กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว
มีหมู่บ้านชนบทชายแดนสยามแห่งหนึ่ง ประมาณ ๕๐ ครัวเรือน
ครอบครัวหนึ่ง ผัวตายเหลือแต่ลูกสาวอายุ ๑๖ ปี แม่ตัวอายุ ๓๒ ปี ลูกเขย อายุ ๒๐ ปี
วันหนึ่ง หน้าฝน หน้าทำนา ลูกเขยไถนาเสร็จแล้ว ก็ปล่อย อีเผือก ควายตัวเดียว ที่เป็น
สมบัติล้ำค่าของครอบครัวไปกินหญ้า ส่วนตัวเองก็ช่วยกันดำนาที่ทำเทือกนาเตรียมไว้ก่อน
แล้วนั้นจนค่ำ ตกค่ำเมียกลับบ้านไปก่อน ลูกเขยก็ตามหาวัวที่ปล่อยให้กินหญ้า
อีเผือกไปกินหญ้าเสียไกล พอดี คนต่างบ้านซึ่งไม่มีควายไถนา ก็จับเชือกอีเผือกจูงไป เมื่อ
ตอนบ่ายแก่ ๆ อีเผือกผิดกลิ่นก็ขัดขืน เดินไปช้า ๆ
ฝ่ายลูกเขยไม่เห็นอีกเผือก ก็ตกใจ กระวนกระวาย ไม่รู้จะทำยังไง เพราะสิ้นควายแล้วก็
ทำนาไม่ได้ จึงคิดว่าไปขอความช่วยเหลือจากศาลตาปู่บ้านที่หัวบ้านดีกว่า
เมือไปถึงศาลตาปู่ ก็คืดว่าถ้าคำบนบานของตนไม่ถูกใจตาปู่ ตาปู่ก็ไม่ช่วย เหล้ายา ปลาปิ้ง
ตาปู่ก็กินประจำจากคนบนอื่น ๆ อยู่แล้ว จึงคิดว่าตาปู่ชอบอะไรนะ ก็คิดได้ว่า แม่ยายของตน
ไม่มีผัวใหม่ จึงอธิษฐานบนบาลต่อตาปู่ว่า จะนอนกับแม่ยายแทนตาปู่หนึ่งคืน
เมื่อจบคำบน สานบานแล้ว ก็ตามหาควายไปตามรอย ฝ่ายอีเผือกเดินไปกับขโมยอยู่ดี ๆ ขโมย
ร้องตกใจว่า กลัวแล้วจ้า ไม่เอาแล้วจ้า จะไม่ทำอีกแล้วจ้า แล้วก็วิ่งหนีไป อีเผือกเมื่อเป็น
อิสระก็กลับทางเก่า ลูกเขยก็มากพบอีเผือก และนำกลับบ้าน เกือบดึก
เมียหาข้าวให้กินเสร็จเรียบร้อย ก็เข้านอน ฝ่ายลูกเขยนอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมา ไม่
เหมือนเก่า ถอนหายใจบ่อย ๆ เมียแปลกใจก็ถามว่า พี่เป็นอะไร ก็เล่าเรื่องให้เมียฟังทั้งหมด
ฝ่ายเมียก็ตกใจ กลัวว่าถ้าไม่ทำตามคำบนบาน ตาปู่เอาผัวตนเองตายแน่ เพราะชาวบ้าน
ต่างนับถือตาปู่ท่านนี้ว่าขลังนัก ใครบนบานอย่างไร ถ้าท่านช่วยแล้ว ไม่ทำตามสาบาน
ก็จะได้รับผลร้าย จึงพูดกะผัวว่า จะไปบอกให้แม่ตัวเองรู้
ฝ่ายแม่ยายฟังเรื่องของลูกสาวแล้วก็ตกใจ ถ้าลูกเขยเป็นไรไป ป่วยไข้ตายไปเพราะผิดคำสาบาน
ตาปู่ ตนเองและลูกสาวก็จะทุกข์ยากไม่มีคนดูแล จึงบอกให้ลูกเขยแก้บนกับแม่ยายได้
ฝ่ายลูกเขยก็ไปนอนแก้บนกับแม่ยายหนึ่งคืน
อยู่ต่อมา ลูกเขยกับลูกสาวไปเที่ยวงานและเทียวซื้อของในเมือง ให้แม่ยายเลี้ยงควายหนึ่งวัน
แม่ยายปล่อยอีเผือกหากินตามธรรมชาติ จนค่ำ แม่ยายปั่นฝ้าย ทำผ้าเพลิน ลืมจนค่ำ
อีเผือกไม่กลับบ้าน เมื่อลูกเขยกลับมากับลูกสาว ก็บอกให้ลูกเขย ปตามหาอีเผือก ลูกเขยเที่ยว
ตามอีเผือก ก็ไม่พบ กลับมาบอกแม่ยาย แม่ยายบอกว่า ให้ไปบนศาลตาปู่ ลูกเขยก็ไปบน
ตาปู่ด้วยคำบนบานเดิม และก็ตามได้อีเผือกกลับมา
เมื่อกลับถึงบ้านก็มาบอกเมียว่า ได้บนตาปู่ไว้อย่างนั้น เมียก็ไม่ว่าอะไร ฝ่ายลูกเขยก็ไปแก้บน
กับแม่ยาย
นับตั้งแต่วันนั้น ครอบครัวนั้นก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และแม่ยายก็ไม่คิดหาผัวใหม่
***นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า นิทานคือนิทาน บนแล้วอย่าผิดสัจจะ ต้องทำตามที่บน บนบวช ๑๐ วันก็ต้องบวช
ไม่ต่ำกว่า ๑๐ วัน