สมัยตอนเป็นเด็ก จำได้ว่าในวิชาพละศึกษา คุณครูสั่งให้เราวิ่งรอบสนามกันคนละ 20 รอบ เพื่อจับเวลาของแต่ละคน แถมยังมีรางวัลมาล่อใจอีกด้วยว่า ใครเข้าเส้นชัยได้คนแรกจะมีคะแนนพิเศษเพิ่มให้ พอเริ่มออกสตาร์ท ฉันก็สังเกตเห็นเพื่อนหลายคน พยายามจะเบียดตัวเองขึ้นมาอยู่แถวหน้าสุด เพื่อที่จะได้เปรียบคนอื่นในช่วงออกตัว แล้วพอครูบอกว่าวิ่งได้เท่านั้นแหละ เพื่อนหลายคนของฉันก็วิ่งปรู๊ดออกไปแบบไม่คิดชีวิต ส่วนฉัน - โน่น วิ่งอยู่หลังสุด ไม่ได้ช้าเพราะเหนื่อย หรือเพราะวิ่งไม่เก่ง แต่ฉันกำลังรู้สึกสนุกสนานกับการวิ่งจับเวลาซะเหลือเกิน เพราะฉันวิ่งไป- คุยไป กับเพื่อนซี้รู้ใจแบบไม่สนเวลา ฉันสนใจความสนุกสนานระหว่างการวิ่งมากกว่า บางทีเห็นคนข้างหน้าที่วิ่งนำมาหลายรอบกำลังชะลอความเร็ว เพราะเหนื่อยหอบ ก็อดที่จะขอวิ่งแซงหน้าบ้างไม่ได้ หรือบางทีหันไปเห็นเพื่อนที่วิ่งรั้งท้ายตลอด ก็จะพยายามวิ่งให้ช้าลง รอให้เขาวิ่งทันจะได้คุยไปด้วยกันหลายๆ คน.สนุกดี หรือบางทีรู้สึกไม่อยากแซวงคนข้างหน้าขึ้นมาเฉยๆ เพราะว่าวิ่งตามหลังเขา จะได้แอบนินทาเขาได้ สนุกไปอีกแบบ จะทำลายสถิติไหม ไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าวิ่งช้าๆ มันไม่เหนื่อยเร็ว และขอแค่วิ่งให้ถึงเส้นชัยก็พอ คงคล้ายๆ กับความรักกระมัง ทุกคนมีเส้นชัยของตัวเอง มีสถิติที่ตัวเองพอใจ แต่คนที่เข้าเส้นชัยก่อน ใช่ว่าจะคว้าความรักที่ดีได้ก่อนเสมอไป และสถิติที่ดี ก็ไม่ได้การันตีว่าความรักจะสมบูรณ์แบบ ในขณะที่สังคมทุกวันนี้ปลูกฝังให้เราวิ่งแซงคนอื่น ๆ เสมอ อย่าพยายามให้ใครแซงหน้า เพราะนั่นย่อมหมายถึง การพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตไป แต่สังคมของความรักสอนให้คนรู้จักผ่อนจังหวะก้าวให้ช้าลง แต่หนักแน่นขึ้น โลกภายนอกบอกให้เรารู้ว่า อย่าวิ่งตามใครถ้าไม่แน่ใจว่าจะตามเขาได้ทัน เพราะมันเสียแรงเปล่า และโง่เหลือเกิน แต่โลกของความรัก ใครอีกหลายคนสมัครใจที่จะเป็นคนโง่ เพื่อวิ่งตามคนที่ตัวเองรักให้ทัน ทั้งที่รู้แก่ใจว่าไม่มีวันนั้น เพื่อนรักคนหนึ่งของฉัน มีเส้นชัยในหัวใจของเธอเอง คนรักของเธอเป็นนักวิ่งฝีเท้าดี เพราะตั้งแต่อยู่กันมา เขาออกวิ่งก่อนเธอเสมอ ไม่เคยบอกล่วงหน้า และไม่เคยชะลอความเร็วลงเลย แต่ความเร็วของเขาก็ไม่มากไปกว่าความรักที่เธอมี ความรักทำให้เธอวิ่งเร็วขึ้น ใกล้เขามากขึ้น และไม่ยอมปล่อยให้เขาทิ้งระยะจนคลาดสายตาเธอ แต่เมื่อเกือบที่จะถึงตัวเขา เธอก็จะเลือกที่จะวิ่งให้ช้าลงราวกับว่าจะวิ่งเหยาะๆ ตามเขาไปเรื่อยๆ เธอแซงหน้าเขาได้ - แต่เธอไม่ทำ แม้แต่จะวิ่งให้ทันเขาในแนวเดียวกัน เธอก็ทำได้ - แต่เธอไม่ทำ เหตุผลที่ฟังดูเหมือนง่ายของเธอทำเอาใจฉันนิ่งงัน "ถ้าวิ่งให้ทันเขา หรือแซงหน้าเขาไป ฉันก็คงมองไม่เห็นเขาในชีวิตอีก แต่ถ้าฉันวิ่งตามเขาห่างๆ แบบนี้ เท่ากับว่าฉันยังได้เห็นความเป็นไปของเขา ยังมีเขาอยู่ในสายตา - ในชีวิต แม้ว่าเขาจะไม่เคยหันหลังกลับมา แล้ววิ่งให้ช้าลงเลยก็ตาม คำถามของฉันทำให้แววตาของเพื่อนรักปรากฏรอยเศร้า แต่ปากยิ้ม ฉันกลัวเขารู้ตัว แล้ววิ่งหนีฉันไปไกลยิ่งกว่านี้ ถึงวันนั้นฉันอาจเหนื่อยจนหมดแรงที่จะวิ่งตามอีกต่อไปแล้วห่างแบบนี้ดีกว่า ฉันได้เห็นเขา มันอุ่นใจ หรือถ้าวันหนึ่งเขาล้มลง ฉันจะได้วิ่งเข้าไปช่วยพยุงได้ทัน และถ้ามันจะทำให้เขาเห็นความจริงใจของฉัน เขาอาจจะชวนฉันวิ่งไปพร้อมกันอีกครั้ง - ถ้าเขาหายดีแล้ว ความรักทำให้คนมีความหวังอยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน มันก็ทำให้คนบางคนดูโง่งมงายเสียเต็มประดา ถ้าเพื่อนเลือกที่จะวิ่งออกนอกเส้นทาง แล้วไปตั้งต้นใหม่กับใครสักคนที่เขาพร้อมจะวิ่งไปกับเพื่อน ป่านนี้..เพื่อนของฉันคงเข้าเส้นชัยไปนานแล้ว แต่เพื่อนยังคงเต็มใจที่จะวิ่งตามเขาไปเรื่อยๆ แม้ว่าบางที - อาจจะไม่มีวันนั้น .. วันที่เพื่อนเข้าเส้นชัยแห่งความรัก เพราะบางที.. เส้นชัย อาจไม่มีความหมาย ต่อคนบางคนหากว่าเขาเข้าเส้นชัย แต่ได้ทำหัวใจหล่นหายไประหว่างทาง เมื่อความสุขคือการโง่ที่จะรักและวิ่งตาม ในสังคมของความรัก ฉันจึงมองเห็นคนที่วิ่งช้า และปรารถนาจะเป็นผู้ตามด้วยความเต็มใจอยู่เสมอ ความรัก ไม่ใช่สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต แต่ความรักเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีค่ามากที่สุด
4 พฤษภาคม 2548 19:13 น. - comment id 83852
ขอบคุณนะค่ะที่เข้ามาอ่าน ทั้งพี่ทิกิ และก็วิสกี้ด้วย การเข้าเส้นชัยบางครั้งมันไม่ได้เข้าง่ายๆนี่ อีกอย่างเส้นชัยของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันด้วย
25 เมษายน 2548 18:17 น. - comment id 84523
ไม่วิ่ง ก็ไม่ถึงเส้นชัยสิครับ น้องแอล สู้ๆ
25 เมษายน 2548 22:08 น. - comment id 84530
นึกว่าผู้ชายเขียนนะคะ กลายเป็นผุ้หญิงค่ะ เขียนได้ดีอ่านจนจบค่ะ ทิกิ