นวนิยาย : ปางอดีต ( ตอนที่ 4 )
สุชาดา โมรา
เขาเรียกชื่อนี้ขึ้นมาทำให้เธอตกใจมากเพราะไม่คิดว่าจะมีใครเรียกชื่อนี้ได้อีก เธอคิดว่ามีเพียงเธอคนเดียวเสียอีกที่รู้จักชื่อนี้
นั่นก็ต้องหมายความว่าเขารู้แล้วว่าเราเป็นหลานเขาในชาติที่แล้วแน่ ๆ.น้ำผึ้งนึก
ขณะที่นายตำรวจหนุ่มเงยหน้ามองน้ำผึ้งแก้วนั้นเขาเห็นเธอใส่ไสบสีทองทับสไบแพรสีเหลืองนวล ผมของเธอประบ่าสวมเข็มขัดทองประดับไปด้วยเพชรนิลจินดานุ่งผ้าจีบนางสีเขียวขี้ม้าราวกับที่เขาเห็นในความฝันทำให้เขานึกถึงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ภาพความทรงจำในนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในจิตใจเขาตลอดเวลา เมื่อเขามองไปที่ข้อมือของตัวเอง เขาก็เห็นกำไลที่เขาให้เธอในความฝันเขาถึงกับตกใจเพราะไม่คิดว่ากำไลวงนี้จะมีจริง เพราะเขาคิดมาโดยตลอดว่าฝันไปเท่านั้น
กำไลเชือกเส้นนี้มาจากไหน
ของผึ้งเองค่ะพี่เอกดร.เกษม อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยให้มาเมื่อวานนี้ ผึ้งก็เลยเอามาใส่ให้พี่พี่รู้ไหมว่าพี่หลับไปวันหนึ่งเต็ม ๆ เลย
เหรอแล้วแก้มแฟนพี่ล่ะ
นอนรอดูอาการอยู่ค่ะไม่รู้ว่าเธอจะฟื้นหรือเปล่า
ทำไมก็เธอไม่รู้สึกตัวเลยเหมือนที่พี่เอกเป็นนั่นแหละค่ะ
น้ำผึ้งนั่งคุยกับนายตำรวจหนุ่มอยู่ครู่หนึ่งเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ค่ะค่ะค่ะ
น้ำผึ้งต้องลากลับก่อนเธอรีบไปที่สำนักงานสาขา 2 เธอไปพบคุณอุดมซึ่งเป็นนักโบราณคดี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเมืองโบราณ เธอคุยกับเขาและไปเป็นไกด์พาเขาเที่ยวชมโบราณสถานของลพบุรี
คุณทำงานที่นี่มานานแล้วเหรอครับ
ก็ไม่นานเท่าไรค่ะแต่อาศัยเป็นคนเกิดที่นี่โตที่นี่ก็เลยรู้เรื่องราวต่าง ๆ ได้ดีอีกอย่างฉันเองก็ไม่ได้อยากจะมาเป็นไกด์หรอกนะคะ ฉันอยากเป็นส่วนหนึ่งของกรมศิลปากรมากกว่า
แล้วทำไมคุณไม่ไปสอบล่ะครับ
ฉันคิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นโอกาสทางธุรกิจคงจะไม่เติบโตพอดีมีเพื่อนเรียนนิเทศศาสตร์ก็เลยคุยกันแล้วก็ตั้งสำนักงานทัวร์เล็ก ๆ ขึ้นมา พอมีลูกค้ามากขึ้นรายได้เริ่มอิ่มตัวก็ขยายสาขา ที่จริงฉันคุมอยู่ที่กรุงเทพฯ นะแต่ว่าตอนนี้เพื่อนฉันลาคลอดก็เลยต้องวิ่งไปวิ่งมา 2 ที่
อืมลูกน้องไม่มีใครมาช่วยเหรอครับ
ก็มีเหมือนกันค่ะ แต่ว่าใครล่ะจะรู้เรื่องลพบุรีได้เท่าฉันกับยายนุชเพื่อนของฉัน
มันก็จริงอยู่หรอกครับคุณน่ะเก่งออกขนาดนี้
ไม่ได้เก่งอะไรนักหรอกนะเพียงแต่ชอบก็เลยทำตรงนี้ คุณรู้ไหมว่าฉันไม่ได้จบทางด้านนี้มาโดยตรง
อ้าว!!!!
ฉันเรียนจบคณิตศาสตร์มาค่ะ แต่พอชอบและคลั่งไคล้ในศิลปะและพวกสถาปัตยกรรมฉันก็เลยมาต่อโทโบราณคดีและประวัติศาสตร์ ฉันก็เลยอาศัยช่วงที่ว่าง ๆ อยู่ศึกษาให้เข้าถึงแก่นเลย
เหรอครับแล้วตรงนี้เขาเรียกว่าอะไรครับ
นี่เป็นหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎค่ะ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2405 สมัยรัชกาลที่ 4 ค่ะ แต่ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ลองเข้าไปดูหน่อยไหมคะ
น้ำผึ้งพาคุณอุดมชายหนุ่มผิวขาวท่าทางสมาร์ทหน้าตาคมคายเดินขึ้นไปบนตึกและพาชมรอบ ๆ พร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตนเองพอจะทราบให้เขาฟัง เมื่อเดินลงมาจากตึกเธอก็พาเขาไปชมบริเวณหมู่ตึกพระประเทียบ จากนั้นก็เดินย้อนกลับมาที่พระที่นั่งจันทรพิศาล เธอถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังกิริยา เมื่อเธอเห็นรูปเหมือนขององค์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เธอก็หมอบกราบทันทีทำให้คุณอุดมต้องหมอบกราบตามไปด้วย
ไม่รู้ทำไมนะคะ ทุกทีที่ฉันเห็นรูปปั้นหรือรูปเหมือนของพระองค์ ฉันเป็นต้องหมอบกราบทุกทีเลย
คุณอุดมยิ้มแล้วก็เดินเข้าไปภายในห้องโถงด้านใน น้ำผึ้งแนะนำพร้อมทั้งบอกเรื่องราวต่าง ๆ ของข้าวของที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์อย่างละเอียด
โอ๊ย!!!!
คุณอุดมคะเป็นอะไรไปคะ
คุณอุดมจู่ ๆ ก็ทรุดตัวล้มลงกับพื้น เธอหันซ้ายหันขวาพยายามหาคนมาช่วยแต่ว่าบนนั้นไม่มีใครเลย เธอจึงยกหัวของเขาขึ้นให้หนุนตักและเอายาดมให้ดม
คุณอุดมคะคุณอุดม
เสียงน้ำผึ้งเรียกอยู่ตลอดเวลา คุณอุดมก็ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
เสียงปี่พาดดังลั่นทั่ววังไปหมด สาว ๆ นางในนุ่งผ้าหน้านางไม่สวมเสื้อมีแต่ผ้าพาดบ่าสีทองผืนเดียวที่พอจะปกปิดกายา ในบรรดาหมู่สาวนางในนั้นน้ำผึ้งแก้วเป็นหญิงนางเดียวที่สวมใส่สไบนุ่งห่มมิดชิด วางจริตกิริยาอย่างนางหงส์ ผ้าที่หล่อนนุ่งห่มสมกับเป็นลูกผู้ถือยศศักดิ์ หล่อนเดินนำเหล่านางในทั้งมวลเดินเข้าไปในประตูชั้นในเพื่อตรงไปยังพระที่นั่งสุทธาสวรรย์
ขุนนางใหญ่น้อยที่มาเข้าเฝ้ายังท้องพระโรงมักจะไปแอบยืนมองนางในเสมอ ๆ โดยเฉพาะน้ำผึ้งแก้วซึ่งเป็นหลานของคุณท้าวเยาวลักษณ์ซึ่งมีเชื้อสายเจ้าทางสุโขทัย หล่อนจึงแต่งกายสมกับที่มีเชื้อสายเจ้าหล่อนเหมือนกับดอกฟ้าที่อยู่ท่ามกลางดอกหญ้าในสวนสวรรค์
นั่น.แม่หญิงมาแล้ว
เสียงใครคนหนึ่งตะโกนบอกพวกข้าราชการที่มายืนอยู่หน้าตึกท้องพระโรง
สมเด็จฯ ท่านเล่าแม่หญิง
ทรงพระทรงอักษรอยู่เดี๋ยวจะเสด็จมา รอก่อนนะเจ้าค่า
น้ำผึ้งแก้วตอบด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล หล่อนเดินมายังเบื้องหลังของท้องพระโรงโดยมีนางในอีก 2 คนเดินตามมาติด ๆ
หล่อนทำไมถึงแต่งตัวไม่เหมือนหญิงใด ๆ คนอื่น ๆ เล่าขอรับท่านเสนาฯ
หล่อนเป็นผู้ทรงศักดิ์ บรรพบุรุษของหล่อนสืบเชื้อสายเจ้ามาจากสุโขทัย พ่อของหล่อนเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ แม่ของหล่อนเป็นคุณท้าวนางห้ามข้างใน ส่วนที่ใหญ่ที่สุดนั้นเห็นทีจะเป็นเจ้าคุณย่าของหล่อน
ทำไมหรือขอรับ
ก็เจ้าคุณย่าของหล่อนเป็นคนที่เลี้ยงดูพระปีย์และยังเป็นคนสนิทของสมเด็จฯ ท่านอีกด้วย ฉะนั้นคนที่จะเกี้ยวแม่หญิงก็คงจะยากหน่อย ยกเว้น
ยกเว้นอะไรหรือท่านเสนาฯ
มีคน ๆ หนึ่งที่เข้าออกบ้านนั้นได้เห็นทีคงจะเป็นคุณหลวงบดินทร์นฤนาถญาติห่าง ๆ เชื้อสายราชวงศ์พระร่วงนั่นกระมัง
คนไหนหรือขอรับ
คนที่ยืนถือลอมพอกอยู่ใต้ต้นพุดจีบนั่นไง
ท่านเสนาฯ และคุณหลวงอุมศักดิ์มนตรียืนมองไปทางคุณหลวงบดินทร์นฤบาลที่ยืนทำท่าเหมือนกับรออะไรอยู่ใต้ต้นพุดจีบ ครู่หนึ่งแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วก็เดินออกมาหล่อนแอบยิ้มมุมปากแล้วก็ให้นางในคนหนึ่งนำห่อผ้าสีแดงเล็ก ๆ ยื่นให้คุณหลวง คุณหลวงก้มหัวแสดงความขอบคุณจากนั้นแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วก็เดินกลับเข้าไปในเขตพระราชฐานชั้นใน คุณหลวงบดินทร์นฤบาลแกะห่อผ้าสีแดงนั่นแล้วก็ยิ้ม
หล่อนเอาหมากให้คุณหลวงบดินทร์นฤบาลด้วย!!!!
ตกใจอะไรเขาอาหลานกัน
ข้าราชบริพารทุกคนเดินเข้าไปยังท้องพระโรง จากนั้นก็หมอบกราบ คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีนั่งใกล้กับคุณหลวงบดินทร์นฤบาล เขาจึงแอบกระซิบกับคุณหลวงบดินทร์ฯ เพื่อจะพูดเรื่องแม่หญิงน้ำผึ้งแก้ว
คุณหลวงขอรับ กระผมขอคุยกับคุณหลวงได้ไหมขอรับ
ได้สิ ใต้ต้นพุดจีบนะ
คุณหลวงบดินทร์นฤบาลมายืนรอคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีอยู่ใต้ต้นพุดจีบ เมื่อคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีมาถึงเขาก็เริ่มพูดเรื่องแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วทันที
ไม่ได้!!!! หล่อนยังเด็ก
คุณหลวงบดินทร์นฤบาลพูดหนักแน่นแล้วก็เดินออกจากเขตพระราชฐานมาทันที ปล่อยให้คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรียืนงงอยู่ที่ใต้ต้นพุดจีบ
คุณหลวงเจ้าคะ
แม่หญิง.!!!!
คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจเมื่อเจอหน้าแม่หญิงน้ำผึ้งแก้ว
อ้าวขออภัยเจ้าค่ะ อิฉันคิดว่าเป็นคุณหลวงบดินทร์นฤบาล
น้ำผึ้งแก้วเดินกลับไปยังเขตพระราชฐานชั้นในทันทีเพราะหล่อนไม่มีธุระที่จะคุยกับคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรี
เดี๋ยว.!!!! แม่หญิงเดี๋ยวก่อน
น้ำผึ้งแก้วหยุดชะงักแล้วก็หันกลับมาทันที หล่อนยืนนิ่งรอให้คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีเดินมาหา
มีอะไรหรือเจ้าคะ
นี่ให้แม่หญิง
อิฉันคงรับไว้ไม่ได้ดอกเจ้าค่ะ
ทำไมรึเจ้า
มันไม่งามเจ้าค่า
ถือว่าพี่ให้ไว้เพื่อผูกมิตรก็แล้วกัน
น้ำผึ้งแก้วจึงรับดอกพุดจีบมาแล้วก็แอบอมยิ้มนิด ๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปในเขตพระราชฐานฝ่ายในทันที
เดี๋ยว!!!! แม่หญิง
มีอะไรหรือเจ้าคะ
น้ำผึ้งแก้วหยุดเดิน หล่อนไม่ยอมหันกลับมา
พี่หลวงอุดมศักดิ์มนตรีบุตรชายเจ้าพระยาธรรมรัตน์เจ้ากรมเวียงอย่าลืมพี่เล่าเจ้า หากเจอกันก็ทักทายพี่บ้างนะเจ้า
เท่านี้ใช่ไหมเจ้าคะอิฉันต้องรีบกลับตำหนัก
น้ำผึ้งแก้วเดินลับสายตาเข้าไปในประตูเขตพระราชฐานฝ่ายใน คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรียืนมองอยู่หน้าตึกท้องพระโรง เขาเดินยิ้มออกมาจนกระทั่งมาหยุดชะงักเมื่อเจอหน้าคุณหลวงบดินทร์นฤบาล เขาทำหน้าตาดุดันจนคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีรู้สึกกลัว
คะคะคุณหลวง!!!!!
บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ายุ่งกับหล่อน!!!
คุณหลวงบดินทร์นฤบาลทำเสียงดุดันใส่ ในตาของเขาดูน่ากลัวเหลือเกินจนคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีตกใจ
..
เฮ้ย..!!!!!!!!
คุณอุดมคะเป็นอะไรคะ
น้ำผึ้งเห็นคุณอุดมผวาจึงเรียกด้วยความตกใจคุณอุดมศักดิ์ลุกขึ้นจากตักของเธอแล้วก็ทำหน้างง ๆ
ผมเป็นอะไรไปครับ
ไม่ทราบเหมือนกันค่ะจู่ ๆ คุณก็สลบ ฉันไปตามคนมาช่วยก็ไม่มีใครอยู่ฉันก็เลยให้คุณหนุนตักแล้วก็เอายาดมให้ดมคุณเป็นอะไรไปหรือเปล่าคะ ไปหาหมอไหมคะ
เอ่อไม่ครับผมคงเพลียเพราะผมนอนดึกมาหลายคืน ขอโทษด้วยนะครับ
ไม่เป็นไรค่ะนี่ก็เย็นมากแล้วเรากลับกันเถอะนะคะ
น้ำผึ้งเดินนำหน้าคุณอุดมออกมาหน้าพิพิธภัณฑ์ เธอยิ้มนิด ๆ แล้วก็เดินคุยกับคุณอุดมไปตลอดทาง
4
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ...ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตามผลงานมาโดยตลอดค่ะ