ผีหลอกผม
EthanHank
ผมริเป็นสิงห์อมวันตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น โดยแอบเก็บก้นบุหรี่ที่เหลือจากพวกขี้เหล้าแถวบ้าน แล้วแอบไปปฏิบัติการ ที่บ้านบนต้นมะปรางของผม
หลังบ้านผม มีต้นมะปรางต้นใหญ่ (มาก) คุณสมบัติที่ดีของต้นมะปรางคือ กิ่งก้านของมันไม่เปราะ เหนียวมาก ไว้ใจได้
เราค่อยๆลำเลียงไม้กระดานขึ้นไปเหมือนนกที่คาบเศษหญ้าไปสร้างรังทีละเส้น สำเร็จเสร็จสิ้น หมู่บ้านบนต้นมะปราง มี 3 หลัง ด้วยกัน บ้านผมอยู่ในทำเลที่ดีที่สุด เพราะใช้อำนาจสิทธิ์ ว่าเป็นเจ้าของต้นมะปรางต้นนี้
ข้าวเช้าและเย็น กินบ้านใครบ้านมัน ส่วนข้าวกลางวัน ถ้าเราไม่ไปซนที่ไหน ก็จะมารวมตัวกันกินที่ห้องรับแขก (มีห้องรับแขกด้วย หรูจัด) ซึ่งอยู่ชั้นล่างสุด
เราใช้ระบบลอกลำเลียงสิ่งของที่ต้องการไปตุนไว้ น้ำปลา กะปิ น้ำตาล ขนม ที่ขาดไม่ได้คือ หนังสือ การ์ตูน (ตอนหลัง มี เอ่อออ หนังสือ โป๊ แถมมาด้วย) ซึ่งมีหีบหับไว้เก็บอย่างดี
ถ้าคุณจะนึกถึงภาพ "บ้าน" ของพวกผมให้นึกถึง โลงศพที่มีแค่ 3 ด้าน ตรงปลายเท้าเปิดโล่ง จะว่าไปก็แค่กันไม่ให้เวลาเผลอหลับ แล้วตกแอ้ก ลงมานั่นเอง หมอนเน่าๆอีก 1 ใบ เป็นอันครบ เฟอร์นิเจอร์ ขนาดของบ้าน กว้างพอให้นั่งขัดสมาธิ ได้ และล้มตัวลงนอนได้พอดิบพอดี
วันหนึ่งย่าผมรู้เข้าว่าเราแอบไปทำ "บ้าน" (รัง) ไว้ หลังจากอาบน้ำประแป้งจนขาววอก กินข้าวอิ่ม ย่าเริ่มเล่ากึ่งๆนิทาน ว่าต้นไม้ทุกต้น จะมีสิ่งที่ "เคย" มีชีวิตอาศัยอยู่ และจะผสมผสานจิตใจเข้ากับเนื้อไม้ต้นนั้น เวลาเราเอาตะปูไปตีตอก หรือเอาคมมีดคมเลื่อยไปฟัน มันจะเจ็บปวด และ ร้องครวญครางในเวลาดึกสงัด เอาล่ะสิ!
ในตอนนั้นผมเป็นคนกลัว สิ่งที่"เคย"มีชีวิต ขี้ขึ้นหัว หลังไม่เหลือแสงอาทิตย์แล้ว บันไดขั้นสุดท้าย อย่าหวังจะได้ต้อนรับเท้าของผม ย่าบอกว่า ผีจะคอยจับขาตรงบันไดขั้นสุดท้าย เรื่องอะไรจะยอมให้จับ ไม่ได้โง่นี่นา
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นประกอบกับรู้สึกกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก ผมรวบรวมความกล้า พกพาความมั่นใจมาเต็ม "ห่อ" เป็นห่อผ้ายันต์สีแดงซึ่งทำหน้าที่เป็นที่บรรจุ"ความมั่นใจ" ของผมนับ เกือบ 100 องค์
แสร้งทำลุกมาฉี่ แล้วแอบลงบ้าน เดินไปที่โคนต้นมะปราง พร้อม กับ 2 ด่าง คือ ไอ้ด่างกับอีด่าง หูลู่ ส่ายหางจนสั่นไปถึงตูด เดินตามผมไปด้วย พอใกล้ๆโคนต้น เท่านั้นล่ะ ฉิบ! เสือกหอน
ระดับ"ความมั่นใจ"ของผมแปรผกผันกับความยาวและระดับความดังของ เสียง 2 ด่าง
ถึงโคนต้นจนได้ ในจังหวะที่ 2 ด่างหยุดหอน ผมได้ยินเสียงร้องไห้!!!
ไม่ต้องห่วงครับตอนนั้นถ้าโอลิมปิคมีแข่งวิ่ง 20 เมตร เป็นเป็นเจ้าของเหรียญทองแน่ๆ ปู่ย่าตื่นตกใจที่ได้ยินเสียงหลานวิ่งตึงตังผลุบเข้ามุ้ง เปิดไฟมาถาม "ผีหลอกครับ" เดือดร้อนปู่ต้องเอาน้ำมนต์มาพ่นและกล่อมจนหลับ
ปกติหลังกินข้าวเช้าเสร็จถ้าไม่ไปซนที่ไหนก็เจอผมแน่ครับบน "บ้าน" แต่วันนี้ขอเช็คชัวร์ก่อน แดดแรงได้ที่ จึงอืดรุดไปที่เกิดเหตุ
เหงยหน้าขึ้นไป ผมประหลาดใจ ที่เห็นเพื่อนขึ้นไปนั่งเขลงอยู่บน "บ้าน" ของเขาแล้ว ซึ่งปกติเราจะรอและปีนขึ้น "บ้าน" ไปพร้อมกัน
สังเกตุแล้ว ใบหน้ามันเกรอะกรัง ตาบวมฉึ่ง "ทำไมมึงขึ้นไปก่อนพวกกูวะไอ้ต้อ"
ถึงตรงนี้ย้อนกลับไปอ่านที่ต้นเรื่องก่อนได้เลยครับ
......ผมริสูบบุหรี่ตั้งแต่สมัยหัวเท่ากำปั้น บน"บ้าน"ต้นมะปราง
ไอ้ต้อ ไปศึกษาและอาจจะไปลอง พรีเทสต์ มาก่อนแล้ว มันจึงพกยาขื่น ของตามันมา 1 มวน พร้อมหมากอีก 1 จีบ
มันเคยกินหมาก แต่คงไม่เคยกินหมากแล้วสูบยาไปด้วย! หลังจากเสร็จการทดลอง พวกผม 3 คน ลงมาก่อนมัน
หลังจากตะโกนไถ่ถามกันในระดับ 1 แหงน 1 ก้ม ได้ใจความว่า "เหี้ยแม่ง มึนจัดจนเผลอหลับ ตื่นมาก็มืดมากแล้ว หิวข้าวก็หิว แต่ไม่กล้าลง กลัวผีผลัก แถมหมามึงหอนอีก ผีมาแล้วแน่ๆเลย"
ผมรู้แล้วล่ะว่าเมื่อคืนผีตนไหนมันร้องไห้ ให้ผมได้ยิน ผมนี่คงเป็นแรงบันดาลใจของ DJ ป๋องแหงๆ
ทำไมผมถึงอยากลองสูบบุหรี่ ผมไม่ได้อยากเท่ห์แบบพระเอกหนัง รึอยากรู้ในฤทธิ์ของมัน แค่อยากมีควันออกจากปากเวลาพูดแบบ ฝรั่ง ... ดูด อม พ่น......อ่าห์ กูอยู่ลอนดอนแล้ว