ชายตาบอด 4 คน

ฟ้าใส, ราตรีผีเสื้อ

มีชายตาบอดคนหนึ่งกำลังจะออกจากบ้านเพื่อนเพื่อเดินทางกลับบ้าน ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลากลางคืน เพื่อนผู้หวังดีของเขาแนะนำให้ชายตาบอดนำโคมไฟติดตัวไปด้วย แต่ ยังไม่ทันที่เพื่อนของเขาจะพูดจบ ชายตาบอดกลับหัวเราะออกมาและพูดสวนกลับมาว่า 
            
              ทำไมฉันต้องเอาโคมไฟนี่ไปด้วยล่ะ ฉันน่ะรู้ทางไปบ้านของฉันดี ไม่จำเป็นหรอก  
            
             แต่เพื่อสนองความหวังดีของเพื่อนเขาจึงจำต้องเอาโคมไฟนั้นมาด้วย และเมื่อเขาเดินทางไปได้สักพัก ก็มีคนเดินมาชนเขาเข้า ทำให้เขาตกใจ และรู้สึกโกรธขึ้นมาตงิดๆ แล้วเขาก็ตะโกนขึ้นมาว่า 
            
             เฮ้ย !!! นี่คุณไม่ได้ตาบอดซะหน่อย ช่วยหลีกทางให้คนตาบอดเดินหน่อยไม่ได้รึไงกัน  
             
             แล้วชายตาบอกก็เดินทางต่อไป แต่แล้วก็มีคนอื่นเดินมาชนเขาอีกครั้ง คราวนี้ความโกรธของเขาทวีความรุนแรงขึ้น เขาตะโกนถามคนที่เพิ่งเดินชนเขาว่า 
            
              นี่ คุณตาบอดรึไงกัน ไม่เห็นแสงโคมไฟของผมหรอ ผมอุตส่าห์ถือมันมาเพื่อให้คุณมองเห็นผมนะเนี่ย  
            
            ชายแปลกหน้าตอบชายตาบอดว่า  นี่คุณตาบอดหรือนี่ คุณไม่เห็นหรอว่าโคมไฟของคุณน่ะมันดับไปแล้ว 
            
             ชายตาบอดชะงักกับคำตอบที่ได้ไปครู่หนึ่ง แล้วชายแปลกหน้าคนนั้นก็ขอโทษชายตาบอด 
            
             ขอโทษทีครับ ผมก็เป็นคนตาบอดเหมือนกัน ผมมองไม่เห็นว่าคุณก็ตาบอดเหมือนกับผม   
             
             ไม่หรอกครับ ผมต่างหากเป็นฝ่ายที่ต้องขอโทษที่ผมหยาบคายกับคุณ  
             
             ชายตาบอดทั้งสองรู้สึกอายเป็นอย่างมาก
             หลังจากนั้นชายตาบอดยังคงเดินทางต่อไป และแล้วเขาก็ถูกชนอีกครั้ง ครั้งนี้เขาระวังมากขึ้น เขาถามคนที่เดินชนเขาอย่างสุภาพว่า
             ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าโคมไฟของผมดับรึเปล่าครับ 
            
             ชายแปลกหน้าคนที่สองตอบว่า 
            
             เอ้ !! แปลกจริงๆ นั่นมันเป็นคำถามที่ผมต้องถามคุณนี่นา โคมไฟผมดับหรือครับ 
            
             ชายทั้งสองหยุดเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะถามกันและกันว่า
            
              คุณตาบอดรึเปล่า ?  
            
             ใช่ !!! 
            
             ชายทั้งสองคนตอบพร้อมกัน แล้วชายตาบอดทั้งสองคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเพราะคำตอบของพวกเขาเอง จากนั้นชายตาบอดทั้งสองก็คลำไปที่โคมไฟเพื่อพยายามจะจุดมันขึ้นมาใหม่ ขณะนั้นเองก็มีคนเดินผ่านมา เขาเห็นชายทั้งสองยืนอยู่จึงเดินเลี่ยงไปอีกทางหนึ่งเพื่อจได้ไม่เดินชนกัน เขาคนนั้นไม่ทราบหรอกว่าชายทั้งที่ยืนอยู่นั้นเป็นคนตาบอด และเมื่อเขาเดินผ่านไปเขายังนึกในใจว่า
            
              บางที ถ้าเราเอาโคมไฟมาด้วยก็คงจะดี จะได้เห็นทางได้ชัดขึ้น และคนอื่นก็จะได้พลอยเห็นทางไปด้วย 
            
             โดยไม่มีใครทราบเพื่อนผู้หวังดีของชายตาบอดคนแรกได้ถือโคมไฟเดินทางตามมาอย่างเงียบๆ เพื่อเขาจะได้แน่ใจว่าชายตาบอดเพื่อนของเขาจะเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย เขายิ้มกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น และเขาก็หวังว่าเพื่อนของเขาคงได้รับบทเรียนจากเหตุการณ์ที่ชายตาบอดได้เจอในครั้งนี้ด้วยตัวของเขาเอง 
             
             หากท่านอ่านนิทานเรื่องนี้แล้วเข้าใจ กรุณาบอกหน่อยเถอะครับ ว่านิทานเรื่องนี้สอนใจเราว่าอย่างไร				
comments powered by Disqus
  • SEE SAD IN MUKDAHAN SCHOOL

    16 สิงหาคม 2548 17:37 น. - comment id 86095

    25.gif46.gif69.gif65.gif41.gif22.gif30.gif42.gif19.gif20.gif9.gif14.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน