ศึกป่วนมหาเวท ตอนที่3 โรงเรียนใหม่ / เพื่อนใหม่
หมูก้อย
..จิ๊ป จิ๊ป จิ๊ป..
เสียงนกเจี๊ยวจ๊าวจ้าละหวั่นแต่หัววัน เธอทนนอนต่อไปไม่ไหว จึงจำใจต้องลืมตาตื่นแล้วสำรวจกับห้องใหม่ที่แปลกตา เตียงสองเตียงกับผ้าห่มและผ้าปูที่สีขาวสะอาดตา หน้าต่างหนึ่งบานคั่นกลางระหว่างเตียงทั้งสองซึ่งประดับด้วยผ้าม่านผืนบางๆสีลาเวนเดอร์ที่กำลังโบกสบัดคล้ายกับเป็นการต้อนรับผู้ที่เข้ามาอาศัยคนใหม่ในห้องนี้ สุดปลายเตียงมีตู้ใส่เสื้อผ้าสองตู้คู่กันชิดกับผนังห้อง แล้วดูเหมือนจะมีเด็กผู้หญิงร่วมห้อง. นั่งจัดสัมภาระของแอนนี่เข้าตู้ให้อยู่เสียด้วย และด้วยความเกรงใจของแอนนี่อย่างสูงจึงต้องขัดการจัดสัมภาระเข้าตู้ของบุคคลผู้นั้น
อะ เอ่อนั่น
เอ่อ..นี่เหรอ แหะๆฉันคงจะยุ่มย่ามกับสัมภาระเธอมากไปล่ะมั้งเนี่ย ว่าแต่ว่า เมื่อวานพอฉันกลับมาถึงห้อง เธอก็หลับอยู่บนเตียงซะแล้ว ยังไม่ทันคุยอะไรกันเลย เฮ่อน่าเสียดาย น่าเสียดาย เจ้าหล่อนมีผมสีน้ำตาลไหม้ยาวประบ่า นั่งหันหลังจัดสัมภาระให้พลางถอนหายใจเฮื๊อกใหญ่ แต่ก็ยังไม่วายหยุดจัดเสียที เธอเป็นเด็กใหม่ใช่ม้า ประธานพาชมหอรึยังล่ะ? ฉันพาไปทัวร์ให้เอามั้ย
เออ ฉันคงถูกเกลียดขี้หน้าซะล่ะมั้ง ก็เลยยังไม่ค่อยได้ดูได้ชมซักเท่าไหร่ เอ่อ..ยังไงดีล่ะ รบกวนด้วยนะ
คราวนี้เจ้าหล่อนหันหน้ามาคุยกับแอนนี่ตรงๆ เห็นได้ชัดว่าเจ้าหล่อนหน้าตาดูดีทีเดียว ใบหน้ารูปไข่ คล้ายกับใครบางคน แว่นเล็กๆกะทัดรัดวางอยู่บนดั้งจมูก ดวงตากลมโตสุกใสออกสีน้ำตาลอ่อนๆ แกมนวลขาวออกชมพูเรือๆ
แล้วเธอไปรู้ได้ไง คุณพี่นั่นเค้าออกจะเย็นชาจะตาย ช่างเถอะเราออกไปข้านนอกกันเถอะ
**************************************************************************
ซื๊ด
แอนนี่หายใจเข้าพลางๆคิดว่า เรื่องราวทั้งหมดเป็นความฝันหรือว่าเป็นเรื่องจริงกันแน่ แต่แล้วเธอจำเป็นต้องหยุดห้วงคิด เพราะเพื่อนข้างๆตัวสะกิดเรียกเธอ หลังจากที่ออกจากห้องนอนมาซักพัก
เธอเป็นไรรึเปล่า ดูใจลอยจังนะ
ปะเปล่าจ้า แค่กำลังคิดอะไรเพลินๆไปหน่อยหน่ะ นั่นน่ะคืออะไรหรอ???
อาใช่แล้ว ไอนั่นหน่ะ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของโรงเรียนเราเลยเชียวแหละ ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าเข็มชี้บนหน้าปัดแต่ละหน้านั้นต่างกันใช่ม้า นั่นหน่ะเค้าจะไว้บกคะแนนของแต่ละหอ แล้วก็นะ หน้าปัดแต่ละหน้าจะหันไปยังหอแต่ละหอ ซึ่งถ้ากลับไปอยู่ที่ห้องก็จะเห็นคะแนนได้ชัดเจนเลยทีเดียว ช่ายๆ แล้วยังมีเรื่องเล่าของหอนาฬิกาที่สืบทอดต่อๆกันมาด้วยนะ ว่ากันว่า ถ้าใครไปยืนอธิฐานหรือไม่ก็เก็บดอกไม้ใต้หอนั่นล่ะก็คำอธิฐานจะสมปรารถนาด้วยล่ะ.
ว้าว!ยอดเลยสาวน้อนคนฟังอุทานออกมา พร้อมคิดไปต่างๆนานา แล้วหยุดความคิดตรงที่
ถ้าแคตตี้ได้ยินเข้า คงต้องพากันไปสำรวจแน่
แต่ มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก เรื่องเล่ามันก็แค่เรื่องเล่า
อ๊า ทำไมล่ะ???
ก็เพราะฉันเองก็เคยไปสำรวจมาแล้วน่ะสิ เธอบอกเสียงเศร้าๆ พลางส่ายหัวไปมา แล้วพูต่อ ฉันก็เคยอยากจะขอพรซังกะบ๋วยนั่นมั่งน่ะสิ แบบว่านะ ฉันหน่ะไม่เคยมีเพื่อนเลย ไม่สิๆ กระต่ายที่ฉันเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของฉัน แต่แล้วพอเข้าโรงเรียนมาไม่นาน จู่ๆ มันก็ตายถึงตอนนี้น้ำตาของเจ้าหล่อนเริ่มคลอเบ้า แอนนี่พยายามที่จัดขัดขึ้นแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ฉันพยายามอย่างมากที่จะชุบชีวิตมันอีกครั้ง ฉันจึงคิดที่จะไปหอนั่นซักครั้ง แต่ยิ่งเดินเข้าใกล้เท่าไหร่ก็กลับยิ่งไกลมาขึ้น ท้ายที่สุด พอรู้ตัวอีกทีก็เดินมาถึงหอพัก กลับมายังจุดเริ่มต้น แล้ว แล้ว ฮึก เจ้าหล่อนเริ่มครวญครางร้องไห้ออกมา
พอแล้วๆ ฉันไม่ฟังแล้ว! แอนนี่ตัดสินใจเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เพื่อนใหม่ข้างๆต้องนึกถึงเรื่องอดีตที่แสนเจ็บปวดออกมาอีก
อ๊ะ ขอโทษ ฉันเข้าเรื่องตัวเองไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย คงเพราะอย่างงี้ล่ะมั้งถึงไม่มีคนคบล่ะ
อื่อ! เอ๊ย ไม่ใช่ๆหรอกนะ
อาาาา เจ้าหล่อนน้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง แล้วโผเข้ากอดแอนนี่ หยั่งงี้เหรอๆ เสียงของเจ้าหล่อนพึมพำออกมา แล้วคลายมือที่กอดออก พูดกับแอนนี่ว่า0เราเป็นเพื่อนกันได้มั้ย??? นะ?
แอนนี่ประหลาดใจกับคนตรงหน้านี้ รึเค้าคิดว่า ฉันเป็นแค่รูมเมทของเค้าเท่านั้น งั้นเหรอ ฉันคิดไปเองคนเดียวรึว่า เค้าเป็นเพื่อนฉัน น่ะ น่าน้อยใจจัง ลองแหย่เล่นดูหน่อยดีกว่า
ว่าไง?
เอ๋.. เอาไงดีน้า
ก็เป็นเพื่อนกับฉันไง
อืมม... ถ้าตอบว่าไม่ล่ะ สีหน้าบูดบึ้งเริ่มปรากฎให้เห็นเด่นชัดบนใบหน้ารูปใข่ตรงหน้า บ่งชัดถึงความไม่พอใจ
- -แหมสำเร็จ- -
ขอโทษจ้าๆ ฉันล้อเล่นหน่ะล้อเล่น แหมก็มันน่าน้อยใจนี่นาที่คิดไปเองคนเดียวว่าเธอเป็นเพี่อนแล้วอ่ะ
เธอ เจ้าหล่อนพึมพำ น้ำตาเอ่อคลอในดวงตาคู่กลมอีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่ทำให้เธอกระอักกระอวลใจอีกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าเธอไปพูดผิดอะไรตอนไหน และที่น่าประหลาดใจที่สุดของสุด ก็คือเพื่อนใหม่ตรงหน้ากระโดดเข้ากอด ร้องไห้ฟูมฟาย
ส่วนคนถูกกอดก็ทำอะไรไม่ถูก จึงตัดสินใจทำหน้าที่ปลอบใจให้กับเพื่อนใหม่ตรงหน้า เพียงเท่านั้นคนกระโดดเข้ามากอดหยุดฟูมฟาย แล้วตั้งคำถามกับผู้ปลอบใจตนตรงหน้า
เธอปลอบใจฉันเรื่องไรอ่ะ?
!?
..
ก็เธอกำลังร้องไห้ ฉันเป็นเพื่อนก็ต้องปลอบเพื่อนสิ
อืม~~~ ฉันร้องไห้ไม่ใช่เพราะเสียใจ แต่ร้องเพราะดีใจต่างหาก
เหรอ แหะๆ
~_~ เพื่อนใหม่ตรงหน้าแสดงท่าทีเหนื่อยหน่ายใจเป็นครั้งแรกกับความซื่อของเธอ และในเวลาต่อมาก็แสดงถึงท่าทีที่นึกบางสิ่งบางอย่างออก แล้วเปิดใจพูดกับเธออย่างหมดเปลือก
เราคุยถูกคอกันมาตั้งนานแต่ดันลืมถามชื่อ แย่จังเลยเนอะ ฉันชื่อ เทียร์น่า ล่ะ เทียร์น่า เมย์โครว เกิดวันที่ xx / xx / xxxx เลือดกรุ๊ป x.. เป็นการแนะนำตัวที่ยาวเยียดแม้แต่ผู้แต่งก็ไม่มีความสามารถพอที่จะเขียนลงมาได้หมด
แหะ เอาเป็นว่าให้ฉันเรียกเธอว่า เทียร์น่าใช่มั้ยอ่ะ
ใช่ คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจความชัดเจน แล้วตั้งต้นประโยคถามขึ้นใหม่ หากแต่ยังไม่สามารถพูดออกมาได้ เนื่องจากขบวนแห่อะไรสักอย่างเข้ามาขัดขวางการสนทนา
ขบวนอะไรหน่ะ???
ขบวนแห่พวก พ่อยอด/แม่ยอดTopTenน่ะสิ
เหรอ~~~มีการแห่แบบนี้ด้วยรึนี่ มันทำเอาฉันไม่กล้าไต่ขึ้นมาเป็นท๊อปเท็นเลยนะ
อืม~~~ เทียร์น่าทำสีหน้าครุ่นคิด เนื่องจากเจ้าหล่อนลืมคำถามที่กำลังจะตั้งต้นถามเพื่อนสาวเมื่อครู่ไปเสียแล้ว
คิดอะไรอยู่เหรอ เห็นคิดตั้งนานแล้วนะ
ใช่ เทียร์น่าใช้เวลาคิดนานมาก จากขบวนแห่ที่หนึ่ง จนบัดนี้ขบวนที่ห้า ขบวนสุดท้ายแล้ว อ้อ! ลืมไป โรงเรียนแห่งนี้มีห้าระดับชั้น และในแต่ละขบวนก็จะมีสิบคนที่ได้นั่งในลำดับที่พิเศษ นั่นก็คือ นักเรียนที่ได้ท๊อปเท็นในแต่ระละดับชั้น ซึ่งวัดจากระดับคะแนนจากผลสอบ จากความอัธยาศัย หรือจากด้านกานกีฬา ฯลฯ คละกันไป ซึ่งก็หมายความว่า นักเรียนท๊อปเท็นไม่ได้อาศัยแค่ความฉลาดเพียงอย่างเดียว
อ๊ะ! จริงสินึกออกแล้ว ชั้นอยากถามเธอว่า เธอชื่อ
ออกห่างจากยัยนั่นซะ เทียร์น่า น้ำเสียงกึ่งดุกึ่งวางอำนาจโผล่ออกมาจากหัวขบวนท๊อปเท็นปีห้า
ยัยนั่นคือทายาทที่น่าชิงชังคนนั้น แอนนิต้า คลู ดิลูสนั่น คราวนี้หล่อนมาด้วยความมาดมั่นดังนางพญา ไม่แสดงออกให้เห็นถึงความหวาดกลัวอย่างเมื่อครั้งก่อน แววตาที่แสนเย็นชาชี้ชัดถึงแรงอาฆาตภายใต้กรอบแว่นจ้องมองแอนนี่ไม่หลงเหลือคราบของความอ่อนโยนหลงเหลืออยู่เลย
จะจริงรึพี่? ในเวลานี้เทียร์น่าต้องการแต่ความจริง จึงหันมาเค้นความจริงจากแอนนี่อีกครั้ง เพราะไม่อยากเชื่อว่า เพื่อนใหม่/เพื่อนคนแรกของเขานั้นจะเป็นทายาทที่น่ารังเกียจคนนั้นไปได้
อืม ฉันคือ แอนนิต้า คลู ดิลูส
[-:-โปรดติดตามตอนต่อไป-:-]