ของขวัญจาก...เพื่อน (จบ)

ศพเดินได้

รุ่งอรุณในวันนี้ช่างเป็นเช้าที่สดใสยิ่งนัก เป็นรุ่งอรุณที่ไม่เหมือนเดิม เหมือนกับโลกแห่งใหม่ที่มีแต่ความสุขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น  ทั้ง ๆ ที่กิจวัตรประจำวันก็เหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา แต่กลับดูเหมือนว่าไม่เคยมีชีวิตเช่นนี้มาก่อน แต่ทว่าเมื่อกลับมาหวนคิดถึงในเวลาข้างหน้า น้ำตาแห่งความเศร้าก็แทบจะพรั่งออกมา ในตอนนี้ผมไม่มีน้ำตาแห่งความสิ้นหวังอีกแล้ว หากจะมีแต่น้ำตาแห่งการลาจาก  ซึ่งจะเกิดในอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าเท่านั้น  ผมรอเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ เพียงเพื่อรอเวลาเที่ยงเพื่อที่ไปยังสวนหย่อมแห่งนั้น เธอคงจะมานั่นแหละ  ผมเดินไปยังบ่อปลานั่งลงที่โขดหินชมฝูงปลาที่แหวกว่ายในน้ำ ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลังผม ผมจึงหันไปมอง
            ตายแล้ว ฉันทำเธอตกใจหรือเปล่านี่ ใบฝ้ายนั่นเอง
            เปล่าเลย
            วันนี้เธอมาที่นี่เร็วกว่าปกติ
            เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะได้อยู่ที่นี่
            จริงสินะ  พรุ่งนี้เธอก็ไปจากเมืองนี้แล้ว ผมและเธอเงียบอยู่พักใหญ่เพราะไม่ต้องการที่จะพูดถึงเรื่องนี้ นี่แหนะนพ. เมื่อคืนวันเกิดที่บ้านเธอสนุกหรือเปล่า
            ก็ครื้นเครงดี ผมตอบสั้น ๆ เธอคิดดีแล้วหรือที่มอบของขวัญอันมีค่านี้ให้กับฉัน
            ฉันคิดดีที่สุดแล้ว. นพ อย่างที่ฉันบอกเธอเมื่อคืนนี้แหละ ฉันไม่เสียดายหรอกเพราะฉันอยู่ที่นี่อยู่ใกล้ตลอดเวลา แต่เมื่อเธอเก็บสร้อยนี้ไว้ ความทรงจำดี ๆ จะอยู่กับเธอ ผมคิดในใจ ผมและเธอพูดไปพูดมาก็หนีไม่พ้นเรื่องการจากไปของผมอยู่ดี ผมหัวเราะอยู่ในลำคอนิด ๆ 
           อือ. ใช่.  ฉันชอบบรรยากาศแบบเมื่อคืนนี้มากเลยนะ เธอไม่เคยบอกฉันนี่ว่าที่นี่มีแบบนี้ด้วย
           ฉันก็ไม่คิดหรอกว่าจะมีบรรยากาศแบบนั้นในคืนนั้น  เพราะมันเกิดขึ้นยากมาก สักครึ่งปีจะมีสักสามสี่ครั้งเท่านั้น โชคดีที่หนึ่งในวันนั้นเป็นเมื่อคืนนี้
           ใช่ โชคดีจริง ๆ ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ได้มาที่นี่  ฉันได้พบเธอที่นี่และได้พบกับธรรมชาติอันสวยงาม
           ฉันเองก็คิดว่าโชคดีที่ได้เจอกับเธอ ผมรู้สึกว่าคุยไปคุยมาอย่างไรก็ตามมันก็หนีไม่พ้นเรื่องนั้นอยู่ดี เก็บไว้อึดอัดเปล่า ๆ 
           พรุ่งนี้ฉันต้องออกจากที่นี่ตอนแปดโมงเช้า
           เร็วจังนะ เร็วเหลือเกิน แม้กระทั่งเวลานี้ก็ช่างเร็วเหลือเกิน ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับบ้านอีกแล้ว วันนี้เป็นวันเรียนพิเศษของฉัน เธอพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย ฉันไปนะ เธอพูดทำให้ผมหันไปหาเธอ
           เอ่อ..พรุ่งนี้ ผมไม่กล้าพูดต่อ
           พรุ่งนี้ฉันจะไปรอเธอที่หน้าโรงเรียนนะ ฉันคงต้องตื่นเช้าเสียหน่อย เธอพูดเหมือนเธอว่าผมจะพูดอะไรต่อ
           แล้วเจอกันนะ
           จ้ะ. เธอพูดแล้วเดินออกไปจากสวน ผมมองหาที่นั่งแล้วก็เจอโขดหินที่เคยนั่งกับใบฝ้ายข้าง ๆ บ่อปลา  ผมก็ไม่ช้าที่จะหย่อนก้นนั่งลง  มองดูปลาที่แหวกว่ายสายน้ำที่กระเพื่อมอย่างช้า ๆ ผมคิดถึงวันที่ผ่านมาที่ผมอยู่ที่นี่ และกล่าวคำอำรา ลาก่อนต้นไม้ที่ฉันรัก ลาก่อนฝูงนกฝูงแมลงที่น่ารัก ลาก่อนสายลมอันหอมหวน.
           ในค่ำคืนนี้ทุกอย่างเงียบกริบไม่ได้ยินแม้แต่เสียงจักจั่นไม่มีเสียงของสายลมทุกสิ่งกำลังหยุดนิ่ง มีแต่เพียงเด็กชายตัวน้อย ๆ ที่จ้องสายตาทั้งสองไปยังพระจันทร์ด้วยสายตาที่อาลัยอาวรณ์
                               ****************************************
            ตายจริง. ตื่นไวนี่วันนี้ ตื่นก่อนแม่เสียอีก คงอยากกลับบ้านเต็มที่สินะ
            ผมเก็บของผมเรียบร้อยแล้ว
            ดีจ้ะ เดี๋ยวแม่จะไปอาบน้ำจะได้รีบมาเก็บของ.ป้าลีตื่นหรือยัง
            ตื่นแล้วครับ   ทำอาหารเช้าอยู่หลังครัว
            เจ็ดโมงแล้วรีบเสียหน่อย แม่ผมพูดหลังจากหันไปมองนาฬิกาตั้งโต๊ะแล้วรีบลุกไปหยิบผ้าขุนหนูที่ตากอยู่นอกระเบียงแล้วเดินออกนอกห้องไป  มีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงที่จะได้พบกับใบฝ้าย ผมตัดสินใจเดินไปหาเธอที่บ้านของเธอ ผมกดออดที่หน้าบ้านเธอเสร็จ สักพักหนึ่งประตูหน้าบ้านก็เปิดออก เธอเดินออกมาแล้วแสดงสีหน้าอย่างประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
           นพ. เธอมาที่นี่ได้อย่างไร เธอถามผมด้วยความแปลกใจแล้วเดินมาหาผม พร้อมเปิดประตูรั้วออก
           เมื่อคืนฉันนอกไม่หลับ วันนี้เลยตื่นเช้าหน่อย จะได้มีเวลาร่ำลาเธอ ฉันอดที่จะไปพบเธอที่หน้าโรงเรียนไม่ได้
           ขอบใจที่มาหาฉัน ฉันเองก็นอนไม่หลับเมื่อคืนนี้  รอฉันสักเดี๋ยวนะ เธอพูดแล้วชวนผมมานั่งม้าหินอ่อนในสวนในบ้านของเธอแล้วเดินเข้าประตูบ้านไป ไม่นานเธอก็เดินออกมาอีกที ผมและเธอจึงพากันเดินไปยังสวนหย่อมด้วยกัน ผมสังเกตสีหน้าของเธอดูเธอสดใสเหมือนอย่างที่ผมเห็นทุกวัน  บางทีเธอคงต้องการอำลาผมด้วยความสุขใจไม่ใช่เศร้าใจ
           ฉันไม่คิดว่าเราจะได้อยู่ที่นี่ด้วยกันอีกในวันนี้ ถึงแม้จะเป็นครั้งสุดท้ายก็ตาม เธอพูดเมื่อเธอนั่งบนเก้าอี้หินอ่อน
           ฉันก็เหมือนกัน ขอบใจเธอมากใบฝ้าย ฉันคิดมาตลอดว่าฉันโชคดีที่ได้มาที่นี่และได้พบกับเธอในสวนนี้
           คิดถึงฉันเสมอนะ
           ฉันจะคิดถึงเธอเสมอ. นพ
           . ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่ออีกเพราะกลัวน้ำตาจะไหลออกมา แต่ยังไงก็ต้องพูดเพราะผมเตรียมมาเรียบร้อยแล้ว ผมล้วงกระเป๋ากางเกงด้านขวามือ แล้วหยิบออกมาให้เธอ ใบฝ้าย. โปรดรับสิ่งนี้ไว้เป็นที่ระลึกต่างตัวฉันด้วย เธอรับเอารูปปั้นแมลงเต่าทองที่ผมได้มาจากในห้าง ที่ท้องของมันผมเอามีดแกะชื่อผมไว้
           ขอบใจมากนะ.นพ ฉันจะเก็บไว้อย่างดี
           ฉันจะแขวนสร้อยนี้ไว้บนคอของฉันตลอด จะไม่มีวันห่างตัวฉันเด็ดขาด
           ขอบใจจ้ะ ทั้ง ๆ ที่ผมมีอะไรจะพูดตั้งเยอะ แต่เอาเข้าจริงแล้วผมกลับพูดอะไรไม่ออกสักนิด  แต่ความรู้สึกทุกอย่างมันแสดงออกทางสายตาของผม
           นพจ้ะ นี่เป็นคำร่ำลาสำหรับฉัน ฉันได้พบกับเธอที่นี่เป็นครั้งแรก ทันที่ที่ฉันเห็นหน้าเธอในต้อนนั้น ฉันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของคนที่ฉันพบ ด้วยความเหงาโดดเดี่ยวของคน ๆ นั้น ซึ่งก็คือเธอนพ  และเมื่อเธออยู่ที่นี่ถึงวันนี้เดี๋ยวนี้ ความรู้สึกเธอล่ะ โปรดบอกฉันที่ได้มั้ย เธออย่าหลั่งน้ำตาสินพ แล้วบอกฉัน บอกถึงความรู้สึกของเธอ เธอไม่เหงาแล้วใช่มั้ย ยิ้มเถอะแล้วทำสีหน้าให้สดใส. ต่อไปนี้เธอจะไม่มีสายตาแห่งความเศร้าอีกแล้ว หากแต่เป็นสายตาแห่งความหวังและความสุขเท่านั้น ผมพยายามกลืนน้ำตากลับ แต่เธอกลับหลั่งน้ำตาออกมาสวนทางกับผม ผมยังไม่สามารถแสดงสีหน้าที่เธอบ่งบอกแบบนั้นได้ แต่ผมรู้สึกได้ว่าบัดนี้ผมไม่มีความเหงา โดดเดี่ยว สิ้นหวังอีกแล้ว  มันเอ่อล้นไปด้วยแสงสว่างแห่งความหัวงที่จะเป็นใบเบิกทางไปสู่อนาคตอันสดใส
           เธอคงยังทำไม่ได้ เมื่อเธอจะพูดต่อทันใดนั้นลมเหนือที่พัดผ่านเข้ามาในสวนหย่อม ฝูงแมลงฝูงนกพร้อมใจกันส่งเสียงร้องเสมือนเพลงอำราใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นสู่พื้นดินอย่างช้า ๆ กลิ่นดอกไม้หลายชนิดที่ผสมกันเป็นกลิ่นของดอกไม้จากสวรรค์ ทั้งหมดนี้คือบทอำราจากเพื่อนผม
           ฉันเชื่อว่าที่แห่งนี้รับรู้ความรู้สึกและความทรงจำของเธอได้ เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ในตอนนั้นทีเดียวเมื่อผมและใบฝ้ายเหลือบไปเห็นแมลงเต่าทองนับสิบตัว ออกมาเกาะตามที่ต่าง ๆ ในสวน มันมาเกาะบนจมูกผมเหมือนกับวันแรกที่ผมมาที่นี่ บางที่อาจจะเป็นตัวเดียวกันก็ได้
           ใบฝ้าย.เธอหลับตาลงสิ เธอทำหน้างงไม่เข้าใจที่ผมพูดแต่เธอก็ทำตาม
           เอาล่ะ.ลืมตาแล้วจ้องดูฉัน เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าดวงตาทั้งสองดวงของเธอมองมาที่ผมและเมื่อเธอเบิกตาขึ้นสุดความตื้นตันใจก็เข้ามากระทบ
          ในตอนนี้ฉันเป็นอย่างที่ฉันควรจะเป็น นับแต่นี้ไปฉันจะไม่ใช่นพ เด็กคนก่อนอีกแล้ว เป็นอย่างไรบ้างสีหน้าของฉัน
          ดีมากจ้ะนพ แค่นี้ฉันก็อุ่นใจ เป็นสายตาที่ทีแววของอนาคตอันสดใสอยู่เต็มดวงตาคู่นั้นเลย เธอกระพริบตาลงพร้อมน้ำตาที่หลั่งออกมาจากดวงตาอันกลมใสน่ารัก พร้อมกับความอบอุ่นที่ผมได้รับไปตลอดกาล.
           รถคันหนึ่งมุ่งหน้าออกจากตัวเมือง เสียงร้องไห้ของเด็กคนหนึ่งดังตลอดทาง คนขับรถเอื้อมมือที่จับพวงมาลัยข้างหนึ่งมาเปิดวิทยุบนรถเพื่อหวังจะเปลี่ยนบรรยากาศเศร้า ๆ ของเด็กคนนั้น
           พรุ่งนี้ฉันต้องลาก่อน พรุ่งนี้ฉันต้องจากเธอไป ไม่รู้จะอีกนานสักเท่าไหร่
ยอดดวงใจจะกลับมาเจอ ห่วงเธอที่คงคิดไม่ต่าง  ห่วงเธอตอนที่ฉันไม่อยู่ ฝากฟ้าเดือนและดาวช่วยดู ให้เธอรู้ว่าฉันจะคิดถึง   เพราะฉันเป็นของเธอ เพราะเธอเป็นของฉัน เพราะเราเป็นของกันไม่มีวันจะเปลี่ยนไป  สัญญาเป็นสัญญาว่าจะมาพบกันใหม่  จากเพียงตัวและหัวใจฝากไว้ให้เธอช่วยดูแล    ขอบคุณกับความรักที่มี ขอบคุณกับหัวใจที่มอบให้  จากกันเพื่อจะมาพบกันใหม่ จากเพียงกาย แต่ใจเราผูกพัน หากวันใดเธอนั้นสับสน ให้เธอมองดาวบนฟ้า ก็จะเห็นฉันส่งยิ้มมาให้เธอได้สุขใจ..
           คนขับรถหมุนเปลี่ยนคลื่นเมื่อเจอเพลงที่ไม่หวังประสงค์ เด็กน้อยก็ยังคงหลั่งน้ำตาไปตลอดทาง น้ำตาแห่งการลาจาก
                                           *********************				
comments powered by Disqus
  • คนผ่านทาง

    9 กุมภาพันธ์ 2548 21:47 น. - comment id 82667

    ซึ้งจังค่ะ  เพียงแค่  4  ตอนแต่ได้อะไรหลายๆ อย่างเลยค่ะ  เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จูงใจให้อยากอ่านถึงตอนจบเลยค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน