แผ่นดินมหาราช ( ตอนที่ 2 ) ค่ะ

สุชาดา โมรา

เจ้าหญิงรู้สึกตกใจมากเมื่อรู้ว่าชายคนนั้นคือเจ้าชายเทวธิราช  เจ้าหญิงยืนนิ่งจนเจ้าชายต้องเอื้อมมือไปจับมือของพระองค์เอาไว้และสวมแหวนให้  พิธีราชาภิเษกจึงเริ่มขึ้นตามพิธีการของแคว้นราชันย์อุไร
เสียงแตรดังประโคมกึกก้อง  เครื่องดนตรีหลายชนิดบรรเลงดังรัวราวกับตอบรับความยินดีที่กำลังจะเกิดขึ้น  เจ้าชายจูงมือเจ้าหญิงออกไปเต้นรำกลางท้องพระโรงซึ่งจัดไว้เป็นลานเฉลิมฉลอง  
เจ้ารู้ไหมว่าพี่รอเจ้ามานานแสนนาน
รอเหรอเพคะหม่อมฉันคิดว่าเจ้าพ่อส่งหม่อมฉันมากระทันหันเสียอีก  เหตุใดจึงทรงบอกว่ารอหม่อมฉันหรือเพคะ!!!
พี่จำได้ว่าพี่เคยพบเจ้าเมื่อเจ้ายังเล็กนัก  ที่วังแห่งนี้
เหรอเพคะหม่อมฉันคิดว่าหม่อมฉันไม่เคยมานะเพคะ
เจ้าเคยมาเจ้าหญิงมินทรา  พี่จำได้ดีว่าเจ้าวิ่งเล่นในสวนดอกไม้  ขณะนั้นเจ้ายังเล็กนักคงจำความอะไรไม่ได้มากเพราะเราก็อายุห่างกันถึงสิบปีไม่ใช่หรือ
เพคะหม่อมฉันเริ่มรู้สึกว่าคับคล้ายคับคลาว่าเคยเล่นกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง  แต่หม่อมฉันจำไม่ได้ว่าใครเพคะ  เพียงแต่เด็กผู้ชายคนนั้นเขาได้มอบของไว้ให้หม่อมฉันอย่างหนึ่งเพคะ
ใช่พี่ให้สิ่งนี้กับเจ้า
เจ้าชายถอดแหวนมุกสีดำที่คล้องอยู่ที่คอออกมาทันที  จากนั้นจึงยื่นให้เจ้าหญิงดูขณะที่ผู้คนในงานต่างเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน  เจ้าหญิงแสดงท่าทางดีใจจากนั้นจึงถอดแหวนออกมาจากนิ้วก้อยยื่นไปเทียบกับแหวนวงนั้นทันที
เป็นแหวนวงเดียวกันเพคะหม่อมฉันจำได้แล้วเพคะหม่อมฉันจำได้ว่าตอนนั้นหม่อมฉันสวมแหวนวงนี้ไม่ได้  น่าขำอยู่เหมือนกันนะเพคะที่จู่ ๆ เราต้องกลับมาเจอกันอีก
เจ้าชายกอดเจ้าหญิงไว้ไม่ยอมให้ห่างกายไปไหน  พระเจ้าปฐมเทพรู้สึกว่าเจ้าชายมีใจให้กับเจ้าหญิงก็ดีใจเพราะทั้งสองเมืองจะได้มีความสัมพันธ์กันแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น  แต่พระองค์ก็หาทราบการต่อไปที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังจากความไว้เนื้อเชื่อใจของพระองค์ที่มีต่อเมืองกัญจาศรี
เจ้าชายทำพิธีเปิดผ้าคลุมหน้าตามประเพณีของเมืองกัญจาศรี  จากนั้นเจ้าหญิงจึงคุกเข่าลงและปลดผมออกมาลูบที่เท้าของเจ้าชายเพื่อแสดงความจงรักภักดีอย่างชาวกัญจาศรี  สร้างความประทับใจให้กับเชื้อพระวงศ์และข้าราชบริพาลที่มาร่วมเฉลิมฉลองในงานยิ่งนัก  เจ้าชายจึงเริ่มทำพิธีอย่างชาวแคว้นราชันย์อุไรที่แสดงความรักต่อเจ้าสาวโดยการจูบที่ฝ่ามือเบา ๆ และกอดเจ้าหญิงเอาไว้  จากนั้นจึงพาเจ้าหญิงเดินลอดซุ้มกระบี่นับพันเล่มและอุ้มเจ้าหญิงเข้าเรือนหอทันที
ทั้งสองพระองค์เปลี่ยนเครื่องทรงเจ้าหญิงนั่งลงที่เตียงด้วยท่าทางเขินอาย  เจ้าชายนอนราบบนเตียงอย่างสบายอารมณ์  จากนั้นจึงเอื้อมมือมาคว้าตัวเจ้าหญิงให้มานอนเคียงข้างกายไม่ยอมให้ห่างไปไหน
เจ้ารู้ไหมว่าแต่ก่อนแคว้นเก้าแคว้นที่มีอยู่นี้มาจากแคว้นอุไรเพียงแคว้นเดียวพวกเราทุกแคว้นเป็นพี่น้องกันและหนีตายตอนที่เกิดมหันตภัยครั้งร้ายแรงที่สุด  จากนั้นก็มาแยกดินแดนและตั้งรกรากเป็นอาณาจักรที่เกรียงไกร
หม่อมฉันก็พอจะทราบเหมือนกันเพคะ  แต่หม่อมฉันไม่รู้รายละเอียดอะไรมากมายนอกจากคำจารึกและภาพบนผนังที่บ่งบอกถึงอารายธรรมที่เคยมีมา  พร้อมทั้งภาพมหันตภัยที่เตือนชาวโลกอย่างเราให้ตระหนักและระวังภัยเท่านั้นเองเพคะ
ใช่เมืองอุไรหนึ่งเดียวในพิภพนี้ได้จมหายไปกับภัยธรรมชาติที่เราไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้  เมืองของพี่เป็นเมืองของพระโอรสองค์โตจึงใช้ชื่อเมืองตามชื่อของกษัตริย์และคงชื่อเมืองเก่าไว้ด้วย
เจ้าชายนอนเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เจ้าหญิงฟังจนกระทั่งเผลอหลับไปทั้งคู่  ทั้งสองพระองค์ดูมีความสุขมากจนเจ้าหญิงได้ลืมคำสั่งของพระเจ้าเมียงเตะผู้เป็นบิดาไปเสียสนิท
เจ้าหญิงตื่นบรรทมแต่เช้า  เมื่อมองไปข้าง ๆ ก็ไม่เห็นเจ้าชายจึงรีบลุกขึ้นและออกไปตามหาแต่เช้าเจ้าหญิงเปิดประตูห้องทันที
เจ้าหญิงมังคะเปลี่ยนเครื่องทรงเถอะมังคะ
ตุงจีคนสนิทรีบเข้ามาเก็บห้องและเปลี่ยนเครื่องทรงให้เจ้าหญิง  ชุดที่เจ้าหญิงใส่ยังคงเป็นชุดของชาวกัญจาศรีแต่พระองค์ไม่เอาผ้ามาคลุมหน้าเหมือนอย่างเคยตุงจีรีบนำกำไลข้อเท้ามาสวมให้เจ้าหญิงเพื่อแสดงว่าเจ้าหญิงได้อภิเษกไปแล้ว
ทำอะไรกันอยู่เหรอ
เจ้าชายเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่ยื่นให้เจ้าหญิงทันที  ตุงจีรีบถอนสายบัวเพื่อเป็นการแสดงความเคารพและรีบออกไปจากห้องทันทีเจ้าชายนำชุดของเจ้าหญิงที่อยู่ในตู้ออกมายื่นให้  จากนั้นจึงหวีผมให้กับเจ้าหญิง
พระองค์ตื่นบรรทมตั้งแต่เมื่อไรเพคะ
พี่ตื่นมาตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นแล้วก็รีบไปเก็บดอกไม้ที่หน้าผาใหญ่มาให้เจ้า
ไม่เห็นต้องไปไกลขนาดนั้นเลยเพคะ
ไม่มีดอกไม้ที่ไหนจะสวยเท่าที่นั่นอีกแล้ว
ขอบพระทัยเพคะ
เจ้าหญิงเอามือของเจ้าชายมาแนบไว้ที่ข้างแก้มแล้วก็หลับตาพริ้ม  เจ้าชายรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมากที่ได้มีเจ้าหญิงมาอยู่เคียงข้าง
ในเมื่อเป็นคนของพี่แล้วเจ้าก็ต้องใส่ชุดของคนที่นี่  พี่อยากให้เจ้าลองสวมชุดนี้ดูเพราะพี่เป็นคนไปเลือกมาให้เจ้าโดยเฉพาะเลย
เจ้าหญิงสวมใส่ชุดของชาวแคว้นราชันย์อุไร  ความงดงามของเจ้าหญิงกับชุดที่สวมใส่นั้นดูเข้ากันเหลือเกิน  ผมยาวสยายสีดำเป็นเงา  ผิวกายดูขาวและดูสง่างามยิ่งนัก  ใบหน้าสวยราวกับเทพธิดาผิวเนื้อละเอียดขาวอมชมพู  ทำให้เจ้าชายรู้สึกตะลึงเมื่อเจ้าหญิงเดินออกมาจากห้องแต่งตัว
เจ้าชายพาเจ้าหญิงไปร่วมโต๊ะเสวย  และจัดแจงให้ราชองครักษ์นำข้าวของในห้องรับรองแขกบ้านแขกเมืองมาเก็บไว้ในห้องส่วนพระองค์ที่ตำหนักขาว  และสั่งให้มีการปลูกดอกไม้หลากหลายชนิทไว้ในอุทยานเพื่อให้เจ้าหญิงได้รู้สึกสดชื่นเพราะพระองค์ทราบว่าเจ้าหญิงชอบดอกไม้ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว
.
เจ้าหญิงรัตนมณีเสด็จออกเที่ยวป่าด้วยม้าส่วนพระองค์เพราะพระองค์ทรงชอบการขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจ  เจ้าหญิงแอบไปเพียงลำพังเพราะไม่อยากให้ใครมาเห็น  อีกอย่างพระนางจรัสรัตน์ก็ไม่ทรงโปรดให้ราชธิดาออกไปเที่ยวเล่นนอกเขตพระราชฐาน  ด้วยความซุกซนเจ้าหญิงจึงผูกม้าไว้กับต้นไม้และรีบเปลี่ยนชุดเป็นผู้ชายเพื่อไม่ให้ใครจำได้  จากนั้นก็มานั่งเล่นน้ำที่ริมฝั่งทะเลสาบ
ไงไอ้น้องแต่งตัวสวยนี่คงจะรวยน่าดูเลยสิใช่ไหมพวกเรา!!!
ชายคนหนึ่งแต่งตัวแปลก ๆ พูดเสียงดังขึ้น  เมื่อเจ้าหญิงรัตนมณีหันกลับไปมองก็ตกใจมากเมื่อพบผู้ชายร่างใหญ่ถึงสามคนแต่งกายมอซอ  ท่าทางไม่น่าไว้วางใจตรงเข้ามาจะทำร้ายเจ้าหญิงเจ้าหญิงตะโกนร้องให้คนช่วยแต่ชายสามคนนั้นหัวเราะระรื่นราวกับเป็นเรื่องตลก
ผู้ชายอะไรวะ!!! ร้องว๊าย!
ใช่ลูกพี่นี่ไอ้น้องเป็นพวกลักเพศหรือเปล่า
เจ้าหญิงไม่ยอมฟังเสียงพวกนั้น  รีบวิ่งหนีและร้องตะโกนให้คนช่วยทันที  ชายทั้งสามวิ่งตามทันทีเจ้าหญิงสะดุดขาตัวเองล้มลงกับพื้น  ชายคนหนึ่งเดินมาดักทางด้านหน้า  ส่วนอีกสองคนตรงรี่เข้ามาจนถึงตัวเจ้าหญิง
อย่านะช่วยด้วย
ไม่มีใครช่วยหรอกที่นี่เป็นป่าอาถรรพ์ใครจะกล้าเข้ามา  ก็มีแต่เจ้านั่นแหละที่เข้ามาให้ข้าปล้น
ชายคนหนึ่งพูดขึ้นและก็ส่งเสียงหัวเราะระรื่น  ชายอีกสองคนจึงหัวเราะตามทำให้เจ้าหญิงรู้สึกหน้าเสีย  ใบหน้าซีดเผือดทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียวชายคนหนึ่งฉุดเจ้าหญิงให้ลุกขึ้นและเริ่มเข้าไปค้นตัวทันที  แต่เจ้าหญิงขัดขืนดิ้นรนหนีอย่างสุดชีวิต  เมื่อวิ่งหนีไม่พ้นจึงหันกลับมาสู้  เจ้าหญิงทั้งเตะและต่อยชายทั้งสามคนนั้นที่เข้ามาประชิดตัวจนกระทั่งผ้าคลุมผมหลุด  ทำให้ผมสยายยาวออกมา
ผู้หญิงสวยซะด้วย!!!!
ชายคนหนึ่งพูดขึ้นและก็หัวเราะพร้อมกับแสดงท่าทีว่าจะเข้ามาลวนลามขณะนั้นมีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นราชองครักษ์กำลังนอนเล่นอยู่บนโขดหินอย่างเพลิดเพลินเนื่องจากเขาออกเวรแล้ว  เมื่อเขาได้ยินเสียงใครคนหนึ่งร้องให้ช่วยเขาก็รีบวิ่งมาทันทีเขาแอบดูอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่าชายคนนั้นเป็นผู้หญิงแน่เขาจึงรีบเข้าไปช่วยอย่างไม่รอช้า
หยุดนะ!!!!
ราชองครักษ์คนนั้นจับกระบี่แน่นและจ่อไปที่คอหอยของชายคนหนึ่งทันทีทำให้ชายคนนั้นถึงกับขาสั่นรัวไม่กล้าขยับเขยื่อน
รีบไสหัวไปซะก่อนที่ข้าจะตัดหัวเจ้า
ชายสามคนนั้นรีบวิ่งหนีไป  เจ้าหญิงแสดงความขอบคุณราชองครักษ์คนนั้นทันทีราชองค์รักษ์คนนั้นจำได้ว่าผู้หญิงที่เห็นตรงหน้านั้นคือเจ้าหญิงราชนิกูลอันดับต้นของแคว้นราชันย์อุไร  จึงรีบคุกเข่าลงและยื่นมือขวามาประสานที่หน้าอกเพื่อแสดงความเคารพทันที
เจ้าจำเราได้เหรอ
พะย่ะค่ะ
เจ้าชื่อเรียงเสียงใดกันเราจะได้ปูนบำเหน็ดให้
ข้าบาทหาได้อยากได้ยศศักดิ์ไม่หากแต่ข้าบาทเพียงแต่จะปกป้องผู้หญิงไม่ให้ถูกใครรังแกเท่านั้นพะย่ะค่ะ
เราถามว่าเจ้าชื่ออะไร
กระหม่อมราเชนพระย่ะค่ะ
อยู่กับเราก็คิดว่าเราเป็นเพื่อนเจ้าละกันลุกขึ้นเถอะ
กระหม่อมมิอาจเอื้อมพระย่ะค่ะ
นี่เป็นคำสั่งของเราเจ้าจะกล้าขัดหรือ!!!!
เจ้าหญิงพูดเสียงดังทำให้ราเชนราชองครักษ์หนุ่มถึงกับสะดุ้งสุดตัวทีเดียว  เจ้าหญิงแอบอมยิ้มที่มุมปากแล้วก็ตบไหล่ราเชนเบา ๆ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเดินพาเจ้าหญิงไปชมดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้าผา  ดอกไม้ที่นี่ค่อนข้าจะเป็นดอกไม้ที่แห้งแล้ง  มีใบสีทองราวกับรวงข้าวแต่ความงามของดอกนั้นงดงามยิ่งนัก  มีสีม่วงงดงามเป็นอย่างมาก  เจ้าหญิงรู้สึกพอพระทัยที่ได้เห็นทุ่งดอกไม้บนเนินผามากมายขนาดนี้
กระหม่อมจะขึ้นไปเก็บให้พะย่ะค่ะ
ไม่ต้องหรอกราเชนปล่อยให้ดอกไม้มันสวยอยู่อย่างนั้นเถอะ
ราเชนไม่ฟังที่เจ้าหญิงพูด  เขารีบปีนขึ้นไปบนหน้าผาทันที  ทางนั้นสูงชันจนราเชนเกือบพลาดตกลงมาหลายครั้ง  เขาเก็บดอกไม้ได้กำหนึ่งและก็คาบไว้ที่ปากดอกไม้ที่ราเชนเก็บนั้นเขาได้คัดเลือกเป็นอย่างดี  เขาเลือกดอกที่ทั้งใหญ่และสวยเพื่อนำมาถวายให้กับเจ้าหญิงทั้ง ๆ ที่ดอกอื่นมากมายแต่เขาก็ไม่ยอมเก็บและแล้วเขาก็เหยียบไปที่ก้อนหินก้อนหนึ่งและพลัดตกลงมาทันที  แต่ดีที่เขาเกาะรากไม้ที่โผล่ออกมาตรงนั้นได้เจ้าหญิงรู้สึกตกใจมากรีบวิ่งเข้าไปใกล้ ๆ หน้าผานั้นทันที  เขาค่อย ๆ ไต่ลงมาอย่างระมัดระวังและนำดอกไม้นั้นยื่นถวายให้กับเจ้าหญิง
ขอบใจนะเป็นอะไรหรือเปล่า
ไม่เป็นอะไรพะย่ะค่ะ
เจ้าหญิงเห็นที่แขนเสื้อของราเชนขาด  บาดแผลถลอก  มีเลือดไหลออกมาซึมที่แขนเสื้อ  เจ้าหญิงจึงคว้าแขนของเขาและฉีกแขนเสื้อที่ขาดวิ่นของเขาออกเพื่อล้างแผลด้วยน้ำสะอาดที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา  เจ้าหญิงฉีกชายเสื้อของพระองค์เองและนำมาพันแผลให้กับราเชน  ราเชนรู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมากรีบคุกเข่าแสดงความเคารพและขอบคุณทันที
ไม่เป็นไรหรอกก็เรามันเพื่อนกันไม่ใช่เหรอเพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิ
2..
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ  ในอีกหลายเดือน				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน