คนเมืองที่ข้าพเจ้ารู้จัก#2: มันชื่อ..ปลา(คาร์ฟ)
เจ้าขาว
วันแรกที่ผมเจอปลา คือตอนรับน้องที่มหาวิทยาลัย
ปลาดูเป็นคนอัธยาศัยดีมาก ใครมาคุยก็คุยด้วย ร่าเริงตลอด
ถ้าใครที่รู้จักปลาใหม่ๆจะหลงใหลในเสน่ห์ของเค้า โดยเฉพาะสาวๆ
ก็ลองมีใครมาออดอ้อนอย่าง"สวัสดีคร๊าบบบบบบ" "คุณน่ารักจังคร๊าบบบบ"
เอะอะก็"......คร๊าบบบบบบบ"
ไม่หลงก็หมั่นไส้สักอย่างนั่นแหละ
แต่เวลาผ่านไป ปลาก็ทำให้ใครๆรู้ว่าเค้าไม่ใช่คนมีมนุษย์สัมพันธ์ดีอย่างททุกคนี่เคยเข้าใจ
เพราะหลังจากเวลาแห่งการทักทายและเยินยอคู่สนทนาจบลง
ที่เหลือจะเป็นการเดี่ยวไมโครโฟนเรื่องความเก่งและดีของปลาล้วนๆ
ครั้งหนึ่งพวกเราช่วยกันจัดงานแสดงผลงานนักศึกษา
ปลาถือโอกาสพาเพื่อนสาวคนใหม่มาเที่ยวชมงาน
"นี่ผลงานของเพื่อนปลาเองคร๊าบบบบบ "
"สวยจังเลยนะคะ"
"ใช่สวยมากเลยคร๊าบบบบ"
"ปลาก็ทำได้นะคร๊าบบบบ แต่งานถึกๆอย่างนี้ปลาไม่ค่อยชอบหรอก อย่างปลาต้องแบบ ดูดีแล้วไม่ใช้เวลามาก"
"เหรอคะ"
"สมัยเรียนนะ เส(เจ้าของผลงาน)เป็นคู่แข่งปลาเลยนะคร๊าบบบ แต่ปลาไม่ค่อยชอบทำงานถึกๆ ดูไม่ค่อยใช้สมอง ปลาเลย.......ฯลฯ"
สาวน้อยคนนั้นคงพึ่งรู้ตัวว่าไม่ได้มากับปลาธรรมดา
เธอมากับ"ปลาคร๊าบบบ"
นิสัยเหยียบเพื่อน เมื่อรวมกับความเห็นแก่ตัวของปลา(วิเคราะห์จากทัศนคติของเพื่อนๆในรุ่นที่มีต่อปลา)
ส่งผลให้ในเวลาไม่นาน ปลาไม่มีใครคบ
เพื่อนคนหนึ่งเคยเข้าไปคุยกับปลาโดยพยายามบอกให้ปลาปรับปรุงตัวเสียใหม่
ปลาก็รับฟัง ก่อนที่คำพูดจากปากของปลาจะทำเอาเพื่อนคนนั้นผงะ
"ทำไมเราต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อนๆด้วย เพื่อนๆสิต้องรู้จักปรับตัวเข้าหาเรา"
วรรคทองนี้ส่งผล 3 ประการ
ประการหนึ่ง ปลากลายเป็นต้นแบบของเหล่านักสู้ ผู้ยืนหยัดทานกระแสสังคม
ปลาแสดงให้เห็นว่า เพื่อน กิจกรรม ชมรม ล้วนเป็นสิ่งสมมติ ที่คนอื่นๆให้ค่ากันไปเอง
"เพื่อนไม่มีประโยชน์" คือประโยคที่ปลาหยิบมาสอนน้องรหัส ในวันรับน้องปีถัดมา
ผลประการที่สองคือ ไม่มีใครเป็นเพื่อนปลา ทั้งที่เรียน ที่ทำงาน และแถวบ้าน
ประการสุดท้าย
ผมยังจำปลาได้ไม่ลืมเลยคร๊าบบบ....ปลาคร๊าบบบบ
[ 30 เม.ย. 2548 , 01:47:03 น. ]