คนเมืองที่ข้าพเจ้ารู้จัก#04: แวน ฟอเรสกัมป์ตัวจริง

เจ้าขาว

     เวลาหกโมงเช้า ผมตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด
    "นี่ขาว เราแวนนะ"
    "เออ ว่าไง"
    "ตั้งpass word window2000 ทำไง"
    "ต้องเข้าไปตรง....."
    "ขอบใจมาก"แล้วมันก็วางสาย
    หลังจากไม่เจอกัน2ปีกว่าตั้งแต่เรียนจบ นี่คือทั้งหมดที่เราคุยกัน
    สมัยแวนอยู่มหาวิทยาลัย แวนเป็นนักกีฬาวิ่งแข่งคนเดียวของสาขา
    แวนเคยเป็นนักวิ่งประจำเขตรึอะไรสักอย่าง ทำให้แวนมีรองเท้าวิ่งแข่งโดยเฉพาะ
    ตอนที่รับน้อง พวกเราต้องตื่นตีสี่ เพื่อวิ่งไปที่ทำการอำเภอ
    ซึ่งห่างออกไป10กิโลเมตรจากมหาวิทยาลัย สาขาของผมถูกปล่อยออกวิ่งเป็นสาขาสุดท้ายตอนตีห้า
    หลังจากวิ่งเกาะกลุ่มอยู่ได้ซักพัก แวนก็หันมาบอกว่า
    "นาย เราไปก่อนนะ"
    แล้วเสื้อสีขาวของแวนก็ค่อยๆเคลื่อนไปในฝูงนักศึกษาน้องใหม่กว่าพันคน
    ก่อนจะกลืนหายไปในความมืด
    เรามาพบตอนหลังว่าแวนไปถึงเป็นคนแรกของมหาวิทยาลัย!
    เพราะรุ่นพี่ที่เตรียมการรับน้องยังไปไม่ถึงอำเภอ(คงไม่คิดว่าจะมีใครฝีเท้าดีขนาดนั้น) และมีรุ่นพี่ขี่มอเตอร์ไซด์ตามแวนไปแค่คนเดียว เพราะตอนนั้นมืดมากถ้าไม่มีไฟหน้าอาจจะตกลงคูน้ำข้างทางได้
    แต่แวนก็วิ่งอยู่แค่เทอมแรกเท่านั้น ก่อนจะเปลี่ยนมาขี่จักรยานด้วยเหตุผลประมาณว่า"ขาดแรงบันดาลใจ"
    พอเปลี่ยนมาขี่จักรยาน มันก็ซื้อจักรยานBMXมา แต่ขึ้นชื่อว่าแวนแล้ว
    ของซื้อจากร้านมันธรรมดาเกินไป แวนจึงเอากระดาษทรายมาขัดสีตัวถังออก
    แต่เพราะคุณภาพสินค้าดีมาก รึแวนเหนื่อยก่อนก็ไม่รู้
    การขัดสีจักรยานจึงจบลงโดยที่แวนไม่สามารถขัดสีได้เกลี้ยงทั้งคัน
    ดูเปรอะๆเป็นด่างๆดวงๆ และบางส่วนก็ยังไม่ขัด
    ถ้าใครไม่รู้อาจจะเข้าใจว่าใช้มา20ปีแล้ว
    หลังจากพ่นเคลียร์เพื่อกันสนิม(ซึ่งไม่ได้ผล) แวนก็จัดแจงเอาไปตัดตัวถังที่ร้าน นัยว่าให้รถเข้ากับสรีระที่ไม่สูงของมัน
    แล้วก็เปลี่ยนอุปกรณ์ราคาแพงเข้าไปสารพัด
    สุดท้ายก็ได้สิ่งที่ดูคล้ายๆจักรยาน1คัน แวน
    ตั้งชื่อมันว่า"เจ้าทุย"ตามลักษณะพวงมาลัยแบบมีที่พักแขน ซึ่งทำให้รถBMXคันนั้นดูคล้ายมีเขาควายติดอยู่
    ครั้งหนึ่งขณะที่แวนและเพื่อนๆกำลังปั่นจักรยานขึ้นดอยสุเทพ
    ก็มีกลุ่มนักปั่นจักรยาน(ทราบภายหลังว่าเป็นทีมระดับจังหวัด)ขับแซงขึ้นไป
    แวนหันมาบอกทุกคนในกลุ่มว่า
    "นาย เราไปก่อนนะ"
    พวกเราพยายามจินตนาการถึงสีหน้านักปั่นกลุ่มนั้น
    ยามที่เห็นเจ้าทุย แซงจักรยานภูเขาราคาแพงระยับขึ้นไปถึงยอดดอย
    ก่อนจะปั่นกลับลงมาสมทบกับเพื่อนๆ แล้วปั่นขึ้นไปยอดดอยอีกครั้ง
    เราเห็นพวกนั้นเหลือบสายตามองมาสองสามครั้งขณะที่ถูกโค้ชอบรมเป็นการใหญ่
    หลังจากมีโอกาสไปปั่นจักรยานร่วมแข่งกับทีมดังกล่าวอยู่ระยะหนึ่ง
    แวนก็ถอนตัวออกมา
    คราวนี้แวนเริ่มเขียนบทกวี และหัดวาดรูปแนวแวนแวน
    วิถีชีวิตเยี่ยงศิลปินช่วงนี้ของแวนดูจะขาดหายไปจากความทรงจำของเพื่อนๆ
    แวนเริ่มเก็บตัวยิ่งกว่าเก่า ไม่ทักทายใคร(เดิมก็ไม่ค่อยทักอยู่แล้ว)
    จนกระทั่งเรียนจบ
    ปัจจุบันแวนกลายเป็นนักเอนิเมชั่นคนหนึ่ง มีผลงานออกอากาศตามโทรทัศน์หลายรายการ
    แต่แวนยังคงลึกลับอยู่เช่นเดิม ไม่มีข่าวคราวให้เพื่อนๆรู้
    แต่ที่แน่ๆ แวนหยุดวิ่งแล้ว
[ 2 พ.ค. 2548 , 01:58:19 น. ]				
comments powered by Disqus
  • tiki

    12 พฤษภาคม 2548 12:35 น. - comment id 84673

    วันนี้บ่ายสี่โมงจะไปรับหนังสือเล่มสองนะท่าน
    
    ส่วนเล่มสาม ข้าพเจ้าท่าจะยุ่งกับตัวเลขสรรพากรจนหัวเวียนจะตายแล้ว
    
    แล้วจะส่งข่าวให้ทราบจ้า28.gif29.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน