Number.. 66 // 88 // 99 // 69
winterstar
.สักวันหนึ่ง เมื่อฉันมีความรัก ฉันจะเป็นอย่างนั้น ฉันจะเป็นอย่างนี้
แต่จะมีสักกี่คนเหล่าที่จะเข้าใจว่า ความรัก คือ สิ่งใด มีนิยามของคำว่ารักมากมาย
แต่ไม่เคยมีใครบอกเราได้ว่า ความรักเกิดขึ้น และจบลงเมื่อใด
รู้แต่ว่า เมื่อมีความรัก ก็จะพยายามที่จะรักษามันเอาไว้ให้อยู่กับเราให้นานที่สุด
เพราะความรักเป็นความสุขที่มนุษย์ทุกคนไขว่หา
แต่จะมีสักกี่คนที่สมหวังในรัก.
เมื่อความรักมีทั้งทุกข์และสุข แต่เราก็ยังที่ไขว่คว้าและค้นหาคำว่า รัก
แม้แต่ตัวผู้เขียนเองก็เช่นกัน
//88// Number eighty eight
ความรัก คือ สิ่งที่ท้าทาย การได้เรียนรู้จักการที่จะรักตัวเองเป็นสิ่งที่ยาก
และการที่ได้เรียนรู้จักการที่จะรักคนอื่นก็เป็นสิ่งที่อยากเช่นกัน
ความรักไม่ว่าจะรักด้วยเหตุผลประการใดแล้วก็ตามต้องการก็ต้องการที่จะได้ในสิ่งที่หวัง
ก็คือ การคาดหวังที่จะได้สิ่งตอบแทนในความรัก กลับคืนมาเช่นกัน
ครั้งหนึ่งผู้เขียนไม่เคยเข้าใจเลยว่า ทำไมต้องเสียน้ำตาให้กับใครที่จากไปเพราะว่าเขาไม่ได้รักเรา
แต่มาวันนี้เมื่อผู้เขียนได้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น
ผู้เขียนก็ได้เข้าใจ หรือประหนึ่งว่าเข้าถึงรสพระธรรมนั้นเอง
กับการจากไปโดยที่เราไม่ได้ตั้งตัวเตรียมรับสถานการณ์ที่จะขึ้น
ก็เลยทำให้เกิดอาการที่เสียว่าเสียศูนย์ เกิดอาการต่างๆ นานา
สิ่งที่เคยผ่านเหล่านี้ คือ บทเรียน หรือ ประสบการณ์ นั่นเอง
เมื่อเราได้เรียนรู้จักคำว่ารักที่ผิดหวัง ก็จะมองโลกในแง่ร้าย
ในช่วงนั้น ผู้เขียนเองก็ หวาดกลัว กับ คำว่า ความรักไปพักใหญ่เหมือนกัน
//99// Number nightly night
แต่ความรักคือ ผลไม้ ที่มีรสชาติประหลาด น่าลิ้มลองกว่า อื่นใด
เป็นอาหารอันโอชารส เมื่อได้เสพแล้ว ก็มักจะอยากเสพอยู่ร่ำไป
ผู้ใดไม่เคยกิน ก็อยากลองกิน ด้วยว่า ชาติหนึ่งขอได้ลองชิมรสชาติรับรู้ความรู้สึก
ดูสักครั้งก็ยังดี ก็เลยมิมีผู้ใดหลุดพ้นจาก วังวนเหล่านี้ ได้เลย
ความรักเป็นดั่งกิเลสที่เป็นตัวยั่วยุให้เกิดแรงกระทำ
เมื่ออยากได้มาครอบครอง ก็ทำทุกวิถีทางที่จะได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ
บางคนก็มิเลือกวิธีที่จะทำเพื่อให้ได้มา ซึ่งสิ่งที่ตนเองนั้นต้องการ
บางคนก็มิกล้าที่จะทำเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ได้แต่เฝ้ามอง แอบมองเพียงห่าง ๆ ก็เป็นสุขใจ
แต่วิธีการปฏิบัติกันไปตามแต่ผู้เสพจะเลือกลิ้มรสมัน
//69// Number sixty night
เมื่อเราได้มาซึ่งความรักบางคนก็เพียงพอแล้วซึ่งสิ่งทีได้มา
..บางคนก็ต้องการมากขึ้นยิ่งขึ้นไปกว่าสิ่งที่มีอยู่
บางคนก็ตำหนิ ติว่าสิ่งที่มีอยู่นั้นไม่ดี ไม่คู่ควร ก็ร่ำแต่จะหาสิ่งที่ดีกว่ามาทดแทน
..บ้างก็เบื่อหน่ายกับสิ่งที่มีอยู่เพราะว่าได้รู้จักกันมานานจนเกินไป จนรู้สึกว่าไม่น่าสนใจ
บ้างก็ กลัว การที่จะสูญเสีย เลยทำให้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง
สุดท้าย ก็จบลงตรงที่ ความว่า ค้นหา สิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง หาสิ่งที่ใช่ ทั้งๆ เรานั้น
ไม่เคยล่วงรู้เลยว่าสิ่งที่ใช่ในสิ่งที่เราคาดหมายคือสิ่งใด
ในบางครั้งการสวมใส่สิ่งที่ควรใส่ก็ทำไปเพียงเพราะหน้าที่
..แต่ถ้าสิ่งที่อยากสวมใส่นั้นอึดอัดผู้สวมใส่ก็ไม่อยากใส่มัน
..หรือในบางครั้งทีมันดูขัดสายตา ก็จะทำให้ไม่เข้ากันเกิดความไม่เหมาะสม
แต่สิ่งเหล่านี้ คือ มุมมอง แต่..เราทุกคนต้องสวมใส่
สวมใส่ในสิ่งที่เป็นตัวของตัวเอง เพื่อให้เกิดความสบาย
แต่ก็ยังต้องแฝงไว้ด้วยสิ่งที่เรียกว่าการเป็นทางการอยู่ดี