บ่ายแก่ชรา ฉันควบรถแมงค์กะไซค์ขับผ่าตรงไปกลางหมู่บ้านที่ห่างจากตัวอำเภอไปแสนไกล ระยะทางเท่าเดิมแต่การรุกล้ำของความเจริญในนามวัตถุเข้าสู่แนวรั้วบ้านเหล่านั้น ใช่จะหวงแหนให้ชาวบ้านได้แต่อยู่กับตะเกียงน้ำมันก๊าด เพียงแต่เสาโทรทัศน์ จานดาวเทียม มันคือพาหนะแพร่เชื้อโลกเข้าไปสู่หมู่บ้านเก่าแก่ ด้วยรากเหง้า แลวัฒนธรรม ที่เป็นหนึ่งเดียว หากการรู้เท่าทันมีจริงคงไม่กังวลให้หมองใจ แต่เด็กที่นี่เริ่มมีทรงผมอาร์มแชร์และรักในการแต่งรถมอเตอร์ไซค์ แต่เด็กหญิงที่นี่เริ่มทีมลภาวะจากเขตเมืองเข้าปกคลุมแทนน้ำค้างพิสุทธิ์ ไม่ได้งกความเจริญ แต่ความเจริญทางด้านจิตใจที่นี่มีมากพอ มากเกินจนอ่อนแรงลงจากความเจริญด้านวัตถุท่วมท้น ยาบ้ายังเป็นปัญหาหลักตามมา มันเป็นโลกแทรกที่ร้ายแรงแล้ว ใครจะช่วยเยียวยา พ่อค้า แม่ค้าในตัวตลาด กลัวลูกเตลิด มักส่งลูกไปเรียนที่ตัวจังหวัดใกล้ที่เป็นชุมทาง เพื่อสร้างโอกาสแห่งโอกาส แล้วค่าเล่าเรียนนั้นมาจากผลกำไรที่ขายให้ชาวไร่ชาวนา การเบียดบังเกิดขึ้นทุกขณะจิต ไม่ได้ว่าบิล เกตต์ ผู้ครอบครองผลประโยชน์ผูกขาดจากไมโครซอฟท์ เพราะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่เป็นเปลวไฟต่อเทียนปัญญา ในวันคืนที่อวิชชากำลังมาเยือน ไม่ผิดหรอกที่หลังคาบ้านจะเปลี่ยนจากแฝก จากสังกะสี เป็นกระเบื้องลอนคู่ แต่มันผิดตรงที่เราจะกั้นเอาความเจริญด้านเดียวไว้ได้อย่างไร ทั้งที่จิตใจเราเคยดีงาม อบอุ่น เอื้อเฟื้อ ถนนที่ทอดยาว มันนำลูกหลานเราออกมาพบอะไรหรือ ความศิวิไลซ์ ไม่ใช่ถนนที่ทอดยาวสู่แหล่งการเรียนรู้ แล้วนำไปประยุกต์ใช้ หรือว่าฉันก็ไม่ต่างจากผู้หลับไหลไปชั่วขณะ พอลืมตาขึ้นมาก็ตีโพยตีพาย ใช่ว่าตามหมู่บ้านมีเสาไฟฟ้าเข้าไปแล้วความสว่างไสวเชิงรูปธรรมจะขจัดโจรโขมยที่หนักข้อขึ้น ใช่ว่าการเสียบปลั๊กหม้อหุงข้าวไฟจะทำให้อัตราการตักบาตรต่อหลังคาเรือนเพิ่มมากขึ้น จากความยุ่งยากที่สมัยก่อนต้องลุกออกมาตากน้ำค้างตำข้าว หาฟืน เพื่อหุงข้าวไว้ทำบุญ
10 มกราคม 2548 08:59 น. - comment id 80440
...สายลมแห่งความรักมาทักทาย หมอกจางเลือนลางคล้ายวันที่เคยผ่าน ความหนาวค่อยค่อยแทรกลงพื้นผิว ต้นไม้ต่างเอนกิ่งไกวล้มลม ...สวัสดี ...สวัสดี ...สวัสดี ฉันคือสายลมแห่งความรัก ฉันเพียงผ่านมาทัก ตามหน้าที่ ดูสิ ม่านฟ้าไร้เมฆหมอกบัง สดชื่นอย่างนี้ คนดี ทำไมดูหมองเศร้า ฤๅ ลมหนาวบาดผิวให้ช้ำชอก เถอะน่ะ หากเธอบอก ฉันจะเพียงแผ่วเบาเป่า ยิ้มหน่อย เพื่อรับความรู้สึกที่ดี เริ่มต้นอีกที เริ่มจากวันนี้จวบวันต่อไป ...สวัสดี ...สวัสดี ...สวัสดี ฉันผู้ระทมผ่านหนาวอีกครั้ง ถึงท้องฟ้าสดใสไร้เมฆหมอกบัง แต่ยังไม่ปรากฏแสงแห่งความอบอุ่น หนาวนี้ ไม่เหมือนหนาวที่เคยผ่าน หนาวนี้ ทรมานเกินกว่าหนาวไหน หนาวนี้ อยากลืมอดีตที่ยอกใจ หนาวนี้ และอีกกี่หนาวใด ที่ต้องทน ...สวัสดี ...สวัสดี ...สวัสดี ฉันเป็นเพียงพฤกษ์ที่ได้ยินเธอทั้งสองสนทนา ดูสิ ใบสีแดงเหลืองของฉันร่วงหล่นเต็มพื้นพสุธา แต่ฉันยังเริงร่า ยิ้มรับกับลมหนาว พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ ความอบอุ่นจะมาถึง ฉันจะผลิดอกออกใบวาดสีสรรให้โลกสดใส ถึงแม้วันนี้ ฉันเหลือเพียงกิ่งก้านแต่ไร้ใบ พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ วันใหม่ ฉันจะงามวิไลเหมือนเดิม
11 มกราคม 2548 18:16 น. - comment id 80453
ขอบคุณ..ขอบคุณ...ขอบคุณ ที่ค้ำจุนลำต้นแสนหนักล้น..คือรากแก้ว กิ่งก้านบานไสวอีกดอกสวยสำรวยนัก อวดความงามท่ามกลางรากฝอยทำงานหนัก ไร้ราก ฤา ผลิใบ รากชอนไชในดินจนมอมแมม อยู่ใต้ดินไม่สวยงามอร้าแอร่ม แต่แจ่มใสคล้ายปิดทองหลังพระปฏิมา ขอบคุณ..ขอบคุณ...ขอบคุณ การค้ำจุนต้องมีที่เสียสละ ชมดอกไม้ได้ต้องเห็นรากแก้วงามด้วยนะคะ จึงจะถึงสัจจะแห่งความจริง ขอบคุณ..ขอบคุณ..ขอบคุณ ให้ถี่ถ้วนทุกอย่างล้วนสัมพันธ์ ขอบคุณออกซิเจน แสงแดดด้วยกัน เพราะสิ่งนี้นั้นช่วยกัน photosynthesis ขอบคุณไส้เดือนที่พรวนดิน ขอบคุณกระสินธ์ที่หล่อเลี้ยง ขอบคุณมากมายอะไรกัน ที่เกิดขึ้นมานั้นล้วนน้ำใจ ขอบคุณกันได้สบายใจ ขอบคุณกันได้คือสำนึกคุณ ขอบคุณทุกท่านที่มาอุดหนุน ขอบคุณผู้มีอุปการคุณด้วย\"ส่วนลด\" (ส่วนลดความห่างระหว่างกัน แต่ต้องรักษาระยะไว้ให้พอดี )