The Two Of Us รักสองภาษา (ตอนที่ 5)
Pat_Big
ตอนที่ 5 "เพื่อน"
ซุ้มริมแม่น้ำหลังคณะศิลปกรรมฯ เป็นที่ ๆ ต๊อบและเพื่อน ๆ ร่วมวงมักจะนัดมาพบปะสังสรรค์กันที่นี่ เพราะว่าบรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัวและก็ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านมากนัก
เพราะเป็นที่ร่ำลือมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า ที่แม่น้ำหลังคณะศิลปกรรมฯ มีนักศึกษาหญิงมากระโดดน้ำตายที่นี่ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าย่างกรายเข้ามาใกล้ที่นี่มากนัก ต๊อบกับเพื่อน ๆ คิดว่ามัเป็นเรื่องตลก
เพราะตั้งแต่พวกเค้าเรียนที่นี่มา ก็ยังไม่เคยเจอ "วิญญาณนักศึกษาสาว" คนนั้นเลยสักครั้งเดียว ถึงจะมีคนคอยขู่อยู่บ่อย ๆ ว่าภารโรงประจำมหาวิทยาลัยเคยเจอวิญญาณของเธอซะจนจับไข้หัวโกร่น
แต่พวกหนุ่ม ๆ กลุ่มนี้ก็ยังยึดที่นี่เป็นที่ประจำการของพวกเค้ามาแต่แรกที่เข้ามาเรียนที่นี่เลยทีเดียว
ต๊อบพายูจังซึ่งเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยความประหม่าเดินเข้ามาหาเพื่อน ๆ ซึ่งกำลังง่วนคุยอะไรสักอย่างกันอยู่ ต่างคนต่างขะมักเขม้นจนไม่ได้สังเกตเห็นผู้มาใหม่
"เฮ้ พวกนาย ทำอะไรกันอยู่"
ต๊อบทักทายขึ้นแต่ดูเหมือนว่าเพื่อน ๆ ของเค้าจะไม่มีใครได้ยินนะ
"เฮ้ เฮ้ พวกนาย ทำอะไรกันอยู่"
ต๊อบพยายามอีกครั้ง เค้ารู้ดีว่าเวลาที่เพื่อน ๆ เค้าตั้งใจ หรือ หมกหมุ่นอยู่กับอะไรสักอย่างก็มักจะเพิกเฉยต่อสิ่งรอบข้างแบบนี้แหละ
ในที่สุดต๊อบก็ต้องงัดไม้ตายมาใช้
"เฮ้ นี่พวกนาย พี่แยมมาโน่นแล้ว"
ต๊อบตะโกน และก็ได้ผล พวกหนุ่ม ๆ ทั้งสี่ต่างเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองหา "พี่แยม" เป็นตาเดียวกัน
"ไอ้ต๊อบ!! ไอ้เพื่อนเวร แกอำพวกชั้นทำไมวะ"
"ไวน์" หนุ่มหล่อประจำกลุ่มว๊ากใส่ต๊อบ
"นั่นสิ เสียอารมณ์หมด"
"วอร์ม" เอ่ยขึ้นพลางทำหน้าเสียอารมณ์ให้ดูจริง ๆ
"เล่นของสูงนะแกไอ้ต๊อบ พี่แยมน่ะ ของสูงนะว้อย"
"โก้" หนุ่มที่หลงรักพี่แยมมากที่สุด เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
"พอเลยไอ้โก้ แกน่ะหมาเห่าเครื่องบิน"
"ไกด์" อีกหนุ่มที่เหลือเอ่ยขึ้น
ต๊อบขบขันกับอาการของเพื่อน ๆ เอ๊ะ! จะมีใครสังเกตมั้ยนะ ว่ายูจังยืนอยู่ตรงนี้ ยูจังยืนมองพวกเค้าอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ไม่คุ้นกับบรรยากาศกลุ่มเพื่อนแบบนี้ เพราะยูจังไม่เคยมีเพื่อนสนิทเลย
"พวกนายทำอะไรกันอยู่ ชั้นเรียกพวกนาย พวกนายก็ไม่ได้ยินสักคน" ต๊อบเอ่ยถามหลังจากโดนเพื่อน ๆ รุมสวดเรียบร้อยแล้ว
"ปรึกษากันว่าจะกำจัดไอ้พี่อาร์ทยังไงดี ฆ่าหมกป่า รึว่าเผานั่งยาง" ไกด์ตอบหน้าตาเฉย
"ไอ้ไกด์ คุกนะมึง" โก้ปรามเพื่อนแต่ก็ร่วมหัวเราะไปกับทุกคนที่เหลือ ยกเว้นยูจัง ยูจังยังคงยืนประหม่าอยู่
"เออ ฉันเกือบลืม นี่ยูจังเพื่อนใหม่ของพวกเรา ยูจัง นี่ไงเพื่อน ๆ ของเรา ที่ฉันบอกนาย"
ยูจังโค้งคำนับให้ทุกคนพลางส่งยิ้มอย่างเป็นมิตร ซึ่งก็ได้รับรอยยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน นาทีนั้นยูจังรู้สึกอุ่นวาบเล็ก ๆ ขึ้นมาในหัวใจ เค้ารู้สึกว่าคนกลุ่มนี้ยินดีจะต้อนรับเพื่อนใหม่อย่างเค้า
"หวัดดียูจัง ฉันชื่อไวน์"
"ฉันวอร์ม"
"ฉันไกด์"
"ส่วนฉันโก้นะ"
หนุ่มทั้ง 4 คนต่างเข้ามาทักทายยูจังด้วยการจับมือ ทุกคนไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจ หรือเขม่นเพื่อนใหม่ที่เป็นชาวต่างชาติอย่างยูจังเลย
"ต๊อบบอกกับฉันว่าพวกนายเล่นดนตรีด้วยกัน พวกนายเล่นอะไรกันบ้างเหรอ" ยูจังถาม
"ฉันมือกลอง" ไวน์ตอบ "ฉันชอบระบายอารมณ์กับกลองน่ะ เวลาโกรธใครฉันก็จะตีกลองอย่างบ้าระห่ำ มันหายแค้นดี"
"ฉันเล่นเบส" วอร์มเอ่ยขึ้น "ฉันว่าฉันใจเย็นกว่านายนั่น (วอร์มหมายถึงไวน์) ฉันไม่เคยระบายอารมณ์กับเบสสุดที่รักของฉันเลย"
"ฉันเล่นกีตาร์" ไกด์ตอบบ้าง "แต่ฉันว่าพักนี้ต๊อบชักจะพัฒนาฝีมือน่ากลัวเข้าไปทุกวันแล้ว เห็นทีฉันต้องปรับปรุงตัวเองบ้าง"
"ส่วนฉัน เป็นตัวแถมไม่ได้มีหน้าที่เล่นอะไร อยู่กวนประสาทพวกมันเฉย ๆ" โก้ตอบหน้าตาเฉย ยูจังยิ้มแหย ๆ ไม่รู้จะพูดอะไร ต๊อบตบหัวโก้ไปเบา ๆ
"ไอ้โก้ กวนประสาทมากไปแล้วนะ เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวก็ได้หลุดจากตำแหน่งจริง ๆ" ต๊อบพูดดุ ๆ
"โห ไอ้ต๊อบ มึงจะเอากูถึงตายเลยเหรอ ล้อเล่นนิดเดียวเอง" โก้ยิ้มยียวนพลางพูดเป็นการเป็นงานขึ้นกว่าเดิม
"ฉันเล่นคีย์บอร์ด ก็ไอ้พวกนี้มันแย่งฉันเล่นไปหมด ฉันก็เลยเสียสละเล่นคีย์บอร์ดให้พวกมัน ฉันเป็นคนดีเห็นมั้ยยูจัง ตำแหน่งนี้ไม่ค่อยมีใครอยากเล่นร๊อก" โก้พูดพลางยืดตัวอย่างวางท่าเป็นคนสำคัญ
"หืม กูหมั่นไส้มึงเหลือเกิน มาให้กูเตะรับขวัญมึงสักทีได้มั้ย"
วอร์มพูดพลางลุกขึ้นวิ่งไล่โก้ ทำท่าจะเตะจริง ๆ ทำให้ทั้งกลุ่มหัวเราะร่วนกันอีกครั้ง
"เลิกเล่นกันได้แล้วน่า ว่าแต่เมื่อกี้พวกนายทำอะไรกันอยู่" ต๊อบถามขึ้น
"อ๋อ ก็กำลังปรึกษากันเรื่องงานดนตรีอีก 3 เดือนข้างหน้านี่สิ คือไอ้พี่อาร์ทมันเรียกพวกเราไปคุย ได้เรื่องมาว่ามันจะไปร้องให้กับวงอื่น วงเราก็ขาดนักร้องนำสิทีนี้" ไวน์พูดเซ็ง ๆ
"ไอ้พี่อาร์ทมันรู้น่ะสิว่าวงพวกเราน่ะ เล่นดนตรีกันพอใช้ได้ก็จริง แต่ว่าเรื่องเสียงร้องเนี่ย ขนาดพวกเราพูดกันยังผิดคีย์เลย แล้วก็ไม่มีใครถนัดร้องเพลงด้วย ถ้าขาดไอ้พี่อาร์ทซะ โอกาสชนะงานดนตรีคราวนี้ของพวกเราก็มีหวังศูนย์แน่ ๆ"วอร์มอธิบาย
"มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ พวกเราไม่มีใครร้องเพลงเพราะ ๆ ดี ๆ ไม่ผิดคีย์สักคนเลยเหรอ" ไกด์พูดหน้าเครียด
"โห ไอ้ไกด์ มึงก็เห็น พวกเราอยู่กันมาปีนึงแล้ว มีใครร้องเพลงได้เรื่องที่ไหน ร้องทีไรแม่งไล่คนดูทุกที มึงจำงานคราวที่แล้วไม่ได้รึไง ที่มึงไปร้องแทนไอ้พี่อาร์ทน่ะแค่ขึ้นท่อนแรกมาก็โดนโห่แทบตาย กูเนี่ยแทบจะเอาหน้าไปมุดดิน มึงเห็นหน้าไอ้พี่อาร์ทมั้ย มันจงใจแกล้งพวกเราไง มันคิดว่ามันหล่อ มันเป็นประธานชมรม มันแน่อยู่คนเดียวเพราะมันร้องให้วงไหน วงนั้นก็ชนะทุกที กูนะ อยากจะให้มีใครมาปราบเซียนสักทีเหอะ กูอยากจะดูหน้ามันนัก"โก้พูดอย่างเหลืออด
ยูจังฟังเรื่องที่พวกหนุ่ม ๆ ตรงหน้าคุยกันอย่างเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง
"เอ่อ ขอโทษนะ คือฉันไม่ได้คิดว่าฉันเก่งอะไร แต่ฉันพอจะร้องเพลงได้ จริง ๆ ฉันอยากเล่นกีตาร์มากกว่า แต่ว่าในเมื่อพวกนายมีมือกีตาร์ดี ๆ อยู่แล้ว 2 คน ฉันก็เลยคิดว่า ฉันอยากจะร้องเพลงให้กับพวกนายน่ะ แต่ว่าถ้าพวกนาย เอ่อ ไม่สนใจ ก็ไม่เป็นไร" ยูจังกลั้นใจพูดด้วยความประหม่า
ทันทีที่ยูจังพูดจบ ต๊อบก็ตบมือดังฉาด ทำเอาทุกคนตกใจ
"อะไรของมึง ห๊า ไอ้ต๊อบ" ไกด์สบถ
"ฉันแน่ใจว่ายูจังจะทำให้วงของพวกเรามีภาษีไม่แพ้วงของไอ้พี่อาร์ทแน่ เมื่อกี้ฉันได้ฟังยูจังเล่นกีตาร์และก็ร้องเพลง พวกสาว ๆ แถวนั้นนะ เคลิ้มกันไปเลยเชียวแหละถ้าได้ยูจังมาอยู่กับพวกเรา โอกาสชนะของพวกเรามีมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แน่ ๆ "
"เจ๋ง!!!" ทั้ง 4 หนุ่มอุทานขึ้นพร้อมกัน
"ยูจัง นายเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิดของพวกเรา ขอยินดีต้อนรับ" ไวน์พูดเลี่ยน ๆ ทำให้ทุกคนหัวเราะ
"มึงไปจำประโยคสะเหร่อ ๆ นี่มาจากไหนวะไอ้ไวน์" โก้ถาม
"ก็จากการ์ดที่มึงเคยเขียนให้พี่แยมไง ลืมแล้วเหรอ "พี่แยมครับ พี่แยมเป็นแสงสว่างกลางใจที่มืดมิดของผมครับ" โห กูจะอ้วก" ไวน์ตอบพลางหัวเราะตัวงอ ทำเอาทุกคนหัวเราะไปด้วย โก้ส่งสายตาเคืองแค้นให้ทุกคนก่อนจะพูดต่อ
"เออ ต๊อบ แต่ว่าก่อนยูจังจะเข้าประจำวงของมหาลัย มันมีกฎอยู่ว่า จะต้องทดสอบก่อน แล้ว เอ่อ ยูจังร้องเพลงไทยได้รึเปล่า"
ทุกคนมีสีหน้ากังวลขึ้นมาทันที แม้แต่ยูจัง ยูจังร้องได้แต่เพลงภาษาญี่ปุ่น แล้วก็ไม่เคยฟังเพลงไทยด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่ร้องเลย ยังไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเพลงไทยเป็นยังไง
"เอ่อ คือฉันจะพยายามฝึกร้องเพลงไทย" ยูจังบอกทุกคน
"ฉันรู้ว่านายจะพยายามเพื่อพวกเรา แต่การทดสอบมีวันพรุ่งนี้แล้ว นายจะเตรียมตัวทันเหรอ เออ แต่ว่าฉันได้ยินมาจากเนยว่า ไอ้พี่อาร์ทมันจะทดสอบยูจังด้วยเพลงญี่ปุ่นนี่นา ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก เอาเป็นว่าถ้ายูจังผ่านการทดสอบ เราค่อยมาสอนเรื่องเพลงไทยให้ยูจังก็แล้วกันนะ" ต๊อบบอกกับทุกคน
"ก็ไม่น่าจะมีปัญหานะ เว้นแต่ว่าไอ้พี่อาร์ทมันจะเล่นพิเรนทร์ เห็นว่ายูจังเป็นนักร้องใหม่ของวงเรา แล้วจะให้พวกเราเล่นเพลงญี่ปุ่น ชิบหายเลยนะมึง เพลงญี่ปุ่นกระดิกหูกูที่ไหน กูฟังแต่ร็อกฝรั่งกับไทย"ไกด์เอ่ย
"ร็อกสะเดิดน่ะสิมึงน่ะไอ้ไกด์" โก้พูด แต่ก่อนที่ทั้งไกด์กับโก้จะวางมวยกัน วอร์มก็พูดขัดขึ้นมาก่อนว่า
"ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นหรอก แบบนั้นมันดูจงใจเกินไป ถ้าไอ้พี่อาร์ทมันจะเล่นงานพวกเราน่ะ มันต้องแนบเนียนกว่านี้ ทำแบบนั้นอาจารย์จับได้กันพอดี ว่ามันจงใจแกล้งพวกเราแต่เรื่องที่จะรับยูจังเป็นนักร้องของวงน่ะ ต้องให้ผ่านพรุ่งนี้ก่อน ถ้าไอ้พี่อาร์ทมันไม่กะสกัดดาวรุ่งอย่างยูจัง พรุ่งนี้เราก็จะได้รับยูจังเป็นนักร้องนำคนใหม่อย่างเต็มตัว"
"ไอ้พี่อาร์ทมันโกงไม่ได้หรอกวอร์ม อาจารย์ทั้งคณะนั่งดูอยู่ด้วย ยังไงฉันว่ายูจังน่ะผ่านฉลุยอยู่แล้วล่ะ" ต๊อบบอก
"เอาเหอะ เอาเหอะ ยังไงก็ขอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อนก็แล้วกัน ค่อยมาคิดเรื่องงานดนตรีอีก 3 เดือนข้างหน้า ตอนนี้ฉันหิวแล้ว พวกนายหิวกันมั้ย" ไวน์เอ่ยถาม
ทุกคนพยักหน้า
"งั้นพวกเราไปกินข้าวร้านป้าหน้ามหาลัยดีกว่า เป็นการเลี้ยงต้อนรับยูจังด้วยไง ดีมั้ย" โก้เอ่ยถามความเห็นของเพื่อน ๆ
"ดีเลย ว่าแต่ใครเสนอความเห็น คนนั้นเป็นเจ้ามือนะว้อย" ไกด์พูดหน้าตาเฉย ทำโก้หน้าเสีย
"ได้ทีเลยนะมึงไอ้ไกด์ ได้ไงวะ พวกเราทุกคนต้องช่วยกันเลี้ยงต้อนรับยูจังสิ" โก้โวย
"เอาแบบนี้ดีกว่ามั้ย ฉันไม่ได้จะทำตัวเป็นคนมีเงินอะไรหรอก แต่ว่ามื้อนี้ฉันเลี้ยงเองนะ เป็นการขอบคุณที่พวกนายดีกับฉันรู้มั้ย ฉันไม่เคยมีเพื่อนมาก่อนเลย" ยูจังพูดออกมา
ทุกคนอยากจะถามเหมือนกันว่า "ทำไม" แต่ก็รู้ด้วยสัญชาติญาณว่าไม่ควรจะเอ่ยถามอะไรในตอนนี้ ไวน์เดินมาตบบ่ายูจังเบา ๆ
"อย่าคิดมากน่ายูจัง ไม่ว่านายจะเจออะไรมานะ พวกเราก็ไม่สนหรอก ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้ว มื้อนี้พวกเราเลี้ยงเอง ถ้านายได้เป็นนักร้องนำของวงเราแล้วตอนนั้นนายค่อยเลี้ยงพวกเรา โอเค๊" ไวน์พูดพลางส่งยิ้มจริงใจให้ยูจัง
"ใช่ ๆ เอาอย่างที่ไวน์ว่านั่นแหละดีที่สุด ยูจัง อยู่กับพวกเรา ไม่มีอะไรมาก ทำตัวตามสบาย" วอร์มเสริม
"อืม ถ้าไม่เข้าใจเรื่องภาษา หรือเรื่องอะไรก็ตาม ถามพวกเราได้ตลอดนะ ไม่ต้องเกรงใจ" ไกด์พูดด้วยอีกคน
"แล้วนายก็ไม่ต้องกังวลว่าพวกเราจะไม่ชอบนายนะ พวกเราไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ขอให้เป็นคนดีก็พอ เรื่องเชื้อชาติน่ะ พวกเราไม่สน" โก้พูดบ้าง
"ขอบใจพวกนายทุกคนมากนะ" ยูจังเอ่ย พลางส่งยิ้ม
"ไม่เป็นไรยูจัง พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่นะ" ต๊อบกล่าวปิดท้าย
แล้วหนุ่ม ๆ กลุ่มนี้พร้อมเพื่อนใหม่อย่างยูจังก็มุ่งหน้าไปร้านอาหารหน้ามหาวิทยาลัย มิตรภาพของพวกเค้าก่อตัวขึ้นจากสิ่งที่พวกเค้ารัก นั่นคือ "ดนตรี"
ในตอนนี้ยูจังอยากจะบอกกับพ่อกับแม่เหลือเกินว่า นอกจากดนตรีจะสอนให้เค้าเป็นคนมีจิตใจอ่อนโยนและละเอียดอ่อนแล้ว ดนตรียังทำให้เค้าได้รับสิ่งที่เค้าอยากได้มาตลอดชีวิต นั่นก็คือ "เพื่อน" นั่นเอง ตอนนี้ยูจังมีเพื่อนแล้ว แล้วก็สบายใจเกินกว่าจะมีอะไรให้กังวลใจในตอนนี้
หลังจากที่เค้กคุยกับมาดามฟูมิเอะเรียบร้อยแล้ว เธอก็มีสีหน้าสดชื่นแต่ก็แฝงไว้ด้วยความกังวลใจเล็กน้อย มันเล็กน้อยจนเธอไม่อยากจะใส่ใจในตอนนี้
เค้กเที่ยวถามใครต่อใครว่าเห็นวีนัสบ้างมั้ย เพราะตั้งแต่เธอเดินตามหาวีนัสมาร่วม 30 นาทีแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเจอเลย เค้กคิดว่าคงจะอยู่กับยูจังกับต๊อบ แต่มีเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกับต๊อบบอกว่า ต๊อบกับเพื่อน ๆ ทั้งกลุ่มรวมทั้งเด็กใหม่ที่เป็นคนญี่ปุ่นน่ะ ออกไปข้างนอกมหาวิทยาลัยได้สักพักแล้ว
เธอเลยไม่รู้จะไปตามหาวีนัสที่ไหนดี "เนยไปอยู่ที่ไหนของเค้านะ" เธอได้แต่นึกแบบนี้ในใจ ก็พอดีกับพี่อาร์ทประธานชมรมดนตรีเดินมาพอดี
"อ้าว น้องเค้ก ทำไมเดินคนเดียวล่ะครับ น้องเนยไปไหนซะล่ะ" อาร์ทถาม เพราะปกติเห็นเค้กที่ไหนก็มักจะเห็นเนยที่นั่นเสมอ
"เค้กกำลังตามหาเนยค่ะ พี่อาร์ทเห็นเนยบ้างมั้ยคะ" เค้กถามทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่าคง "ไม่"
"เห็นจ้ะ เพิ่งแยกกันหลังจากคุยกับพี่เสร็จเมื่อสักพักนี่เอง พี่ก็นึกว่าน้องเนยไปหาน้องเค้กแล้วซะอีก ยังไม่เจอกันเหรอครับ"
อาร์ทตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่สำหรับเค้กมันเป็นเรื่องแปลก เพราะปกติแล้ววีนัสจะไม่ยอมคุยกับอาร์ท นอกจากจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น เค้กอยากจะถามว่า คุยกันเรื่องอะไร แต่เธอคิดว่า เอาไว้ถามกับวีนัสจะเหมาะกว่า เธอจึงแยกกับอาร์ทไปโดยกล่าวขอบคุณ พลางนึกสงสัยเพิ่มขึ้นอีกเรื่อง ว่าวีนัสกับพี่อาร์ทนี่มีเรื่องอะไรต้องคุยกันนะ