.. แมว ..

keekie

ในวันนี้เมื่อปีที่แล้ว ...
	ฉันและแม่กลับมาถึงบ้านตอนสามทุ่ม ...
	แม่ฉันมาเปิดประตูระเบียงห้องนอน ... 
	ก็ได้พบ ลูกแมวตัวแดงๆ พร้อมรก ... เลือดยังสดอยู่ ..
	แสดงว่า ..แม่แมวเพิ่งตกลูก .. และคงตกใจเสียงเปิดประตู จึงกระโดดหนีไป
	แม่เรียกฉันไปดู .. เพราะแม่เกลียดสัตว์ทุกชนิด ..มันทำให้บ้านสกปรก 
	ตัวฉันเองก็กลัวแมว .. กลัวเสียงร้องของมัน ..กลัวแววตามัน 
	สงสัยเพราะเคยดูเรื่องปอบผีฟ้าตอนเด็กๆ .. เพลงประกอบละครมันมีเสียงแมวร้องด้วย
	แต่ก็ต้องจำใจไปดู .. ลูกแมวตัวแดงๆ สองตัวกำลังส่งเสียงร้อง ...
	นั่น..เขาเรียกรกมันใช่ไหม? .. จะทำไงดี ..
	ฉันบอกแม่ว่า .. อีกเดี๋ยวแม่มันก็คงกลับมา ..มันไม่ทิ้งลูกหรอก 
	จึงปิดประตู ...ปล่อยมันไว้ที่เดิม ...
	ฉันนอนฟังเสียงมันร้อง จนเที่ยงคืนกว่า ... เริ่มเป็นห่วงกลัวมันจะตาย
	เลยเปิดประตูระเบียงออกไปดูมัน ...
	นั่น .. แม่แมวหรือป่าว? เห็นมันเกาะอยู่ตรงระเบียง 
	แต่มันไม่เข้าใกล้ลูก ..แม่แมวยืนมองฉันสักพัก แล้วมันก็กระโดดหายไป 
	ฉันเห็นแม่แมวมาแล้ว .. ก็คิดว่าเดี๋ยวมันคงเอาลูกมันไป ..
	จึงปิดประตูเข้านอน ..
	
	...ฉันลืมตาตื่นขึ้นตอนเจ็ดโมงเช้า ...
	เอ้...เสียงอะไรน้า ....ดังแง้วๆๆ...
	...ลูกแมว...!!!
	พอนึกได้ ..จึงเปิดประตูออกไปดู ..
	
	เจ้าลูกแมวสองตัวยังคงส่งเสียงร้องไม่หยุด ...
	และพยายามตะเกียกตะกายจะคลาน แต่ไปไหนไม่ได้ ...
	เพราะรกเปื้อนเลือด..มันแห้ง..ติดพื้น ...
	มดแดงขึ้นเต็ม ...
	โอ๊ย...ฉันรีบกดโทรศัพท์หาหนึ่ง .. เขาเปิดร้าน    pet shop 	
	คงพอรู้เรื่องบ้างหรอก ...
	หนึ่งบอกว่าให้ฉันรีบตัดรกมันออก .. โดยใช้กรรไกรสะอาด ..
	ไม่งั้นมันจะตาย ...แล้วหานมให้มันกิน ...
	ตอนนี้แม่มันคงไม่กลับมาแล้ว ...เพราะลูกแมวแปลกกลิ่น ..
	เนื่องจากฉันไปถูกตัวมันเข้า ...	พอกลิ่นสาปคนติด ...แม่จะทิ้งลูกมัน ...
	ฉันรีบทำตามที่หนึ่งบอก .. ตัดรก ..แล้วหาตะกร้าสะอาด ..
	เอาผ้าขนหนูรอง ..แล้วก็จับเจ้าสองตัวใส่ตะกร้า ...
	แล้วก็พามันไปไว้ข้างล่าง ...หน้าบ้าน ...
	พอฉันกลับขึ้นมาบนห้องนอน ...ได้ยินเสียงลูกแมวร้องอีก ...
	เอ๊... ยังไง ...
	เลยไปมองหาที่ระเบียงห้องนอน ..มองซ้ายมองขวา ... 
	นั่นไง ...
	มีอีกสองตัว .. อยู่ที่กระถางต้นไม้ริมระเบียง ..
	มีชีวิตรอดเพียงหนึ่งตัว ..อีกตัวมันตายเสียแล้ว ..
	
	เอ๊า..ตกลงครอกนี้มีสี่ตัวสินะ ..ฉันช่วยพวกเจ้าไว้ได้แค่สามตัวเท่านั้น ..
	ฉันต้องปีนระเบียงลงไปพามันขึ้นมา ..
	เฮ้อ ..จะทำไงดีกะลูกแมวตัวแดงๆ สามตัวที่ถูกแม่ทิ้ง ..
	ใจร้ายชะมัด .. ทิ้งลูกได้ไง ...
	ฉันพยายามเอานมสดกล่องป้อนมัน ..เพราะมันร้องกันไม่หยุด ..สงสัยจะหิว 
	แต่มันไม่ยอมกิน ...
	ในที่สุด ..ฉันต้องหิ้วตะกร้าขึ้นรถ พามันไปโรงพยาบาลสัตว์ 
	หมอหมา เอ๊ย หมอแมว ..ยื่นกระป๋องนมผงสำหรับลูกแมวให้ ..	
	พร้อมขวดนมขนาดจิ๋ว ..
	แล้วก็บอกให้ฉันป้อนนมมันทุกชั่วโมง ...
	ฉันถามอะไรอีกมากมาย ..เช่น ..ต้องทำอะไรอย่างอื่นอีกไหม? 
	หมอบอกไม่ต้อง ..แค่ขยันป้อนนมมันก็พอ ..
	เฮ้อ...ชีวิต..ไม่เคยคิดว่าจะต้องเป็นแม่แมว..ก็เป็นแม่แมว..
	ฉันแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ..เพราะต้องคอยป้อนนมพวกมันทุกชั่วโมง ..
	และคุณแม่สุดที่รักไม่ชอบสัตว์ทุกชนิด ..จึงปฎิเสธที่จะดูแลมันระหว่างที่ฉันไปทำงาน
	จะทำไงได้ ..ฉันกลายเป็นแม่ลูกอ่อน ..
	ต้องแบกตะกร้าลูกๆ ขึ้นรถไปทำงาน ..
	ใครๆ ที่ทำงานมาดูกันใหญ่...บอกแต่ว่า .."ไอ้กี้เอ๊ยยย.. จะเลี้ยงมันได้สักกี่วัน.." 
	แล้วก็พากันส่ายหัวไม่พูดอะไรต่อ ..
	ฉันแบกมันไปทำงาน แล้วก็แบกมันกลับบ้าน ..
	เข้าสู่วันที่สอง...
	เริ่มรู้สึกรักมันเสียแล้ว .. 
	เจ้าตัวแรก ..มันมีสีดำปนขาว เหมือน สุนัขเกรทเดน ..
	เจ้าตัวที่สอง..มันเป็นแมวลายทางสีเทา ..เจ้าตัวนี้ค่อนข้างซนและขี้อ้อน ..
	ชอบอ้อนให้จับมันไว้ในอุ้งมือ ..แล้วมันก็จะคลอเคลียระหว่างซอกนิ้วของฉัน ..
	ฉันจึงรู้สึกเอ็นดูมันเป็นพิเศษ ..
	ส่วนเจ้าตัวสุดท้อง ..ที่ฉันปีนไปพามันขึ้นมา ..เจ้าตัวนี้สีดำสนิท ..
	ฉันเลยตั้งชื่อมันเรียงลำดับ ..เจ้าหนึ่ง ..เจ้าสอง..และเจ้าสาม..
	คืนนี้ฉันสังเกตุเห็นมันถ่ายเหมือนจะท้องเสีย .. 
	เอ..ฉันก็ไม่ได้เอานมค้างให้มันกินนี่นา ..
	ด้วยความกังวล .. ฉันจึงพาพวกมันกลับไปหาหมอ ..
	หมอคนเดิมยังยืนยันว่ามันสบายดีให้ฉันให้นมมันเหมือนเดิมทุกชั่วโมง..
	เข้าสู่วันที่สาม ..ฉันหิ้วตะกร้าลูกแมวขึ้นรถ ..
	พามันไปทำงาน .. คอยดูมันทุกชั่วโมง .. ไม่เป็นอันทำงาน ..
	เพราะวันนี้ดูมันหงอยๆ ไม่ค่อยยอมกินนม
	วันนี้ ฉันต้องขับรถตะเวนไปหลายที่
	พวกมันรับไอแดดร้อนระอุในรถ ..
	ดูมันสะลึมสะลือ ... เจ้าสองที่นอนนิ่งสนิท ลุกขึ้นมาเดินวนรอบตะกร้า 
	มันทำท่าเหมือนหายใจไม่ออก .. แบบนี้หรือป่าว? ที่เรียกว่าแมวหอบแดด 
	ฉันใจไม่ดี .. พอเสร็จธุระ ..	ฉันรีบตรงดิ่งไปโรงพยาบาลสัตว์ .. 
	พบหมอคนเดิม ..เขาดูอาการมันแล้วก็บอกว่ามันปกติ ..
	เอ..มันจะปกติได้ไง ..ก็มันไม่ยอมกินนม ..
	แต่..เมื่อหมอยืนยันมาแบบนั้น ..ฉันก็พามันกลับบ้าน ..
	พยายามป้อนนมมัน ..
	
	เจ้าสองที่เคยซุกซน ..เคยร้องไม่หยุด ..ตอนนี้มันนอนนิ่งเงียบ ..
	เจ้าหนึ่งกับเจ้าสามก็เช่นกัน ...
	ฉันอุ้มมันทีละตัว ..ป้อนนม ..แต่มันไม่ยอมกิน ..
	ยิ่งเจ้าสองยิ่งแย่ ..ตัวอ่อนปวกเปียก ..
	ฉันลงมาดูมันทุกชั่วโมง ..แทบจะนั่งเฝ้ามันซะด้วยซ้ำ ..
	จนตีสอง ..ฉันลงมาดูมันอีกครั้ง .. เจ้าสองนอนนิ่ง ..
	ไม่ส่งเสียงร้อง ..ฉันจึงอุ้มมันขึ้นมา..
	โหย..ตัวมันเย็นเฉียบ ..ไร้การตอบสนอง..ตัวอ่อนปวกเปียก ..
	เท่านั้น ..ฉันคว้ากระเป๋าตังค์กับกุญแจรถ ..
	หิ้วตะกร้าแมวไปโรงพยาบาลสัตว์ทันที .. มันเป็นโรงพยาบาลที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง 
	พอไปถึง ..พยาบาลก็ป้อนนมมันโดยใช้ไซริงค์กรอกนมลงไปในท้องมัน 
	เขาเรียกว่า ฟีด ...
	ฉันจึงบอกว่า ..ฝากทั้งสามตัวไว้ที่โรงพยาบาลแล้วกัน ..อาการมันไม่ค่อยดีเลย 
	ฝากเลี้ยงหน่อยแล้วกัน ..
	แล้วฉันก็กลับบ้าน ..เพิ่งสังเกตุ ..ตัวเองออกมาทั้งชุดนอน ..
	น่าอายจริง ..
	วันรุ่งขึ้นฉันโทรไปที่โรงพยาบาลแต่เช้า 
	ได้คำตอบว่า ..เจ้าสองตายแล้ว..
	อื้ม ..ฉันช่วยชีวิตมันไว้ไม่ได้ ..
	ไม่เป็นไร..ยังเหลือเจ้าหนึ่งกับเจ้าสาม..
	ตอนบ่าย..เสร็จงาน..ฉันโทรไปที่โรงพยาบาลสัตว์อีกครั้ง ..
	ได้รับคำบอกเล่าว่า...
	เจ้าหนึ่งกับเจ้าสามก็ตามเจ้าสองไปแล้วเช่นกัน ..
	อื้ม..แค่ชีวิตลูกแมวสามตัว..
	ฉันยังช่วยมันไว้ไม่ได้ ...
	ฉันขับรถกลับไปที่โรงพยาบาลสัตว์อีกครั้ง ..
	จ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด ..
	และฝากเขาจัดการ ..เจ้าสามตัว..นั้นด้วย ..
	ฉันพบหมอคนเดิม .. เขาบอกว่า ..ลูกแมวเพิ่งเกิด 
	ต้องเปิดโคมไฟส่องมันไว้ตลอดเพื่อรักษาอุณหภูมิให้ใกล้เคียงเวลามันซุกอกแม่
และมันมีอาการท้องเสียแทรกซ้อนด้วย...เลยทำให้ช่วยมันไว้ไม่ได้...
	
	ฉันมองหน้าหมอ..ถามเขาว่า..หมอบอกตอนนี้..มีประโยชน์อะไร?
	เคยถามแล้ว ..แต่ไม่ได้รับคำตอบแบบนี้ ...
	ฉันถามหมอคนเดิมว่า ..
	ถ้ามันเป็นแมวเปอร์เซีย..มันจะตายง่ายๆ อย่างนี้ไหม?
	เขาเงียบ ...
	ฉันกลับบ้านด้วยจิตใจห่อเหี่ยว ..
	วันนี้ฉันระลึกถึงเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง ..
	เพราะขณะที่ฉันนั่งเขียนเรื่องนี้อยู่...
	มีแมวแม่ลูกอ่อน ..มาตกลูกอยู่ที่ระเบียงห้องนอนฉันอีกแล้ว ..
	ฉันได้ยินเสียงมันร้องมาหลายวันแล้ว ..
	แต่ฉันไม่เคยออกไปดูมัน ..
	
	กลัว..กลิ่นสาปคน..จะทำให้มันแม่ลูกต้องพลัดพรากกันอีก ...
	กลางคืน..เสียงมันร้องน่ากลัว ..
	แม้ฉันจะรู้สึกดีกับแมวขึ้นมาบ้างแล้ว ..
	แต่ฉันก็ยังคงกลัวเสียงมันอยู่ดี ..
	นี่ก็ดึกมากแล้ว ..มันยิ่งร้องโหยหวนมากขึ้นทุกที ..
	ฉันขอหอบหมอนกะผ้าห่มไปนอนห้องแม่ก่อนนะ..
	ราตรีสวัสดิ์ ..
	กึ๋ย...เผ่น!!!!				
comments powered by Disqus
  • magic

    5 พฤษภาคม 2548 06:55 น. - comment id 84587

    เคยนั่งดูแม่แมวตอนออกลูกเหมือนกัน
    เพราะชอบเลี้ยงแมวมาก มากพอๆ กับหมา
    อ่านเรื่องนี้แล้ว น้ำตาไหล
    สงสารลูกแมว
    และตอนนี้ก็อยากได้แมวมาก ๆ 
    แต่ ไม่รู้จะเลี้ยงได้ยังไง 
    เกรงใจแม่ เพราะคงมีเวลาดูแลมันน้อยมาก
    หากได้มาเลี้ยง คงเป็นภาระแม่ตามเคย
    ช่วงนี้ ก็คงอาศัยแมวบ้านคนอื่น แมวสำนักงานตัวเอง  และแมวสำนักงานใกล้เคียง
    เลี้ยงไปก่อน
    
    รักแมวมาเล๊ย
  • ภูตะวัน ตะวันรอน

    5 พฤษภาคม 2548 22:42 น. - comment id 84597

    เขียนเล่าเรื่องราว...ได้ดีเชียวหล่ะ..
    
    27.gif
    
    เพลินดี...
    
    พี่ก็เคยมีประสบการณ์..เกี่ยวกับเจ้าแมว..
    มากพอสมควร..
    
    ว่าจะเขียนอยู่เหมือนกัน..
    
    แต่ว้า...โดนกี้..ตัดหน้าไปซะแล้ว..อิ ๆ...
    
    61.gif
    
    ว่าง ๆ ..ก็เขียนเรื่องหมาหมา มั่งซิ...
    
    จะได้ครบเซ็ต..หมาแมว...น่ะ..
  • อาชา

    6 พฤษภาคม 2548 22:15 น. - comment id 84602

    หมอใจร้ายมากๆเลย
    
    เราเองก้ชอบแมวเหมือนกัน
    
    แต่ไม่เคยได้เลี้ยง
    
    เพราะบ้านแคบ
  • หมอกจาง

    6 พฤษภาคม 2548 23:28 น. - comment id 84603

    เขียนได้น่าอ่านจัง keekie.. อ่านเพลินเลยหละ
    
    ส่วนตัวแล้วชอบเลี้ยงหมามากกว่าเลี้ยงแมว แต่ที่บ้านก็มักมีทั้งแมวทั้งหมาอยู่คู่บ้านไม่ได้ขาด รุ่านนั้นตาย รุ่นนี้ก็มาแทน บางทีก็มีเอื้ออาทรกันมีลูกหมาแต่ไม่มีแม่ ลูกหมาก็วิ่งมาดูดนมแม่แมว แม่แมวก็ใจดีให้กินนมแต่โดยดี ทั้งๆที่ลูกหมาตัวก็เกือบเท่าแม่แมวอยู่แล้ว..
    
    ขลุกๆอยู่กับทั้งหมาทั้งแมวก็นึกรักเจ้าแมวขึ้นมาเยอะแล้วหละ ถึงแม้ว่าจะลำเอียงไปทางหน้าตาซื่อๆของหมาอยู่ก็ตามที :)
  • keekie

    6 พฤษภาคม 2548 23:44 น. - comment id 84604

    3.gif...พี่หยก ...
    
    อย่าร้องไห้ไปเลยค่ะ...
    ... กี้ร้องไปแล้วตอนมันตายน่ะ...
    ... แล้วเจ้าครอบครัวแมวที่มันใช้ระเบียงห้องนอนกี้เป็นบ้าน...
    ... มันร้องทุกคืนเลยค่ะ...
    
    
    
    6.gif... พี่ภู ...
    
    เขียนแล้วจ้า ... เรื่องหมา - หมา ...
    
    ขอบคุณแรงบันดาลใจ ...
    
    
    8.gif... คุณอาชา ..
    
    บางที .. เราอาจชอบมันได้ ... โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของก็ได้นะคะ ..
    
    แต่ขอให้วันนึง ... คุณได้ดูแลมันสมความตั้งใจนะคะ
    
    
    1.gif... คุณหมอกจาง ...
    
    ... โดยส่วนตัวกี้ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าชอบสัตว์เลี้ยงหรือป่าว? ..
    
    แต่กัวเสียงแมว .. กัวแววตาแมวค่ะ ..
    หมาน่ารักกว่า .. กี้ก้อว่างั้น ..
    แมวหน้าตาเจ้าเล่ห์ .. โดยเฉพาะเจ้ากาฟิวค่ะ ..
    
    ขอบคุณทุกท่านนะคะ
    
    กีกี้เป็นปลื้ม ..
    
    46.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน