......เรือนหอ.....

...สียะตรา..

บทที่  ๑
........................................เรือนหอ..............................................
......กล่อมเอย..เจ้าเรือนทองห้องหอ
เคยชะลอเป็นนิวาสสวาสดิ์สอง
คงรื่นรินสุคัณธาลดากรอง
โสตทำนองของเสียงสังข์..ยังบรรเลง
......ใกล้เช้าแล้วค่ะแต่ดวงจันทร์ยังเต็มดวงคิดถึง  ปอง  เต็มหัวใจ   เรือนน้อยของเรายามนี้  ทุกเม็ดฝนทำให้ต้นไม้งามกว่าที่เคย  ต้นพุดช้อนริมรั้วที่แนมด้วยเถาต้นโปร่งฟ้าและต้นบานบุรีสีเหลืองสดดอกเล็กๆหอมระรื่นที่ฉันเคยเล่าให้ปองฟังไงคะว่าแม่รักมากหอบหิ้วเอาต้นไปปลูกทุกที่ที่แม่ไปอยู่ไปทำงาน   มะลิ๒กอก็แข่งกันแย้มดอกขาวกับต้นเขี้ยวกระแตซึ่งแต่ก่อนจะมีดอกสักทีแสนยากเย็น   ชมนาดอยู่ตัวดีแล้วค่ะไต่โครงไม้ที่ปองทำไว้หน้าหนาวปีนี้คงมีช่อแรกให้ได้เห็น  ผ่านม่านสีขาวฉันมองสรรพสิ่งข้างนอกที่ยังคงอยู่รอบตัวฉันแล้วปองล่ะคะเป็นอย่างไร  มอง  และซึมซาบสิ่งเหล่านี้พร้อมๆกับฉันเหมือนที่ผ่านมาได้หรือไม่
ปอง  ปองขวัญ และฉัน  อรณี   พบกันบ่ายวันหนึ่งในร้านขายเฟอร์นิเจอร์เก่า ที่เงียบมากจนฉันไม่คิดว่าจะมีลูกค้าคนอื่นๆอีก  สัมผัสแรกที่ทำให้ชีวิตของเรา๒คนมาร่วมกันคือมือของฉันและ ปอง ที่ไล้อยู่บนตู้ไซด์บอร์ดไม้มะฮอกกานีที่เจ้าของร้านเอ่ยว่าเป็นของเก่ามาจากอังกฤษปองนั้นนั่งสำรวจอยู่ด้านหลังตู้ส่วนฉันชื่นชมลายไม้สวยอยู่ด้านหน้า   สัมผัสจากมือนั้นแปลกแม้จะเพียงปลายก้อยที่บังเอิญมาสบกันและเมื่อ ปอง ยืนขึ้นประโยคแรกที่เราพูดพร้อมกันคือ  สวยมากนะคะ 
ปองเป็นผู้หญิงที่สง่า  มีบุคลิกบางอย่างที่ฉันคิดในเสี้ยวแรกของการพบกันว่า  ปอง  เหมือนทหาร
  สวยมากนะคะ ปองยังย้ำประโยคเดิม  คุณจะซื้อไหมคะ   
 .นั่นคือการเริ่มของการรู้จักกัน  เราออกจากร้านโดยไม่มีใครได้ซื้อตู้เล็กๆใบนั้นด้วยราคาที่ต้องกลับมาทบทวนระหว่างประโยชน์ใช้สอยกับความอยากเป็นเจ้าของสิ่งที่พึงใจ 
เมื่อฉันขอแยกตัวจาก  ปอง  ในวันนั้น  หลังจากผลัดกันเอ่ยชื่นชมกับตู้ใบสวยพอสมควร
 คุณอรโปรดบอกปองด้วยถ้าคุณอรตัดสินใจซื้อเจ้าตู้ใบนี้ปองจะได้ไม่มาเก้อและถ้าปองเป็นเจ้าของมันวันไหนปองจะบอกคุณอรเหมือนกันค่ะ   ฉันจำได้ดี  ปองสาละวนกับกระดาษเล็กๆมากมายในกระเป๋าสตางค์แล้วก็ใด้กระดาษโนตแผ่นเล็กๆเพื่อนำมาเขียนหมายเลขโทรศัพท์ให้ฉัน  นี่ค่ะหมายเลขของปองขอของคุณอรด้วยค่ะ    ฉันเองแม้จะงุนงงกับวิธีของคนแปลกหน้าแบบปองแต่ดวงหน้าเรียบๆ ที่มีแววตาแบบเด็กเกเรยามคิดว่าหลอกล่อผู้ใหญ่ได้ของปอง ทำให้ฉันวางใจพอที่จะยื่นนามบัตรที่มีเพียงชื่อและหมายเลขที่ติดต่อได้ให้ปองไป 
กว่า๓เดิอนทีเดียวที่ฉันเฝ้าพลิกกระดาษแผ่นน้อยที่มีเพียงตัวเลขและลายมือที่เขียนชื่อ  ปองขวัญ ลายมือตัวใหญ่ เส้นหนักแน่นตวัดปลาย  ฉันเฝ้านึกว่าฉันเคยเห็นลายมือแบบนี้ที่ไหน  แล้วฉันก็นึกออกเมื่อรื้อกระดาษเก่าๆที่ตั้งใจเก็บไว้อย่างถนอม ปองเขียนอักษรเหมือนคนรุ่นปู่ย่าไม่มีผิด    และแล้วในตอนสายของวันหนึ่งหลังจากนั้น  ฉันก็ได้ยินเสียงของปองอีกครั้ง
  คุณอร  ปองโทรมาบอกว่าปองยังไม่ได้ซื้อตู้ใบนั้นนะคะ 
 ไหนว่าจะโทรมาเมื่อเป็นเจ้าของแล้วไงคะ  ฉันตอบปอง ไป
 ปอง เหนื่อยจังค่ะ  คุณอร ว่างมาทานข้าว คุยกับ ปองไหมคะ 
 ไม่เห็นเกี่ยวกับตู้นี่คะ 
 เกี่ยวค่ะ  ปองเงียบไปครู่หนึ่ง  ปองว่าปองเห็นรอยแตกด้านหลังน่ะค่ะ  ทานข้าวกับปองนะคะ  please  my lady  ฉันรู้สึกวาบกับคำวิงวอนของปอง  ปองจะนัดที่ไหนเมื่อไหร่ล่ะคะ ฉันไม่ปฏิเสธตัวเองเมื่อปองบอกสถานที่และเวลา  แม้จะไม่คุ้นเคยนักกับสถานที่ที่ปองนัดหมายสำหรับคนที่ชีวิตส่วนมากในบ้านอย่างฉัน   แต่ฉันคิดว่า ปองเป็นผู้ที่ฉันอยากเดินเข้าไปหา
ร้านเล็กๆริมถนนไม่หรูหรามากนักหาได้ไม่ยากจนเกินไป  ฉันออกจะประหม่าเมื่ออยู่ในสายตาของผู้คนที่นั่งอยู่เกือบเต็มร้านแม้ก่อนถึงที่หมายฉันจะนั่งนึกทบทวนถึงปองขวัญที่ฉันกำลังจะได้พบเพื่อหาความมั่นใจ
ฉันมองหาปองไปทั่วร้านท่ามกลางผู้คนที่นั่งอยู่มากมาย 
 คุณอร แล้วฉันก็ได้พบปอง อีกครั้งปองขวัญ ที่ทำให้ฉันยืนนิ่งอยู่เป็นครู่ปอง  อยู่ในเครื่องแบบแสนสง่า  ปองที่ฉันรู้สึกในเสี้ยวแรกว่า ปองเหมือนทหารปองเป็นทหารจริงๆและอยู่ในเหล่าที่ฉันชื่นชมปองเดินมารับฉันไปที่โต๊ะริมหน้าต่างกระจกที่เมื่อมองผ่านความสลัวลางของยามเย็นออกไปเห็นแนวของต้นโมกที่ผลิดอกราวโคมสีขาวเล็กๆ
 ปองมีความสุขจังค่ะที่พบคุณอรอีกครั้ง   หาร้านไม่ยากใช่ไหมคะ
ฉันให้คำตอบปองด้วยรอยยิ้ม. ร้านเพื่อนปองเองค่ะชื่อเดียวกับร้านนี้น่ะค่ะ..ช่อชฎา  บ้าน..มัน ..เอ๊ย คือเจ้าช่อน่ะค่ะอยู่ลึกเข้าไปในซอยนี้เองแต่วันนี้ช่อไม่อยู่  ไม่งั้นปองอยากให้ช่อเห็น  ได้รู้จักคุณอรจังค่ะ  นี่ค่ะเมนู  คุณอรสั่งอะไรดีคะ  
ฉันละสายตาจากเมนูอาหารขึ้นมา  และก็ได้พบกับสายตาของปองที่จ้องมองมาที่ฉัน  ..สั่งสิ่งที่ปองคิดว่าดีที่สุดของที่นี่เถอะค่ะฉันเชื่อการตัดสินใจของปอง  
อาหารที่ร้านคุณช่อชฎา เพื่อนของปอง เป็นเลิศตามที่อาหารไทยควรเป็นอย่างที่ปองยกย่อง  ฉันนั่งฟังปองเล่าเรื่องราวต่างๆโดยไม่เบื่อหน่าย  เรื่องงานในหน้าที่ของปอง  พี่สาวของปอง  คุณปานสุมา  น้องชายของปอง  ปกเขต   แม้แต่เรื่องราวของช่อชฎาเพื่อนสนิทของปอง
 เจ้าช่อกับปองเหมือนคู่แฝดตั้งแต่ประถมจนมหาวิทยาลัยค่ะคุณอร  ปองได้เห็นได้สัมผัสความละเมียดละไมแบบไทยๆนอกจากที่บ้านปองเองก็มีที่บ้านของช่อนี่ล่ะค่ะอีกแห่งหนึ่ง เมื่อยังเด็กเราชอบมาว่ายน้ำในท้องร่องสวนที่บ้านของช่อทานข้าวกลางวันแบบง่ายๆฝีมืออาหญิงแม่ของช่อและบางครั้งก็แอบย่องไปดูในโรงปั้นของคุณพ่อ  ประติมากรรมอ่อนละมุนยังอยู่ในใจปองเสมอแม้จะไม่ได้เห็นของจริงอีก
 คุณอรทานน้อยจังค่ะ  ไม่ชอบรึเปล่าคะ   ปองถามฉัน
 อร่อยมากค่ะ  แต่ฉันทานน้อยแบบนี้เอง 
 โล่งใจค่ะคุณอร  วันอาทิตย์เราสองคนไปดูตู้ของเรากันไหมคะ  
 ฉันตั้งใจจะไปอยู่เหมือนกันแต่ไปดูต้นไม้  ไม่อยากไปกวนคุณลุงเจ้าของร้านอีกถ้ายังไม่ตัดสินใจซื้อน่ะค่ะ 
 ให้ปองไปด้วยนะคะ ปองชอบต้นไม้  ดอกไม้ไทยๆหอมเย็น สวย อย่างเรียบๆ ปองรักดอกมณฑา หลงรักตั้งแต่ช่อชี้ให้ดูในสวนน่ะค่ะ    ฉันเคยได้ยินแต่ชื่อ  ไม่เคยได้เห็นดอกจริงๆเลย 
๒วัน ถัดมาฉันและปองได้เดินดูต้นไม้หลากชนิด  เราชอบต้นไม้เหมือนๆกัน  ปองตื่นเต้นกับ ไฮย์ซิน  ต้นเล็กๆที่มีช่อดอกสีม่วงคราม แต่ฉันไม่ใคร่ชอบนักด้วยสีที่ดูเศร้าแม้กลีบดอกจะสวยงาม แล้วปองก็ชอบใจเป็นนักหนาเมื่อฉันเก็บดอก  สร้อยอินทนิล  สีม่วงที่ร่วงเกลื่อนลานของร้านหันหลังให้ปองเพียงครู่ดอกโรยจากต้นก็กลายเป็นกระต่ายตัวน้อยเท่าปลายก้อย
 คุณอรทำอย่างไรคะ สอนปองบ้าง  น่ารักจังค่ะ 
  ไว้จะสอนให้ทำค่ะแต่วันนี้เย็นมากแล้ว  เราแยกย้ายกันกลับบ้านนะคะ    ปองไปส่งนะคะ คุณอรจะขนยังไงไหวตั้งมากมาย  แล้วเพิ่งจะบ่ายอ่อนๆเอง  เผลอๆปองลงต้นไม้ให้คุณอรได้นะคะ 
มิใช่น้ำเสียงและสายตาของปองเท่านั้นที่ทำให้ฉันใจอ่อนหากเป็นเสียงจากหัวใจของฉันเองที่นำปองเข้ามาใก้ลชีวิตของฉันมากขึ้นทุกทีปองช่วยขนต้นไม้ที่ฉันซื้อลงมา รวมทั้งไฮย์ซินที่ปองอดใจซื้อมาไม่ได้ หิวไหมคะ  ฉันจะทำกับข้าวง่ายๆให้ทาน  ปองทำยืนตัวตรงตบเท้าชิดแบบทหาร ซึ่งฉันถือเป็นคำตอบรับ
 เชิญข้างในค่ะ  จะล้างหน้าก็ตามสบาย  ทิ้งต้นไม้ไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ฉันว่างเมื่อไหร่จะจัดการเอง ปองเดินตามเข้ามาภายในบ้านเล็กๆของฉันเสียงปองแผ่วนักเมื่อมองไปรอบๆภายในบ้าน เหมือนปองเดินเข้ามาอีก ยุคสมัยค่ะคุณอร  คุณเล่นคนตรีด้วยรึคะ  ขออนุญาตปองดูหน่อยได้ไหม    เชิญค่ะ  ซอด้วงกับซอจีนของพ่อฉันค่ะ  ส่วนฉันน่ะเล่นไม่เป็น จะเล่นได้ก็แต่ขิมก็แค่ไม่กี่เพลง  ฉันจะหาน้ำเย็นให้นะคะ   ฉันปลีกตัวเข้าครัวหลังบ้านเพื่อหาน้ำและดูว่าพอจะมีอะไรเป็นกับข้าวรับรองปองได้บ้างไม่นานเลยฉันก็ได้ยินเสียงซอจีนท่วงทำนองสนุกสนานเหมือนเมื่อครั้งพ่อของฉันเล่นในยามเย็นแบบนี้ดวงตะวันอ่อนแสงลง ลมรำเพยพากลิ่นดอกแก้วที่โปรยกลีบเกลื่อนเฉลียงหน้าบ้าน   ดอกบัวผันสีม่วงและชมพูดอกเล็กๆหรุบกลีบบางสะท้อนรูปสวยอยู่เรี่ยผิวน้ำ
  ทานข้าวค่ะปอง  ที่เฉลียงนี่นะคะลมเย็นดี 
ปองเก็บซอเรียบร้อย  ดวงหน้าแช่มชื่นจากหยดน้ำที่พร่างพราว
 มีความสุขจังค่ะคุณอร  ปองพบคุณปองรู้สึกแบบนี้ ทุกครั้งตั้งแต่ครั้งแรก ฉันตักข้าว เลื่อนกับข้าวที่มีเพียง๒อย่างเทียบให้ปอง  อยากเอ่ยกับปองว่าฉันเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน ดวงจันทร์สว่างทั่วฟ้าแล้วเมื่อฉันยืนส่งปอง   ขอปองมาหาคุณอรอีกได้ไหมคะ  มาลงต้นไม้  มาขอข้าวทาน ขอฟังคุณอรเล่นขิม  มานั่งนิ่งๆก็ได้ค่ะ 
 ส่วนมากฉันจะอยู่บ้านค่ะ ถ้าว่างก็เชิญ  ฉันตัดดอกพุดซ้อนช่อหนึ่งห่อใบตองให้ปองไปถวายพระแล้วปองก็มาพบฉันยามเลิกงานบ้าง  วันหยุดบ้าง  ช่วยฉันทำสิ่งเล็กๆน้อยๆ  นั่งทำงานที่ปองหอบมาทำบ้าง  และบางครั้งเฝ้ามองในขณะที่ฉันนั่งทำงาน......				
comments powered by Disqus
  • 4895 - tiki unlogged in

    14 มกราคม 2548 11:25 น. - comment id 80741

    มาอ่านความสัมพันธ์อันอ่อนโยนค่ะ
  • zodiac

    22 มกราคม 2548 09:14 น. - comment id 82244

    มาสัมผัสไออุ่นที่กรุ่นอยู่ในตัวหนังสือค่ะ..
    
    รู้สึกดี และ รู้สึกได้ว่า แสนจะละมุนยิ่งนัก

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน