Contact Lense สยอง (เรื่องแปลเอง)
Tawan
แต่ตอนนี้ฉันตระหนักด้วยความรู้สึกว่าจะเป็นลมว่าเราดูเหมือนจะหลงทาง
ลีแอนขี่จักรยานนำหน้าฉันไปไกล และเจสันก็ขี่หายไปแล้ว หมอกสีเทาที่ทั้งเย็นและเป็นเหมือนใยแมงมุมซึ่งเริ่มก่อตัวตรงหน้านั้นไม่ได้ช่วยอะไรมากนักเพราะมันทำให้แว่นตาที่หนาเตอะของฉันพร่ามัว และยากแก่การมองเห็น ฉันตัวสั่นแม้ว่าฉันสวมเสื้อแจ็คแก็ตทับเสื้อไหมพรมและเสื้อเชิ้ตที่สวมอยู่ก็ตาม
เฮ้! เจมี่ ระวัง น้องชายวัยสิบเอ็ดปีที่แสนจะบ้าของฉันโผล่ออกจากพุ่มไม้อย่างไม่รู้ตัว เขาแกล้งทำเป็นเสียความทรงตัวตรงหน้าฉัน
ฉันกรีดร้องก่อนที่จะช่วยเหลือตัวเองด้วยการเบรครถด้วยความโมโห ขณะนี้ฉันอยู่ห่างจากจักรยานของเขาเพียงแค่นิ้วเดียว
โอ้โห สนุกจังเลยนะ ฉันตะคอก
เจสันหัวเราะเสียงดังและเลี้ยวจักรยานเข้ามาใกล้
แน่นอน มันสนุกสำหรับผม เขาพูดโดยเลียนเสียงร้องของฉัน
ฉันจ้องเขาก่อนพูดว่า แทนที่นายจะเล่นโลดโผนแบบนี้ นายน่าจะช่วยกันดูว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกัน แต่ถ้านายไม่ได้สังเกตุ เราก็กำลังหลงทาง
เด็กอะไรอย่างนี้ เจสันล้อเลียนฉัน คนอายุสิบสองที่กลัวไปซะทุกอย่าง แม้แต่ป่าใหญ่ๆอย่างนี้
นายนั่นแหล่ะเด็ก ฉันพูด ที่ชอบแกล้งให้ฉันกลัว
เขากลอกตาไปมาและยิงฟันยิ้ม ก็มันไม่ยากอะไรนี่ เฟรดดี้ เบรดี้
อย่าเรียกฉันอย่างนั้นนะ ฉันเอ็ดเขา
ฉันเกลียดชื่อเล่นนั่น เด็กๆเคยเรียกฉันว่าเฟรดดี้ เบรดี้เพราะเปียหนาๆสีบรอนด์เข้มกับอาการหวาดกลัวที่ฉันแสดงออกอยู่เสมอๆ
เจสันยักคิ้วให้ฉัน ใครๆก็เรียกพี่อย่างนั้นนี่
ใช่ นั่นมันตอนอยู่ที่นิว ยอร์ก แต่ตอนนี้เราอยู่ที่เฟรนด์ลี่ คอร์เนอร์ และฉันก็ไม่ต้องการให้ใครที่นี่รู้ด้วยโดยเฉพาะลีแอน เธอเป็นเพื่อนคนแรกที่ฉันมี ฉันไม่อยากให้เธอมองฉันเป็นเด็ก
เจสันหยุดหมุนจักรยานและมองฉัน แน่นอน เฟรดดี้ เบรดี้
เจสัน ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นการเตือน ลีแอนกำลังมาแล้ว อย่าพูดอะไรเกี่ยวกับเฟรดดี้ เบรดี้ เข้าใจไหม
ฉันจ้องเขา เขาไม่เหมือนฉันเลย ฉันเตี้ย ผอม ตาสีน้ำตาลและสายตาสั้นรวมถึงมีผมสี บรอนด์ ส่วนน้องชายฉัน เขาสูง ดูแข็งแรง มีผมหยิกสีดำกับตาสีฟ้าสดใส และมีบุคลิกที่ไม่กลัวอะไร ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขากลัวได้ และฉันก็อิจฉาเขาในข้อนี้ เขาและน้องสาวคนเล็กของฉันที่ชื่อสมันทา เจ้าหญิงวัยเจ็ดขวบที่เสียเด็ก มักเล่าเรื่องสัตว์ประหลาดให้กันฟังก่อนเข้านอน และพอใจที่ได้ร่วมมือกันแกล้งพี่สาวคนโตที่แสนจะขวัญอ่อน
เจมี่ โรส ฟิวส์ เด็กทารกที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก แต่ฉันก็กำลังแก้ไขปัญหานี้อยู่ การผูกมิตรกับคนที่ใจเย็นและไม่หวั่นไหวอย่างลีแอนถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี บางทีความใจเย็นของเธออาจช่วยทำให้ฉันกล้าที่จะเผชิญสถานการณ์ใหม่มากขึ้นอีกหน่อย แต่แม้ว่าฉันจะคิดอย่างนั้น ฉันก็เห็นความกลัวในตาเธอขณะที่เธอขี่จักรยานขึ้นมา ลีแอนเป็นคนสูงโปร่ง มีผมสีดำ รูปร่างดี และเป็นคนอารมณ์เย็น แต่ตาเธอกลับดูกังวลเท่าๆกับที่ฉันเป็นอยู่เสมอ
ออกไปจากที่นี่กันเถอะ เธอพูด เราอยู่ใกล้ก้อนหินนั่นมากกว่าที่ฉันคิด
ก้อนหิน? ฉันถามขึ้นขณะนั่งคร่อมอยู่บนจักรยาน ฉันมองไปที่พื้นดิน จากนั้นก็มองไปที่ทางใกล้ๆซึ่งมีโซ่อยู่ตรงทางเข้า ก้อนหินอะไร?
เจสันชี้ไปที่ทางเข้าพร้อมกับยิงฟันยิ้ม ก้อนหินร้องเพลง เขาพูด หลังโซ่นั่นเป็นที่ลับที่ถูกสิงแห่งเฟรนด์ลี่ คอร์เนอร์ เพื่อนผมที่ชื่อแมทบอกผมเรื่องนี้หมดแล้ว
ฉันมองลีแอน นั่นเขาพล่ามอะไร ? ก้อนหินร้องเพลงเหรอ ? เรื่องตลกใช่ไหม ?
ลีแอนมองข้ามไหล่เธอด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หัวเราะให้พอนะ แต่แถวนี้มีก้อนหินที่หงายอยู่กับก้อนหินใหญ่ที่ถูกสิง เมื่อตอนที่คนกลุ่มแรกย้ายมาที่เฟรนด์ลี่ คอร์เนอร์ มีสะเก็ดดาวตกพุ่งชนกันบริเวณที่เรายืนอยู่ตอนนี้ และมันก็ทำให้คนตายไปเยอะ ส่วนคนที่เหลือก็ไม่ได้ย้ายหนีไปไหน พวกเขาแค่ย้ายลงไปอยู่ใกล้แม่น้ำ และสร้างใจกลางเมืองขึ้น
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับก้อนหินที่ร้องเพลงได้ด้วยล่ะ? ฉันถาม
(ติดตามอ่านตอนต่อไปค่ะ)