ของขวัญจาก...เพื่อน (3)
ศพเดินได้
เข้าสู่วันที่ 4 เมษายน หลังจากที่ผมได้อยู่ที่นี่ได้สามวัน ตอนนี้ผมเข้ามาที่สวนหย่อมนี่อีกครั้ง ผมอยู่คนเดียว ตอนแรกผมไปเรียกใบฝ้ายที่บ้าน แต่ไม่รู้ว่าเธอไปไหน ที่บ้านของเธอก็ปิดด้วย เธอไปไหนทำไมเธอไม่บอกผมเสียหน่อยนะ
ผมนั่งลงที่เก้าอี้ยาว พลางพิจารณาธรรมชาติอย่างอิ่มเอิบใจ วันนี้อากาศดี
ลมพัดเย็นสบาย กิ่งใบ้ใบไม้ตีกัน เกิดเป็นเสียงที่ไพเราะ ฝูงแมลงบินเล่นกันอย่างสนุกสนาน ทุกสิ่งทุกอย่างในสวนนี้มันทำให้ผมเริ่ม ๆ เคลิ้มหลับอย่างช้า ๆ........
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ผมตื่นเพราะแมลงปอบินมาจอดที่จมูกผม จึงรู้สึกตัวขึ้น พระอาทิตย์เยื้องไปทางทิศตะวันออก คิดว่าคงประมาณบ่าย 3บ่าย
4 เห็นจะได้ ผมคิดว่าคนที่บ้านคงเป็นห่วงกันแล้ว จึงรีบกลับบ้าน
นี่.ไปอยู่ที่ไหนมา.ฮึ!! พี่น้ำเดินมาหาผมเมื่อผมเดินออกจากสวนหย่อม หน้าตาท่าทางบอกบุญไม่รับ
เอ่อ. คือผมไปเล่นในสวนครับ กำลังจะกลับอยู่ ผมรีบแก้ตัว
เร็ว !! รีบกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัว
ทำไม???
วันนี้มีงานวัดที่หลังโรงเรียน พวกแม่กับป้าลีล่วงไปกันก่อนแล้ว ทิ้งให้พี่ต้องมาพาเธอไป พี่จะรีบไปงานวัดนะ ไปอาบน้ำได้แล้ว
ครับ.ครับ ผมรีบเดินจ้ำกลับบ้าน เพราะขืนผมช้าพี่น้ำตีผมตายแน่ พี่น้ำเป็นคนโมโหง่าย แต่น่าเบื่อจัง งานวัดเหรอ?? คงมีเสียงดังแน่เลย ผมไม่ชอบเสียงดัง.
ผมออกจากบ้านกับพี่น้ำตอน 6 โมงเย็นพอดี ความมืดมิดของท้องฟ้าเริมปกคลุม เสียงเครื่องดนตรี ดังมาแต่ไกล
เร็วเข้าเดี๋ยวหาพวกแม่ไม่เจอ พี่น้ำจูงมือผมรีบจ้ำไปยังหลังโรงเรียน
บรรยากาศของงานวัดนี้แตกต่างจากสวนหย่อมอย่างสิ้นเชิง เสียงของเครื่องดนตรีดังจนแสบแก้วหู ผู้คนที่เดินกันพลุกพล่าน แสงสีเสียงสาดส่องเข้าตา ผมหรี่ตาแทบสนิท
นั่นไงพวกแม่ แม่!! แม่!! พี่น้ำตะโกนเรียกแม่ให้หยุดอยู่ข้างหน้า
ทำไมเพิ่งมา!!เราหายไปไหนมา แม่ตวาดผมเมื่อเห็นผม
ผมไปเล่นที่สวนครับ.ขอโทษ
ช่างเหอะ แถวนี้มีร้านอาหารอยู่เราไปกินข้าวเย็นที่นั่นเลยละกัน
ที่นี่มันช่างน่าเบื่อเหลือเกิน ผมไม่อยากอยู่ที่นี่เลย ผมอยากอยู่ที่ไหนก็ได้ที่เงียบสงบกว่านี้ ผมต้องหาทางปลีกตัวไปจากที่นี่แต่จะทำอย่างไรดี ผมหรี่ตาปี๋และหันหน้าหนีแสงไฟที่สาดส่องเข้าตา ชั่วเวลานั้น เวลาที่ผมหันหน้าหนีจากแสงนั้น ผมพอจะเห็นลาง ๆ คิดว่าใช่แน่ เธอนั่นเอง เธอคือใบฝ้าย เธอมาที่นี่และเธออยู่ตรงหน้าผม แต่ดูเหมือนเธอยังไม่เห็นผม ผมร้องเรียกเธอ แต่เสียงของเครื่องเสียงนั้นมีอำนาจมากกว่า เสียงผมไม่สามารถผ่านเข้าหูเธอได้ ขอร้องล่ะหันมาทางนี้หน่อยเถอะ บ้าชะมัดถ้าพี่น้ำไม่จับมือผมไว้ล่ะก็ผมคงได้เดินไปหาเธอแล้ว เธอค่อย ๆเดินหายไปกับแสงที่ส่องเข้าตาผม ผมหรี่ตาลงทันใดนั้นดูเหมือนผมจะเห็นเธอ เธอหันมามองผม สายตาเธอสบตากับผม เธอจะเห็นผมหรือ เธอค่อย ๆ เดินเข้ามาหาผม ใช่เธอแน่ เธอจริง ๆ และดูเหมือนเธอจะเห็นผมอย่างแน่นอน
เป็นเธอจริง ๆ ฉันกำลังลังเลใจอยู่ว่าเป็นเธอหรือเปล่า
ฉันก็เหมือนกัน ดีใจที่ได้พบเธออีกครั้ง ผมไม่นึกว่าจะได้เจอเธอที่นี่เลย น่าตกใจ แต่ผมก็ดีใจ เธอมาคนเดียวเหรอ ผมถามเธอ
เปล่า. ฉันมากับแม่ พอดีฉันกับแม่มาซื้อของแต่ฉันจะมาดูของที่ฉันชอบฉันเลยแยกกับแม่มาก่อน.แล้วเธอล่ะ.มาคนเดียวเหรอ ผมหันไปข้างหลังจึงรู้ตัวว่าพลัดหลง กับทุกคน เปล่า.ฉันมากับพวกป้าลีนั่นแหละ ฉันก็แยกมาเหมือนกัน ( ถ้าบอกว่าหลงเธอขำกลิ้งแน่ ) นี่.เราไปนั่งคุยกันฝั่งโน้นเถอะ ฉันอยู่ที่นี่หูแทบแตกแล้วล่ะ ผมชวนเธอออกไปนอกงานวัด ตรงที่ที่เป็นลานกว้างขนาดสนามฟุตบอล ผมกับเธอหย่อนก้นลงนั่งบนเนินหิน ที่นี่เงียบสงบ แสงและเสียงจากที่งานวัดไม่มีอำนาจมาถึงตรงนี้ ผมมองขึ้นฟ้าเห็นดวงดาวและพระจันทร์เต็มดวงส่องเป็นรัศมีจนเห็นกลุ่มเมฆสีเทาอยู่รอบ ๆ ที่นี่เป็นลานกว้างจึงมีลมพัดเย็นสบาย
นี่.ใบฝ้าย วันนี้ฉันไม่เห็นเธอเลย
พอดีวันนี้ฉันต้องไปร่วมงานศพของคนที่สนิทกับแม่ฉันน่ะ. เพิ่งจะกลับมาได้ซัก30นาทีก่อน
เธอมาที่สวนหรือ
อือ. ฉันมาที่นั่นแต่ไม่เจอเธอ พอฉันไปหาที่บ้านเธอ ก็ไม่มีใครอยู่เลย
จ๊ะ. ขอโทษที่ไม่ได้บอกเธอก่อน เธอตอบผมสั้น ๆ แล้วเงียบไปสักพักก็พูดขึ้นมาอีก นี่. นพ วันพรุ่งนี้ เอ่อ..วันที่ 5 ใช่มั้ย??
ใช่. ทำไมหรือ
วันพรุ่งนี้เป็นวัน..วันเกิดเธอใช่มั้ย วันที่ 5 เมษายน ผมสะดุ้งด้วยความประหลาดใจ เธอรู้ได้ไง ฉันไม่เคยบอกเธอนี่ ผมถามเธอด้วยความงุนงง
ฉันได้ยินป้าลีคุยกับแม่ฉันเมื่อวานนี้ เขาชวนไปงานวันเกิดเธอน่ะจ๊ะ
แล้วเธอจะมามั้ย??
ขอโทษนะ. ฉันอยากไปมาก. แต่พรุ่งนี้ฉันต้องไปงานศพอีกวันจ๊ะ.คิดว่าต้องกลับดึก พรุ่งนี้สวดน่ะ
อืม.ไม่เป็นไรฉันชินแล้ว เธอเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น ทำไมเธอพูดอย่างนี้ .นพ
ฉันเบื่องานวันเกิดฉัน
ทำไมล่ะ เธอไม่ชอบหรือ เธอน่าจะชอบนะเพราะเป็นวันเดียวที่จะสนุกที่สุดในแต่ละปีนะ เธอพูดด้วยท่าทางจริงจัง
ใช่. ฉันรู้ แต่ฉันไม่มีสิทธิที่จะสนุกกับงานวันเกิดของฉัน.ทุกปี ทุกปีเลยเธอรู้มั้ย. ไม่มีปีไหนที่งานวันเกิดฉันจะสนุกสนาน
ทำไมล่ะจ๊ะ. ฉันคิดว่าเธอจะได้สนุกกับเพื่อน ๆ
โชคร้ายวันเกิดฉันตรงฤดูร้อนไม่มีใครมางานฉันกันหรอก.เธอรู้มั้ยฉันอยากมีเพื่อนพอถึงงานวันเกิดเพื่อนฉันฉันก็ไป ฉันก็เห็นเพื่อน ๆ สนุกสนานกัน แต่พองานวันเกิดฉันสิ.มันช่างเงียบเหงาเหลือเกิน.ใบฝ้าย ถึงจะมีคนในครอบครัวจัดให้ก็เถอะ แต่เด็กที่ไม่ประสีประสาอย่างฉัน อยากจะสนุกสนานกับเพื่อน ๆ มากกว่า เราสองคนเงียบสักพัก ผมจ้องมองหน้าของเธอที่กำลังมองบนท้องฟ้า ดูเหมือนเธอกำลังคิดอะไรสักอย่าง. เสียงอันดังก้องกังวาล แสงและสีที่ประทุขึ้นบนท้องฟ้าก็บังเกิดขึ้นจนผมและใบฝ้ายสะดุ้งทันทีทันใด เฟี้ยว!!ตูม!! เสียงของพลุดังขึ้นติดต่อกันไม่เว้นสักระยะ
พลุสวยจัง ใบฝ้ายเอ่ยขึ้น
อือ สวย.สวย.เธอดูสิใบฝ้ายสวยราวกับดอกไม้ที่กำลังแย้มบานดอกมหึมาอยู่บนท้องฟ้า( ดูอะไรก็เป็นธรรมชาติไปหมด ) ผมและเธอชื่นชมกับพลุที่ประทุบนท้องฟ้า ราว 20 ลูก. จนผมเพิ่งจะนึกว่าผมพลัดหลงกับพวกแม่
นี่ ใบฝ้าย ฉันลืมไป ป่านนี้พวกแม่คงจะหาฉันวุ่นแน่ แม่เธอก็เหมือนกันแหละ เรารีบกลับเข้างานกันเถอะ ผมและใบฝ้ายรีบยืนขึ้นแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในงาน ผมและเธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย
************************