมาอ่านให้จบค่ะ วันนี้ขอตัวก่อนจะต้องไปหาออกซิเจน ตจว.บ้างแล้ว
    
    แล้วพบกันค่ะ..
  • ทะเลน้ำตา

    26 สิงหาคม 2548 22:04 น. - comment id 86307

    บางที...กว่าจะรับรู้และเข้าใจสิ่งใด
    เมื่อสภาพเช่นนั้นมาเกิดกับตัว 
    มันก็ทำให้อีกจิตใจหนึ่งบอบช้ำเหลือหลาย
    
    แต่ก็ไม่เคยมีสิ่งใดสายเกินไป
    ตราบยังมีลมหายใจอยู่
    
    ความห่วงใยที่มีให้
    มิใช่เพียงแค่สิ้นลม...หรือสิ้นฟ้า
    ทว่า มันยาวไกลกว่านั้นมากนัก
    ....มากเหลือเกิน!
  • ฉางน้อย

    26 สิงหาคม 2548 23:57 น. - comment id 86309

    ..... อ่านแล้วค่ะ น่ารักมากๆ ภาพก็สวย คมชัด เรื่องราวก็แจ่มแจ้ง กระจ่าง อ่านได้ง่าย สบายตาค่ะ  ชอบอ่านจังค่ะ  แบบนี้ ฉางน้อย ชอบค่ะ   ไว้วันหน้าจะแวะมาอ่านอีกค่ะ ....
    ..... อ่านแล้ว เป็นธรรมชาติดี เฮ้อ ชอบจริงๆนะคะ  29.gif29.gif64.gif64.gif1.gif
  • อัลมิตรา

    27 สิงหาคม 2548 22:20 น. - comment id 86323

    คุณคิม.. ถ้างั้น คุณเรียกอัลมิตราว่าอิมนะคะ
    
    คุณกุ้งหนามแดง.. อัลมิตราเขียนยังไม่จบเลยค่ะ แหะ แหะ
    งานยุ่งเหยิง โผล่มาได้ทีละแว๊ปสองแว๊ป
    
    คุณทะเลน้ำตา .. 
    ความอาดูรไม่สามารถเปลี่ยนแปลงบางสิ่งได้
    ยอมรับเถอะค่ะ 
    
    คุณฉางน้อย .. เอาไว้หากมีโอกาสเดินทาง จะเก็บเรื่องราวมาฝากค่ะ
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    31 สิงหาคม 2548 08:45 น. - comment id 86400

    เห็นรูปแล้ว...นึกว่าจะได้เห็นลิงตกน้ำ...555
    
    ....บางคน..เหมือนบางรักหรือป่าวครับคุณอิมแบบว่าขี้งอนนะ...
    31.gif
  • อัลมิตรา

    31 สิงหาคม 2548 16:40 น. - comment id 86406

    คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ ..
    ไม่ได้ตกน้ำเลยค่ะ เสียดายจัง เลยไม่มีรูปลิงตกน้ำมาฝาก
    ว่าแต่ว่า เอารูปนกมาฝากแล้วนะคะ
    คุณบินเดี่ยวเป็นนกแก้วมาร์คอว์ที่พูดแจ้ว ๆๆๆ 
    หรือว่าเป็นนกเงือกคะ
    เขาว่านกเงือกมีรักเดียวใจเดียวนะคะ
  • g i d

    5 กันยายน 2548 11:39 น. - comment id 86491

    สวัสดีค่ะ คุณอัลมิตรา..
      สบายดีหรือเปล่าค่ะ ที่ว่าแขนเจ็บ หายหรือยัง.
    ...แปลกนะ ทำไมอารมณ์ และความรู้สึก เราถึงไม่สามารถ ควบคุมมันได้  ทั้งๆ ที่พยายาม แล้ว..
    ..  คุณเคยมีความรู้สึกแบบว่า  มีใครคนหนึ่ง อยู่แล้ว แต่กลับคิดถึงใครบางคน  ทั้งที่คนๆ นั้น ไม่มีวันจะย้อนกลับมาไหม.   แล้วเราควรทำอย่างไร48.gif
  • อัลมิตรา

    17 เมษายน 2549 12:57 น. - comment id 90434

    คุณgid ..
    ความรู้สึกดังกล่าว ก็เคยวูบไหวผ่านมาบ้าง แต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลาประเดี๋ยวเท่านั้น
    ความรู้สึกบางอย่างที่ต้องการเติมเต็ม ไม่อาจสามารถชดเชยได้จากผู้ที่ไม่ใช่
    ดังนั้น อัลมิตราคิดว่า ไม่ผิดหรอก ที่ความรู้สึกเช่นนั้นเกิดขึ้นกับคุณ
    ตราบเท่ายังมีจิตวิญญาน เราย่อมรับรู้ความต้องการของเราเอง
    
    มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน