ศึกป่วนมหาเวท ตอนที่2 สายเลือดที่น่ารังเกียจ

หมูก้อย

ตอนที่2 สายเลือดที่น่ารังเกียจ
	ท่ามกลางเหล่ามวลไม้น้อยใหญ่  บรรดาสัตว์ที่รักสงบกลับตื่นกลัวบางสิ่งบางอย่างที่บุกรุกเข้ามาทางถนนที่ตัดผ่านไปยังบ้านหลังใหญ่  พวกเขาเดินทางสายนี้มุ่งตรงไปเรื่อยๆ และหยุด ณ บ้านหลังนั้น
	~~กริ๊งก่อง~~
	อ้าว!  โอ๊ะโอ๋!!!  เพื่อนแอนนี่หรือจ๊ะ  มาๆเข้ามาก่อน  เธอเป็นหญิงร่างท้วม  ใส่ผ้าคลุมไหล่กำมะหยี่สีเขียว  เดินนำเข้าไปในบ้าน
	พวกเขาเดินตามนางเข้าไปในบ้าน  ภายในบ้านที่มืดๆสลัวๆนี้กับตกแต่งด้วย โคมไฟ[แม้จะเป็นแสงเทียนก็เหอะนะ]ต่างๆนานาหลากหลายชนิดทั่วบ้าน  โซฟาสีเขียวอ่อนๆ[แซมเด็กชายหน้าตาขี้เล่นต้องเพ่งพิจารณาอยู่นาน  เนื่องด้วยแสงสลัวๆจากเทียน]  ผนังทุกด้านทาสีแดงเข้มจนน่ากลัวแต่กลับมีลวดลายนานาชนิด  มีรูปภาพน้อยใหญ่แขวนอยู่มากมาย  และมีนาฬิการูปร่างแปลกตาอยู่บนผนัง ซึ่งแน่นนอนว่าต้องมีแสงเทียนส่องสว่างเพื่อให้เห็นได้ชัด  และท้ายที่สุดมีกองหนังสือที่ตั้งเรี่ยราดอยู่ทุกตารางนิ้ว  ซึ่งดูเหมือนว่าไม่มีพื้นที่ที่ว่างเพียงพอสำหรับเด็กทั้ง4คน ได้นั่งเพียงพอ  นางกระวีกระวาดจัดตั้งหนังสือเมื่อมองดูและคิดคำนวนว่าจะจัดกองหนังสือไว้ที่มุมห้อง
	มาหาแอนนีรึจ๊ะ  แอนนี่ไม่อยู่แล้วล่ะจ้า นางพูดเมื่อนางจัดกองหนังสือเสร็จเรียบร้อยแล้ว  แล้วจัดแจชี้ไม้ชี้มือให้นั่ง  นั่งก่อนสิ อา แอนนี่ เอ่อ.. แอนนิต้า คลู ดิลุสไปเข้าโรงเรียนในฟาเลสก้าแล้วล่ะ  เสียใจด้วยนะ เขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วล่ะ  เอาเป็นว่าฉันจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังก็แล้วกันนะ
	เรื่องมันมีอยู่ว่า.
**************************************************************************
	ขณะเดียวกัน  เด็กผู้หญิงผู้มาเข้ารับการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์ลูเซีย  ซึ่งเป็นโรงเรียนสหศึกษาสำหรับเหล่าผู้วิเศษล้วนๆ  เด็กหญิงเดินตรงลิ่วไปที่หน้าประตูบานใหญ่มหึมา สีดำตามที่คุณน้าบอกมา  เมื่อเธอหยุดและเคาะประตูทันที
	เข้ามา
	เธอข้ามผ่านธรณีประตูเข้าไปแล้ว  เดินมุ่งตรงไปยังจุดหมายข้างหน้า  หยุดอยู่ตรงหน้าชายชราผู้มีสง่าราศีจนดูน่าเกรงขาม  มีผมยาวสีเงินคลุมไปยังไหล่  มีผ้าคลุมสีกรมท่าปะปรายกับลวดลายต่างๆไปจนถึงพื้น  ชายผู้นั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่อยู่ข้างหน้าเธอ  บรรยากาศไม่เคร่งเครียดอย่างที่คิดแต่กลับอบอุ่นอย่างน่าประหลาด  เธอเดินเข้าไปใกล้เขาอีกครั้งแล้วหยิบซองสีขาวในเสื้อคลุม  ยื่นส่งไปให้กับชายชราตรงหน้า  พร้อมกับแนะนำตัว
	เอออ.. แอนนิต้า คลู ดิลูส  จากคลูเลสก้าค่ะ แอนนี่เริ่มต้นกล่าวทักทาย  ในขณะที่ชายชราตรงหน้ากำลังแกะซองเปิดอ่านข้างใน  ไล่ตาจาซ้ายไปขวาแล้วก็ซ้ายไปขวานานออยู่หลายครั้ง  เมื่อเขาอ่านจบ  เขาก็ทำอะไรบางอย่างกับเข็มกลัดเสื้อทั้งสี่อันที่มีรูนก เต่า มังกรและเสือ  ที่วางอยู่บนโต๊ะเขา
	อา สงสัยอย่างงั้นรึ? เขาเอ่ยเป็นประโยคแรก  ซึ่งในขณะที่แอนนี่กำลังเหม่อมองเข็มกลัดทั้งสี่อยู่นั้น เขาก็ถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงขบขันปนเอ็นดู
	อะ  ค่ะ
	อืมมันเป็นเข็มกลัดที่เอาไว้ใช้เรียกประธานหอมารวมกันตรงที่ผู้เรียก  ซึ่งประธานหอก็จะมีเข็มกลัดแบบนี้อีกอันเป็นเครื่องรับล่ะ  โดยที่หอแต่ละหอจะมีรูปสัตว์เป็นสัญลักษณ์ประจำหอ   นก:หอใต้ คัดเลือกจากหญิงทีมีปัญญาเฉียบแหลม   เต่า:หอเหนือ จากหญิงเหล็กผู้มีกำลังกาย  มังกร:หอตะวันออก  ชายผู้มีความคิดล้ำเลิศ  และสุดท้ายคือ เสือ:หอตะวันตก  คัดจากชายผู้มีกำลังกายแข็งแกร่ง.เขาอธิบายจบก็ยิ้มให้แอนนี่ที่ทำหน้าอย่างครุ่นคิดเอาเป็นเอาตาย
- - แล้วฉันจะได้อยู่หอไหนล่ะเนี้ย >-พุ่งพรวดเข้ามาในห้องทันทีทันใด
	อาจารย์ใหญ่มีอะไรให้รับใช้คะ???  หญิงหนึ่งในสี่ที่เข้ามาเปิดประเด็น  เธอแต่งตัวตามระเบียบเป๊ะๆ จมูกโด่ง พร้อมจัดแว่นให้เข้ากับใบหน้ารูปไข่ของเธอ  หญิงคนถัดมาเป็นคนรูปร่างสันทัด ใส่เสื้อผ้าหลุดดรุ่ย ทำให้ดูเหมือนเป็นคนเรียบง่าย  ถัดมาอีกเป็นผู้ชาย ค่อนข้างรวยกล้าม นอกนั้นไม่มีอะไรเด่น ดูไปดูมากเหมือนพวกสมองกลวงเสียด้วยซ้ำ  และคนสุดท้าย นักเรียนชายผมเรียบแปร้ แต่งตัวเรียบร้อยเข้าทีที่สุดสำหรับคนทั้งห้อง  ซึ่งทั้งหมดน่าจะประธานหอ  เดาได้ไม่ยากเพราะแต่ละคนที่เข้ามานั้นติดเข็มกลัดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประธานหอ 
	นี่นักเรียนใหม่ของเรา  เขาจะอยู่กับเราในหอเหนือหรืออาจจะเป็นหอใต้  ซึ่งที่ฉันเรียกพวกเธอมาก็ไม่มีอะไรอื่น  นอกจากมาเป็นสักขีพยานในการคัดเลือกหอ และเมื่อคัดเลือกออกมาแล้วก็ขอให้ประธานหอเป็นผู้รับผิดชอบพาไปแนะนำสถานที่ต่างๆภายในโรงเรียน  เอาล่ะเริ่มล่ะนะ ชายชราผู้น่าเกรงขามตรงหน้าตอบคำถามให้กับบรรดาสมาชิกร่วมห้องคนใหม่ที่เข้ามาถึง  พร้อมกับกำลังหาของบางอย่างจากโต๊ะเบื้องหน้าของเขา
	และเมื่อหาอะไรบางอย่างที่ว่าเจอ  ซึ่งมันคล้ายกับลูกแก้วสีใส มีขนาดพอๆกับลูกเบสบอลก็ไม่ปาน  แล้วชายผู้เป็นอาจารย์ใหญ่หันกลับมาคุยกับแอนนี่อีกครั้ง
	เอาล่ะ ต่อไปฉันจะส่งลูกแก้วนี้ไปให้เธอ  ขอให้เธอรับมันไว้  ไม่ว่าลูกแก้วนี้จะเป็นไปเป็นสีอะไรก็ตาม  !!อย่าปล่อยมือจากมันเด็ดขาด  จำไว้อย่าปล่อยมือ เขาพูดกับเธอจบก็หันหน้าไปเผชิญหน้ากับนักเรียนทั้งสี่ของเขาอีกครั้ง  แล้วเสียงประกาศอันดังกึกก้องซึ่งเล็ดลอดออกมาจากปากของเขาว่า แอนนิต้า คลู ดิลูส เธอจะมาเป็นสมาชิกใหม่ของเรา ซึ่งตามปรกติแล้วน่าจะมีเสียงปรบมืออันกึกก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณ  แต่กลับไม่มีเสียงอะไรซักแม้เพียงเสียงเข็มหมุดตก  บรรยากาศอันอบอุ่นหายไปชั่วพริบตา หลงเหลือเพียงแต่บรรยากาศอันเคร่งเครียดต่างจากเมื่อครู่แบบหน้ามือเป็นหลังมือ  ชวนน่าอึดอัดใจยิ่งนัก
	อะแฮ่ม เสียงของอาจารย์ใหญ่ทำให้เธอตื่นจากภวังค์อีกครั้ง  เธอยื่นมือออกไปรองรับเจ้าลูกแก้วตรงหน้าจากอาจารย์ใหญ่ที่พยายามจะส่งให้เธอ  เธอรับไว้  แต่แล้วลูกแก้วที่ควรจะเป็นสีสดใสกลับไม่ใช่สีสดใสอีกต่อไปแล้ว  เนื่องจากมีควันสีแดงพวยพุ่งอยู่ภายในลูกแก้ว  เธอพยายามสบตากับคนในห้อง  ซึ่งเริ่มไล่จากประธานหอทั้งสี่  เธอสังเกตเห็นว่า ประธานหอทุกคนพยายามอย่างยิ่งที่จะหลบเลี่ยงสายตาของเธอ  แต่กระนั้งก็ยังเห็นได้ชัดเจนอยู่ดีว่าใบหน้ารูปไข่หลังกรอบแว่นดูซีดลงต่างจากตอนแรก
	อา เป็นอันตกลง  เธอได้ไปอยู่หอใต้  มาเรียจะเป็นคนพาชมโรงเรียน  ส่วนของ  เอ้อ  สัมภาระของเธอฉันจะให้คนมาขนไปไว้ที่ห้องของเธอเอง คุณครูใหญ่พูดจบพลางพยักเพยิดไปทางหญิงผู้ซ่อนใบหน้าไว้หลังกรอบแว่น
**************************************************************************
	เธอเดินตามระเบียงมาเป็นเวลานานแล้ว  แต่ยังไม่มีบทสนทนาแม้เพียงคำเดียว  มีเพียงบรรยากาศอันเคร่งเครียดชวนน่าอึดอัดใจยิ่งนัก  เธอเลยสร้างคำพูดทำลายบรรยากาศในตอนนี้  แต่กลับได้คำพูดที่คาดไม่ถึงกลับมา
	รุ่นพี่คะ  ไอนั่นหน่ะคืออะไรหรอคะ??? เธอชี้ไม้ชี้มือไปที่หอนาฬิกาสี่ด้านตั้งอยู่กลางโรงเรียน  ซึ่งแต่ละด้านนั้นบอกเวลาไม่ตรงกัน
	คะคลู ดิลูส  ทายาทคนน่ารังเกียจมาโรงเรียนฉัน  อยู่หอพักฉัน  แย่ล่ะต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับหอพักฉันล่ะเนี่ย ใบหน้าที่ขาวซีดครุ่นคิดอย่างหนักราวกับคนเสียสติ
	คะ  ตะกี้รุ่นพี่ว่าอะไรนะคะ ใบหน้าของแอนนี่เลิกคิ้วสูงขึ้น  แต่คิ้วในยามนี้ของเธอยังไม่สูงเท่ากับของรุ่นพี่มาเรีย  ที่ในตอนนี้ใบหน้าขาวซีดยิ่งกว่าเก่า  มีเพียงความคิดเดียวที่พุ่งขึ้นมาจากใจเธอ
	หลอนอ่านใจคนได้
	ไม่ต้องเสแสร้ง  พอแค่นี้แหละ  ฉันจะพาเธอกลับห้อง  อยากรู้อะไรก็อ่านใจคนอื่นเอาเองก็แล้วกัน คำสนทนาประโยคแรกของรุ่นพี่มาเรียพร้อมทั้งส่งสายตาอันเหยียดหยามพุ่งตรงมาที่เธอ  ก่อนเดินนำหน้าไป  เหลือทิ้งไว้แต่ความตื่นตระหนกให้แก่ผู้ฟังที่ยืนอยู่เบื้องหลัง
[-:-โปรดติดตามตอนต่อไป-:-]				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน