ของขวัญจาก...เพื่อน
ศพเดินได้
-------วันที่ 2 เมษายน 2535-------
เข้าสู่ฤดูร้อนเดือนเมษายน ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ร้อนกว่าทุกปี แต่ผมรู้สึกว่า
ปีนี้จะร้อนกว่าปีไหน ๆ เลยทีเดียว จนทำให้บางคนต้องหนีร้อนกันยกใหญ่ราวกับหนีตายจากสงครามโลก. ส่วนผม.ไม่ใช่สิ.ครอบครัวของผม หนีไปหลบร้อนที่ภาคเหนือ จ.น่าน ตามคำชักชวนของป้าลีที่เป็นพี่ของแม่ผม
อีกนานไหมกว่าจะถึง
อีกนิดนึงก็ถึงแล้วล่ะ
ผมไม่เข้าใจทำไมต้องเอาผมมาด้วย. ผมก็บอกแล้วว่าให้ผมอยู่กับน้าจันก็ได้นี่
โธ่. นพ น้าจันอยู่ดูแลทางบ้านก็เหนื่อยแย่แล้ว ยังจะให้มารับภาระดูแลลูกอีกหรือไง ผมกำลังจะพูดแย้ง แต่ก็มีเสียงหนึ่งแซงขึ้น
เอาล่ะ ถึงแล้ว เสียงพ่อพูด ทำให้การถกเถียงระหว่างผมกับแม่ยุติลง รถ
คันหนึ่ง วิ่งช้า ๆ จากต้นซอยถึงท้ายซอย สุดทางมีประตูขนาดใหญ่ ที่ด้านข้างประตูมีป้ายเขียนว่า โรงเรียนพุทราย และถัดจากป้ายโรงเรียน มีหญิงคราวเดียวกับแม่ยืนอยู่ สีหน้าบอกเห็นได้ชัดถึงการรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ รถของผมหยุด และในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทางเสียที
ฉันดีใจที่ได้พบเธออีก ลี แม่ผมทักหญิงคนหนึ่งหลังจากปิดประตูรถเรียบร้อย
ฉันก็เช่นกัน. นานทีที่เราจะได้พบกัน ป้าลีทักตอบพร้อมเหลียวไปมองพ่อผมที่เพิ่งปิดประตูรถ เป็นอย่างไรบ้าง พ่อองอาจตั้งแต่ที่ฉันมางานแต่งของเธอกับน้องสาวฉันก็ไม่ได้พบเธออีกเลย สบายดีหรือ ป้าลีทักทายพ่อผม
สบายดีครับ.ผมคิดว่าคุณคงสบายดีเช่นเดียวกับผม พ่อผมทักตอบอย่างสุภาพ
จริงสิ. ฉันได้ข่าวเรื่องที่เธอแจ้งให้ฉันรู้คราวก่อนว่าเธอมีลูก.สักเจ็ดปีได้แล้วมั้ง ตั้งแต่วันที่ฉันไปดูลูกเธอที่เพิ่งเกิดที่โรงพยาบาล ก็ไม่เห็นอีกเลย
ใช่. ลูกฉัน. ฉันพามาด้วย ชื่อนพ อายุเจ็ดขวบแล้ว. ไหว้ป้าลีเสียหน่อยสิลูก
สวัสดีครับ ผมยกมือไหว้ผู้หญิงที่พึ่งจะพบหน้าครั้งแรกแล้วกล่าวเบา ๆ
อยู่ป.1 จะขึ้น ป.2 เทอมหน้านี้ใช่ไหมจ๊ะ
ใช่ครับ
อากาศร้อน เราเข้าไปข้างในก่อนดีกว่านะ.ทุกคนรออยู่ ป้าลีชักชวนเราเข้าไปข้างในโรงเรียน. บรรยากาศข้างในโรงเรียนช่างดีเหลือเกิน มีต้นไม้ต้นใหญ่หลายต้น ภายในโรงเรียนที่เล็กไม่ใหญ่มาก จนในโรงเรียนมีร่มเงาของต้นไม้เกือบทั้งโรงเรียนพร้อมทั้งมีลมพัดเย็นสบายมีบ่อปลาเล็ก ๆ ที่ใสสะท้อนภาพบนท้องฟ้าราวกับกระจก. ดูแล้วช่างเหมือนกับปลาที่แหวกว่ายกลางอากาศ. หากจะเทียบกับนอกประตูของโรงเรียนกับในโรงเรียนนี่แล้วเหมือนกับสวรรค์ที่ถูกห้อมล้อมด้วยนรกหรือจะเปรียบเทียบกับโอเอซิสกลางทะเลทรายก็ว่าได้.พวกเราเดินไปถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงตะโกนดังที่บ่งถึงความดีใจสุดขีด.
พ่อ.พ่อ! พวกแม่มากันแล้ว!! เสียงหญิงสาวดังขึ้นพร้อมกับเสียงตึงตังภายในบ้าน มีคนเปิดประตูหน้าบ้านออกมาแล้ววิ่งมาทางเรา
สวัสดีค่ะ.น้าอ้อย ลุงอาจ เข้ามาข้างในก่อนสิคะ หล่อนชักชวนและเปิดประตูหน้าบ้านให้เราเข้าไป หญิงสาวรุ่นคนนี้ผมเดาว่าคงจะเป็นลูกสาวป้าลี
สวัสดีนะทุกคน.คุณอ้อยคุณองอาจและ.เอ่อ ชายวัยสี่สิบคนหนึ่งหยุดพูดเมื่อมองมาที่ผม
นพจ๊ะ. ลูกฉัน.ไหว้อากิจสิ แย่จังต้องให้แม่บอกทุกครั้ง
สวัสดีครับ.อากิจ ผมพูดด้วยน้ำเสียงเชิงประชดแม่ ผมเบื่อมากที่ต้องทำอะไรที่มันยุ่งยากอย่างนี้ ผมอยากมีชีวิตที่สุขสบายเรียบง่ายและสนุกสนานมากกว่า. เมื่อทุกคนทักทายกันเรียบร้อยป้าลีก็พาไปยังห้องพักที่ได้จัดไว้ให้ ผมเพิ่งจะ
ฉุกคิดได้ว่ารู้สึกเหนียวตัวคงเพราะอากาศร้อนอบอ้าวและสิ่งที่ผมควรจะทำก็คือการอาบน้ำ ผมลงไปอาบน้ำทันทีที่จัดของในห้องเสร็จ.ใช่แล้ว ผมจำได้ตอนที่เดินมายังบ้านหลังนี้ผมเหลือบไปเห็นสวนหย่อมเข้าน่าชื่นชมมากผมต้องรีบอาบ
น้ำเพื่อจะไปที่นั่น
จะไปไหนล่ะจ้ะ. นพ แม่ผมถามในขณะที่ผมกำลังจะออกไป
ผมจะไปเดินเล่นแถวนี้แป็ปเดี๋ยวครับแม่
ระวังงูเงี้ยวเคี่ยวตะขอด้วยละ เดี๋ยววุ่นวายกันใหญ่ ผมไม่ตอบ ผมรีบวิ่งออกไปยังสวนนั่น . เพราะเหตุใดผมไม่ทราบความรู้สึกของผมได้ ทันทีที่ผมเข้าไปสู่ส่วนหย่อมนี้. ประสาทสัมผัสส่วนจมูกก็รับรู้ถึงกลิ่นอันหอมหวานของดอกไม้นานาชนิด.ร่างกายกระทบกับสายลมอ่อน ๆ เหล่าฝูงแมลงนาชนิดบินว่อนกิ่งไม้ใบไม้โบกพัดพอเบา ๆ ราวกับจะต้อนรับการมาที่สวนนี้ของผม . นี่คือธรรมชาติ.ใช่แล้ว ผมชอบธรรมชาติ.ที่หลังบ้านผมก็มีสวนป่าที่ร่มรื่น ผมชอบสวนป่าที่บ้านผมมาก.ผมถึงไม่อยากมาที่นี่แต่ที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงามเหลือเกินสวยกว่าสวนป่าที่บ้านอีก.ผมเดินไปนั่งเก้าอี้และชื่นชมสวนหย่อมอย่างอิ่มเอิบใจ ดูสิมีบ่อปลาด้วย ปลาอะไรนี่ ว้าว..ปลาหางนกยูงนี่นา สวยจริง ๆ ผมสนทนากับตัวเอง. ธรรมชาติทำให้ผมสดชื่นสนุกสนาน ธรรมชาติเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมเสมอ. เวลาผมเหงา อ้างว้าง หรือโศกเศร้า เสียใจ ผมก็มักจะมาอยู่กับธรรมชาตินี่ล่ะ มันจะบอกผมว่า ไม่เป็นไรนะ อย่าคิดมากเลย ฉันจะอยู่กับเธอเอง ผมรับได้ถึงความรู้สึกที่ธรรมชาติส่งให้ผม. ในขณะที่ผมกำลังชื่นชมธรรมชาติ อยู่นั้น รู้สึกว่าจะมีแมลงตัวหนึ่ง .บินมาเกาะที่จมูกผม ผมเงื้อมือเตรียมที่จะปัดมันออกไป แต่ทันใดนั้น มีเสียงหนึ่งร้องทักขึ้น
เดี๋ยว ! หยุดก่อน !! ผมชะงักทันทีวางมือลงและหันไปมองเจ้าของเสียง
สวัสดีจ้ะ. เธอชื่ออะไร เธอถามผมพลางเดินเข้ามาหาผม. เท่าที่ผมดูเธอเป็นเด็กที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับผม น้ำเสียงและหน้าตาน่ารัก.แต่ผมรู้สึกเคืองที่มีคนมาขัดจังหวะความสุขของผม
อยู่นิ่ง ๆ ก่อนนะ เธอพูด. ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงพูดเช่นนั้น แต่ผมก็ทำตามที่เธอสั่งโดยที่ไม่รู้ตัว.เธอเดินมายืนข้างหน้าผมและเอื้อมมือมาจับตัวแมลง
อยู่บนจมูกผม ผมเห็นแมลงตัวนั้นบนมือเธอ ผมไม่รู้จักมัน.มันมีพื้นหลังเป็นสีแดง และมีจุดดำ ๆ บนตัวมัน
แมลงเต่าทองจ้ะเธอตอบเหมือนเธอรู้ว่าผมสงสัย ถ้าเมื่อกี้เธอปัดมันไป
มันจะตาย แมลงเต่าทองจะตายง่ายมาก ฉันจึงห้ามเธอก่อนที่เธอจะปัดมัน เธอ
อธิบายให้ผมฟัง ผมทำหน้างุนงงชั่วขณะ
เธอชื่ออะไรจ้ะ.ฉันถามเธอครั้งที่สองแล้วนะ
. ผมไม่ตอบแต่อย่างไร เพราะโกรธเรื่องที่เธอขัดจังหวะผม
ฉันมองเธออยู่นานแล้ว ดูเธอมีความสุขมาก ต้องขอโทษด้วย เธอกล่าวขอโทษผม.แต่ผมไม่ตอบ ผมเดินออกจากสวนนั้นทันที เอาไว้พรุ่งนี้ผมค่อยมาใหม่อีกครั้ง.
อาหารเย็นในวันนี้ ทุกคนคุยกันอย่างสนุกสนาน ทำให้ผมรู้สึกรำคาญและหงุดหงิด จนแม่ผมสังเกตออก
ไม่สบายหรือไง. นพ แม่ผมถาม
เปล่านี่ ผมตอบ
บางทีนพอาจจะเหงาก็ได้ ก็ไม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกันเล่นด้วยเลยที่นี่
จริงสิ .ฉันมีเพื่อนบ้านที่สนิทกัน หล่อนมีลูกสาวอยู่ คิดว่าอายุน่าจะพอ ๆ กับนพ พรุ่งนี้เช้าฉันจะพานพไปรู้จักก็แล้วกัน ป้าลีพูด
ได้เหรอ ถ้าอย่างนั้น ฉันฝากนพด้วยแล้วกัน. ไปที่นั่นนะลูก พรุ่งนี้น่ะ
ครับ ผมตอบเชิงขอไปทีเพราะรู้สึกเหนื่อยล้าและ อยากที่จะพักผ่อนเต็มที
******************