ช่วงสั้นๆที่พ่อแม่ผมทนคิดถึงลูกไม่ไหว จึงมารับผมจากสัตหีบไปอยู่ด้วยที่ กทม. ย่านลาดพร้าว สมัยนั้นซอยบ้านผม เป็นถนนลาดยางมะตอย แถมมีจำนวนหลุมบ่อมากกว่าทางเรียบ ฝนตกเพียงนิดเดียวน้ำก็ท่วมแล้วสภาพบ้านผมตอนนั้นเป็นสลัมขนาดย่อม มีบ้านไม้หลังคาสังกะสีสนิมเขรอะปลูกติดกัน 4 หลัง บ้านผมอยู่หลังในสุด ต้องเดินไปบนสะพานไม้ราว 30 เมตร ถึงจะเข้าบ้านได้ สภาพบ้านยกสูงขึ้น เพราะด้านล่างเป็นน้ำสีดำ มีระดับความเข้มของสีที่ Coke หรือ Pepsi ต้องเรียกทวดพ่อแม่ออกไปทำงานตั้งแต่เช้าทิ้งผม (ไม่ได้แปลว่า ทิ้งขว้างนะ) ไว้กับเครื่องเล่นเกมส์ ยี่ห้อ Artari ซึ่งถือว่า Hi so เอามากๆ ผมนั่งเล่นได้ทั้งวัน ครึ่งวัน หมดไปกับ Pack man อีกครึ่งวัน เป็น Battle Tank เพราะความบ้านนอกที่ไม่เคยเจอ แถมยังเล่นบนทีวีสี ยิ่งตื่นตาตื่นใจเข้าไปใหญ่ เพราะผมเคยดู แต่ ทีวี 3 สี คือ ดำ เทา ขาวไม่นานนักก็เริ่มเบื่อ บอกแล้วว่าผมเป็นคนซนมาก ต้องหาแนวสนุกใหม่ๆเรื่อยๆ เลยออกมานั่งทอดหุ่ยบนสะพานทางเดินเข้าบ้าน อึดใจนึงผมก็พบเพื่อนใหม่ แต่ต่างสายพันธุ์ เค้าคือปลาช่อนขนาดเขื่องพอๆกับต้นขาผมเพื่อนใหม่ผมมีสีขาวๆ ปุปะ ที่หัว หลายจุด เค้าทอดสมอลอยนิ่ง ดูเผินๆคงคิดว่าปลาปลอม .. นึกสนุกลองเอาหินปาลงข้างๆตัวเขา เสียงสาวไพเราะดังในหัวผม "ไม่มีสัญญาณตอบรับจากก้อนหินที่ท่านปาค่ะ" ถ้าผมได้เรียนธรรมในตอนนั้น คงคิดว่าเพื่อนผม บรรลุแล้ว ไม่ไหวติงนิ่งสนิทกับเหตุการณ์รอบตัว "เราปลงแล้ว" ท่านคงว่าอย่างนั้นผมเริ่มตีสนิทโดยการโยนข้าวสุก ไปตรงหน้าเพื่อนใหม่ สมอถูกถอนทันที แล้วเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ข้าวเม็ดขาวก้อนขนาดนิ้วโป้ง หายวับไปกับตา อ้าว! ยังไม่ปลงนี่หว่าพอเริ่มจะคุ้นเคยกันดีแล้วเลยถือวิสาสะตั้งชื่อให้ "ไอ้หงอก" เพราะจุดขาวๆบนหัว ดูราวคนผมหงอก คุ้นเคยกันมากเข้า เค้าก็พาเพื่อน ขนาดไล่เลี่ยกันมาให้ผมรู้จักอีก 2 คน (ตัว) ยุ่งเลยคราวนี้ เพราะ หัวหงอกกันทุกคน (ตัว) แต่ไม่ยากเกินจะจำได้ เลยมี หงอก2 หงอก3 ตามมา แอบอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไม เค้าหัวหงอกกันทุกคน (ตัว)แม่ผมจะกลับบ้านตรงเวลาทุกวันคือ 6 โมงเย็น ผมจะไปนั่งรอแม่ที่ม้าหินอ่อน หน้าสะพานเสมอ วันนั้นฝนตกปรอยๆ ผมเห็นแม่แต่ไกล แม่ใส่ชุดออฟฟิศ สีน้ำเงินอ่อน ตรงปกขลิบขาวเล็กๆ ภาพแม่เข้าใกล้มาเรื่องๆ แต่แล้วจู่ๆ แม่ก็โดดลงไปในแอ่งน้ำที่ขังอยู่บนถนน ผมไม่รู้ว่าแม่ทะเลาะกับอะไร เห็นปล้ำตบตีกันชุลมุน ผมรีบวิ่งไปหาแม่ทันทีคู่ชก ของแม่ คือ ปลาช่อนตัวเกือบเท่าผม (วัย 5 ขวบ) กำลังชกกันนัวเนีย ระฆังก็ไม่มีทีท่าว่าจะลั่นหมดยกสักทีบ้านผมมีเรือพลาสติกลำน้อยๆสีฟ้า เพื่อเอาไว้ใส่ของจากร้าน หรือ ตลาดเวลาน้ำท่วม ... เจ้าช่อน คู่ชกของแม่ นอนในเรื่อด้วยอาการ เกรี้ยวกราด ไม่ยอมแพ้ ราวกับจะบ่นว่าไม่แฟร์ เพราะเล่นชก 2 รุม 1ถึงบ้านเราสองแม่ลูกมองหน้ากัน ผักกระเฉด และเครื่องแกงส้ม ที่เป็นของประจำตู้เย็นบ้านเรา พร้อมอยู่แล้ว เห็นชัดเจนว่า ปลายทางของคู่ชกของแม่จะจบตรงไหน เวลาผ่านไปหลายอึดใจ เรายังตัดสินใจไม่ได้ จนกระทั่งพ่อผมขี่รถ SuZuki Rc 100 คันเก่งกลับมาถึงบ้าน ประชาธิปไตยภายในบ้านจึงเริ่มขึ้น 3คน ย่อมมี ข้างน้อยและข้างมากแน่ๆ ผลการลงคะแนนเสียง ปรากฎว่า "งดออกเสียง" ทั้ง 3 ผู้มีสิทธิเพื่อนผม 3 คน (ตัว) มีพี่เบิ้มคุมบ่อ (คงต้องยกตำแหน่งให้เค้าเพราะขนาดต่างกันมาก) คน (ตัว)ใหม่ลงไปร่วมแก๊งค์ด้วย ไม่นานเกินรอ พี่เบิ้มก็เริ่มหัวหงอก พ่อผมบอกว่า หัวมันไม่หงอกหรอก แต่มันเป็นขี้กลาก เหมือนผมเวลาที่ขี้เกียจอาบน้ำ อดสงสัยไม่ได้ว่าเพื่อนผมอาบน้ำตลอดเวลา แล้วทำไมยังเป็นขี้กลากหว่าแบบนี้ต้องเดินทางสายกลาง คือ อาบบ้าง ไม่อาบบ้าง คงจะไม่เป็นขี้กลากเป็นแน่แท้