คนเมืองที่ข้าพเจ้ารู้จัก#03: อาจารย์เกือ

เจ้าขาว

สมัยที่ผมยังเรียนปริญญาโทอยู่ ผมได้เป็นลูกศิษย์อาจารย์เกืออย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
    เนื่องจากวิชาที่ท่านสอนเป็นวิชาบังคับ
    ผมไม่ค่อยชอบท่านเท่าไหร่นัก พอๆกับที่ท่านก็ไม่ค่อยชอบผม
    อาการไม่ถูกชะตาของเราสองคน ชัดเจน ผ่านทางการสนทนา ทั้งในและนอกเวลาเรียน
    ดังนั้นเมื่ออาจารย์เกือชักชวนนักศึกษาเข้าร่วมงานวิจัยด้วย
    ผมจึงไม่อยู่ในสายตาท่านตั้งแต่แรก ซึ่งผมก็โล่งใจ
    หนึ่งเป็นเพราะผมควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีนักเมื่อสนทนากับท่าน
    สองรุ่นพี่ที่เคยร่วมงานกับท่านมาได้ปรามผมไว้ล่วงหน้า
    และการณ์ก็เป็นไปตามที่รุ่นพี่ผมเตือนไว้ เพื่อนๆผมโดนท่านอาจารย์ที่เคารพเบี้ยวเงินอย่างถ้วนหน้า
    คนที่หนักที่สุดคือ40,000บาท ทั้งที่งานวิจัยดังกล่าวมีค่าจ้างในหลักล้าน
    สุดท้ายเพื่อนคนนั้นจึงวางแผน
    อาศัยจังหวะที่คุยกับเพื่อนในห้องพักเปรยให้ท่านได้ยิน ว่าพ่อได้จ้างคนทวงหนี้แล้ว ท่านจึงเรียกเข้าไปคุยขอผ่อนชำระรายเดือน
    ที่ผมนึกถึงท่านขึ้นมา ก็เพราะรุ่นน้องที่ไปร่วมงานวิจัยกับท่านปีนี้โทรมาเล่า
    น้ำเสียงไม่ออกอาการชื่นชม แต่เป็นอารมณ์โกรธแค้น
    "วันนั้นนะพี่ พอส่งงานเรียบร้อยแล้ว แกก็ชวนพวกพมไปเลี้ยงข้าว
    พวกผมก็ดีใจกันใหญ่ จู่ๆแกก็พาเดินไปหลังมหาวิทยาลัย ไปร้านXXXนั่นแหละพี่ พวกผมทีแรกก็งง ระดับอาจารย์ไมพาเลี้ยงร้านข้างถนนอย่างนี้
    แต่ก็ถือว่ากินฟรีเลยไม่มีใครพูดไร"
    "่ทีแรก แกก็บอกว่าจะกินอะไรเต็มที่ สั่งตามสบาย"
    "พอเปิดเมนูปุ๊บ แกก็เก็บเมนูที่พวกผมดูทันทีเลยพี่ แล้วบอกว่าแกจะสั่งเอง"
    "แล้วแกก็สั่งเกาเหลาชามนึง ข้าวเปล่าสี่ถ้วย ไม่สั่งน้ำด้วยพี่ พวกผมก็อึ้งพูดไรไม่ออก"
    "พอกินเสร็จนะพี่ แกก็เดินออกมาเข้าร้าน7/11 ซื้อชาเขียวออกมาดูดอยู่คนเดียวแล้วก็ขอตัวกลับบ้าน"
    พอฟังจนจบ ผมก็เกิดอารมณ์ที่บรรยายไม่ถูก
    มันผสมระหว่าง ขำ เศร้า และสมเพช่
    ถึงตอนนี้คงไม่ต้องบอกแล้วกระมังว่าทำไมผมเรียกท่านว่า
    "อาจารย์เก(ลื)อ"
[ 1 พ.ค. 2548 , 13:40:05 น. ]				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน