วิชาชีวิต

นิรา

"หลักการดำรงชีวิตในสังคม" 
	Principles  for  living  in  society
	ตำราเรียนเล่มหนาขนาดหนึ่งนิ้วที่วางอยู่ข้างตัว ..
	วิชาที่ฉันลงทะเบียนเรียนในเทอมนี้ 
	
	ถ้าฉันเรียนเล่มนี้จบ .. ฉันจะดำรงชีวิตในสังคมนี้ได้จริงๆ หรือ? 
	
	ถ้าฉันสอบได้ A .. ฉันคงจะดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขมาก ไร้ซึ่งความทุกข์
	ถ้าได้ B .. ฉันคงมีความสุขมากๆ ปน ทุกข์เล็กน้อย 
	แต่ถ้าได้ C .. ฉันคงมีทุกข์ มากกว่า สุขไม่เท่าไหร่
	ถ้าได้ D .. ฉันคงมีสุขน้อยกว่าทุกข์อยู่มากโขเชียว ..	
	แล้วถ้าฉันติด F วิชานี้ล่ะ ... ???
	ฉันหยิบหนังสือเปิดไปเรื่อยๆ  ... 
	หน้าคำนำ ...
	"มีจุดมุ่งหมายให้นักศึกษาได้เรียนรู้ชีวิต ความเป็นมาของมนุษย์ 
	ตั้งแต่เกิดจนถึงตาย ว่ามีความสัมพันธ์กับอะไรบ้าง 
	มีหลักความจริงอยู่ว่า มนุษย์เรานั้นเมื่อเกิดมาแล้ว แต่ละคนก็เกิดมา
	ในลักษณะที่มีความสงสัยในชีวิตว่า .. เราควรแสวงหาอะไรบ้าง?
	ควรดำรงตนอย่างไร? เพื่อให้ตนเองได้บรรลุจุดมุ่งหมายตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้
	ซึ่งแต่ละคนก็มีจุดมุ่งหมายในชีวิตที่ต่างกัน ............ "
	ฉันหยุดคิด ..
	ฉันแสวงหาอะไร? 
	จุดมุ่งหมายในชีวิตของฉันต่างจากคนอื่นหรือไม่? 
	.. ฉันยังไม่มีคำตอบให้ความคิดของตัวเอง .. 
	ฉันพลิกหนังสือหน้าต่อไป ..
	หน้าสารบัญ ...
	ธรรมชาติชีวิตของมนุษย์ 
	     ธรรมชาติและความต้องการของมนุษย์
	          ปรัชญาครองรัก - ครองเรือน
	               คุณธรรมกับการดำรงชีวิต
	                    จุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิตของมนุษย์
	                         ชีวิตและความตาย  
	                             ชีวิตคืออะไร?
	 .. ชีวิตคืออะไร? .. นั่นสิ ตำราเรียนจะสอนว่า .. ชีวิตคืออะไรนะ?
	หน้า 303 ... ฉันพลิกหนังสือไป ...
	อรกศาสดาได้แสดงอุปมาชีวิตไว้น่าฟัง 7 ประการคือ 
	1.   ชีวิตอุปมาด้วยหยดน้ำค้างบนปลายหญ้า
	     - น้ำค้างคงอยู่ตลอดคืน แต่ยามได้รับแสงอาทิตย์ตอนกลางวัน 
	       ก็พลันเหือดแห้งไป 
	2.   ชีวิตอุปมาด้วยต่อมน้ำที่ตกจากชายคา
	     - ยามฝนตก .. ไหลรินจากชายคาล่วงลงสู่พื้นดิน กลายเป็นต่อมน้ำ 
	       กลายเป็นฟองฝอยชั่วขณะ แล้วก็แตกกระจายหายไป 
	3.   ชีวิตอุปมาด้วยรอยไม้ขีดลงในน้ำ
	     - ยามเราเอาซีกไม้ขีดลงไปบนผิวน้ำ .. จะเกิดเป็นรอยชั่วขณะ 
	       แล้วก็จะอันตรธานหายไปอย่างรวดเร็ว .. 
ถ้าไม่สังเกตให้ดี จะไม่ทันได้เห็นรอยขีดนั้น
	4.   ชีวิตอุปมาด้วยสายน้ำที่ไหลลงภูเขา
	     - น้ำที่ไหลลงจากภูเขานั้นจะไม่มีวันไหลย้อนกลับคืนมาอีก 	
	5.   ชีวิตอุปมาด้วยน้ำลายที่ถ่มออกไป
	     - น้ำลายเมื่อถ่มออกจากปากไปแล้วไม่มีใครเอามาใส่ไว้ในปากของตัวเองอีก
	6.     ชีวิตอุปมาด้วยชิ้นเนื้อย่างไฟ
	      - หากเนื้อย่างไฟเพลินไปเพราะมัวแต่คุยหรือหลับไปเสีย เนื้อจะเกรียมไหม้
	        เหลือเพียงเถ้าถ่านเท่านั้น .. วิถีชีวิตของมนุษย์และสัตว์ถูกย่างด้วยภัยของสัตว์โลก
	7.   ชีวิตอุปมาด้วยโคที่เขาจะนำไปฆ่า
	     - วัวที่ถูกจับจูงออกไปจากคอก .. ทุกย่างก้าวของวัวหมายถึงก้าวเข้าสู่ความตาย
	สรุปแล้วชีวิตคืออะไร? 
	.. คือสิ่งที่เกิดมาวูบเดียวแล้วดับสูญ 
	.. คือสิ่งที่ผ่านเลยไปแล้วย้อนกลับมาไม่ได้
	.. คือทุกขณะจิตย่างเข้าสู่ความตาย
	ถ้าฉันรู้ว่าชีวิตคืออะไร? คงจะทำให้ฉันดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้
	ฉันย้อนกลับไปดูหน้าสารบัญ .. มีหัวข้อ .. ความรัก ..
	ความรักคืออะไร? .. นั่นสิ .. มันคืออะไร .. 
	ความรักคืออะไร? 
	1.   ความรักคือ ความผูกพัน รักใคร่ เห็นใจกัน ระหว่างเพศ ระหว่างวัย
	     หรือระหว่างบุคคล (ต่างชาติ, ศาสนา)
	2.   ความรักเหมือนโรคา       บันดาลตาให้มืดมน
	     ไม่ยินและไม่ยล              อุปสัคคะใดใด
	     ความรักเหมือนโคถึก       กำลังคึกผิว์ขังไว้
	     ก็โลดจากคอกไป            บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
	     ถึงหากจะผูกไว้              ก็ดึงไปด้วยกำลัง
	     ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง              บ่หอนคิดถึงเจ็บกาย ... มัธนพาธา ร.6
	3.   ความรักคือ สวนดอกไม้ที่ต้องรดด้วยน้ำตาแทนน้ำ  (กิลเบอร์ต)
	4.   ความรักคือ ทิพยโอสถของชีวิต
	แล้วชีวิตคือความรักหรือเปล่านะ? ..
	หรือว่า .. ความรักคือชีวิต? ..
	
	ฉันเริ่มมึน .. ชีวิตคืออะไร? 
	ฉันเริ่มงง .. ความรักคืออะไร? 
	ฉันชักสับสน .. ชีวิตจำเป็นต้องมีความรัก ..? 
	หนังสือเล่มหนาหนึ่งนิ้ว .. จะมีคำตอบจริงๆ ให้ฉันได้หรือเปล่านะ? 
	
	ฉันอยากจะได้ A วิชานี้จริงๆ .. 
	เพราะฉันอยากดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขไร้ความทุกข์ ..   
	ฉันจะตั้งใจเรียนวิชานี้ .. วิชาชีวิต ..